ตอนที่แล้วบทที่ 204: มาสู้กัน (2-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 206 : มาสู้กัน (3-2)

บทที่ 205 : มาสู้กัน (3-1)


บทที่ 205 : มาสู้กัน (3-1)

ณ ทางเดินภายในโถงทางเข้า ฉันหยุดเดินชั่วขณะ

‘……’

ฉันมองลงไปที่พื้น

แทนที่จะเป็นโถงทางเดินตามปกติ แต่พื้นกลับปูด้วยหญ้าและดิน เมื่อมองไปข้างหน้า ฉันก็มองเห็นเงาต้นไม้ที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ หญ้า ดิน ไม้ และดอกไม้ มันเป็นของตกแต่งภายในที่ซื้อมาด้วยทองคำ ไรก็ได้คงใช้เงินไปเยอะน่าดู

'ลึกขนาดนี้เลยเหรอ?'

มันเป็นป่าขนาดย่อม

แม้แต่อากาศก็ยังรักษาความชื้นไว้เหมือนกับป่าจริงๆ ฉันอุ้มลาการีพาดไว้บนไหล่แล้วเดินเข้าไปข้างใน ฉันสังเกตเห็นกระท่อมไม้หลายหลังตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่ว

"เจ้าเป็นใคร?"

มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมา

เมื่อฉันหันกลับไปมอง ผู้หญิงสองคนเลิกคิ้วและจ้องมาที่ฉัน

พวกเธอสวมชุดที่ทำจากหนังสัตว์ พวกเธอดูคล้ายกับลาการี แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว หนึ่งในนั้นจ้องเขม็งไปที่ลาการี

“เด็กนั้น…”

“พวกเธอส่งเด็กนี้มาไม่ใช่เหรอ?”

สิ่งที่ฉันอยากรู้ไม่ได้อยู่ที่นี่

ฉันค่อย ๆ วางลาการีลงบนพื้นดิน

“ทำไมถึงใช้เด็กเป็นสายลับ? ดูก็รู้ว่ายัยเด็กนี้ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้ทำอะไรแย่ๆกับเด็กนี้นะ ฉันแค่ขอให้เธอสงบสติอารมณ์สักหน่อย เพราะเธอเอาแต่วุ่นวาย”

“นี่คงจะเป็นคนๆนั้นที่ทุกคนพูดถึงสินะ…”

"เขาแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์…”

ฉันขมวดคิ้ว

ทั้งสองเริ่มพึมพำ ฉันจับดาบของฉันไว้ในกรณีที่มีสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่พวกเธอไม่ได้แสดงความเกลียดชังอะไรออกมา พวกเธอดูค่อนข้างระมัดระวังและอยากรู้อยากเห็น ฉันจึงก้มลงมองลาการีที่นอนตรงเท้าของฉัน

"อืม…"

ดูเหมือนเธอจะไม่ได้หมดสติไปแล้วจริงๆ

ผู้หญิงทางด้านซ้ายรีบเดินเข้ามาอุ้มลาการีอย่างรวดเร็วแล้วหายตัวไปทันที

'พวกเธอไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์มากนัก'

พวกเธอมาจากเป็นเผ่าพันธุ์อสูร แต่รูปร่างภานนอกไม่มีความแตกกับมุนษย์ต่างจนมากเกินไป พวกเธอสวมเสื้อผ้าที่แปลกตาเล็กน้อยและมีเล็บแหลมคม ไม่มีหูหรือหางที่เป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ยื่นออกมาเป็นลักษณะเด่น

“นายคือฮาน อิสรัตใช่ไหม?”

หญิงสาวที่เหลือถาม

“รู้จักชื่อฉันได้ยังไง?”

"เธอกำลังรอนายอยู่"

หลังจากพูดจบประโยคแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็กระโดดออกไป

กระโดดไปไกลได้ในระยะหลายเมตรในการเคลื่อนไหวครั้งเดียวอย่างรวดเร็ว นี่มันเป็นการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวอย่างน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว

ฉันเดาะลิ้นของฉันและขมวดคิ้ว

ฉันอยากจะคุยกับพวกเธอ แต่พวกเธอกลับถามแค่สิ่งที่อยากรู้แล้วก็หายตัวไป แต่ฉันเองก็ไม่อยากตามพวกเธอไปเช่นกัน

'ฉันไม่เข้าใจจุดประสงค์ของพวกเธอสักนิด'

แต่ว่า ดูเหมือนพวกเธอไม่ได้ต่อต้านฉันอย่างเปิดเผย...ซึ่งนั้นก็ชัดเจนมากว่ามันมีอะไรบางอย่างแอบแฝง

ฉันเดินต่อไปโดยที่มือยังคงจับดาบอยู่แน่น มีทางลูกรังทอดยาวเข้าไปข้างใน

'นี้สร้างพื้นที่พิเศษขึ้นมาเลยงั้นเหรอ'

ในป่านั้นฉันมองเห็นหุ่นไล่กาทำจากฟางและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่ทำจากไม้

ที่นี่ดูเหมือนเป็นสนามฝึกชั่วคราวของปาร์ตี้ที่สาม ฉันเดินต่อไปใจกลางป่ามีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ และในใจกลางของพื้นที่เปิดโล่งมีหญิงสาวคนหนึ่งรออยู่ที่นั้น

"ข้ารอที่เจอเจ้ามานานแล้ว อุวะฮ่าฮ่าฮ่า!”

หญิงสาวหัวเราะเสียงดัง

เสียงของเธอไม่ค่อยเข้ากับรูปร่างที่เล็กๆของเธอเลย

ผมสีน้ำตาลยาวสยายไปตามลมที่ด้านหลังหญิงสาว ในแง่ของรูปร่างหน้าตา เธอไม่ได้แตกต่างจากลาการีมากนัก

“ข้าชื่อคิชาช่า วิคชาวี ยินดีที่ได้รู้จักล่ะกัน เจ้าคือ ฮาน อิสรัต ใช่ไหม? ข้าได้ยินเรื่องเจ้ามาเยอะแยะ เจ้าเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในห้องรอนี้ใช่ไหม?”

“บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด?”

“ข้ายังได้เห็นฉากที่เจ้าต่อสู้ผ่านเวทย์มนตร์แปลกๆของนายท่าน มันน่าตื่นตาตื่นใจจริงจริง! น่าประทับใจๆ นานแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นเต้นแบบนี้”

คิชาช่ายกมือขวาขึ้น

มือสีขาวเล็กๆ ของเธอปรากฏกรงเล็บอันแหลมคมเหมือนลาการี่และพุ่งเข้ามาหาฉันทันที

ฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

มันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่ออวดหรือเยาะเย้ยเธอ

แค่เขาอยากหัวเราะออกมาเท่านั้นเอง

“ฮาน อิสรัต!”

"อืม"

“มาสู้กันดีกว่า!”

ทันใดนั้นพื้นดินใต้เท้าของคิชาช่าก็จมลง

ใบไม้และกองสิ่งสกปรกหมุนวน และร่างเล็กๆ ของเธอก็เข้ามาหาฉันด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ฉันชักดาบออกมาปะทะกับเธอ

เคล้ง!

ดาบและกรงเล็บปะทะกัน

แรงกระแทกกระทบจากข้อมือของฉันถึงไหล่ของฉัน กล้ามเนื้อของฉันกระตุก

เมื่อตั้งท่าได้ ร่างกายของฉันก็ขยับถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว

“ว้าว เจ้าหลบมันได้!”

ปากของคิชาช่าบิดเบี้ยวราวกับว่าเธอกำลังดีใจมาก

ตุ๊บ!

ในเวลาเดียวกัน ลูกเตะของเธอก็พุ่งออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

ฉันก้มหัวลง ต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังฉันหักครึ่งเหมือนกิ่งไม้

'พลังบ้านี้มันอะไรกัน?'

“เมื่อวานนี้เจ้านักรบคนนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่มันไม่สามารถทำให้ข้าพอใจได้ แล้วเจ้าล่ะจะทำได้ไหม?!”

“เธอต้องการที่จะต่อสู้กับฉันงั้นเหรอ?”

"ถูกต้อง ไม่มีอะไรบันเทิงมากไปกว่าการต่อสู้กับนักรบที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสหายของเราก็ล้วนแล้วแต่ดีหมด!”

คิชาช่าหมอบลง

จากนั้นเธอก็กระโดดเข้าหาฉัน การเคลื่อนไหวของเธอเหมือนกับเสือชีตาห์ไม่มีผิด

เคล้ง! เคล้ง!

เปลวไฟระเบิดขึ้นเมื่อดาบและกรงเล็บปะทะกัน

แม้ว่าใบมีดของไบฟรอตจะแข็ง แต่กรงเล็บของคิชาช่าก็ยังไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย

'นี่เป็นศิลปะการต่อสู้แบบที่ใช้กรงเล็บเหรอ?'

ฉันวางไบฟรอตไว้ด้านข้าง

กรงเล็บที่ยื่นออกมาของคิชาช่าขูดกับใบมีด ทำให้เกิดเสียงเสียดสีที่รุนแรงและในเวลาเดียวกันเธอก็เตะเข้ามา

การเคลื่อนไหวของเธอเชื่อมต่อกันอย่างราบรื่นจากมือถึงเท้า ราบรื่นราวกับน้ำที่ไหล และ…

'ดูยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?'

ตุ๊บ!

ขณะที่กรงเล็บของเธอลากลงไปในพื้นดิน หลุมเล็กๆ ก็ถูกสร้างขึ้นในทันที

แม้ว่ามือและเท้าของเธอดูเหมือนเด็ก แต่ก็มีพลังที่จะบดขยี้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

กรงเล็บของเธอปัดไหล่ของฉันทีละข้าง

เกราะหนังแยกออกมาง่ายดายเหมือนเต้าหู้ เผยให้เห็นผิวของฉัน ฉันถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วเหวี่ยงดาบให้เป็นวงกว้าง คิชาช่าซึ่งกระโดดสูงประมาณ 2 เมตร แล้วลงมาโดยดันกรงเล็บของเธอลงไป ฉันสกัดกั้นมันด้วยดาบ

ปัง!

ฝุ่นและใบไม้ปลิวไปในอากาศ

คิชาช่าที่ถอยออกไปอย่างรวดเร็วก็พุ่งเข้ามาหาฉันอีกครั้ง

การถอยอย่างรวดเร็วของเธอรวมกับการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลของเธอ ทำให้ไม่สามารถคาดเดาจังหวะการโจมตีและการป้องกันของเธอได้ เธอเป็นคู่ต่อสู้ในแบบที่ฉันไม่เคยเผชิญมาก่อนเลย

ฉันรวบรวมความแข็งแกร่งไปทั่วร่างกายและเหวี่ยงดาบ

คิชาช่าหลบเลี่ยงมันทันที ฉันก้มตัวเพื่องอดาบในแนวทแยงมุมแล้วเหวี่ยงมัน เธอยกกรงเล็บขึ้นเพื่อสกัดกั้น แต่...

ฟึบ!

คิชาช่าลอยตามแรงปะทะออกไปหลายเมตรและชนเข้ากับแนวหญ้าข้างๆ

เธอรีบลุกขึ้นและปัดใบหญ้าออกไป

"เจ้าเป็นคนที่แตกต่าง ข้าไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”

คิชาช่าปาดเลือดออกจากปากของเธอด้วยรอยยิ้ม

ฉันลดดาบลงไป เมื่อฉันมองที่แขนซ้ายของฉันเลือดก็ไหลออกมา นี่ฉันเองก็ได้แผลจากการต่อสู้ครั้งนี้สินะ

'หน้าต่างสถานะ'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด