ตอนที่ 17 หลี่จี ราชาดาบใหญ่
ตอนที่ 17 หลี่จี ราชาดาบใหญ่
ค่ำคืนนั้นเงียบสงัดและเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ที่ลานกว้างของสำนักเมียวชู มีกองศพจํานวนมากวางอยู่บนพื้น!
กลิ่นเลือดนั้นคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่
เด็กฝึกงาน นักจ่ายยา หมอ และหน่วยรักษาความปลอดภัยหลายคน ต่างยืนอยู่บนลานกว้างและจ้องไปที่ศพบนพื้นอย่างเงียบๆ
ในลานกว้างตอนนี้กำลังตกอยู่ในความเงียบ
ลู่ชางเฉิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนกำลังจ้องไปที่ศพของอาจารย์เหวินบนพื้นเช่นกัน!
ในบรรดาศพหลายสิบศพ หนึ่งในนั้นคืออาจารย์เหวิน
หน้าอกของอาจารย์เหวินนั้นยุบลง ซึ่งชัดเจนว่าอวัยวะภายในของเขาถูกทําลายด้วยการโจมตีที่ทรงพลัง
พลังดังกล่าวนั้นมาจากผู้ที่อยู่ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะเท่านั้น
แขนของชายชราเหวินข้างหนึ่งถูกตัดขาดและยังไม่มีใครพบ
ใบหน้าของเขายังคงแสดงความตื่นตระหนก ความหวาดกลัว และความเจ็บปวด
ลู่ชางเฉิงไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของเขานั้นเย็นชาอย่างมากลงทันที
แม้ว่าอาจารย์เหวินจะไม่ใช่คนที่เป็นญาติของเขาโดยสายเลือด แต่เขาได้ถ่ายทอดทักษะทั้งหมดของเขาให้กับลู่ชางเฉิงอย่างไม่ตระหนี่
พวกเขาไม่ได้เป็นแค่อาจารย์กับศิษย์ แต่มันผูกพันธ์ราวกับพ่อลูก
แต่ตอนนี้ อาจารย์เหวินได้ตายไปแล้วและศพของเขาก็อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชอีก
"ท่านผู้นำ เราจับตัวคนทรยศได้แล้วครับ!!"
ในขณะนี้ ผู้คุมสองคนเดินเข้ามาพร้อมกับชายที่ถูกใส่โซ่ตรวนลากเข้ามา
"วิ้งง"
ทุกสายตาจดจ้องไปที่ชายที่ถูกล่ามโซ่ทันที
การจ้องมองของเจิ้งเหรินซินเปลี่ยนไปและน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้นมากขณะที่เขาพูดว่า “เจิ้งอี้ไห่ เป็นเจ้างั้นรึ! เจ้าเป็นถึงสมาชิกของตระกูลเจิ้งและเป็นสมาชิกของหน่วยรักษาความปลอดภัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักเมียวชูแท้ๆไ ทําไมเจ้าถึงได้สมรู้ร่วมคิดกับพวกโจรและทําร้ายคนของเราได้?!”
"ตุ้บ"
เจิ้งอี้ไห่คุกเข่าลงบนพื้นอ้อนวอนว่า "ท่านผู้นำ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด ข้ามันโง่เองที่ทำแบบนี้ไปโดยที่ไม่ได้คิด"
“ข้า... ข้าเป็นหนี้จํานวนมากจากการพนัน และพวกโจรเหล่านั้นก็เข้ามาหาข้า”
“พวกมันสัญญาว่าถ้าข้าบอกข้อมูลเกี่ยวกับสำนักเมียวชู พวกเขาจะให้เงินข้าไปใช้หนี้”
“ข้าคิดว่าพวกมันจะไม่กล้าทําอะไรกับสำนักเมียวชู ข้าจึงบอกไปแค่บางส่วนเท่านั้น”
“แต่ข้าไม่ได้คิดว่าพวกมันจะกล้าถึงขนาดบุกสำนักเมียวชูได้แบบนี้!”
“ท่านผู้นำ ไว้ชีวิตข้า ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด...”
เห็นได้ชัดว่าเจิ้งอี้ไห่นั้นถูกซ้อมมาแล้วอย่างหนักหน่วง ฟันของเขานั้นหักไปหลายซี่จนเขาแทบจะพูดไม่ชัดแล้ว
แต่เนื่องจากคําพูดของเขา มันทำให้ทุกคนคิดแบบเดียวกัน
คนทรยศ!
เจิ้งอี้ไห่เป็นคนทรยศของสำนัก!
เป็นเพราะการเปิดเผยข้อมูลของเจิ้งอี้ไห่ ทำให้พวกโจรหาโอกาสโจมตีสำนักเมียวชูได้
ดวงตาของเจิ้งเหรินซินเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาจ้องไปที่เจิ้งอี้ไห่ด้วยการกัดฟันกรอดขณะที่เขาพูดว่า “ไว้ชีวิตเจ้ารึ? เจ้าทําให้คนจํานวนมากต้องตายแต่เจ้ากลับยังอยากมีชีวิตอยู่งั้นรึ?!”
จู่ๆเจิ้งเหรินซินก็ดึงดาบออกมาและฟันไปทันที
"ชั้วะ"
หัวของเจิ้งอี้ไห่ตกลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นไปทั่วทุกที่
เสื้อผ้าของเจิ้งเหรินซินนั้นเต็มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและเขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ครั้งที่แล้ว พวกโจรได้ปล้นร้านขายยาของเรา ซึ่งข้าก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับพวกมันมากนัก แต่คราวนี้การที่พวกมันกล้ามาบุกสำนักเมียวชูนั้นมันมากเกินไป! พวกมันคิดว่าตระกูลเจิ้งแห่งเมืองหนานหยางไร้อำนางั้นรึ!”
ในขณะเดียวกัน ผู้คุมคนหนึ่งได้พูดขึ้นว่า “ท่านผู้นำ โจรเหล่านั้นปล้นคลังของสำนักเมียวชูและได้เงินไปมากมาย ทำให้พวกมันไม่สามารถขนออกไปทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ คนที่เฝ้าประตูเมืองทั้งหมดก็ไม่พบกับผู้ต้องสงสัยเช่นกัน ดังนั้น พวกโจรเหล่านั้นจะต้องยังอยู่ในเมืองแน่ๆครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปตามหาพวกมันซะ! ถึงแม้ว่าจะต้องขุดหลุดทั่วทั้งเมืองก็ต้องตามหาโจรเหล่านั้นให้ได้!”
“และเมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะนําคนของข้าไปกําจัดพวกโจรด้วยตัวเอง!”
เจิ้งเหรินซินในตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้น
ตระกูลเจิ้งแห่งเมืองหนานหยางนั้นมีชื่อเสียงที่น่าเกรงขาม และสำนักเมียวชูของพวกเขาก็ไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน
แค่ตอนนี้มันถูกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมโดยกลุ่มโจร
ความแค้นในครั้งนี้จะต้องถูกชำระล้างให้ได้ ไม่อย่างนั้น ตระกูลเจิ้งแห่งเมืองหนานหยางจะรักษาสถานะของพวกเขาเอาไว้ได้อย่างไร?
ครั้งนี้เจิ้งเหรินซินมุ่งมั่นที่จะกําจัดโจรเหล่านั้นให้ได้อย่างเด็ดขาด!
ตอนนี้ผู้คนในลานกว้างทยอยกันแยกย้ายออกไป ส่วนลู่ชางเฉิงก็กลับไปที่ลานหน้าบ้านของเขา
เขาตรวจสอบแผงคุณสมบัติของเขา
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 211 แต้ม (ค่อนข้างมีศักยภาพ)
วิชาลับการเสริมร่างกระทิง : ระดับที่สาม
วิชาลับการเสริมร่างกระทิงของลู่ชางเฉิงตอนนี้มาถึงระดับที่สามแล้ว
และตอนนี้พลังฉีและเลือดของลู่ชางเฉิงนั้นแข็งแกร่งมาก ซึ่งสามารถทําให้เขาสามารถปรับสภาพกระดูกของเขาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาสามารถปรับสภาพกระดูกได้ทีละสิบครั้งเท่านั้น แต่ด้วยพลังฉีและเลือดในตอนนี้ของเขา มันจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
แต่จู่ๆ ลู่ชางเฉิงก็หยุด
ภาพของศพอจารย์เหวินที่มีดวงตาเบิกโพลงนั้นยังคงฉายซ้ำอยู่ในใจของเขาเรื่อยๆ
ในตอนสภาพจิตใจของเขาไม่สงบ ซึ่งทำให้การฝึกแบ่งเบากระดูกของลู่ชางเฉิงสูญเสียประสิทธิภาพไป
"สภาพจิตใจของข้าไม่มั่นคงจริงๆ!"
ลู่ชางเฉิงพึมพําด้วยเสียงต่ำๆ
สภาพจิตใจของเขาไม่มั่นคงเพราะการตายของอาจารย์เหวิน!
"ถ้าสภาพจิตใจของข้าไม่มั่นคง ข้าก็คงไม่สามารถฝึกได้!"
ลู่ชางเฉิง เอื้อมมือเข้าไปเสื้อบริเวณอกของเขาและจับมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในนั้น
เมื่อจับอาวุธในมือ จิตสังหารของเขาก็ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขาในตอนนี้ก็ต้องการแก้แค้นให้กับอาจารย์เหวินอย่างมาก!
ในตอนนี้ ลู่ชางเฉิงกำลังเดือดดาบและเต็มไปด้วยอารมณ์อยากแก้แค้นอย่างมาก
เมื่อเขาสวมชุดนอนกับหมวกเสร็จแล้ว เขาทำการคลุมใบหน้าด้วยผ้าสีดําเพื่อปกปิดตัวตนของเขาอย่างสมบูรณ์
"ฟุ่บบ"
หลังจากนั้น ร่างของลู่ชางเฉิงก็หายไปในตอนกลางคืน
…..
ทางทิศตะวันตกของเมือง ภายนอกวัดร้างแห่งหนึ่ง มีร่างของคนหลายสิบคนปรากฎอยู่ลางๆ
"ตุ้ง ตุ้ง ตุ้ง"
เสียงกลองนั้นดังก้องมาจากระยะไกล
"อากาศวันนี้แห้งมาก ระวังเทียนด้วยล่ะ"
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาตี 3 แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่นอกวัดร้าง
“ท่านผู้นำ ตอนนี้เป็นเวลาตี 3 แล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวภายในวัดเลยครับ...”
หน่วยรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งจากสำนักเมียวชูพูดอย่างระมัดระวัง
การจ้องมองของเจิ้งเหรินซินนั้นเปลี่ยนไป และการแสดงออกของเขาก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่เขาจ้องไปที่วัดแทน
ภายในวัดที่ถูกทิ้งร้าง ก่อนหน้านี้มีโคมไฟปรากฎอยู่แต่ตอนนี้มันดับลงหมดแล้ว
"พวกโจรเหล่านั้นกำลังซ่อนตัวอยู่ในวัดรึเปล่า?"
เจิ้งเหรินซินถามอีกครั้ง
“ครับ พวกโจรเหล่านั้นอยู่ในวัด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเพียงแค่สามสิบคนเท่านั้น ในขณะที่เรามีผู้ฝึกตนถึงแปดสิบคน พวกเราได้เปรียบในด้านจำนวนครับ...”
เจิ้งเหรินซินกําลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ
เนื่องจากเขาคุ้นชินกับความสง มันจึงทำให้เขาไม่สามารถตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดขาดได้
เพราะการต่อสู้ครั้งนี้มีความสําคัญมากๆ
ชนชั้นสูงของสำนักเมียวชูเกือบทั้งหมดถูกระดมพลมา และถ้าหากพวกเขาล้มเหลว ผลที่ตามมาจะนั้นจะเลวร้ายมาก
"จัดการพวกมันซะ!"
ในที่สุดเจิ้งเหรินซินก็ตัดสินใจแล้ว
คราวนี้เขาได้รวบรวมผู้ฝึกตนขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะถึงสี่คน
ในขณะที่กลุ่มโจรที่บุกเข้าไปในสำนักเมียวชูในตอนกลางวันมีผู้ฝึกตนขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะเพียงสองคน
ไม่ว่าในยังไงก็ตาม ตอนนี้สำนักเมียวชูได้เปรียบอย่างมาก
เมื่อเจิ้งเหรินซินออกคําสั่ง ร่างของคนหลายสิบคนก็ค่อยๆเข้าประชิดใกล้วัดร้าง
"ตู้มม"
ประตูวัดที่ทรุดโทรมถูกเตะให้ล้มลงอย่างกะทันหัน
ผู้ฝึกตนหลายสิบคนจากสำนักเมียวชูรีบบุกเข้าไปข้างในทันที
แต่เพียงไม่นาน จากภายในวัดสีมืดสนิท สลักเกลียวหน้าไม้จํานวนมากได้ถูกยิงออกมา
"ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ"
สลักเกลียวหน้าไม้เหล่านี้ถูกปกปิดเอาไว้และตั้งกลไกให้ทำงานในตอนกลางคืน จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันได้ ซึ่งพวกมันก็พุ่งเข้าหาร่างของผู้ฝึกตนแห่งสำนักเมียวชูจํานวนมากภายในวัดในทันที
"สลักเกลียวหน้าไม้เหรอ?!"
เจิ้งเหรินซินเบิกตากว้าง
หน้าไม้มันเป็นอาวุธของกองทัพจักรวรรดิไม่ใช่เหรอ?
และโจรเหล่านี้จะมีหน้าไม้ได้ยังไงกัน?
ทันใดนั้น เจิ้งเหรินซินก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง
แม้ว่าพวกกลุ่มโจรที่ทำการปิดกั้นเส้นทางการค้าจะถูกกองทัพจักรวรรดิกวาดล้างไปแล้ว แต่อาจจะบางคนที่หนีไปได้
บางทีโจรเหล่านั้นอาจจะนำหน้าไม้จากศพของทหารในกองทัพจักรวรรดิติดไปด้วย
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดพวกเจ้าก็มากันแล้วสินะ!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังขึ้น
หลังจากนั้น คบเพลิงจํานวนมากก็ถูกจุดขึ้นในวัดร้าง ทําให้วัดสว่างไสวราวกับเป็นตอนกลางวัน
เจิ้งเหรินซินเหลือบไปมองและเห็นชายร่างสูงที่มีดวงตาสีทองแดงกำลังยืนอยู่อย่างสงบในวัดโดยที่เขาถือดาบขนาดใหญ่อยู่ด้วย
ออร่าของเขาเหมือนไฟที่ลุกโชน ซึ่งทําให้ทุกคนในวัดรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในเตาเผา
หัวของชายคนนั้นล้านและมีรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจนบนหน้าผากของเขา
“หลี่จี ราชาดาบใหญ่! นี่เจ้ายังไม่ตายงั้นรึ?!”
“เป็นไปไม่ได้! ครั้งล่าสุดที่กองทัพจักรวรรดิถูกปิดล้อมและทําลายล้างผู้นําโจร พวกเขาบอกว่าหัวหน้าโจรถูกสังหารไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน?!”
เจิ้งเหรินซินดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้และอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ฮึๆๆ พวกหมาล่าเนื้อของจักรวรรดิจะฆ่ากษัตริย์อย่างข้านี้ได้อย่างไร? พวกมันฆ่าคนบริสุทธิ์แล้วอ้างว่าเป็นข้าต่างหาก”
“เจิ้งเหรินซิน ข้าน่ะแค่ต้องการเอาเงินไปจากเจ้าเท่านั้น แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาให้ข้าเอาชีวิตเจ้าไปด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะตอบแทนเจ้าอย่างสาสม ด้วยการฆ่าเจ้าและเข้าครอบครองตระกูลเจิ้งและเมืองหนานหยาง ก่อนที่ข้าจะฟื้นฟูอำนาจของข้าขึ้นมาอีกครั้ง!”
หลี่จีผู้นี้เป็นผู้นําของกลุ่มโจรที่เคยปิดกั้นเส้นทางการค้า เขามีฉายาว่า "ราชาดาบใหญ่"
ว่ากันว่าเขามีพละกําลังมหาศาลและสามารถรอดพ้นจากความตายด้วยน้ำมือของผู้ฝึกตนระดับศักดิ์สิทธิ์ได้
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผู้ฝึกตนขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะทั้งสี่ของสำนักเมียวชูจะสู้กับเขาได้อย่างไร?