ตอนที่ 21 เก้าสายฟ้ากลั่นกายา
ตอนที่ 21 เก้าสายฟ้ากลั่นกายา
"วิชาลับการเสริมร่างกระทิงสมบูรณ์แบบแล้วรึ"
ลู่ชางเฉิงไม่รู้สึกแปลกใจมากเท่าไหร่นัก เพราะเขาเองก็คาดเดาเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
เขารีบเปิดแผงคุณลักษณะของเขาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 215 (ค่อนข้างมีศักยภาพ)
วิชาลับการเสริมร่างกระทิง : ขั้นที่สี่ ระดับสมบูรณ์แบบ
ความก้าวหน้าของลู่ชางเฉิงในการฝึกฝนวิชาลับการเสริมร่างกระทิงนั้นรวดเร็วมากเป็นพิเศษ
เหตุผลสําคัญก็คือมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ฝึกได้อย่างไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับคนที่มีค่าความเข้าใจสูงจึงแทบจะไม่มีปัญหาใดๆเลย
“การจะไปอยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตการแบ่งเบากระดูกได้ ก็ต้องทำให้กระดูกนั้นแข็งราวกับหยก”
“แต่การเปลี่ยนกระดูกให้มีคุณสมบัติคล้ายกับหยกนั้นก็ทำได้ยากมาก”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าอาจจะไม่สามารถฝึกฝนวิชาที่เกี่ยวกับร่างกายที่มีระดับที่สูงกว่าได้ เพราะข้าจะต้องปรับสภาพกระดูกให้อยู่ในระดับที่คล้ายกับหยกให้ได้เสียก่อน”
“แต่การสร้างมวลกระดูกแต่ละครั้งก็ใช้เวลานานมาก และถึงแม้ว่าจะไปถึงจุดที่เป็น”กระดูกหยกได้“บางทีมันก็อาจจะไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไปด้วยซ้ำ”
ลู่ชางเฉิงกำลังทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เขาจะทำต่อไปนั้นมัน "คุ้มค่า" หรือไม่?
การมีกระดูกหยกนั้นถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก แต่มันก็ต้องแลกกับการใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก ซึ่งมันอาจจะไม่คุ้มมากนัก และมันคงจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะก้าวไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ให้เร็วๆแทน
แต่ลู่ชางเฉิงนั้นมีมุมมองที่ต่างออกไป เขาเข้าใจว่าด้วยความช่วยเหลือของระบบ การที่เขาจะไปถึงขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้เมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
สิ่งที่เขาต้องทําตอนนี้คือการทําให้รากฐานของแต่ละขอบเขตแข็งแกร่งที่สุด และเป็นเพราะพลังฉีและเลือดของเขามาถึงขีดจํากัดแล้ว บวกกับการมีศิลปะการต่อสู้ระดับที่ห้าอย่างวิชาสังหารเร็ว มันจึงทำให้เขาสามารถฆ่าหลี่จีได้อย่างง่ายดาย
แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ากระดูกของเขาไปถึงระดับ "กระดูกหยก" ด้วย? ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และหลังจากที่กลายเป็นผู้ฝึกฝนขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ เขาจะอยู่เหนือกว่าคนในขอบเขตเดียวกันได้อย่างง่ายดาย
“ศิลปะการต่อสู้ที่เพิ่มความแข็งแก่รงของร่างกายสามารถหาซื้อได้ในตลาดมืด แต่ตอนนี้เงินของข้าน่าจะยังไม่พอ...”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลู่ชางเฉิงจึงกลับเข้าไปที่วัดร้างอีกครั้งและทำการเก็บเงินที่เหลือที่ได้จากศพที่เขาเอาไปซ่อนไว้
หลังจากที่นับอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เขามีเงินอยู่ถึง 16,800 เตล
"โอ้ว"
แม้แต่ลู่ชางเฉิงเองก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างกับเงินจํานวนนี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเงินเหล่านี้ถูกปล้นมาจากสำนักเมียวชู ซึ่งจำนวนเงินแค่นี้ถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับทรัพย์สมบัติที่พวกเขาสะสมมานานหลายสิบปี
ที่สําคัญไปกว่านั้นคือรถม้าที่เต็มไปด้วยทองคําและเงินที่ลู่ชางเฉิงไม่สามารถเอาไปได้นั้นก็ยังหลงเหลืออยู่ ถ้าหากเขาต้องการเอาเงินทั้งหมดไปจริงๆ เขาอาจจะได้เงินไปกว่า 100,000 หรือหลายแสนเตลด้วยซ้ำ
หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงได้ตรวจดูคู่มือศิลปะการต่อสู้ต่างๆที่เขาได้รับมา ซึ่งมันมีทั้งทักษะและเทคนิคการต่อสู้ ซึ่งเทคนิคส่วนใหญ่เป็นศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการเสริมสร้างเลือด ซึ่งมันไร้ประโยชน์สําหรับเขาในตอนนี้
ในที่สุด ลู่ชางเฉิงก็พบกับศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะที่เรียกว่า "วิชาหลอมร่างพยัคฆ์อสูร" ซึ่งเป็นวิชาที่เขายังไม่มี
นอกจากนี้ยังมีศิลปะการต่อสู้ลึกลับอีกหนึ่งอย่างที่เขาพบในร่างของหลี่จี
ลู่ชางเฉิง เริ่มดูศิลปะการต่อสู้ลึกลับที่ได้รับจากร่างกายของหลี่จีทันที
"เก้าสายฟ้ากลั่นกายา!"
รูม่านตาของลู่ชางเฉิงหดตัวลงเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
“เทคนิคลับ? นี่ต้องเป็นเทคนิคลับแน่ๆ...”
ลู่ชางเฉิงนั้นฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าใจแนวทางของเทคนิคลับได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเทคนิคลับนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างสำคัญ ตัวอย่างเช่น “เก้าสายฟ้ากลั่นกายา” ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การเสริมสร้างร่างกาย แต่มันสามารถช่วยได้อย่างมากในการปรับสภาพกระดูกและการปรับแต่งอวัยวะต่างๆ ซึ่งมันถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของเทคนิคลับเสริม ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ทั้งการเพิ่มความแข็งแกร่งและการปรับแต่งอวัยวะไปควบคู่กัน
ลักษณะเฉพาะของ “เก้าสายฟ้ากลั่นกายา” คือความสามารถในการช่วยปรับแต่งกระดูกและอวัยวะต่างๆโดยไม่สนขอบเขตของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น หากนักศิลปะการต่อสู้มาถึงขั้นที่กระดูกของพวกเขาก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วและไม่สามารถทำให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ การฝึกเทคนิคลับนี้จะสามารถเพิ่มโอกาสในการทําให้กระดูกของพวกเขาค่อยๆผ่อนคลายลงและสร้างความยืดหยุ่นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากขึ้นไปอีกได้
ซึ่งพลังที่ไม่ธรรมดานี้แสดงให้เห็นถึงการเป็น "เทคนิคลับ" อย่างแท้จริง
"เทคนิคลับนี้มันประเมินค่าไม่ได้แน่ๆ!"
ลู่ชางเฉิงดีใจมากเพราะเขาคาพไม่ถึงจริงๆว่าจะได้พบกับเทคนิคลับ และตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมหลี่จีซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะจึงได้พกศิลปะการต่อสู้แบบนี้ติดตัวไปด้วย ซึ่งเหตุผลก็คือมันเป็นเทคนิคลับนี่เอง!
“เก้าสายฟ้ากลั่นกายานั้นเป็นเทคนิคลับเสริมที่ฝึกฝนได้ยากมาก”
“แต่ถึงอย่างนั้นเก้าสายฟ้ากลั่นกายาก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งถึงสองอย่างได้พร้อมๆกัน”
นอกจากนี้ ลู่ชางเฉิงยังได้รับศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะมาอีกอย่างหนึ่ง และแม้ว่ามันจะไม่ได้ดูพิเศษมากนัก แต่ลู่ชางเฉิงก็วางแผนเอาไว้ในใจแล้ว
"การจะทำให้เป็น 'กระดูกหยก' นั้นเป็นเรื่องยากจริงๆ"
“นอกจากจะทำการแบ่งเบากระดูกหลายสิบครั้งหรือมากกว่านั้นถึงจะมีโอกาสที่จะบรรลุ”กระดูกหยก“ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งกระดูกแข็งมากขึ้น ผลที่ได้จากการแบ่งเบาบรรเทาก็จะลดน้อยลงเท่านั้น”
ลู่ชางเฉิงกำลังทำความเข้าใจว่าการบรรลุถึง "กระดูกหยก" นั้นอาจจะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องสักเท่าไหร่นัก เพราะมันอาจใช้เวลาหลายปีในการทำมันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ และถ้าเป็นแบบนั้น มันจะเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์และเสียเวลาไปหลายปี
แต่เนื่องจากลู่ชางเฉิงมีค่าความเข้าใจสูง เขาจึงไม่กังวลเรื่องนี้มากนัก และถึงแม้ว่าเขาจะต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะหลายอย่างแต่ก็คงไม่ต้องใช้เวลามาก นอกจากนี้ ตอนนี้เขายังครอบครองเทคนิคลับเก้าสายฟ้ากลั่นกายาด้วย
เมื่อเขาเข้าไปถึงขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะได้ เทคนิคลับเก้าสายฟ้ากลั่นกายาจะแสดงพลังของมันออกมาให้เห็นเอง
หลังจากการต่อสู้ภายในวัดร้าง ลู่ชางเฉิงก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ นอกจากนี้เขายังคงเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์จากอาจารย์ของเขาทุกวันที่ร้านขายยา
แม้ว่าลู่ชางเฉิงจะมีค่าความเข้าใจสูง แต่ทักษะทางการแพทย์เป็นทักษะที่ยากและเฉพาะจุดมาก ดังนั้นไม่ว่าความรู้เชิงทฤษฎีจะแน่นมากเพียงใด ก็ยังต้องใช้ประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติที่แม่นยำด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ ลู่ชางเฉิงคาดว่าเขาอาจจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นก่อนที่เขาจะสามารถเริ่มฝึกฝน วินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยจริงๆได้
ส่วนวู่จิงเองก็ให้ความสําคัญกับลู่ชางเฉิงมากขึ้นและดูเหมือนจะยอมรับว่าเขาเป็นลูกศิษย์อย่างแท้จริง โดยเขาพยายามถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดของเขาอย่างไม่ตระหนี่
หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปสิบวัน
"วิชาหลอมร่างพยัคฆ์อสูรอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบ ค่าความเข้าใจ +4 แต้ม"
ลู่ชางเฉิงเห็นข้อความเล็กๆปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
"สมบูรณ์แบบแล้วงั้นเหรอ?"
ลู่ชางเฉิงเปิดแผงคุณลักษณะของเขาทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 235 (ค่อนข้างมีศักยภาพ)
วิชาหลอมร่างพยัคฆ์อสูร : ขั้นที่สี่ ระดับสมบูรณ์แบบ
เก้าสายฟ้ากลั่นกายา : ยังไม่ได้เริ่ม
ลู่ชางเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ
นี่มันเร็วเกินไปแล้ว!
ในเวลาเพียงสิบวัน เขาได้ฝึกทักษะการต่อสู้ได้สมบูรณ์แบบถึงแปดอย่าง แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดยนั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ระดับที่สอง ซึ่งมันเพิ่มค่าความเข้าใจเพียง 16 แต้มเท่านั้น และเมื่อบวกอีก 4 แต้มจากวิชาหลอมร่างพยัคฆ์อสูร ค่าความเข้าใจของเขาจึงเพิ่มเป็น 235 แต้ม แต่ถึงแม้ว่าจะมีค่าความเข้าใจถึง 235แต้ม เขาก็ยังไม่สามารถเริ่มต้นฝึกเก้าสายฟ้ากลั่นกายาได้
“ค่าความเข้าใจของข้ายังไม่สูงพอ ข้าจะต้องฝึกทักษะการต่อสู้อย่างอื่นให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มค่าความเข้าใจของข้า!”
“และถึงแม้ว่าจะใช้พลังของวิชาหลอมร่างพยัคฆ์อสูรและวิชาลับการเสริมร่างกระทิงเพื่อทำการปรับกระดูกของข้าไปถึงแปดครั้ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของ”กระดูกหยก“เลยแม้แต่น้อย”
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปที่ตลาดมืดอีกครั้งแล้วสินะ”
ลู่ชางเฉิงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินเพื่อเอาไปซื้อศิลปะการต่อสู้อีกต่อไป
ดังนั้น ลู่ชางเฉิงจึงปลอมตัวและรีบไปที่ตลาดมืดทันที