ตอนที่ 13 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในสำนักเมียวชู
ตอนที่ 13 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในสำนักเมียวชู
"ยาสมุนไพรชุดใหม่มาถึงแล้ว"
“ในที่สุดเส้นทางการค้าก็เปิดขึ้นอีกครั้ง ข้าได้ยินมาว่าท่านฟูซุนได้ระดมกองทัพทหารของจักรวรรดิเพื่อกวาดล้างกลุ่มโจรที่ปิดกั้นเส้นทางการค้าได้”
“ใช่ ด้วยกองทัพอันยิ่งใหญ่ของเขา พวกโจรภูเขาเหล่านั้นจะต้านทานได้ยังไง? แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง เพราะว่ากันว่าผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้บางคนในหมู่โจรได้หลบหนีเข้ามาและตอนนี้กําลังซ่อนตัวอยู่ในเมืองใกล้ๆนี้และก่อเหตุเป็นครั้งคราว”
“พวกโจรภูเขาบ้าๆพวกนั้นน่ารำคาญจริงๆ...”
นักจ่ายยาฝึกหัดและนักจ่ายยาภายในสำนักเมียวชูกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นตระหนก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ชอบกลุ่มโจรภูเขาเป็นอย่างมาก
เนื่องจากโจรภูเขาได้ขัดขวางเส้นทางการค้าเพื่อป้องกันไม่ให้สมุนไพรไปถึงเมืองหนานหยาง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจของสำนักเมียว แต่โชคดีที่เส้นทางการค้าถูกเปิดขึ้นอีกครั้งแล้ว สำนักเมียวชูจึงรีบจัดหาสมุนไพรและค่อยๆฟื้นฟูธุรกิจจนกลับมาเป็นปกติ
"โจรภูเขางั้นเหรอ?..."
ลู่ฉางเฉิงเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน แม้ว่ากองทัพของจักรวรรดิจะทำลายพวกโจรบนภูเขาได้ แต่ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้บางคนก็กระจายออกไปทั่วเมืองและมณฑลต่างๆ ทําให้หน่วยงานท้องถิ่นนั้นปวดหัวมาก เพนสะบุคคลเหล่านั้นเป็นถึงปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ ทําให้การจับกุมตัวพวกเขานั้นยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่พวกเขาทำนั้นแทบจะไม่เคยทิ้งร่องรอยใดๆเหลือเอาไว้เลย
ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยในเมืองหนานหยางแย่ลงมาก ไม่นานมานี้ตระกูลที่ร่ำรวยหลายตระกูลได้ตกเป็นเหยื่อของพวกโจรที่ทำการปล้น ซึ่งหน่วยรักษาความปลอดภัยของสำนักเมียวชูเองก็ถูกเรียกรวมบ่อยเช่นกัน ทําให้การลาดตระเวนของพวกเขานั้นเข้มงวดมากขึ้น
“ลู่ชางเฉิง มาช่วยหน่อยสิ ตะกร้าสมุนไพรนี่มันหนักมากเลยน่ะ...”
ลิ่วหยางเรียกหาลู่ชางเฉิงให้ไปช่วย
"ข้ามาแล้ว"
ลู่ชางเฉิงเห็นลิ่วหยางกำลังพยายามแบกตะกร้าสมุนไพรไว้บนไหล่ของเขา แต่เนื่องจากลิ่วหยางประเมินน้ำหนักน้อยเกินไป ซึ่งมันทําให้เขาตัวสั่นเพราะแบกของหนัก
ลู่ชางเฉิงรีบวิ่งไปช่วยและยกตะกร้าสมุนไพรขึ้นอย่างง่ายดาย ทําให้ลิ่วหยางรู้สึกโล่งใจมากเมื่อสมุนไพรถูกยกออกจากไหล่ของเขา
"ช่วยข้าแบกหน่อยได้มั้ย?" ลิ่วหยางขอความช่วยเหลือลู่ชางเฉิง
“ไม่ต้องหรอก” ลู่ชางเฉิงตอบและยกตะกร้าสมุนไพรด้วยมือทั้งสองข้างได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันทําให้ลิ่วหยางประหลาดใจมาก
ตะกร้าสมุนไพรนี้มีน้ำหนักอย่างน้อยสามถึงสี่ร้อยกิโลกรัม แต่ลู่ฉางเฉิงกลับยกมันขึ้นได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่ตัวสั่นเลยแม้แต่น้อย
"ลู่ชางเฉิง เจ้าเชี่ยวชาญวิชามหาสายธารแล้วงั้นหรือ?" ลิ่วหยางดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างจึงถามทันที
“ใช่ ข้าเชี่ยวชาญวิชานั้นแล้ว” ลู่ชางเฉิงตอบโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่ม อันที่จริงเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่เขาบรรลุมันทั้งสามขั้นได้สมบูรณ์แบบแล้ว
ลิ่วหยางซึ่งเป็นนักจ่ายยาฝึกหัดนั้นได้ฝึกฝนมานานกว่าลู่ชางเฉิงมากถึงสองสามปีแล้ว แม้จะรู้เกี่ยวกับการอุทิศตนเพื่อศิลปะการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะบรรลุมันได้ เพราะท้ายที่สุดนักจ่ายยาฝึกหัดหลายคนล้วนเริ่มต้นฝึกฝนอย่างขันแข็ง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเลิกการฝึกศิลปะการต่อสู้และมาเอาดีด้านการเป็นนักจ่ายยาหรือหมอแทน แต่ลิ่วหยางได้เห็นความแข็งแกร่งของลู่ชางเฉิงนั้น ลิ่วหยางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
"น่าอิจฉาจริงๆ..."
“เจ้ารู้มั้ยว่าในหมู่นักจ่ายยาฝึกหัด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชี่ยวชาญวิชามหาสายธารน่ะ?”
ลิ่วหยางอดไม่ได้ที่จะอิจฉาความแข็งแกร่งของลู่ชางเฉิง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เข้าใจว่าการเป็นนักจ่ายยาฝึกหัดนั้นปลอดภัยกับพวกเขามาก เพราะแม้ว่าเมืองหนานหยางกําลังเผชิญกับปัญหาด้านความปลอดภัย แต่สำนักเมียวชูยังคงเป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัยที่สุด
ลู่ชางเฉิงยังคงทำกิจวัตรประจําวันของเขาดังเดิมในทุกวัน ทั้งการระบุชื่อสมุนไพรและฝึกศิลปะการต่อสู้ ในเวลาเพียงสองเดือน ความคืบหน้าของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นมากจนน่าประหลาดใจ
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ : 198 แต้ม (สูงกว่าค่าเฉลี่ย)
วิชาสังหารเร็ว : เชี่ยวชาญ
วิชาหมัดทรายเหล็ก : สมบูรณ์แบบ
ขอบเขตเลือด 6 สวรรค์ : ขั้นที่สี่
ในแผงคุณลักษณะ ค่าความเข้าใจของลู่ชางเฉิงนั้นสูงถึง 198 แต้ม ซึ่งเหลืออีกเพียง 2 แต้มก็จะเป็น 200แล้ว ซึ่งมันมากว่าคนธรรมดาทั่วไปถึง 2 เท่า
ลู่ชางเฉิงเองก็ตั้งตารอความเป็นไปได้ที่จะปลดล็อกความสําเร็จใหม่เมื่อค่าความเข้าใจของเขาถึง 200แต้มเช่นกัน
นอกจากนี้ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่ค่าความเข้าใจของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ลู่ชางเฉิงยังใกล้จะเชี่ยวชาญวิชาสังหารเร็วอีกด้วย เขารู้สึกได้ว่ามันน่าจะอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบได้อีกภายในสองสามวัน
วิชาสังหารเร็วอาจเป็นทักษะการต่อสู้ระดับสามหรือสี่ และเมื่ออยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว มันถือว่าเป็นความสําเร็จที่สําคัญอย่างยิ่งสำหรับเขา
นอกจากนี้ยังมีขอบเขตเลือด 6 สวรรค์ ที่ลู่ชางเฉิงฝึกจนมาถึงขั้นที่สี่แล้ว ซึ่งแต่ละขั้นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญมากโดยเฉพาะพลังเลือดในตอนนี้ของเขาที่มีสูงมาก แม้ว่าจะอยู่ในขั้นที่สี่ก็ตาม
ถ้าหากเขาไปถึงขั้นที่หก ความแข็งแกร่งของเขาจะสูงขนาดไหนกัน?
"แอ่ด แอ่ด แอ่ด แอ่ด"
"เร็วเข้า พวกเจ้าทุกคนรีบออกมาช่วยเร็วเข้า"
ทันใดนั้น หัวหน้าจางก็ตะโกนขึ้นอย่างเร่งรีบด้วยน้ำเสียงของที่ตื่นตระหนก
"เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?"
ลู่ชางเฉิงรีบไปที่ลานของสำนักเมียวชูทันที
หัวหน้าจางมีสีหน้าที่เคร่งขรึมขณะที่เขาพูด “เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว โจรกลุ่มหนึ่งได้บุกเข้าไปในร้านขายยาแห่งหนึ่งในสำนักเมียวชู ซึ่งหมอ เด็กฝึกงาน นักจ่ายยา และแม้แต่สมาชิกของหน่วยรักษาความปลอดภัยนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจํานวนมาก”
“ตอนนี้ พวกเจ้าทุกคนควรรีบไปที่ห้องโถงใหญ่และปฏิบัติตามคําแนะนําของหมอเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บซะ!”
ร้านขายยาของสำนักเมียวชูถูกปล้นงั้นรึ? แถมยังมีคนเจ็บจำนวนมากอีกด้วย
ลู่ชางเฉิงนึกถึงพวกกลุ่มโจรที่พ่ายแพ้ต่อกองทัพจักรพรรดิทันที เพราะมีแค่ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะกล้าบุกมาปล้นร้านยาของสำนักเมียวชูตอนกลางวันแสกๆแบบนี้
หลังจากนั้นหัวหน้าจางจึงพาพวกเขาไปที่ห้องโถงใหญ่
ภายในห้องโถงใหญ่นั้นมีเปลหามมากมาย บางส่วนคลุมด้วยผ้าสีขาวซึ่งเอาไว้คลุมศพ
เมื่อมองคร่าวๆจะเห็นว่ามีคนตายประมาณสิบคนและมีอีกหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บ บางคนแขนขาขาดหรือกระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งบางคนก็เจียนตายเต็มที
ภาพนี้ทําให้นักจ่ายยาฝึกหัดทุกคนตกใจมาก โดยหลายคนถึงกับหน้าซีดเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มา
ลู่ชางเฉิงยังคงท่าทีสงบนิ่งจากภายนอก แต่ในใจของเขานั้นสั่นสะท้านมาก สำนักเมียวชูเป็นถึงมหาอํานาจในเมืองหนานหยาง และร้านขายยาทุกแห่งล้วนมีหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นของตัวเอง แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?
มีเพียงคำตอบเดียวในใจของลู่ชางเฉิง นั่นคือศัตรูนั้นแข็งแก่รงมาก!
สมาชิกอาวุโสของสำนักเมียวชูที่นําโดยผู้นำสำนักคนปัจจุบัน “เจิ้งเหรินซิน” ได้มาถึงห้องโถงใหญ่
สำนักเมียวชูนั้นก่อตั้งโดยบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเจิ้งเหรินซินผู้นำสำนักคนปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่มีทักษะด้านการแพทย์มากนัก แต่มีข่าวลือว่าเขาเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก
ที่ด้านหลังของเจิ้งเหรินซินคือสมาชิกระดับสูงของสำนักเมียวชู ซึ่งมองกำลังมองไปที่ภาพอันน่าสยดสยองด้วยความโกรธในสายตาของพวกเขา
“หัวหน้าสำนัก พวกโจรกลุ่มนี้กำแหงเกินไปแล้ว ในเมื่อพวกมันกล้ามุ่งเป้ามาที่สำนักเมียวชูของพวกเราแบบนี้ ได้โปรดท่านมอบหน่วยรักษาความปลอดภัยให้ข้าเถอะ ข้าจะเป็นผู้นําในการจับโจรพวกนี้ด้วยตัวข้าเอง”
“หลายปีแล้วที่สำนักเมียวชูของเราไม่ได้พบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ข้าจะลงโทษพวกมันให้สาสมที่สุด!!”
“หัวหน้าสำนัก ด้วยคําสั่งของท่าน พวกเราพร้อมที่จะตามล่ากลุ่มโจรเหล่านี้ทันที!”
ผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงเหล่านี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น การกระทําของพวกโจรกลุ่มทําให้สำนักเมียวชูสูญเสียอย่างมาก พวกเขาสูญเสียเงินไปกว่าสามพันเตล รวมถึงสมุนไพรล้ำค่าที่ถูกขโมยไป นอกจากนี้การบาดเจ็บและความตายยังส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายจํานวนมากในการรักษาและการชดเชยผู้ที่บาดเจ็บหรือตายอีกด้วย