ตอนที่ 28 ข้าจะเข้ายึดครอง
ตอนที่ 28 ข้าจะเข้ายึดครอง
“กบฏเรอะ! และว่าเจ้ากําลังทําอะไรอยู่กันแน่? เจ้าคิดที่จะโจมตีใส่ข้างั้นรึ?!” ร่างกายของเก๋าซานฮูเริ่มสั่นสะท้าน ซึ่งมันไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะความโกรธ
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกชายของเขาจะกล้าดึงดาบใส่เขาแบบนี้
"โจมตีเจ้างั้นรึ?"
“ไอ้แก่ ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะมีแข็งแกร่งมาก และความแข็งแกร่งของเจ้าอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะ ดังนั้นข้าจึงไม่คู่กับเจ้าแน่ๆ”
“แต่เจ้าคิดว่าข้าจะอยู่แบบนี้เฉยๆงั้นรึ? ถ้าหากเจ้าไม่ตาย ข้าก็จะไม่มีวันได้เป็นผู้นำของตระกูลเก๋าได้ และเมื่อถึงตอนนั้นข้าก็คงเป็นแค่คนนอกสำหรับเจ้า!!”
เสียงของเก๋ายู่เชิงนั้นดังก้องอยู่ในห้องโถงใต้ดิน
เมื่อคําพูดของเขาเบาลง เสียงหัวเราะก็ดังมาจากทางเดินใต้ดิน “ฮึๆๆ นายน้อยที่สองนั้นยอดจริงๆ ในที่สุดเจ้าก็ได้พบกับห้องลับของตระกูลเก๋าสักที”
"ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ"
ในไม่ช้า ร่างเงาทั้งห้าร่างก็ปรากฏขึ้นในห้องโถง
เก๋าซานฮูชี้ไปที่เก๋ายู่เชิงและพูดด้วยความโกรธว่า “เจ้า…นี่เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกงั้นรึ? เจ้าในตอนนี้น่ะกลายเป็นคนทรยศไปแล้ว! สิ่งที่ตระกูลเก๋าจะทำนั้นไม่ใช่สิ่งที่บุคคลภายนอกควรเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำ!!”
แต่เก๋ายู่เชิงยังคงยืนอยู่นิ่งๆและพูดอย่างใจเย็นว่า “ไอ้แก เจ้าไม่จําเป็นต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เพราะข้าเองมีดุลยพินิจของตัวข้าเอง”
"เอาล่ะ พวกเจ้ารีบจัดการกับเจ้านี่ได้แล้ว" ถึงแม้ว่าเก๋ายู่เชิงจะยืนนิ่งๆ แต่คนทั้งห้าที่อยู่ด้านหลังเขานั้นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
"บู้ม บู้ม บู้ม"
ทั้งห้าคนนั้นเร่งพลังขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งแต่ละคนนั้นทรงพลังมากและไม่ได้ด้อยไปกว่าเก๋าซานฮูเลยแม้แต่น้อย
ในเวลาเพียงอึดใจเดียว พวกเขาได้เข้ามาล้อมเก๋าซานฮูเอาไว้แล้ว
ในขณะเดียว เก๋ายู่เชิงได้ยกดาบขึ้นและหันเข้าหาเก๋ายู่จื่อซึ่งยังคงหมดสติและนอนอยู่บนแท่นหิน
เก๋ายู่จื่อนั้นยังคงอยู่ในอาการโคม่าและการหายใจของเขาก็โรยรินมากๆ
เก๋ายู่เชิงค่อยๆยกดาบขึ้นและพึมพําว่า "พี่ใหญ่ ข้าน่ะไม่อยากทำแบบนี้เลย"
“แต่ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้านั่นก็จะไม่มีวันล้มเลิก และข้าก็จะไม่ได้เป็นผู้นำของตระกูลเก๋า”
“ถ้าจะโทษก็โทษตัวเจ้าทั้งคู่ซะเถอะ พวกเจ้าทั้งคู่ต้องการก่อกบฏและพร้อมที่จะทำลายตระกูลเก๋าด้วยมือของพวกเจ้าเอง”
เมื่อมองไปที่ดาบของเก๋ายู่เชิงที่กำลังจ่อไปที่เก๋ายู่จื่อ ความโกรธของเก๋าซานฮูก็พุ่งขึ้นจนถึงขีดสูงสุด ซึ่งใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ไอ้ชาติชั่ว! เจ้ามันไม่ใช่แล้ว!”
“เขาเป็นถึงพี่ชายของเจ้าเลยนะ!”
“เจ้าต้องการไข่มุกแลกโลหิตไม่ใช่รึ?! ข้าจะมอบมันให้กับเจ้าก็ได้ แต่ข้าขออย่างเดียว อย่าได้ทําร้ายพี่ชายของเจ้าอีกเลย...”
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่ระมัดระวังเพียงครั้งเดียว เก๋าซานฮูถูกชกเข้าที่หน้าอกโดยหนึ่งในคนที่แต่งกายด้วยชุดดํา
"อ้ากก..."
เก๋าซานฮูล้มลงบนพื้นอย่างแรงและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาซีดมากซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจอาการของเขาเลยด้วยซ้ำ ยังคงจ้องมองไปที่เก๋ายู่เชิงอย่างใจจดใจจ่อ
"ยู่เชิง อย่านะ..."
แต่เก๋ายู่เชิงนั้นกัดฟันแน่น พร้อมกับปล่อยดาบของเขาลง
"ฉึกก"
คมดาบนั้นแทงทะลุร่างของเก๋ายู่จื่อทันที
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่หมดสติ แต่เก๋ายู่จื่อนั้นดูเหมือนจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างสาหัว ซึ่งคิ้วของเขาก็ขมวดอย่างรุนแรง
เลือดของเขาไหลออกมาอย่างรวดเร็วจากบาดแผลนั้น จนทําให้เสื้อผ้าของเขากลายเป็นสีแดง
ลมหายใจของเก๋ายู่จื่อค่อยๆแผ่วเบาลง จนกระทั่งเขาหยุดหายใจ
ตายแล้ว!
เก๋ายู่จื่อตายแล้ว!
ดวงตาของเก๋าซานฮูเบิกกว้างโดยที่มีเส้นเลือดโป่งขึ้นบนใบหน้าของเขา
แต่ไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน เก๋ายู่จื่อก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว
ลูกชายสุดที่รักของเขาที่เขาทุ่มเทความพยายาม ทรัพยากร และความรักทั้งหมดลงไปนั้น ตายแล้ว
และที่แย่ไปกว่านั้น เขายังถูกน้องชายของเขาฆ่าให้ตายต่อหน้าต่อตาผู้เป็นพ่อ!
เก๋ายู่เชิงวางดาบลงและเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนที่จะจ้องไปที่เก๋ายู่จื่อด้วยความสงบ
“ใช่ ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นแค่คนโง่ที่ร่วมมือกับคนนอกเพื่อทำลายตระกูลเก๋าเท่านั้น”
“ท่านพ่อ เจ้าเห็นแบบเดียวกับที่ข้าเห็นหรือไม่? การตายของคนโง่คนนี้น่ะ?”
คําพูดของเก๋ายู่เชิงนั้นทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในใบหน้าของคนในชุดดำทั้งห้า และพวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป
แม้แต่เก๋าซานฮูเองก็จ้องไปที่เก๋ายู่เชิงด้วยความสงสัย
ถ้าหากเก๋ายู่เชิงยังมีชีวิตอยู่ บางทีพวกเขาเองก็อาจจะตายด้วยเช่นกัน...
"โจมตี!"
ร่างในชุดดำทั้งห้าไม่ลังเลอีกต่อไปและพร้อมที่จะโจมตีเก๋ายู่เชิง
แต่ในขณะที่พวกเขากระตุ้นพลังฉีและเลือดนั้น จู่ๆพวกเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาอ่อนแอลงและทรุดตัวลงกับพื้นในทันที
“เกิดอะไรขึ้น? พิษงั้นรึ? นี่พวกข้าโดนวางยาพิษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”
"เจ้าวางยาพิษพวกข้าได้ยังไงกัน?!"
“พวกข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิษ แล้วพวกข้าจะโดนพิษเล่นงานได้ยังไง?!”
นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้าคนนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้
เก๋ายู่เชิงส่ายหัวเล็กน้อยและค่อยๆพูด “พวกเจ้าทุกคนได้ลิ้มรสอาหารที่ข้าทำให้เจ้าทุกวัน และพวกเจ้ายังทดสอบพิษด้วย นอกจากนี้ พวกเจ้าทุกคนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพิษ แล้วข้าจะวางยาพิษพวกเจ้าได้ยังไงถูกมั้ย?”
“นี่น่ะไม่ใช่พิษ แต่มันเป็นแค่ยาที่ออกฤทธิ์ช้าเป็นพิเศษ เมื่อใดที่เจ้าหมุนเวียนพลังฉีและเลือดอย่างรุนแรง เจ้าจะค่อยๆสูญเสียพลังทั้งหมดไปโดยไม่รู้ตัว และร่างกายของพวกเจ้าก็จะไร้เรี่ยวหลังจากที่ผ่านไปสองชั่วโมง”
เมื่อได้ฟังคําอธิบายที่นิ่งสงบของเก๋ายู่เชิง ทั้งห้าคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความกลัวที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ใครจะคิดว่าพวกเขาจะตกหลุมพรางของเก๋ายู่เชิงได้?
เก๋ายู่เชิง หยิบดาบขึ้นมาจากพื้น
เขามองไปที่เก๋าซานฮูและถอนหายใจลึก ๆ “ท่านพ่อ ท่านน่ะใจดีเกินไป ข้าเพิ่งให้โอกาสกับเจ้าแล้ว แต่เจ้าเลือกที่จะไม่รับมันเอง”
“แต่ครั้งนี้น่ะข้าจะไม่เมตตาอีกต่อไป ข้าจะเข้ายึกครองตระกูลเก๋าและข้าสามารถใช้หัวของท่านเพื่อให้ไอ้โง่ทั้งห้าคนนี้รับโทษแทนข้า”
"ท่านพ่อ ขอให้ท่านหลับฝันดีไปตลอดกาลด้วยเถอะ!"
เก๋ายู่เชิงสูดหายใจเข้าลึกๆและยกดาบขนาดใหญ่ขึ้นสูงเหนือหัวของเขา
เก๋าซานฮูไม่ได้พูดอะไร เขาหลับตาลงและดูเหมือนจะยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขา
"วิ้วว..."
ทันใดนั้น เก๋ายู่เชิงก็รู้สึกเหมือนมีลมพัดเบาๆอยู่ด้านหลังเขา
แต่นี่เป็นห้องลับที่อยู่ใต้ดิน แล้วลมจะมาจากที่ไหน?
"วิ้งงง"
แสงสีขาวกะพริบขึ้นชั่วครู่
วินาทีถัดมา เก๋ายู่เชิงก็รู้สึกว่าคอของเขาเริ่มชา
เขาเอามือกุมคอของเขาและเริ่มรู้สึกว่าพลังในร่างกายของเขาค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว
"นี่เจ้า..."
ดวงตาของเก๋ายู่เชิงเบิกกว้างและเขาก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้า
นั่นคือร่างบุคคลลึกลับในชุดสีดําที่ถือกริชเอาไว้ในมือโดยที่มีเลือดหยดอยู่