ตอนที่ 27 ความลับของตระกูลเก๋า
ตอนที่ 27 ความลับของตระกูลเก๋า
เมื่อตกดึก ภายในคฤหาสน์ของตระกูลเก๋าก็เงียบสงัดลง
ภายในห้องของเก๋ายู่เชิงนั้นยังคงเปิดไฟสว่างอยู่ ในขณะนี้ มีคนสวมหน้ากากหลายคนได้เข้ามาในห้องของเขา
"เก๋ายู่เฉิง สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?" หนึ่งในคนที่สวมหน้ากากถามอย่างเย็นชา
ใบหน้าของเก๋ายู่เชิงดูเคร่งขรึมเมื่อเขาตอบว่า "ไอ้แก่นั่นบอกให้ข้าไปตามหมอวู่จิงจากเมืองหนานหยางมาน่ะ"
“วู่จิงคนนั้นยอดจริงๆ มันรู้ด้วยว่าในร่างของเก๋ายู่จื่อนั้นถูกวางยาพิษและมันก็เกือบจะทําลายแผนการของเราแล้ว” เก๋ายู่เชิง พูดต่อ
“โชคดีที่วู่จิงนั้นเป็นเพียงแค่หมอและไม่สามารถขจัดพิษได้ ทำให้โชคยังพอเข้าข้างพวกเราอยู่บ้าง” เขาพูดเสริม
“ข้ากำลังสงสัยว่าเจ้าแก่นั้นอาจจะกำลังสิ้นหวังและใช้วิธีการนั้น เพราะมันจะไม่มีวันปล่อยให้เก๋ายู่จื่อตายแน่ๆ” ดวงตาของเก๋ายู่เชิงนั้นเริ่มเต็มไปด้วยความน่ากลัว
“ไม่ต้องห่วง พิษผสมที่พวกเราเตรียมไว้นั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยหมอเพียงคนเดียว” หนึ่งในคนที่สวมหน้ากากพูดยืนยัน
“เจ้าควรจับตาดูเก๋าซานฮูเอาไว้ให้ดี ถ้าหากเขาเริ่มเคลื่อนไหวอะไร เจ้าต้องตามเขาไปและประกบตัวเขาเอาไว้” เก๋ายู่เชิงสั่ง
หลังจากนั้น ร่างของคนสวมหน้ากากก็หายไปราวกับว่าพวกเขาไม่เคยอยู่ที่นั่น
เก๋ายู่เชิงมองดูพวกเขาหายตัวไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนริมฝีปากของเขา “พวกมันคิดว่าข้าโง่งั้นรึ? ถ้าอย่างนั้นก็มาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็นคนโง่!”
จากนั้นเขาก็ผลักเปิดประตูให้เปิดออกและหายตัวในยามค่ำคืน
ภายในห้องพักห้องหนึ่ง ลู่ชางเฉิงกำลังฝึกเทคนิคกระดูกเยือกแข็งสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเข้านอนเพื่อพักผ่อน
"เอี๊ยด"
ลู่ฉางเฉิงดูเหมือนจะได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้นเบาๆ
"แอ๊ดดด"
ลู่ชางเฉิงลืมตาขึ้นทันที
เขาตั้งใจฟังแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองเพดาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเสียงแปลกๆนั้นดังมาจากด้านบน
ลู่ชางเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดว่าอาจมีคนเดินอยู่บนหลังคาของตระกูลเก๋ายามค่ำคืนเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการถูกคนในตระกูลเก๋าสังเกตเห็นได้
แน่นอนว่าแม้เขาจะมาที่นี่ แต่ลู่ฉางเฉิงก็ได้นําผ้าสีดําและชุดสีดำมาด้วย หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เปลี่ยนชุดและคลุมหน้าด้วยผ้าสีดําก่อนที่จะออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ
ด้วยการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย เขามีทักษะในการเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบราวกับว่าเขาเป็นแมว
ลู่ชางเฉิงปีนขึ้นไปบนหลังคา ซึ่งเขาเห็นร่างของคนหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่หลักของคฤหาสน์อย่างช้าๆ
ลู่ชางเฉิงตัดสินใจที่จะตามพวกเขาไปทันที
ภายในพื้นที่หลัก เก๋าซานฮูสูดหายใจเข้าลึกๆและประคองร่างเก๋ายู่จื่อที่หมดสติขึ้นมา
“ยู่จื่อ อีกไม่นานหรอก อีกไม่นานเจ้าก็จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งแล้ว” เก๋าซานฮูพูดเบาๆกับเก๋ายู่จื่อ
เขาเดินออกจากห้องขณะที่อุ้มร่างของเก๋ายู่จื่อและมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ของบรรพบุรุษ
ภายใต้แผ่นอนุสรณ์ของพื้นที่บรรพบุรุษมีกลไกบางอย่างอยู่ ซึ่งเก๋าซานฮูได้ทำการเปิดใช้มัน
"แกร๊กก"
แผ่นอนุสรณ์นั้นแยกออกจากกันและเผยให้เห็นทางเดินที่เข้าไปในกําแพง
เก๋าซานฮูรีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากที่เก๋าซานฮูเข้าไป เก๋ายู่เชิงก็มาถึงและมองไปที่ทางเข้าด้วยสายตาที่ประหลาดใจ
“เจ้าแก่นั่นดื้อรั้นจริงๆ มันคิดจะช่วยเก๋ายู่จื่อด้วยวิธีการนั้นจริงๆด้วย!!”
"แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็เป็นลูกชายของมันเหมือนกัน!!..."
เก๋ายู่เชิงพึมพําด้วยน้ำเสียงของเขาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
หลังจากนั้น เก๋ายู่เชิงก็เข้าไปในทางเข้าลับ
ภายในทางเดินนั้นมันเป็นทางเดินที่ค่อนข้างแคบ
แต่เก๋าซานฮูนั้นดูเหมือนจะคุ้นเคยกับเส้นทางนี้มากและรีบเดินเข้าไปที่ห้องโถงใต้ดิน
เขาจุดเทียนอย่างช้าซึ่งทำให้ในห้องโถงนั้นมีแสงส่องสว่าง
มันเป็นห้องโถงขนาดใหญ่
และมีห้องลับมากมายที่ล้อมรอบห้องโถงเอาไว้ แต่ละห้องนั้นเต็มไปด้วยอาวุธต่างๆ รวมถึงดาบ หอก หน้าไม้ หรือแม้กระทั่งชุดเกราะ
ซึ่งตามกฎของราชสํานักที่ทำการควบคุมการครอบครองอาวุธอย่างเคร่งครัด แม้แต่การแอบเป็นเจ้าของชุดเกราะ ก็ถือว่าเป็นการทรยศต่อแผ่นดิน!
แต่ที่แห่งนี้มีชุดเกราะอยู่มากมาย ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้ชายหลายร้อยคนสวมใส่ได้ แต่น่าแปลกที่เก๋าซานฮูนั้นดูเฉยเมยต่ออาวุธเหล่านี้
เขากดลงบนจุดๆหนึ่งบนผนังในห้องลับห้องหนึ่ง
"แป๊ก"
ช่องที่ซ่อนอยู่นั้นปรากฏขึ้นจากในผนัง ซึ่งเก๋าซานฮูก็ค่อยๆหยิบกล่องนั้นขึ้นมา
เขาวางกล่องนั้นไว้ข้างๆเก๋ายู่จื่อและเปิดมันเบาๆ
"ฟุ่บ"
เมื่อกล่องถูกเปิดออก ด้านในนั้นเป็นมีไข่มุกสีเลือดอยู่ ซึ่งไข่มุกนั้นมีขนาดเท่านิ้วโป้งและประดับด้วยลวดลายที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก
เมื่อเห็นไข่มุกสีเลือดนี้ ดวงตาของเก๋าซานฮูจึงเผยให้เห็นถึงความแน่วแน่
“ยู่จื่อ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของตระกูลเก๋า ไข่มุกแลกโลหิต!”
“เมื่อเจ้าใช้ไข่มุกแลกโลหิตนี้ เจ้าจะค่อยๆได้รับการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย แม้แต่พิษที่ร้ายแรงที่สุดก็สามารถถูกทําให้เป็นกลางได้”
“และด้วยความสามารถของเจ้า เมื่อเจ้าใช้ไข่มุกแลกโลหิต จะมีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าจะฟื้นขึ้นมาได้และทะลวงเข้าสู่บอขเบตพลังศักดิ์สิทธิ์ในทันที!”
"และตอนนี้ มันก็ถึงเวลาแล้ว..."
เก๋าซานฮูสูดหายใจเข้าลึกๆและกําลังจะใช้ไข่มุกแลกโลหิตกับเก๋ายู่จื่อ
"ตึ้ก"
ทันใดนั้น ร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากในห้องโถงใต้ดิน
"ใครน่ะ?!"
เก๋าซานฮูเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาของเขาที่เฉียบคมดุจใบมีด เขามองไปที่ร่างที่อยู่ไม่ไกลทันที
"เจ้า... ยู่เชิงงั้นรึ?!"
เก๋าซานฮูเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและตกใจอย่างมาก
"ท่านพ่อ นี่ข้าเอง"
“ข้าว่าแล้วว่าท่านต้องมีไข่มุกแลกโลหิตจริงๆ สมบัติชิ้นนี้จะทำให้นักศิลปะการต่อสู้แลกเปลี่ยนเลือดของพวกเขาและก้าวเข้าสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ครึ่งขั้น สมบัติล้ำค่าแบบนี้ท่านคิดจะใช้มันกับคนที่ป่วยใกล้ตายอย่างงั้นรึ?” เก๋ายู่เชิงพูดเยาะเย้ย
"ท่านพ่อ นี่ท่านเสียสติไปแล้วงั้นรึ?"
การแสดงออกของเก๋ายู่จื่อนั้นเริ่มเป็นการคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ
"หุบปากซะ!"
"บอกข้ามา ว่าเจ้าเข้ามาได้ยังไง?!"
"เจ้าตามข้ามางั้นรึ?!"
“เจ้าไม่รู้รึ ว่าสถานที่แห่งนี้มีเพียงผู้นำตระกูลเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้น่ะ!!...”
เก๋าซานฮูไม่สามารถควบคุมความโกรธของเขาได้อีกต่อไป
แต่ในขณะที่เขาพูด ดูเหมือนเขาจะจําอะไรบางอย่างได้และหยุดพูดอย่างกะทันหัน แต่กลับเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจบนใบหน้าของเขาแทน
เก๋ายู่เชิงยังคงสงบนิ่งและยิ้มเล็กน้อยโดยพูดว่า "ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าท่านจะรู้แล้วสินะ?"
“อันที่จริงๆ ข้าเองนี่แหละที่วางยาพี่ชายของข้า นอกจากนั้น ข้ายังวางยาพิษทุกคนในตระกูลเก๋าด้วยเช่นกัน”
หน้าอกของเก๋าซานฮูนั้นเริ่มแน่นขึ้นขณะที่เขากัดฟันและถามทีละคําว่า “นี่..เจ้า…ทําไมกัน? ทําไมเจ้าถึงต้องทําแบบนี้? เขาเป็นพี่ชายของเจ้าเชียวนะ!”
“ทําไมงั้นรึ? ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้แก่หน้าโง่ เจ้าเองก็รู้ดีว่าตระกูลเก๋านั้นมีต้นกําเนิดมาจากสำนัก 5 ทรพิษ แต่เมื่อสำนัก 5 ทรพิษ เริ่มการก่อกบฏและถูกปราบปรามโดยคนของราชสํานัก พวกเขาก็ถูกยุบและสลายตัวไปกว่าร้อยปีก่อนแล้ว แล้วทําไมเจ้าถึงยังยึดติดกับอุดมการณ์โง่ๆของพวกบรรพบุรุษพวกนั้นด้วย?!”
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าเอาแต่ระดมพลและสั่งสมผู้แข็งแกร่ง รวมถึงอาวุธและชุดเกราะ นั่นไม่ใช่การเตรียมการเพื่อก่อกบฏงั้นรึ?!!”
“ทุกวันนี้มันไม่เหมือนเมื่อร้อยปีที่แล้ว สำนัก 5 ทรพิษ ก็สลายหายไปนานแล้ว แต่เจ้ากลับยืนกรานที่จะก่อกบฏแบบนี้ นี่มันไม่เท่ากับการประณามทุกคนในตระกูลเก๋าเลยรึไง?!”
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าใช้ชีวิตของพวกเขาเพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยานของเจ้าโดยเด็ดขาด! นอกจากนี้ พี่ใหญ่เองก็เป็นลูกชายที่เจ้ารัก เจ้าทุ่มเททั้งความพยายาม ทรัพยากร และความรักทั้งหมดให้กับมัน แล้วข้าล่ะ? ข้าเองเป็นลูกชายของเจ้าไม่ใช่รึไง?!”
“เรื่องพวกนั้นข้าเองก็พอจะมองข้ามไปได้ แต่เจ้าถึงกับใช้ไข่มุกแลกโลหิตกับพี่ใหญ่ ใช้กับคนที่ใกล้จะตายและไม่คิดที่จะมอบให้ข้า และในเมื่อเจ้าเลือกแบบนั้น ข้าก็จะไม่ถือว่าเจ้าเป็นพ่อของข้าอีกต่อไป!”
พลังของเก๋ายู่เชิงพุ่งสูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน เขาก็ค่อยๆชักดาบในมือออกมา!