ตอนที่แล้วChapter 103 : เหล่านักสู้ขอบเขตที่7เข้าสู่ภูเขาอัสนีร่วงอีกครา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 105 : สองราชันย์ตีกันเอง

Chapter 104 : เปลี่ยนราชันย์แดนลับให้กลายเป็นร่างอวตาร


รอบๆราชันย์แดนลับนั้นมีอสูรที่มีเลเวลแตกต่างกันออกไปอยู่นับร้อยตัว

ในเวลานี้พวกมันทั้งหมดกำลังหลับพักผ่อนหรือไม่ก็เล่นกันอย่างเกียจคร้าน

พื้นที่ฐานสถานีไร้ภัยที่ฉู่เผิงเฉิงและพวกได้ทำการเคลียร์ได้แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าในปัจจุบันถูกยึดครองไปเป็นที่เรียบร้อยและยังค่อนข้างอลหม่านมากทีเดียวเนื่องจากอสูรเหล่านี้

ธงที่ปักเอาไว้เป็นสัญลักษณ์เองก็ถูกพวกอสูรฉีกกระฉากจนกลายเป็นชิ้นๆเหลือไว้เพียงเสาเปล่าๆ

ราวกับว่าพวกมันได้กลิ่นคนแปลกหน้า อสูรที่หลับใหลกันอยู่รอบนอกจู่ๆก็พลันลุกพรวดและมองมาที่หลินเซวียน

“แผนการแอบอู้ดูเหมือนจะเป็นหมันแล้วสิ สุดท้ายแล้วดูเหมือนจะต้องสู้สินะ”

“ยังไงก็ตามราชันย์แดนลับนั้นเลเวล9ขอบเขตที่7ส่วนฉันเป็นแค่เลเวล1เท่านั้น การจะสู้กับมันน่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย”

หลินเซวียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาหยิบอุปกรณ์สวมใส่ของตัวเองออกมาโดยกระชับโล่นักล่ามังกรเอาไว้ในมือซ้ายและค้อนโล่ราชันย์มังกรดินเอาไว้ในมือขวา

พริบตานั้นเองเขาพลันสังเกตพบว่ามีร่างอวตารร่างหนึ่งของเขาอยู่ใกล้ๆ

หลินเซวียนกระพริบตา

หลังจากการเลื่อนขั้นของภูเขาอัสนีร่วง ร่างอวตารของเขาก็ได้พยายามดูดซับสายฟ้าอย่างเต็มที่ เลเวลของพวกมันจึงทะยานจากเลเวล1ขอบเขตที่7ไปไกลริบ

ในตอนนี้ตัวที่เลเวลน้อยที่สุดคือเลเวล7ขอบเขตที่7และตัวที่มีเลเวลสูงที่สุดคือเลเวล9ขอบเขตที่7

บังเอิญเหลือเกินที่หนึ่งในร่างอวตารที่มีเลเวลสูงที่สุดอยู่ใกล้ๆบริเวณนี้พอดี

“การสู้กับราชันย์แดนลับสำหรับเราตอนนี้อาจจะยากไปซักหน่อยแต่ถ้าปล่อยให้ร่างอวตารสู้ก็อีกเรื่อง!”

หลินเซวียนทำการควบคุมร่างอวตารให้ตรงมาทางนี้

ราชันย์แดนลับที่หลับใหลอยู่ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอสูรในระดับเดียวกัน มันพลันผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่สบายใจและคำรามลั่นไปยังทิศทางหนึ่งเพื่อเป็นการขมขู่

ครึ่งนาทีต่อมาสิงโตขนาดใหญ่ซึ่งมีส่วนสูงราว7เมตรเช่นกันก็กระโดดเข้ามาในครรลองสายตาของหลินเซวียน

สิงโตอัสนี - เลเวล9ขอบเขตที่7!

อสูรตนนี้คือร่างอวตารร่างแรกที่หลินเซวียนสร้างขึ้นมาหลังจากเข้าสู่ภูเขาอัสนีร่วง

ราชันย์แดนลับแสดงท่าทีราวกับว่ากำลังเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ ราชันย์แดนลับตนนี้คือหมาป่าอัสนีบาต กงเล็บคู่หน้าของมันในเวลานี้กำลังกดลงไปบนพื้นและขุดดินขึ้นมา

เสียงคำรามข่มขู่ในลำคอยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

หากแต่สิงโตอัสนีกลับไม่หวาดเกรงและเดินเข้ามาหามันอย่างสบายๆ

ท่ามกลางอสูรเลเวล9ทั้ง2ตัว อสูรธรรมดาจำนวนไม่น้อยพากันมุดหัวหลบหางจนแทบจะฝังหัวลงบนพื้น พวกมันพยายามก้มหน้าก้มตาเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกมันไม่ใช่ศัตรู

ราวกับว่าพวกมันต้องการให้การต่อสู้นั้นเป็นแค่การต่อสู้ระหว่างสองขาใหญ่เพียงเท่านั้น!

หลินเซวียนและระเบิดเพลิงเองก็ยืนดูอยู่ห่างๆ

ยังไงซะราชันย์แดนลับก็ยังคงเป็นราชันย์แดนลับ มันได้รับสิทธิพิเศษและเพลิดเพลินไปกับค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นถึง15%จากภูเขาอัสนีร่วง

หากเป็นการต่อสู้1-1จริงๆ สิงโตอัสนีย่อมเสียเปรียบอย่างถึงที่สุด

หากแต่นี่ไม่ใช่การต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งแต่เป็นสามต่อหนึ่งโว้ย!

“ไม่สิเรายังมีอีกคนหนึ่งนี่หว่า”

ทันทีที่หลินเซวียนกล่าวจบเขาก็สร้างร่างแยกอีกร่างหนึ่งขึ้นมาและให้มันสวมใส่ชุดเซ็ตพิษร้าย จากนั้นร่างแยกนั้นก็ได้กลายเป็น ‘ดาบพิษ’

ยังไงซะแถวนี้ในตอนนี้ก็มีแค่เขาคนเดียว เขาก็แค่หยุดเสแสร้งและรีบๆจัดการปลิดชีพราชันย์แดนลับตนนี้ทิ้งซะก็พอ!

เมื่อเห็นคนสามคนและหนึ่งอสูรกำลังก้าวเข้ามาหามันทีละก้าวๆ ราชันย์แดนลับก็ผงะถอยอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดมันก็อดรนทนไม่ไหวจำต้องคำรามและเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตี

เป้าหมายของมันไม่ใช่โล่วิญญาณ ดาบพิษหรือสิงโตอัสนีหากแต่เป็นระเบิดเพลิง

สวมใส่ชุดคลุมเช่นนี้ทำให้เขาดูเปราะบางยิ่งนัก

ดูเหมือนอีกฝ่ายมันจะคิดว่าเขาเป็นลูกพลับบีบง่ายล่ะมั้ง?

“โชคร้ายหน่อยนะที่พวกเราไม่ใช่ลูกพลับแต่เป็นแผ่นเหล็กกันทุกคนเลย”

หลินเซวียนหัวเราะ

คิดจริงๆหรอว่าระเบิดเพลิงรังแกง่ายแค่เพราะเขาใส่ชุดคลุม?

ขออภัยด้วย ร่างแยกร่างนี้สืบทอดค่าสถานะ100%มาจากร่างหลักซึ่งก็ทำให้มีค่าความอดทนสูงถึง442แต้ม!

ทั้งสี่เข้าโจมตีพร้อมกัน!

โล่! เพลิง! พิษ! บวกกับสายฟ้า!

ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีราชันย์แดนลับก็ล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรงและส่งเสียงคร่ำครวญออกมา

ส่วนอุปกรณ์สวมใส่และหนังสือสกิลนั้นก็มีดรอปลงมาบ้าง โชคไม่ดีที่พวกมันล้วนเป็นเกรดสีขาวทั้งสิ้น เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวพวกมันก็ถูกหลินเซวียนโยนใส่โต๊ะหลอมไอเทมจนสิ้น

“หืม..ศพไม่ได้ระเบิดเป็นระอองแสงงั้นหรอ”

หลินเซวียนประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาพบว่าศพของราชันย์แดนลับนั้นยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่เหมือนกับราชันย์แดนลับในแดนลับระดับต่ำที่จะกลายเป็นจุดแสงและพุ่งเข้าสู่ร่างกายของนักสู้หลังจากที่พวกมันเสียชีวิต

เขาพลันบังเกิดความคิดขึ้นมา

“ถ้างั้นก็หมายความว่าแดนลับขอบเขตที่7ค่อนข้างแตกต่างจากแดนลับขอบเขตก่อนหน้าค่อนข้างมากทีเดียว”

“เมื่อไม่มีถ้ำอยู่ภายในแดนลับขอบเขตที่7ทำให้ราชันย์แดนลับสามารถท่องไปได้รอบๆ เข้ายึดครองภูเขาและผืนป่าได้ ร่างเองก็ไม่หายไปถึงแม้จะตายไปแล้วก็ตาม..น่าสนใจ”

หลินเซวียนพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเขายังมีที่ว่างสำหรับร่างอวตารที่ยังไม่ได้ใช้เหลืออยู่

“ทำไมไม่ยึดร่างของราชันย์แดนลับตนนี้ล่ะ? ค่าสถานะของมันเองก็แข็งแกร่งมากทีเดียว”

หลินเซวียนก้าวออกไปและทำการชิงร่างของราชันย์แดนลับตนนี้เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นร่างอวตารฝึกฝนร่างที่8

เมื่อเห็นว่าราชันย์แดนลับลุกขึ้นมาอีกครั้ง อสูรทั้งหมดก็พากันมองด้วยสายตาโง่งม

หลังจากสับสนอยู่ช่วงสั้นๆพวกมันก็พากันแสดงสีหน้าเคารพด้วยความจำยอม

แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พวกมันก็ทำได้เพียงยอมศิโรราบเท่านั้น

ต่อต้านไปก็ไร้ประโยชน์

หลินเซวียนสั่งการราชันย์แดนลับ “บอกให้พวกมันย้ายก้นออกไปให้ไว นอกจากนี้ก็เอาพวกขยะไปให้หมดด้วย”

“พูดก็พูดเถอะทำไมพวกแกถึงกินทั้งเนื้อ กระดูกและขี้พร้อมกันล่ะเนี่ย? นี่มันเกินไปหน่อยล่ะมั้ง...รู้จักไหมสุขลักษณะน่ะ?”

ราชันย์แดนลับคำรามออกมาหลายครา เหล่าอสูรพากันจัดแจงและเคลื่อนย้ายกันออกไปจากฐานสถานีไร้ภัยในทันที

ในเวลาเดียวกันพวกมันก็เอาเศษอาหาร ซากอสูรและอุจาระไปด้วย

ไม่นานนักฐานสถานีไร้ภัยก็ถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยงและกลายเป็นพื้นที่ว่างที่ทั้งราบเรียบและกว้างใหญ่

หลินเซวียนก้าวออกไปและจัดการเรียงรูนแห่งการปกปักษ์ลงที่จุดศูนย์กลางของพื้นที่ว่าง

ครืน!

ชั้นพลังงานสีฟ้ากระจายออกไปรอบทิศทางโดยมีรูนแห่งการปกปักษ์เป็นจุดศูนย์กลาง หลังจากกระจายออกไปเป็นชั้นพลังงานป้องกันสีฟ้าอ่อนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ราว100เมตรมันก็หยุดลง

อสูรที่อ่อนแอต่างพากันรู้สึกหวาดกลัวและล่าถอยไปตามสัญชาตญาณ

ส่วนพวกอสูรที่แข็งแกร่ง พวกมันพากันคำรามข่มขู่ใส่ม่านพลังงานป้องกันสีฟ้าอ่อนและถึงขั้นพยายามโจมตีใส่เลยด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าทันทีที่กงเล็บของพวกมันแตะลงบนม่านพลัง พวกมันก็จะถูกพลังงานมหาศาลจากม่านพลังสะท้อนกลับจนกงเล็บแตกหักในพริบตา!

“สมแล้วที่เป็นรูนแห่งการปกปักษ์ ได้ยินมาว่ามันเป็นไอเทมพิเศษที่หาได้จากซากโบราณคุนหลุนเท่านั้นไม่อาจหาได้จากแดนลับอื่นอีก สงสัยจริงๆว่าองค์กรอื่นที่ไม่มีทางเข้าถึงไอเทมพิเศษชิ้นนี้ได้จะจัดการกับแดนลับของพวกเขายังไง อย่าบอกนะว่าในแดนลับของพวกนั้นไม่มีสถานีไร้ภัย?”

หลินเซวียนจ้องมองดูลวดลายบนผิวของรูนแห่งการปกปักษ์และเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

“เอาล่ะภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ได้เวลาเริ่มซักที!”

“ดูจากเวลาแล้วเราควรจะอู้ซักสามชั่วโมงก่อน!”

หลินเซวียนมีเครื่องมือสื่อสารอยู่ แน่นอนว่าเขาสามารถรายงานให้ฉู่เผิงเฉิงและคนอื่นๆทราบได้ทันทีว่าเขาทำการติดตั้งรูนแห่งการปกปักษ์เสร็จสิ้นแล้วและสามารถมุ่งหน้าไปยังยอดเขาหลักเพื่อสนับสนุนได้ตลอดเวลา

แต่นั่นก็เร็วไป

ถ้าเขาลงมือเร็วเกินไปคนอื่นจะสงสัยซะเปล่าๆ

ดังนั้นอู้ซักหน่อยคงดีกว่า

ในเวลาเดียวกัน นักสู้ขอบเขตที่74คนที่แยกกันออกไปทางทิศตะวันตกและทิศเหนือของภูเขาอัสนีร่วงเองต่างก็ได้พบกับราชันย์แดนลับเช่นกัน

ฉู่เผิงเฉิงและคนอื่นๆได้ทำการมาร์คตำแหน่งพื้นที่ของพวกราชันย์แดนลับเอาไว้บนแผนที่แล้วก็จริงแต่พวกเขามองข้ามปัญหาไปหนึ่งอย่าง อสูรภายในภูเขาอัสนีร่วงนั้นมีสัญชาตญาณในการไล่ตามสายฟ้าฟาดเนื่องจากพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นได้จากการดูดซับสายฟ้าเท่านั้น

จึงเป็นธรรมดาที่ราชันย์แดนลับจะนำพวกลูกน้องของมันออกจากอาณาเขตของตนและวนเวียนไปเรื่อยๆ

ราชันย์แดนลับเหล่านี้จึงมาตั้งรกรากอยู่ในป่าและยึดครองสถานีไร้ภัยเอาไว้

ไม่รู้เพราเหตุใดแต่พวกมันดูจะชอบพื้นที่เหล่านี้มากนัก

ในตอนนั้นเพื่อเลือกสถานที่สำหรับตั้งฐาน ฉู่เผิงเฉิงและพวกถึงขั้นนำพลั่วกับอุปกรณ์อื่นๆออกมาจัดการกับพื้นดินบริเวณที่ไม่สม่ำเสมอกันด้วยซ้ำ

พวกเขาคงไม่คิดแน่ว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะถูกราชันย์แดนลับพวกนี้ยึดครองในชั่วพริบตา

มีเพียงนักสู้ขอบเขตที่7สองคนที่มุ่งหน้าลงใต้เท่านั้นที่ไปถึงฐานทิศใต้ได้อย่างปลอดภัย

ฐานทิศใต้นั้นไม่มีราชันย์แดนลับอยู่มีเพียงอสูรไม่กี่สิบตัวเท่านั้น

ระดับสูงที่สุดก็เป็นเพียงเลเวล3ขอบเขตที่7เท่านั้น

สติปัญญาของอสูรพวกนี้ค่อนข้างต่ำ พวกเขาทั้งสองคนจึงเริ่มวางแผนในการจัดการกับพวกมัน

พวกเขาทำการล่ออสูรออกมาทีละน้อยและพาพวกมันออกไปห่างๆก่อนจะร่วมมือกันสังหารพวกมัน

แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน

หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมงก็มีเพียงโล่วิญญาณกับระเบิดเพลิงที่ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นที่สามารถจัดตั้งรูนแห่งการปกปักษ์ได้สำเร็จ

นักสู้ขอบเขตที่7ทั้ง4คนที่มุ่งหน้าไปทางตะวันตกและทางเหนือเจอเข้ากับปัญหาใหญ่

แล้วพวกเขาควรจะทำยังไงดี?

พวกเขาแต่ละคนเป็นเพียงเลเวล2ขอบเขตที่7เท่านั้น พวกเขาจะสู้กับราชันย์แดนลับเลเวล9ขอบเขตที่7ที่มีลูกน้องอีกเป็นร้อยได้ยังไง?

หรือจะให้ใช้หัวสู้?

นักสู้ขอบเขตที่7ทั้ง4คนคิดแล้วคิดอีกจนหัวแทบแตก สุดท้ายจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงศัตรูไปก่อนเป็นการชั่วคราว

หลังจากกลับมาถึงพื้นที่ปลอดภัยพวกเขาก็หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาและติดต่อกับนักสู้ที่อยู่บนยอดเขาหลัก

“อะไรนะ? ฐานถูกราชันย์แดนลับยึดครอง?”

ฉู่เผิงเฉิงรู้สึกคันเขี้ยวยิ่งนักเมื่อได้ทราบข่าว

ราชันย์แดนลับพวกนั้นสงสัยจะหน่ายความตาย

พวกเขาอุส่าห์จัดการหน้าดินจนเรียบเพื่อเตรียมสร้างสถานีไร้ภัย แต่พวกเขายังไม่ทันได้สร้างกลับถูกพวกมันเข้ายึดครองเสียแล้ว?

ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่แค่หนึ่ง สองในสี่ฐานถูกราชันย์แดนลับยึดครองไปแล้ว

แล้วอีกสองล่ะ?

ฉู่เผิงเฉิงรีบติดต่อไปยังคนอื่นๆในทันที

ในเวลานั้นเองสายฟ้าสีม่วงเส้นหนาพลันฟาดผ่าลงมาจากท้องฟ้าทางทิศของยอดเขาหลักของภูเขาอัสนีร่วง

เปรี้ยง!

คลื่นเสียงน่าสะพรึงกวาดผ่านไปทั่วภูเขาอัสนีร่วง

เสียงดังสนั่นแสบแกวหูพลันดังออกมาจากเครื่องมือสื่อสาร

ในเวลาเดียวกันตัวเครื่องมือสื่อสารเองก็พลันปรากฏควันสีขาวลอยฟุ้ง

ฉู่เผิงเฉิงรีบโยนมันทิ้งทันทีก่อนจะสบถออกมา “เครื่องมือสื่อสารมันทำงานผิดปกติ!”

เพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้ทันทีเครื่องมือสื่อสารของคนอื่นๆจึงถูกเก็บเอาไว้บริเวณเอว ในเวลานี้เครื่องมือสื่อสารของพวกเขาเองก็รวนขึ้นมาเช่นเดียวกันทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องทิ้งพวกมันไปอย่างจำยอม

“ฉันกังวลขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสิ...” เย่อู่ชิวขมวดคิ้ว

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าสายฟ้าที่ผ่าลงมาจากภูเขาอัสนีร่วงจะมีผลคล้ายกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า วงจรไฟฟ้าของเครื่องมือสื่อสารถึงขั้นถูกเผาเลยทีเดียว

เช่นนี้แล้วนอกจากนักสู้ทั้ง25คนบนยอดเขาหลักที่ยังอยู่รวมกัน นักสู้ขอบเขตที่7อีก8คนที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆก็คงต้องพึ่งตัวเองแล้ว

นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขาเลย

เลเวลของนักสู้ขอบเขตที่7ทั้ง8คนนั้นรวมไปถึงโล่วิญญาณกับระเบิดเพลิงไม่ได้สูงมากนัก พวกเขาทั้งหมดล้วนมีเลเวลราวๆเลเวล1-เลเวล3เท่านั้น

ถ้าไปเจอกับฝูงอสูรเข้าคงมีโอกาสสูงมากที่จะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น!

ยิ่งไปกว่านั้นจากข่าวที่นักสู้ทั้ง4คนจากทางตะวันตกและทางเหนือส่งมาให้ คนอื่นๆอีกสองกลุ่มเองก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเจอเข้ากับราชันย์แดนลับ

สิ่งนี้ยิ่งทำให้เรื่องมันเลวร้ายขึ้นไปอีก

เซี่ยงเทียนซิวเกาหัว “ในเมื่อโล่วิญญาณกับระเบิดเพลิงสามารถจัดการกับหุ่นเชิดของหัวหน้าองค์กรทุ่งราบมหาสวรรค์ลงได้พวกนั้นก็น่าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง ไม่ต้องไปกังวลขนาดนั้นหรอก”

แบล็คจ้องเขม็งไปที่เขาและเอ่ยสวนออกมาทันควัน “ฉัแนะนำให้พวกเราส่งคนไปช่วยพวกเขาในทันที ถ้าราชันย์แดนลับยังไม่ออกจากฐานพวกเราก็ทำได้เพียงยอมแพ้เลือกฐานจุดอื่นแทน”

เย่อู่ชิว หมาป่าเงิน ไป๋ชิงเหอและคนอื่นๆพยักหน้า

ไม่นานนักนักสู้4จาก25คนก็ถูกเลือกและรีบมุ่งหน้ากระจายกันออกไปทั้ง4ทิศทางของภูเขาอัสนีร่วง

แบล็คคือคนที่รับหน้าที่ไปสนับสนุนโล่วิญญาณกับระเบิดเพลิง

“ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย” แบล็คพึมพำและใช้สกิลเพื่อเร่งความเร็วมุ่งหน้าตรงไปทางฝั่งทิศตะวันออกของภูเขาอัสนีร่วงให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด