ตอนที่ 16 ขอบเขตการแบ่งเบากระดูก!
ตอนที่ 16 ขอบเขตการแบ่งเบากระดูก!
"ค่าความเข้าใจเพิ่มขึ้น 6 แต้มกับวิชาขอบเขตเลือด 6 สวรรค์มาถึงระดับที่หกแล้วงั้นเหรอ?"
สําหรับวิชาขอบเขตเลือด 6 สวรรค์ที่สมบูรณ์แบบนั้น ลู่ชางเฉิงได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเขาจะทำมันได้ในเร็วๆนี้
แต่การที่วิชาขอบเขตเลือด 6 สวรรค์เป็นวิชาขั้นที่ 6 นั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงจึงเริ่มตรวจสอบแผงคุณสมบัติของเขา
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 211 (ค่อนข้างมีศักยภาพ)
วิชาขอบเขตเลือด 6 สวรรค์ : ระดับที่หกสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นค่าความเข้าใจ 211 แต้มบนแผงคุณลักษณะ ลู่ชางเฉิงก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย เพราะมันก็เป็นเวลาถึงสองเดือนแล้ว ถ้าหากเขาไม่มีวิชาศิลปะการต่อสู้ระดับสองอื่นๆให้เขาฝึกอีก ค่าความเข้าใจของเขาก็แทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย
“รู้สึกได้เลยว่าพลังฉีและเลือดของข้ากระจายไปทั่วร่างกายและเกือบจะถึงขีดจํากัดแล้ว”
“ดูเหมือนว่าอีกไม่นานข้าจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตการแบ่งเบากระดูกได้แน่ๆ”
ลู่ชางเฉิงหยิบคู่มือออกมาจากกล่องที่เขาเอาไป ซึ่งมันคือวิชาลับการเสริมร่างกระทิง ซึ่งอันที่จริงลู่ชางเฉิงนั้นรู้ดีถึงเงื่อนไขในการฝึกวิชาลับการเสริมร่างกระทิง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ฝึกฝนมันและรอให้วิชาขอบเขตเลือด 6 สวรรค์ของเขาสมบูรณ์แบบก่อน และในตอนนี้ เขาก็สามารถฝึกฝนวิชาลับการเสริมร่างกระทิงได้แล้ว
“การแบ่งเบากระดูกโดยพื้นฐานแล้วคือการใช้พลังฉีและเลือดเพื่อปรับสภาพกระดูก”
“ถึงแม้ว่ากระดูกอาจดูแข็งมาก แต่ในความเป็นจริงพวกมันก็มีจุดที่ค่อนข้างบอบบางด้วยเช่นกัน”
“พวกมันจะต้องทำการเสริมและแบ่งเบาซ้ำๆก่อนที่จะทำการถ่ายเทพลังฉีและเลือดลงไป”
ลู่ชางเฉิงมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับของเขตการแบ่งเบากระดูกมาก เพราะเขาอ่านวิชาลับการเสริมร่างกระทิงอย่างละเอียดและจํามันได้อย่างชัดเจน
"มาลองดูสักหน่อยก็แล้วกัน"
ลู่ชางเฉิงระดมพลังฉีและเลือดของเขาและค่อยๆเริ่มปรับสภาพกระดูกของเขาตามวิธีการของ “วิชาลับการเสริมร่างกระทิง”
"บู้มมม"
ครั้งแรกที่เขาปรับกระดูกของเขา ลู่ชางเฉิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่เขาก็พยายามอดทนกับมันและพยายามระงับความเจ็บปวดเอาไว้ และเนื่องจากค่าความเข้าใจที่สูงมากของเขา เขาจึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการแบ่งเบากระดูกของ ทำให้วิชาลับการเสริมร่างกระทิงของเขาดูดีมากตั้งแต่เริ่ม และประสิทธิภาพของการแบ่งเบากระดูกก็ค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างนั้น มันจะใช้เวลาอย่างน้อยสิบวันในการทําให้กระดูกทั้งหมดกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เนื่องจากร่างกายมนุษย์มีกระดูกมากมายและจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับสภาพให้สมบูรณ์
ประมาณสองชั่วโมงต่อมา ลู่ชางเฉิงที่รู้สึกเหนื่อยจึงหยุด หลังจากนั้น เขาเปิดและตรวจสอบแผงคุณลักษณะทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 211 (ค่อนข้างมีศักยภาพ)
วิชาลับการเสริมร่างกระทิง : ระดับแรก
ถึงแม้ว่าลู่ชางเฉิงจะยังไม่เสร็จสิ้นขั้นตอนการแบ่งเบาเลย แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ลู่ชางเฉิงได้เข้าสู่ขอบเขตการแบ่งเบากระดูกแล้ว ซึ่งเขาเองก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลัง การป้องกัน และความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเหนือกว่าขอบเขตการเสริมสร้างเลือดอย่างมาก!
“ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาบอกการแบ่งเบาร่างกายนั้นมีสามขอบเขต ซึ่งแต่ละขอบเขตนั้นจะทำให้ร่างกายราวกับว่าได้เกิดใหม่อีกครั้ง”
“ขอบเขตการแบ่งเบากระดูกในตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ขั้นเริ่มต้นของการแบ่งเบากระดูก แต่ก็มีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหนือกว่าผู้ฝึกตนในขอบเขตการเสริมสร้างเลือดมาก”
ลู่ชางเฉิงรู้สึกพอใจมากที่เขาพัฒนามาได้ถึงจุดนี้
ไม่นานหลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไป
ในเช้าวันที่สอง อาจารย์หลิวได้เข้ามาพบลู่ชางเฉิงพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
"ชางเฉิง ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะ"
“หมอวู่จิงตกลงที่จะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของเขาแล้ว”
“แต่สิ่งที่เจ้าจะต้องอย่าเกียจคร้านและให้ความสําคัญกับมารยาทให้ได้มากที่สุด หากเจ้าต้องการเป็นศิษย์ของเขาจริงๆ เจ้าก็สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย”
ลู่ชางเฉิงรู้สึกมีความสุขมากก่อนที่จะพยักหน้าและพูดว่า "ครับ ขอบพระคุณมากสำหรับคำแนะนำของท่านอาจารย์หลิว"
“อืม เจ้าน่ะไปหาวุ่จิงเถอะ และนับแต่นี้ไปเจ้าจะกลายเป็นศิษย์ของเขาอย่างเป็นทางการ”
ภายใต้การแนะนําของอาจารย์หลิว ลู่ชางเฉิงได้มาถึงร้านขายยาใต้สำนักเมียวชู ซึ่งภายในร้านมีชายอายุหกสิบปีที่หลังค่อมเล็กน้อย แต่ดูมีแข็งแกร่งและมีชีวิตชีวามาก ก่อนที่จะได้ยินอาจารย์หลิวพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
"วู่จิง ข้าพาเด็กคนนี้มาหาเจ้าแล้ว"
อาจารย์หลิวพูดกับชายอายุหกสิบปีคนนั้นทันที
ทั้งสองคนดูสนิทกันมาก วู่จิงเหลือบไปมองอาจารย์หลิวแล้วหันมามองลู่ชางเฉิง
“เจ้าหลิว นี่น่ะรึอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เจ้าบอกน่ะ? คนที่จำตาราแพทย์เกือบทั้งหมดได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนคนนั้น”
"ใช่ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เจ้าจะลองทดสอบเขาดูก็ได้"
แต่วู่จิงผายมือและพูดว่า “ไม่จำเป็นหรอกเจ้าหลิว เด็กแบบนี้น่ะหาตัวจับได้ยากอยู่แล้ว ทําไมข้าจะต้องทดสอบเขาด้วย?”
“ลู่ชางเฉิง สินะ? เจ้าคือคนที่เจ้าหลิวแนะนําและให้ข้ายอมรับเจ้าเป็นศิษย์ของข้า”
“แต่ถ้าเจ้าพิสูจน์ว่าเจ้านั้นไร้ความสามารถ ข้าจะไล่เจ้าออกไปได้ทุกเมื่อ และเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องกลับไปเป็นนักจ่ายยาอีกครั้ง เจ้าเข้าใจไหม?”
ลู่ชางเฉิงพยักหน้าและพูดว่า "ข้าเข้าใจครับท่านอาจารย์"
อันที่จริง ลู่ชางเฉิงเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หมอวู่จิงคนนี้เป็นอย่างที่ทุกคนลือจริงๆ ด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างคาดเดายาก การโดนไล่ออกจากร้านของเขานั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
แต่ลู่ชางเฉิงนั้นไม่ได้กังวลเลย ด้วยค่าความเข้าใจที่สูงถึง 211 หมอวู่จิงไม่มีทางไล่เขาออกไปจากร้านแน่ๆ
ดังนั้น ลู่ชางเฉิงจึงเสิร์ฟชาโค้งคํานับและทําพิธีเริ่มเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการ เพราะการได้กลายเป็นลูกศิษย์ของแพทย์ชื่อดัง วู่จิงนั้นไม่ใช่แค่การฝึกงาน แต่เป็นการยอมรับว่ากลายเป็นลูกศิษย์ เพราะเด็กฝึกงานจะได้รับมอบหมายจากสำนักเมียวชู แต่ลูกศิษย์จะสามารถสืบทอดตำแหน่งของผู้สอนได้ ดังนั้นจึงมีความแตกต่างกันอย่างมากของตำแหน่งเด็กฝึกงานและลูกศิษย์
วู่จิงเองก็มีเด็กฝึกงานเป็นของตัวเองและเขาก็มีมากกว่าหนึ่งคนด้วยซ้ำ แต่ลู่ชางเฉิงนั้นเป็นลูกศิษย์แค่เพียงคนเดียว
หลังจากที่อาจารย์หลิวจากไป ลู่ชางเฉิงก็อยู่ข้างๆวู่จิง เด็กฝึกงานของวู่จิงก็ไม่ได้มีท่าทีเป็นมิตรกับลู่ชางเฉิงมากนัก เพราะพวกเขาเองก็หวังว่าจะได้กลายเป็นลูกศิษย์ของวู่จิงเพื่อฝึกฝนทักษะของเขา แต่ตอนนี้ลู่ชางเฉิงกลับกลายเป็นลูกศิษย์ของเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาไม่พอใจกับเรื่องนี้
แต่ลู่ชางเฉิงนั้นไม่ได้สนใจ เขามาที่นี่ก็เพื่อเรียนด้านการแพทย์เท่านั้น และเขาไม่สนใจที่จะลดตัวไปยุ่งกับเด็กฝึกงานด้วย
ในวันถัดมา ลู่ชางเฉิงได้ใช้เวลาทั้งวันของเขาในการช่วยเหลือวู่จิงในร้านขายยา เขาเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ ด้วยความเข้าใจที่น่าอัศจรรย์ของเขา เขาสามารถแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างในทฤษฎีการแพทย์และเรียนรู้การวินิจฉัยได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน และในเวลาอันสั้น วู่จิงก็พอใจกับความก้าวหน้าของเขามากและเริ่มสอนทักษะทางการแพทย์ให้เขา
แต่ถึงอย่างนั้น ทักษะทางการแพทย์ก็มีมากมายและค่อนข้างเฉพาะจุด แม้ว่าจะมีค่าความเข้าใจที่สูงแต่เขาก็ไม่สามารถเรียนรู้มันได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกครั้งเมื่อวู่จิงสอนเขาด้วยตัวเอง ทักษะทางการแพทย์ของลู่ชางเฉิงจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือน
วันหนึ่ง ลู่ชางเฉิงไปที่ร้านขายยาตามปกติเพื่อเตรียมช่วยเหลือวู่จิง แต่นั้นก็มีฝีเท้าที่เร่งรีบดังอยู่ด้านนอก
“รีบไปตามหมอวู่เร็วเข้า ตอนนี้มีคนกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
"หมอวู่อยู่ที่ไหน?!"
"รีบไปช่วยพวกเขาด้วยเถอะ!!..."
จู่ๆ ผู้คนหลายสิบคนก็กรูกันเข้าไปในร้านขายยาจนเกือบจะเต็มร้าน ซึ่งคนเหล่านี้กําลังอุ้มผู้บาดเจ็บ ซึ่งทุกคนนั้นหน้าซีดโดยที่ชีวิตของพวกเขากำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย
"นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่!!"
หัวใจของลู่ชางเฉิงสั่นสะท้าน
"สำนักเมียวชูถูกโจมตี!"
“พวกโจรนั่นมันกล้ามาก หลังจากที่ปล้นร้านขายยาครั้งที่แล้ว พวกมันไม่ได้หยุดแค่นั้นแต่พวกมันบุกมาที่สำนักเมียวชู!”
“ทั้งเด็กฝึกงาน นักจ่ายยา หมอ แม้กระทั่งหน่วยรักษความปลอดภัยหลายคนตอนนี้ต่างก็ตายไปแล้ว แม้แต่ผู้นำสำนักในตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สำนักเมียวชูกำลังเต็มไปด้วยเลือดแล้ว!”
"ไอ้โจรพวกนั้น..."
ภายในร้านขายยามีเสียงร้องไห้และสะอื้นดังระงม
หัวใจของลู่ชางเฉิงจมดิ่งลงหลังจากที่ได้ยินแบบนี้
สำนักเมียวชูถูกบุกงั้นรึ? สำนักเมียวชู ที่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกลับถูกโจมตีง่ายๆแบบนี้ได้ยังไงกัน?
“แล้วอาจารย์หลิวล่ะ? อาจารย์หลิวเป็นยังไงบ้าง?”
ลู่ชางเฉิงถามทันที เขาจําได้ว่าอาจารย์หลิวเองก็อยู่ในสำนักเมียวชูด้วย
"ทําไมพวกเจ้าถึงได้ส่งเสียงเอะอะอยู่ได้?!"
"รีบพาผู้บาดเจ็บทั้งหมดออกไปเดี๋ยวนี้!"
“ชางเฉิง เจ้ามัวรออะไรอยู่? รีบตรวจสอบอาการบาดเจ็บเร็วเข้า!...”
เมื่อวู่จิงมาถึงเขาได้ทําให้สถานการณ์สงบลงอย่างรวดเร็ว
ลู่ชางเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆและต้องสงบสติของเขาก่อนจึงจะเข้าไปช่วยอาจารย์ของเขารักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงกังวลถึงความปลอดภัยของอาจารย์หลิวอยู่