ตอนที่ 32 สิ้นคิด
บังเกอร์นั้นขัดขวางการเคลื่อนพลของกองทหารหัวกะทิตระกูลฉื่อ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ฉื่อเจียงกึงจะไม่เชื่อหรอกแม้จะมีคนเขาบว่าบังเกอร์สามารถหยุดกองทหารของเขาได้ แต่ความจริงที่ปรากฏตรงหน้านั้นทำให้เขาชื่อ
“หัวหน้าจาง นี่หน่ะหรอกองทหารหัวกะทิตระกูลฉื่อของฉันหน่ะ?”ฉื่อเจียงก็มองหัวหน้าจางด้วยความไม่พอใจ
ใจของหัวหน้าจางก็หล่นดังตุบ ถ้าหากเขาทำให้นายน้อยไม่พอใจหล่ะก็ อนาคตของเขาคงไม่เหลือแน่
“โปรดวางใจได้ครับนายน้อย พวกเราจะต้องยึดฐานทัพนี้ได้แน่นอน บางทีอาจจะเป็นเพราะแนวป้องกันมันสำคัญ ศัตรูจึงวางอาวุธไว้ที่นี่เป็นจำนวนมาก”หัวหน้าจางอธิบาย
ฉื่อเจียงก็ครุ่นคิดและตระหนักได้ว่ามันคงจะเป็นเรื่องจริง ถ้าหากเป็นเขา เขาคงใช้วิธีนี้ป้องกันรอบนอกฐานให้มากที่สุดเพื่อจะได้ไม่มีใครเข้ามาในฐานทัพได้
“ฉันให้เวลาพวกนายห้านาทีในการทำลายบังเกอร์นี้”ฉื่อเจียงก็พูดออกมา
หัวหน้าจางนั้นรู้ดีว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
“เสริมความเร็ว(Speed Enhancement)!!”
ร่างของหัวหน้าจางนั้นก็เปล่งแสงอ่อนๆออกมาในขณะที่เขาตะโกน ฉื่อเจียงนั้นตระหนักได้ว่าหัวหน้าจางได้ใช้ความสามารถพิเศษในการเพิ่มความเร็วของตัวเองในเวลาสั้นๆ
ความสามารถพิเศษของหัวหน้าจางก็คือเพิ่มความเร็วในระยะเวลาสั้นๆซึ่งมันเป็นสิ่งที่ธรรมดามกา
ราวกับว่าร่างกายของหัวหน้าจางแยกออกเป็นหลายร่างแล้วจากนั้นเองเขาก็เดินไปถึงด้านบนของบังเกอร์โดยแค่เพียงสองสามก้าวเท่านั้น ตรงนี้ก็จุดบอดของบังเกอร์ และไม่มีอาวุธใหนสามารถโจมตีเขาได้
“พังไปซะ!”
เขาก็กำหมัดขวาแล้วชกใส่ผิวของบังเกอร์อย่างแรง
บู้ม!!
บังเกอร์ทั้งหลังนั้นก็สั่นสะท้านราวกับมันกำลังจะจมลง
หัวหน้าจางนั้นเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับสี่ดาว กลาง ส่วนความแข็งแกร่งของเขานั้นน่าหวาดหวั่นมาก เขาสามารถฆ่าช้างได้ด้วยการชกหมัดเดียว และแม้กระทั่งบังเกอร์ก็ไม่สามารถต้านทานการชกต่อเนื่องของเขาได้
ในที่สุด บังเกอร์ก็โดนเขาชกจนทะลุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบคราวก่อน เขาจึงได้หยิบเอาระเบิดมือจิ๋วสองลูกโยนใส่ไปข้างในก่อนจะถอยออกมา
บึ้ม!!
บังเกอร์ทั้งหลายก็หายวับไปเลย ส่วนปืนใหญ่ที่อยู่ข้างๆนั้นก็ได้รับความเสียหายตามไปด้วย แต่หัวหน้าจางนั้นไม่ได้สนใจเท่าไหร่
“พวกนั้นกลับหนีจริงๆด้วย”พอเห็นร่างสองร่างที่วิ่งไปข้างใน หัวหน้าจางก็ไม่ได้ไล่ตามทั้งสองเพราะกลัวว่ามันจะเป็นกับดัก
พอเห็นหัวหน้าของพวกเขาลงมือจัดการพังบังเกอร์ เหล่าทหารหัวกะทิที่เหลือก็รู้สึกครึกครื้นกันขึ้นมา
“อย่าพึ่งดีใจไป มันจะต้องเป็นแผนของศัตรู พวกนั้นคงตั้งใจให้พวกเราคิดว่าการป้องกันภายในฐานแข็งแกร่งกว่าและอยากให้พวกเราล่าถอย”หัวหน้าจางก็พูดให้กำลังใจลูกทีมของเขาก่อนจะเดินไปที่ด้านข้างของสมาชิกสองคนที่ถูกเผาทั้งเป็น
“สำหรับครอบครัวของพวกเรา ตระกูลฉื่อจะดูแลเอง ตราบใดที่ตระกูลฉื่อยังมีตัวตนอยู่ พวกเราจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวของทหารของพวกเราต้องลำบาก”ฉื่อเจียงนั้นก็ตระหนักได้ว่าในเวลานี้เขาจำเป็นต้องแสดงบทบาทของตัวเองสักหน่อย
และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของฉื่อเจียง ทุกคนรวมถึงหัวหน้าจางก็รู้สึกยินดีกันมาก
เพราะพวกเขานั้นทำงานหนักกันเพื่อตัวเองและครอบครัวของพวกเขา
“ทำการฝังศพทั้งสองแล้วเดินหน้าต่อได้!!”
พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าซูเฉินนั้นนั่งมองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
การซ่อมแซมบังเกอร์ก็เป็นสิ่งที่ซูเฉินทำด้วย
“ไอ้คนพวกนี้มันไร้ประโยชน์จริงๆ แค่บังเกอร์นะเนี่ยก็ยังแทบจะผ่านไปไม่ได้ ฉันยังไม่ได้ใช้ปืนใหญ่เลยด้วยซ้ำ”ซูเฉินก็เหนื่อใจ
หลังจากเหตุการณ์นี้ เขาก็เข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของบังเกอร์ของเขาและรวมไปถึงศัตรูแบบใหนบ้างที่สามารถใช้บังเกอร์จัดการได้บ้าง
สั้นๆก็คือ ถ้าหากเป็นศัตรูที่มีความเร็วไม่มาก พวกนั้นก็อาจจะไม่สามารถผ่านด้านหน้าของบังเกอร์ไปได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูประเภทความเร็ว บังเกอร์กลับกลายเป็นจุดบอดที่ใหญ่มาก
“งั้นแสดงว่าเราควรจะวางปืนใหญ่ไว้บนบังเกอร์หน่ะสิ?”
บังเกอร์และปืนใหญ่นั้นเป็นการป้องกันด่านแรก ส่วนด้านที่สองนั้นคือหมาล่าเนื้อ!!
ซูเฉินได้ส่งต้าหัวและหมาล่าเนื้อจำนวนมากออกไปปลอมตัวเป็นสัตว์กลายพันธุ์และเข้าต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นเพื่อแย่งชิงพื้นที่ ส่วนหมาล่าเนื้อที่เหลือในฐานนั้นมีเอ้อหัวเป็นผู้นำ
ทันใดนั้นเอ้อหัวที่นอนอยู่เงยหน้าขึ้นซึ่งมันก็ได้กลิ่นของผู้บุรุก
“โฮ่ง!!”
เอ้อหัวก็เห่าอกมา ส่วนหมาล่าเนื้อตัวอื่นที่หลบซ่อนอยู่นั้นก็เห่าตอบสนองก่อนจะเตรียมตัวจัดการผู้บุรุกทั้งหมดอย่างไร้เสียง
ฮิฮิ ในที่สุดก็ถึงตาของเอ้อหัวแสดงความสามารถ!!
เอ้อหัวนั้นตื่นเต้นมากพร้อมกับโบกสะบัดหางของมันไปมา
ตอนนี้เอ้อหัวนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสี่ดาวสูงสุด เนื่องจากคำสั่งของซูเฉิน มันจึงต้องอยู่รอผู้บุรุกในฐานทัพชั่วคราวแทนที่จะได้ออกไปทำภารกิจเลื่อนระดับ
หมาล่าเนื้อทั้งหมดนั้นก็ได้คลืบคลานไปในความเงียบๆและค่อยๆย่องไปในจุดที่ไม่มีใครสังเกตแล้วทันใดนั้นหมาล่าเนื้อหลายร้อยตัวก็เข้าล้อมรอบฉื่อเจียงและพรรคพวก แถมยังไม่มีใครพบร่องลอยของหมาล่าเนื้อเลยด้วย
ในด้านการล่า หมาล่าเนื้อนั้นคือผู้เชี่ยวชาญก็ว่าได้
ในขณะที่พวกเขาเดินกันต่อไป ทันใดนั้นหัวหน้าจางก็หยุดลง
“มีอะไรงั้นหรอ?”ฉื่อเจียงนั้นก็ถามขึ้นด้วยความสับสน
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง แถวนี้มันเงียบเกินไป!!”หัวหน้าจางนั้นก็ระแวงขึ้นมา เขาหันไปมองรอบๆ ที่นี่เป็นหุบเขาเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยหินมากมาย บางอาจจะมีรูพิเศษที่ถูกระเบิดออกเพื่อใช้ขุดถ่านหิน
สถานที่แบบนี้มันเหมาะกับการซุ่มโจมตีมาก!!
ในวินาทีต่อมา ร่างเงาหลายร่างก็กระโดดลงมาจากฟ้า ดวงตาของหัวหน้าจางก็เบิกกว้างอย่างหวาดผวาเมื่อเห็น “ศัตรูบุก คุ้มกันนายน้อยด่วน!!”
สมาชิกทีมที่เหลือก็เข้าล้อมรอบฉื่อเจียงในขณะที่ปืนของพวกเขาไฟแลบออกมาพร้อมกับห่ากระสุนที่พุ่งทะยานออกไป
แต่สิ่งที่พวกเขาหวดากลัวมากที่สุดคือกระสุนปืนที่ยิงออกไปนั้นกลับถูกเงาพวกนี้หลบได้เกือบหมด แม้ว่าจะมีกระสุนบางลูกยิงถูก แต่มันกลับไม่ทะลุตัวเงาพวกนี้
ทุกคนต่างคิดว่าเรื่องนี้มันไม่น่าเป็นไปได้เพราะอาวุธปืนของพวกเขานั้นถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะและสามารถพุ่งทะลุผิวหนังของสัตว์กลายพันธุ์ระดับสามดาวได้ แต่ตอนนี้มันกลับไร้ประโยชน์เสียแล้ว!!
“เปลี่ยนอาวุธ!”
ด้วยคำสั่งของหัวหน้าจาง สมาชิกทั้งหมดก็รีบชักระเบิดมือออกมาจากตัว แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ระเบิดพิเศษ มันบรรจุไว้ด้วยของเหลวที่ง่ายต่อการระเบิดมาก และพลังระเบิดของมันนั้นก็สุดยอดด้วย พวกเขาตั้งใจใช้เจ้านี่เป็นไพ่ตายแต่พวกเขาไม่คิดว่าจะได้ใช้มันที่นี่
ทั้งห้าคนนั้นก็ขว้างระเบิดมือออกไป และระเบิดก็ได้ระเบิดออกในทันที
บู้มม!!
กำแพงรอบข้างก็สั่นไหวระรัว และก้อนหินมากมายล้มลงมานับไม่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าระเบิดมือทั้งห้านั้นทรงพลังมาก
“โฮ่ง!!”
เอ้อหัวก็ได้คำรามออกมาอย่างโมโห พี่น้องของมันได้ล้มตายไปสิบตัว นี่เป็นภารกิจแรกของมัน แต่กลับเสียพี่น้องไปเยอะมาก แล้วมันจะเอาเรื่องนี้ไปอธิบายให้ผู้บัญชการอย่างไรดี?
ด้วยความโกรธ เอ้อหัวก็พึ่งเข้าใส่โซนป้องกันของศัตรู และสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อหมาล่าเนื้อระดับสี่ดาว สูงสุดพุ่งใส่หน่ะหรอ? เอ้อหัวจะบอกให้เอง
หนึ่ง กัด!!
ฉึก!!
ความเร็วของเอ้อหัวในขณะนี้นั้นทำให้เกิดภาพติดตาขึ้นมาเลย แม้กระทั่งหัวหน้าจางก็ยังมองไม่เห็นความเร็วของเอ้อหัวได้ชัดเจน ภายในไม่กี่วินาที หลายคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และคนที่บาดเจ็บร้ายแรงที่สุดก็คือหัวหน้าจาง เอ้อหัวนั้นกัดท้องของเขาจนเป็นรู
“หัวหน้า!!”
หัวหน้าจางก็โบกมือ “ไม่เป็นไร แค่นี้ฉันไม่ตายหรอก แต่ทำไมที่นี่ถึงได้มีสัตว์กลายพันธุ์เยอะแบบนี้ แถมดูเหมือนพวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นระดับสามดาวด้วย? นี่พวกเรามาผิดที่หรือเปล่า? ตัวการที่ยึดครองฐานทัพทหารไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์กลายพันธุ์สินะเนี่ย?”