ตอนที่ 29 ปืนใหญ่ป้องกันเมือง
เหยานเฟยนั้นเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมในภารกิจระดับ B นี้ เขานั้นได้เดินทางมายังเมืองร้างที่ใกล้ที่สุดกับสถานที่รวมตัวด้วยความสงสัย เขานั้นคิดว่าถ้าหากมีคนอยู่ที่นี่จริงๆ คนเหล่านั้นคงจะต้องซ่อนตัวอยู่แถวนี้แน่
ฉึบ!!
หยานเฟยนั้นก็ฆ่าตัวกลายพันธุ์ระดับหนึ่งดาวด้วยการฟันครั้งเดียวก่อนจะถีบศพออกไป “ไอ้พวกกลายพันธุ์สกปรกเอ้ย ไม่อยากจะเชื่อเลยจะมีตัวอะไรแบบนี้อยู่ในโลกด้วย พวกกลายพันธุ์และสัตว์กลายพันธุ์หน่ะตายๆไปได้แล้ว”
เขานั้นรู้สึกรังเกียจตัวกลายพันธุ์มาก ตั้งแต่เด็ก ญาติของเขานั้นก็ตายในเงื้อมมือของตัวกลายพันธุ์ซึ่งมันได้กลายเป็นบาดแผลทางใจที่หลอกหลอนเขามาเรื่อย ถ้าหากเขาไม่มีโชคหล่ะก็ ป่านนี้เขาก็คงตกตายในเงื้อมมือของตัวกลายพันธุ์แล้ว
นี่จึงส่งผลให้เขาต้องการจะฆ่าตัวกลายพันธุ์ทุกตัวที่เขาเจอยกเว้นแค่เขาไม่สามารถสู้กับมันได้
หยานเฟยนั้นก็มองรอบๆและพบร่องรอยบางอย่างที่นำมาสู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าคนกลุ่มหนึ่งเดินทางผ่านเมืองร้างและมุ่งหน้าออกไปไกลกว่านี้
“ไปที่นั่นดีใหมนะ?”หยานเฟยก็ลังเล แม้ว่าเขานั้นจะเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับสามดาว แต่เขานั้นก็ยังกังวลว่าที่นั่นอาจจะมีอันตรายแอบแฝงรออยู่
หลังจากครุ่นคิดสักครู่ ในที่สุดหยานเฟยนั้นก็ตัดสินใจไปตรวจสอบดู ถ้าหากว่ามันมีอันตรายจริงๆ เขาก็ยังมั่นใจอยู่ว่าจะสามารถหลบหนีออกมาได้
เขาเลยหยิบแผนที่ออกมาตรวจสอบดู
“ตามแผนที่แล้ว ทางนั้นน่าจะเป็นเหมืองถ่านหิน หรือว่าจะอยู่ที่นั่นกัน?”
หยานเฟยก็ค่อยๆเข้าเดินเข้าใกล้จุดที่อยู่ของเหมืองถ่านหินอย่างระวังมากๆ ในท้ายที่สุด เมื่อเขาเข้าไปถึงระยะแจ้งเตือนของฐาน เขาก็ถูกระบบตรวจพบ
บนเนินเล็กๆนั้นมีบังเกอร์ปืนกลหนักและปืนใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งทั้งสองนั้นเป็นสิ่งที่ซูเฉินตั้งไว้และยังไม่เคยได้ใช้หลังจากที่ตั้งขึ้นมาแล้ว
ในตอนนี้เอง ทหารในบังเกอร์ปืนกลหนักนั้นก็ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการว่าให้ยิงไปยังทิศทางหนึ่ง
โดยปกติแล้ว คำสั่งของผู้บัญชาการนั้นไม่สามารถขัดได้ หนึ่งในทหารจึงรีบไปประจำตำแหน่งปืนใหญ่และปรับทิศทางลำกล้องก่อนจะยิงออกไป
ปัง!!
หยานเฟยนั้นก้ได้ยินเสียงดังขึ้นมาซึ่งมันทำให้เขาสับสนทีเดียว นั่นมันเสียงอะไร
ในขณะที่เขากำลังพยายามนึก ก็ได้มีลูกกระสุนหล่นลงมาไม่ห่างจากตัวเขาห้าสิบเมตร
บึ้ม!!
หูของหยานเฟยก็ดับลงเพราะแรงระเบิดซึ่งมันทำให้เขารู้สึกราวกับสูญเสียหูตัวเองไป
“ถ้ากระสุนนนั่นหล่นมาใกล้ฉันกว่านี้หล่ะก็ ฉันได้จบสิ้นแน่เลย แต่นั่นมันไม่สมควรจะไปอยู่ใกล้เหมืองถ่านหินไม่ใช่หรอ? ปืนใหญ่ป้องกันเมืองมาอยู่ที่นี่ได้ไงกัน?”หยานเฟยนั้นไม่เข้าใจ
เพราะเขานั้นไม่สามารถหาเหตุผลที่มันมาอยู่ที่นี่ได้ เขาจึงตัดสินใจเรียกทุกคนรวมก่อนแล้วค่อยหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ด้วยกัน
ซูเฉินนั้นก็มองเห็นพลุสัญญาณไฟที่หมอนั่นจุดขึ้นแต่เขาก็ไม่เข้าไปหยุดหมอนั่น เพราะเขาจงใจให้ทำ
ภารกิจของระบบนั้นคือการควบคุมเมือง ดังนั้นนี่แหละเป็นจุดสำคัญ บางทีมันอาจจะใช้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำให้ขุมกำลังของเมืองฐานทัพอ่อนแอลงก็ได้
สิ่งีท่สำคัญที่สุดคือเขานั้นมองเห็นว่าตัวเขานั้นเข้าใกล้ผู้บัญชาการระดับต่อไปแล้ว และเมื่อเขาไปถึงระดับสี่ เขาก็จะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่อีกสองอันได้นั่นก็คือโรงรถถังและท่าอากาศยาน
ด้วยสองสิ่งนี้ เขาก็จะสามารถสร้างกองทัพรถถังและกองทัพเฮลิคอปเตอร์จู่โจมได้ดั่งใจ ด้วยกองกำลังทางบกและอากาศ ปัญหาอะไรก็ไม่หวั่น
เขานั้นพอจะเดาได้ว่าเมืองฐานทัพนั้นคงจะมีกองกำลังอากาศอยู่แต่ด้วยระบบเร้ดอะเริ้ด เขาก็ไม่ต้องกัลวอะไรอีก!
หลังจากนั้นสักครู่ ทุกคนรวมถึงฉื่อเฉาก็ได้มารวมตัวกัน
“นายเจออะไร?”ฉื่อเฉาถาม
“คุณเฉื่อเฉาครับ เมื่อครู่ข้างหน้าเราประมาณห้าร้อยเมตร ผมเกือบจะโดนกระสุนปืนใหญ่ตกใส่หน่ะครับ ถ้าหากผมจำไม่ผิด ตรงนั้นมันจะต้องมีอะไรผิดปกติแน่”คนหนึ่งก็พูดออกมา
ฉื่อเฉานั้นก็ขมวดคิ้ว กระสุนปืนใหญ่? นี่มันเขตภูเขานะ มันจะไปมีกระสุนปืนใหญ่ได้ไงกัน?
“หรือว่ามันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในสถานที่รวมตัวหน่ะ? หรือนี่จะเป็นกลุ่มที่สาม?”อีกคนหนึ่งก็อุทานออกมา
ฉื่อเฉาก็หรี่ตาหันไปมองระยะไกล เขานั้นมองไม่เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เนื่องจากพวกเขานั้นพบสิ่งน่าสงสัย เขาก็จะไม่มีทางล้มเลิก
มันอาจจะไม่ใช่แค่เฮลิคอปเตอร์แต่เป็นฐานทัพทหารที่สามารถยึดมาใช้งานได้!! เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เ ก่อนที่จะเกิดโลกาวินาศ ประเทศนี้ได้ก่อตั้งฐานทัพทหารซ่อนเร้นไว้ในหลายพื้นที่ หลังจากเกิดโลกาวินาศไป ฐานทัพบางแห่งก็ได้ถูกนำมาใช้ซึ่งเป็นการช่วยเสริมกำลังให้เมืองฐานทัพ
ถ้าหากมีคนบังเอิญไปเจอฐานทัพทหารหล่ะก็ มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องคุ้มกัน
ดวงตาของฉื่อเฉาก็ลุกวาว ถ้าหากพวกเขาเจอฐานทัพทหารจริงๆหล่ะก็ ตระกูลฉื่อของอาจจะได้กลายเป็นผู้นำของเมืองหวังฉางก็เป็นได้!!
“ฉันขอสั่งการให้พวกนายออกไปตรวจสอบ ถ้าหากเจอเบาะแสสำคัญ ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลฉื่อ ฉันรับประกันได้เลยว่าพวกนายจะได้รับความมั่งคั่งและคริสตัลพลังงานอย่างไร้จำกัด!!”เขาก็พูดออกมา
ทั้งสามคนก็ตระหนักได้ว่าฉื่อเฉานั้นไม่ใช่เพียงแค่นายน้อยของตระกูลฉื่ออย่างเดียวแต่กลับเป็นผู้สืบทอดตระกูลฉื่อ ตระกูลที่ทรงเกียรติที่สุด
พอคิดถึงอำนาจของตระกูลฉื่อแล้ว ทั้งสามคนก็ไม่มีความคิดจะต่อต้าน ถ้าหากพวกเขาไม่ทำตามคำสั่งของฉื่อเฉา แม้ว่าพวกเขาจะกลับไปเมืองฐานทัพ ชีวิตของพวกเขาก็คงจะจบสิ้นอยู่ดี
ทั้งสามนั้นก็หันมามองกันแล้วตัดสินใจเสี่ยงดู ถ้าหากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาก็จะได้ชีวิตอันสุขสบายที่ไม่ต้องกังวลอะไรอีก แต่ถ้าหากพวกเขาพลาด พวกเขาก็แค่ต้องเสี่ยงชีวิตก็เท่านั้น
ในฐานะที่เป็นตัวแทน หยานเฟยก็พูดขึ้น “โปรดวางใจได้ นายน้อยฉื่อเฉา พวกเราจะต้องนำข้อมูลสำคัญกลับมาให้ได้แน่นอน”
“เยี่ยม ไปได้”
ทั้งสามนั้นไม่ได้ไปด้วยกันแต่แยกกันไป พวกเขานั้นไม่โง่ ถ้าหากพวกเขาไปด้วยกัน พวกเขาก็จะโดนค้นพบได้ง่าย มีเพียงแยกย้ายกันไปถึงจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ทางด้านซูเฉินก็ยิ้มออกมา ไอ้พวกนี้มันโลภจริงๆซะด้วย
แต่ถ้าหาพวกนี้มันไม่โลภ แล้วเขาจะดำเนินแผนการต่อไปได้ไง?
“ส่งคนไปจับพวกมันซะ พอดีฉันขาดแรงงานอยู่พอดี”เขาก็สั่งการ
ด้วยคำสั่งของซูเฉิน ทหารกองเล็กก็วิ่งมุ่งหน้าไปยังที่ที่สามคนนั้นอยู่
ทหารพวกนี้ต่างก็เป็นคนเหนือมนุษย์ระดับสามดาว ซูเฉินนั้นมีทหารพวกนี้อยู่เยอะมาก แม้ว่าซูเฉินจะใช้พลังงานจนแทบหมด เขาก็ยังมีไม่พอจะอัพเกรดให้พวกนายกลายเป็นระดับสี่ดาว สูงสุด ดังนั้นเขาจึงเลือกจะอัพเกรดพวกนี้เป็นระดับสามดาว ต้นซค่งมันก็เพียงพอจะทำให้ทหารพวกนี้มีความสามารถในการปกป้องตัวเอง
ถ้าหากคนอื่นรู้ว่าในที่แห่งนี้ต้องเป็นทหารสามดาวระดับต้น เท่านั้นถึงจะมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง พวกเขาก็คงต้องกระโดดตึกตายกันแน่ เพราะไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะเป็นคนเหนือมนุษย์ได้
หยานเฟยและคนอีกสองคนนั้นไม่รู้เลยว่าการเคลื่อนไหวทุกอย่างของพวกเขานั้นถูกซูเฉินจับตาดูอยู่ กล่าวได้ว่าเรดาห์มันสุดยอดมาก
ทางหยานเฟยนั้นไม่รู้ถึงสถานการณ์ของอีกสองคนแต่เขานั้นก็ได้ใช้ความชำนาญของตัวเขาในการแอบลอบเข้าไปไกล้สถานที่ที่ยิงกระสุนปืนใหญ่ออกมา และในที่สุด เขาก็ได้เห็นมัน ปืนใหญ่ที่ล้ำสมัยกว่าปืนใหญ่ป้องกันเมือง