ตอนที่แล้วบทที่ 205 : มาสู้กัน (3-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 207: บันทึกชั้นที่ 25 (1-1)

บทที่ 206 : มาสู้กัน (3-2)


บทที่ 206 : มาสู้กัน (3-2)

ฉันลดดาบลง เมื่อฉันมองที่แขนซ้ายของฉันเลือดก็ไหลออกมา นี่ฉันได้แผลจากการต่อสู้ครั้งนี้สินะ

'หน้าต่างสถานะ'

[คิชาช่า วิคชาวี (★★★★) เลเวล. 22 (ประสบการณ์ 32/180)]

[คลาส : ลูกครึ่งอสูร]

[ความแข็งแกร่ง: 54/54]

[สติปัญญา: 10/10]

[ความยืดหยุ่น 48/48]

[ความว่องไว: 59/59]

[ทักษะ: ศิลปะการต่อสู้ระดับกลาง (Lv.1)  ความมุ่งมั่น (Lv.3) สัญชาตญาณขั้นสูง (Lv.1) ความมุทะลุในการต่อสู้ (Lv.1) จิตวิญญาณอสูร (Lv.4) นักล่าแห่งป่า (Lv.8)  การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว (Lv.9)]

[ช่องพิเศษ 1: ทายาทผู้สืบทอดของราชาอสูร (B+, Lv.3)]

[ผู้สืบเชื้อสายของราชาอสูรซึ่งครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ในยุคอดีตอันไกลโพ้น ต่อสู้จักรวรรดิเพื่ออำนาาจสูงสุดเหนือทวีป  ผู้สืบทอดสายเลือดของนักรบผู้กล้าหาญ]

[เอฟเฟกต์ : ต้านทานการโจมตีทางจิต +50% ภูมิคุ้มกันต่อความกลัว ความสามารถเพิ่มขึ้น 20% ในสภาวะวิกฤต (ระยะเวลา: 60 วินาที)]

[ทักษะเฉพาะ: การเปลี่ยนแปลงร่างกาย (อสูร)]

ฉันเผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา

เธอได้เปรียบในทุกๆด้าน

“เจ้านี้มันเกินคาดจริงๆ” คิชาช่ายิ้ม

ค่าสถานะพื้นฐานที่เธอครอบครองนั้นแตกต่างจากฉันมาก

เมื่อพิจารณาจากค่าสถานะโดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่าอัตราการเติบโตของเธอจะโดดเด่น หากฉันต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในอนาคต ฉันสามารถชดเชยค่าสถานะที่ขาดหายไปได้ด้วยอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้คงยังทำไม่ได้

นอกจากนี้ เธอยังมีทักษะชั้นยอดเช่นศิลปะการต่อสู้ระดับกลางด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ…

“เธออยู่ในระดับสูงสุดในบรรดา 4 ดาว”

ในแง่ของค่าตัวเลข เธอเหนือกว่าฉันอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าในเกมที่ต้องอาศัยค่าสถานะเพียงอย่างเดียวคงจะไม่เป็นไร แต่ 'พิกมีอัพ' ไม่ใช่เกมประเภทนั้น

ในการต่อสู้ที่ผลลัพธ์ชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ใครแย่ที่สุด มันย่อมมีโอกาสที่จะเกิดความไม่พอใจเสมอ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างภารกิจหรือการดวลระหว่างฮีโร่

อีกอย่าง เธอมีสายเลือดของราชาอสูร

เธอแข็งแกร่งตั้งแต่แรกเกิด เธออาจจะมีความสามารถของตัวเองซ่อนแฝงอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด

'แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถเอาชนะได้'

ให้ตายเหอะ! ฉันไม่ชอบความรู้สึกหงุดหงิดนี้เลย

ฉันยิ้มมุมปากและปรับดาบของฉัน

เมื่อครู่ฉันเผลอทุ่มต่อสู้สุดตัวโดยไม่ใช้เหตุผลแล้ว จนฉันลืมไปเลยว่าคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าฉันหน้าตาดูเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

“ถ้าไม่เข้ามาหา ฉันจะเข้าไปหาเองนะ”

ฉันยกดาบขึ้นและงอร่างกายส่วนล่าง

ในขณะนั้น ละอองดาวก็เปล่งประกายจากด้านข้าง ไอเซลกำลังจะเข้ามาห้าม แต่ฉันหยุดเธอก่อนที่เธอจะเข้ามาแทรกแซง

“อย่ามาห้ามฉัน เราไม่ได้จะฆ่ากัน...มันเป็นเพียงการทักทายเฉยๆ แค่นี้ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

"ฮ่าฮ่า! พูดได้ดีๆ เลยนะ ใช่แล้ว!! นี่คือการสนทนาระหว่างร่างกายและพละกำลังของเหล่าฮีโร่ เหมือนดั่งพิธีจุดประจายสร้างมิตรภาพ แม้เจ้าเป็นมนุษย์ แต่ก็ทำให้ข้าประทับใจค่อนข้างมากเลยทีเดียว!”

"ว้าว...ดีใจมากเลยแฮะที่ได้ยินแบบนั้น"

ฉันกระโดดขึ้นไปทันที

ชึ้บ!

และฉันก็เหวี่ยงดาบออกไปอย่างรุนแรง

ฉันตัดเทคนิคอื่นออกไปให้หมด เน้นไปที่การโจมตีให้หนักขึ้นเท่านั้น เน้นพละกำลังอย่างเดียว เพราะฉันไม่มีพรสวรรค์ในการใช้กระบวนท่าดาบทุกรูปแบบเหมือนกับรีเจียน ดังนั้นฉันจึงต้องมุ่งเน้นไปที่สิ่งหนึ่งเท่านั้น เมื่อรู้แจ้งหรือไปถึงระดับสูงสุดของวิถีที่ฝึกฝน นั่นแหละคือกุญแจสำคัญในการฝึกฝนวิชาวิญญาณดาบสวรรค์

“เพิ่มกำลังดาบ”

ตุ๊บ!

ฉันฟันไบฟรอตกระหน่ำโจมตีใส่คิชาช่า

คลื่นกระแทกที่รุนแรงกระทบใบหน้าของเธอ คิชาช่าไถลไปบนพื้นหลายเมตร

“น่าตื่นเต้นจริงๆ โจมตีได้ดี!”

คิชาช่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

พร้อมกันนั้น เธอก็พุ่งเข้ามาหาฉันและเตะพื้นดินขึ้นไป คิชาช่าโจมตีฉันด้วยทุกส่วนของร่างกายของเธอ ตั้งแต่มือและเท้าไปจนถึงข้อศอกและเข่า

การต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการใช้ดาบ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ที่มีอาวุธย่อมได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่เธอก็หลีกเลี่ยงดาบของฉันได้อย่างช่ำชองและบางครั้งถึงกับปะทะสวนกลับมาได้ด้วย

คิชาช่าย่อตัวลงราวกับกำลังโค้งคำนับ

ใบมีดที่ตัดผ่านเหนือเธอเฉือนผ่านต้นไม้ ต้นไม้ที่ถูกตัดขาดเลื่อนไปทางซ้าย เมื่อมันตกลงมา ฝุ่นก็ฟุ้งกระจาย

ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ ฉันทุบต้นไม้ ดิน และหินให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

“ถึงเวลาเปลี่ยนระดับแล้ว”

การต่อสู้แบบนี้ก็ดี แต่มันไม่เหมาะกับอารมณ์ของฉัน

เธอซ่อนพลังทั้งหมดของเธอไว้ ฉันก็เหมือนกัน ฉันอ่อนข้อให้มามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องจบมันเสียที

“บ้าคลั่ง”

ในหัวของฉันเหมือนเลือดกำลังร้อนระอุเดือดจนแทบทนไม่ไหว

['ฮาน (★★★)' เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง!]

ร่างกายของฉันเริ่มร้อนขึ้น

ฉันออกแรงไปที่มือและเอว การโจมตีแบบคอมโบสามครั้งซึ่งมีน้ำหนักมหาศาลได้พุ่งโจมตีคิชาช่าอย่างรวดเร็ว

คิชาช่าลอยออกไปเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่และชนเข้ากับกองดิน

เมื่อสภาวะบ้าคลั่งไปถึงระดับ 7 ค่าสถานะที่เพิ่มก็ทะลุ 15 เมื่อรวมกับวิญญาณดาบแห่งสวรรค์ ฉันสามารถใช้ค่าความแข็งแกร่งได้เกือบถึง 80 จุด

“มาจบเรื่องนี้กันเถอะ”

ฉันพูดขณะมองดูฝุ่นที่ลอยคลุ้ง

“จริงๆแล้วฉันค่อนข้างยุ่ง ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำมากกว่ามาเล่นแบบนี้”

'เธอจะใช้มันไหม?'

เธอเกิดมาพร้อมกับทักษะเฉพาะตัว

ของพวกเธอแตกต่างกันไป แต่ผู้สืบทอดของราชาอสูรที่คิชาช่าครอบครองนั้นมีระดับ B+ มันถือได้ว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

ทันใดนั้น พลันมีเงาปรากฏขึ้นจากฝุ่น

[เปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงทักษะเฉพาะ!]

['คิชาช่า (★★★★)' แปลงร่าง!]

เสียงคำรามต่ำดังกึกก้อง

ไม่มีร่องรอยของเสียงของเด็กสาว มันเป็นเสียงร้องคำรามของอสูรและนั้นก็คือ…

'พยัคฆ์'

ฉันหัวเราะเบาๆ

ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงถูกเรียกว่าลูกครึ่งอสูร สิ่งที่โผล่ออกมาจากฝุ่นคือสัตว์ป่าขนาดยักษ์ ขนาดของมันประมาณ 2 เมตร มันใหญ่กว่าที่ฉันเคยเห็นในสวนสัตว์มาก

“นั่นคือรูปร่างที่แท้จริงของเธอเหรอ?”

หางของเธอด้านหลังแกว่งไปทางซ้ายและขวา

ร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาๆ

“……”

คิชาช่าไม่ตอบ

เธอกระโดดออกมาโดยมีเพียงร่างกายส่วนบนของเธอเท่านั้นที่เปลี่ยนไป

'นี่คือสิ่งที่เรียกว่าทักษะเฉพาะสินะ'

พลังการต่อสู้ส่วนตัวของเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก

นอกจากนี้ เธอยังมีความสามารถในการเปลี่ยนร่างอีกด้วย

แม้ว่าอารมณ์ของเธอจะค่อนข้างรุนแรงผิดปกติ แต่ก็อยู่ในช่วงที่ยอมรับได้

'คงจะช่วยได้มากเลยในตอนที่เราขึ้นหอคอย'

ถ้าฉันจัดวางเธอในตำแหน่งที่ดี ๆ ล่ะก็…

'ถ้าเธอต้องการต่อสู้ ฉันก็จะทำตามที่เธอปรารถนา'

ฉันเล็งดาบของฉันไปที่เธอ

เธอแยกเขี้ยวและพุ่งเข้ามาหาหน้าฉันอย่างรวดเร็ว

และ…

“โฮกกก!”

คิชาช่าคำรามและพุ่งเข้ามา

และฉันเองก็ไม่รออยู่เฉยๆ พุ่งไปหาเธอด้วยเช่นกัน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด