บทที่ 206 : มาสู้กัน (3-2)
บทที่ 206 : มาสู้กัน (3-2)
ฉันลดดาบลง เมื่อฉันมองที่แขนซ้ายของฉันเลือดก็ไหลออกมา นี่ฉันได้แผลจากการต่อสู้ครั้งนี้สินะ
'หน้าต่างสถานะ'
[คิชาช่า วิคชาวี (★★★★) เลเวล. 22 (ประสบการณ์ 32/180)]
[คลาส : ลูกครึ่งอสูร]
[ความแข็งแกร่ง: 54/54]
[สติปัญญา: 10/10]
[ความยืดหยุ่น 48/48]
[ความว่องไว: 59/59]
[ทักษะ: ศิลปะการต่อสู้ระดับกลาง (Lv.1) ความมุ่งมั่น (Lv.3) สัญชาตญาณขั้นสูง (Lv.1) ความมุทะลุในการต่อสู้ (Lv.1) จิตวิญญาณอสูร (Lv.4) นักล่าแห่งป่า (Lv.8) การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว (Lv.9)]
[ช่องพิเศษ 1: ทายาทผู้สืบทอดของราชาอสูร (B+, Lv.3)]
[ผู้สืบเชื้อสายของราชาอสูรซึ่งครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ในยุคอดีตอันไกลโพ้น ต่อสู้จักรวรรดิเพื่ออำนาาจสูงสุดเหนือทวีป ผู้สืบทอดสายเลือดของนักรบผู้กล้าหาญ]
[เอฟเฟกต์ : ต้านทานการโจมตีทางจิต +50% ภูมิคุ้มกันต่อความกลัว ความสามารถเพิ่มขึ้น 20% ในสภาวะวิกฤต (ระยะเวลา: 60 วินาที)]
[ทักษะเฉพาะ: การเปลี่ยนแปลงร่างกาย (อสูร)]
ฉันเผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา
เธอได้เปรียบในทุกๆด้าน
“เจ้านี้มันเกินคาดจริงๆ” คิชาช่ายิ้ม
ค่าสถานะพื้นฐานที่เธอครอบครองนั้นแตกต่างจากฉันมาก
เมื่อพิจารณาจากค่าสถานะโดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่าอัตราการเติบโตของเธอจะโดดเด่น หากฉันต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในอนาคต ฉันสามารถชดเชยค่าสถานะที่ขาดหายไปได้ด้วยอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้คงยังทำไม่ได้
นอกจากนี้ เธอยังมีทักษะชั้นยอดเช่นศิลปะการต่อสู้ระดับกลางด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ…
“เธออยู่ในระดับสูงสุดในบรรดา 4 ดาว”
ในแง่ของค่าตัวเลข เธอเหนือกว่าฉันอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าในเกมที่ต้องอาศัยค่าสถานะเพียงอย่างเดียวคงจะไม่เป็นไร แต่ 'พิกมีอัพ' ไม่ใช่เกมประเภทนั้น
ในการต่อสู้ที่ผลลัพธ์ชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ใครแย่ที่สุด มันย่อมมีโอกาสที่จะเกิดความไม่พอใจเสมอ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างภารกิจหรือการดวลระหว่างฮีโร่
อีกอย่าง เธอมีสายเลือดของราชาอสูร
เธอแข็งแกร่งตั้งแต่แรกเกิด เธออาจจะมีความสามารถของตัวเองซ่อนแฝงอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด
'แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถเอาชนะได้'
ให้ตายเหอะ! ฉันไม่ชอบความรู้สึกหงุดหงิดนี้เลย
ฉันยิ้มมุมปากและปรับดาบของฉัน
เมื่อครู่ฉันเผลอทุ่มต่อสู้สุดตัวโดยไม่ใช้เหตุผลแล้ว จนฉันลืมไปเลยว่าคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าฉันหน้าตาดูเหมือนวัยรุ่นทั่วไป
“ถ้าไม่เข้ามาหา ฉันจะเข้าไปหาเองนะ”
ฉันยกดาบขึ้นและงอร่างกายส่วนล่าง
ในขณะนั้น ละอองดาวก็เปล่งประกายจากด้านข้าง ไอเซลกำลังจะเข้ามาห้าม แต่ฉันหยุดเธอก่อนที่เธอจะเข้ามาแทรกแซง
“อย่ามาห้ามฉัน เราไม่ได้จะฆ่ากัน...มันเป็นเพียงการทักทายเฉยๆ แค่นี้ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
"ฮ่าฮ่า! พูดได้ดีๆ เลยนะ ใช่แล้ว!! นี่คือการสนทนาระหว่างร่างกายและพละกำลังของเหล่าฮีโร่ เหมือนดั่งพิธีจุดประจายสร้างมิตรภาพ แม้เจ้าเป็นมนุษย์ แต่ก็ทำให้ข้าประทับใจค่อนข้างมากเลยทีเดียว!”
"ว้าว...ดีใจมากเลยแฮะที่ได้ยินแบบนั้น"
ฉันกระโดดขึ้นไปทันที
ชึ้บ!
และฉันก็เหวี่ยงดาบออกไปอย่างรุนแรง
ฉันตัดเทคนิคอื่นออกไปให้หมด เน้นไปที่การโจมตีให้หนักขึ้นเท่านั้น เน้นพละกำลังอย่างเดียว เพราะฉันไม่มีพรสวรรค์ในการใช้กระบวนท่าดาบทุกรูปแบบเหมือนกับรีเจียน ดังนั้นฉันจึงต้องมุ่งเน้นไปที่สิ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อรู้แจ้งหรือไปถึงระดับสูงสุดของวิถีที่ฝึกฝน นั่นแหละคือกุญแจสำคัญในการฝึกฝนวิชาวิญญาณดาบสวรรค์
“เพิ่มกำลังดาบ”
ตุ๊บ!
ฉันฟันไบฟรอตกระหน่ำโจมตีใส่คิชาช่า
คลื่นกระแทกที่รุนแรงกระทบใบหน้าของเธอ คิชาช่าไถลไปบนพื้นหลายเมตร
“น่าตื่นเต้นจริงๆ โจมตีได้ดี!”
คิชาช่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
พร้อมกันนั้น เธอก็พุ่งเข้ามาหาฉันและเตะพื้นดินขึ้นไป คิชาช่าโจมตีฉันด้วยทุกส่วนของร่างกายของเธอ ตั้งแต่มือและเท้าไปจนถึงข้อศอกและเข่า
การต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการใช้ดาบ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ที่มีอาวุธย่อมได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่เธอก็หลีกเลี่ยงดาบของฉันได้อย่างช่ำชองและบางครั้งถึงกับปะทะสวนกลับมาได้ด้วย
คิชาช่าย่อตัวลงราวกับกำลังโค้งคำนับ
ใบมีดที่ตัดผ่านเหนือเธอเฉือนผ่านต้นไม้ ต้นไม้ที่ถูกตัดขาดเลื่อนไปทางซ้าย เมื่อมันตกลงมา ฝุ่นก็ฟุ้งกระจาย
ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ ฉันทุบต้นไม้ ดิน และหินให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
“ถึงเวลาเปลี่ยนระดับแล้ว”
การต่อสู้แบบนี้ก็ดี แต่มันไม่เหมาะกับอารมณ์ของฉัน
เธอซ่อนพลังทั้งหมดของเธอไว้ ฉันก็เหมือนกัน ฉันอ่อนข้อให้มามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องจบมันเสียที
“บ้าคลั่ง”
ในหัวของฉันเหมือนเลือดกำลังร้อนระอุเดือดจนแทบทนไม่ไหว
['ฮาน (★★★)' เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง!]
ร่างกายของฉันเริ่มร้อนขึ้น
ฉันออกแรงไปที่มือและเอว การโจมตีแบบคอมโบสามครั้งซึ่งมีน้ำหนักมหาศาลได้พุ่งโจมตีคิชาช่าอย่างรวดเร็ว
คิชาช่าลอยออกไปเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่และชนเข้ากับกองดิน
เมื่อสภาวะบ้าคลั่งไปถึงระดับ 7 ค่าสถานะที่เพิ่มก็ทะลุ 15 เมื่อรวมกับวิญญาณดาบแห่งสวรรค์ ฉันสามารถใช้ค่าความแข็งแกร่งได้เกือบถึง 80 จุด
“มาจบเรื่องนี้กันเถอะ”
ฉันพูดขณะมองดูฝุ่นที่ลอยคลุ้ง
“จริงๆแล้วฉันค่อนข้างยุ่ง ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่ามาเล่นแบบนี้”
'เธอจะใช้มันไหม?'
เธอเกิดมาพร้อมกับทักษะเฉพาะตัว
ของพวกเธอแตกต่างกันไป แต่ผู้สืบทอดของราชาอสูรที่คิชาช่าครอบครองนั้นมีระดับ B+ มันถือได้ว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ทันใดนั้น พลันมีเงาปรากฏขึ้นจากฝุ่น
[เปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงทักษะเฉพาะ!]
['คิชาช่า (★★★★)' แปลงร่าง!]
เสียงคำรามต่ำดังกึกก้อง
ไม่มีร่องรอยของเสียงของเด็กสาว มันเป็นเสียงร้องคำรามของอสูรและนั้นก็คือ…
'พยัคฆ์'
ฉันหัวเราะเบาๆ
ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงถูกเรียกว่าลูกครึ่งอสูร สิ่งที่โผล่ออกมาจากฝุ่นคือสัตว์ป่าขนาดยักษ์ ขนาดของมันประมาณ 2 เมตร มันใหญ่กว่าที่ฉันเคยเห็นในสวนสัตว์มาก
“นั่นคือรูปร่างที่แท้จริงของเธอเหรอ?”
หางของเธอด้านหลังแกว่งไปทางซ้ายและขวา
ร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาๆ
“……”
คิชาช่าไม่ตอบ
เธอกระโดดออกมาโดยมีเพียงร่างกายส่วนบนของเธอเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
'นี่คือสิ่งที่เรียกว่าทักษะเฉพาะสินะ'
พลังการต่อสู้ส่วนตัวของเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก
นอกจากนี้ เธอยังมีความสามารถในการเปลี่ยนร่างอีกด้วย
แม้ว่าอารมณ์ของเธอจะค่อนข้างรุนแรงผิดปกติ แต่ก็อยู่ในช่วงที่ยอมรับได้
'คงจะช่วยได้มากเลยในตอนที่เราขึ้นหอคอย'
ถ้าฉันจัดวางเธอในตำแหน่งที่ดี ๆ ล่ะก็…
'ถ้าเธอต้องการต่อสู้ ฉันก็จะทำตามที่เธอปรารถนา'
ฉันเล็งดาบของฉันไปที่เธอ
เธอแยกเขี้ยวและพุ่งเข้ามาหาหน้าฉันอย่างรวดเร็ว
และ…
“โฮกกก!”
คิชาช่าคำรามและพุ่งเข้ามา
และฉันเองก็ไม่รออยู่เฉยๆ พุ่งไปหาเธอด้วยเช่นกัน...