ตอนที่ 28 ผลตรวจสอบอันแปลกประหลาด
ตระกูลฉื่อนั้นเป็นตระกูลอันดับที่สามในตระกูลทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในเมืองหวังฉาง และกล่าวได้ว่านอกจากตระกูลระดับสูงอีกสองตระกูล ตระกูลฉื่อนั้นเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด
สมาชิกของตระกูลฉื่อทุกคนต่างก็เป็นตัวตนที่ได้รับการเคารพ ไม่ต้องกล่าวถึงฉื่อเฉา
สำหรับภารกิจสำรวจในครั้งนี้ ฉื่อเฉานั้นไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมแต่เขาได้ใช้พลังอำนาจของตระกูลเปลี่ยนคนในนั้นแล้วเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในทีมสำรวจแทน
ความจริงแล้ว ภารกิจแบบนี้ไม่เพียงง่ายแต่ยังได้กำไรสูงด้วย และที่สำคัญคือ มันเป็นภารกิจ ระดับ B
ในเมืองฐานทัพ ภารกิจนั้นถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับตั้งแต่ S ลงไปจนถึง D ซึ่งภารกิจระดับ C และ D นั้นเป็นภารกิจทั่วไปที่มีเยอะแยะ มีเพียงภารกิจระดับ B ขึ้นไปเท่านั้นที่หาได้ยาก และไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้ทำ
สมาชิกอีกสามคนนั้นต่างก็มีความสุขเพราะไม่เพียงพวกเขาจะสามารถทำภารกิจง่ายๆแต่พวกเขาก็ยังสามารถสร้างเส้นสายกับฉื่อเฉาได้ด้วย และพวกเขาก็อาจจะสามารถเข้าร่วมกับตระกูลฉื่อได้อีกซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมากถึงขั้นที่คนทั่วไปทำได้แค่ฝัน
ในระหว่างทาง ทั้งสามก็พูดประจบฉื่อเฉาไปเรื่อยๆพร้อมกับแสดงความสามารถการประจบออกมาถึงขีดสุดแถมมีแม้กระทั่งมอบของให้ฉื่อเฉาด้วยอีก
ฉื่อเฉานั้นก็รู้สึกภูมิใจกับท่าทางของคนเหล่านี้มาก ในฐานะนายน้อยตระกูลฉื่อ นี่แหละคือวิธีที่คนอื่นปฏิบัติต่อเขาเวลาเขาออกมาข้างนอก
ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็เดินทางไปถึงยังสถานที่รวมตัวที่พังทลาย พอได้เห็นสภาพอันน่าสังเวช ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนแปลงไปตามๆกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาทำภารกิจแบบนี้ พวกเขาจึงไม่เคยเห็นสถานการณ์อะไรแบบนี้นั่นเอง
บนพื้นนั้นมีเลือดเต็มไปหมดแถมยังมีศพที่ไม่สมประกอบกองเต็มอยู่ด้วยซึ่งมันน่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ป้ายไม้ที่เขียนหมายเลข 160ซึ่งติดอยู่หน้าทางเข้าสถานที่รวมตัวนั้นยังโชคดีไม่ถูกทำลาย
“ที่นี่คือสถานที่รวมตัวหมายเลข 160 ผมไม่คิดเลยนะเนี่ยว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้”คนที่พูดนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
คนที่อาศัยอยู่ในยุคโลกาวินาศหน่ะมีใครบ้างที่ไม่เคยเห็นความตาย? แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความตายของผู้คนในสถานที่รวมตัวก็เท่านั้น
หลังจากตกใจไปแล้ว พวกเขาก็รีบสงบสติอารมณ์กัน
“นายน้อยฉื่อเฉา ภารกิจของเหลาคือตามหาหลักฐานที่พิสูจน์ให้รู้ว่าสถานที่รวมตัวแห่งนี้ถูกสัตว์กลายพันธุ์ทำลายหรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น ได้โปรดกรุณารอบนเฮลิคอปเตอร์ด้วยครับ พวกเราจะรีบทำภารกิจให้สำเร็จแล้วกลับเมืองฐานทัพในเร็ววัน”
ฉื่อเฉาก็โบกมือแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ฉันออกมาดูสถานการณ์ข้างนอก อยู่บนเฮลิคอปเตอร์มันน่าเบื่อจะตายไป พวกนายไปทำภารกิจเถอะ ฉันจะไปเดินเล่น”
พอเห็นท่าทางของฉื่อเฉา คนอื่นๆก็รู้สึกเหนื่อยใจแต่พวกเขานั้นก็ไม่กล้าจะโน้มน้าว ใครจะรู้กันหล่ะว่านายน้อยฉื่อเฉาจะแสดงอารมณ์อะไรออกมา? ถ้าหากเขาไม่พอใจแล้วฆ่าพวกเขาขึ้นมาหล่ะจะทำไง?
นายน้อยตระกูลใหญ่ฆ่าคนเหนือมนุษย์ธรรมดา ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาหรอก
เมืองฐานทัพนั้นมีกฎของเมืองอยู่แต่กฎนั้นมันก็แค่ของประดับเมื่ออยู่หน้าต่อคนที่มีอำนาจ
ดังนั้นทั้งสามจึงแยกย้ายกันไปสำรวจหาหลักฐานภายในสถานที่รวมตัวในขณะที่คนขับอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เพราะเขาจะได้สามารถส่งสัญญาณเตือนให้ทุกคนได้รู้ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถขับเฮลิคอปเตอร์ได้ หากอะไรเกิดขึ้นกับเขา ก็ไม่มีใครสามารถกลับไปได้หน่ะสิ
ฉื่อเฉานั้นก็เดินเข้าไปข้างในสถานที่รวมตัว และเมื่อเขาเห็นพื้นดินอันสกปรกเลอะเทอะและบ้านไม้อันน่าสังเวช ดวงตาของเขาก็แสดงความรังเกียจออกมา
“พ่อของฉันเคยพูดว่าสถานที่รวมตัวเป็นที่ที่คนชั้นต่ำอาศัยอยู่กัน พวกชั้นต่ำหน่ะไม่มีสิทธิอาศัยอยู่ ตัวตนของพวกมันถือเป็นสิ่งอับอายต่อพวกเราชนชั้นสูง”
ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีพลุสัญญาณถูกยิงขึ้นฟ้าซึ่งมันแสดงให้เห็นว่ามีคนพบบางอย่าง
แม้แต่ฉื่อเฉาเองก็เดินออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อทั้งสี่คนมารวมตัวกัน พวกเขาก็หันไปมองึคนที่ยิงพลุสัญญาณ
“นายเจออะไร?”ฉื่อเฉาถาม
“คุณฉื่อเฉาดูนี่สิครับ”คนๆหนึ่งก็ชี้ไปยังสถานที่ที่มีร่างหลายร่างกองอยู่ซึ่งมันดูสยองมากๆ
“ตามการคาดการณ์ของผม เดิมทีที่ตรงนี้น่าจะมีคนอยู่หลายคน บางทีมันอาจจะเกิดการต่อสู้กันเองขึ้นและจบลงที่คนพวกนี้ฆ่ากันเอง ปัญหาก็คือเมื่อสัตว์กลายพันธุ์รุมล้อม แทนที่จะหาวิธีหนีออกจากที่นี่ คนพวกนี้กลับเริ่มฆ่ากันเอง นี่มันแปลกมากเลยนะครับ”
ฉื่อเฉานั้นไม่ใช่คนที่ไม่รู้ออะไร เขาก็มองอย่างละเอียดและพบว่าสถานการณ์นี้มันเหมือนกับที่คนๆนั้นพูดออกมา
สิ่งที่แปลก็คือเขานั้นสังเกตเห็นว่าบนแขนขาของร่างพวกนี้มีรูกระสุนอยู่ แถมสิ่งที่ใช้นี่ไม่ใช่กระสุนปืนธรรมดาด้วย สถานที่รวมตัวเล็กๆแบบนี้จะมีอาวุธปืนดีๆได้ไงกัน?
“ไม่ ดูนี่สิครับ ที่นี่เป็นที่ที่คนพวกนั้นตายด้วยกันแล้วก็มีการตายเกิดขึ้นที่อีกฝั่งด้วย จะให้สันนิษฐานว่าพวกนั้นฆ่ากันเองมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะทิศทางการตายนี่มันไม่ตรงเลย!!”
คนๆนี้ก็ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างศพสองกองซึ่งทั้งสองกองนั้นไม่ได้หันหน้าเข้าหากัน
“นี่ไง กลุ่มที่สาม มันจะต้องเป็นเพราะคนกลุ่มที่สามฆ่าทั้งสองกลุ่มนี้แน่เลยแต่กลับไม่มีร่องรอยของเลือดของพวกกลุ่มที่สามเลย ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะหนีออกไปจากสถานที่รวมตัวได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทางเดียว นั่นก็คือพวกนั้นมีวิธีหลบหนีทางอากาศ!!”
คนพวกนี้ต่างก็เชี่ยวชาญทางด้านการแกะรอย ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะพบความผิดปกติ
แต่ผลการตรวจสอบนี้มันทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกๆ ถ้าหากว่ามีกลุ่มที่สามารถปรากฏขึ้นเพื่อฆ่าทุกคนก่อนจะหลบหนีหล่ะก็ แล้วพวกนั้นหนีไปได้ไง? พวกนั้นมีเฮลิคอปเตอร์งั้นหรอ?
แต่นอกจากเมืองฐานทัพแล้ว ใครกันหล่ะจะมีเฮลิคอปเตอร์?
หากไม่มีเฮลิคอปเตอร์แล้ว ก็ไม่มีทางจะหลบหนีไปจากการคลุ้มคลั่งของพวกสัตว์กลายพันธุ์แน่ๆ แม้กระทั่งคนเหนือมนุษย์ระดับสี่ดาวก็ตามที
“จากการคาดการณ์แล้ว ตัวก่อเหตุการพังทะลายของสถานที่รวมตัวนั้นก็คือการคลุ้มคลั่งของพวกสัตว์กลายพันธุ์แน่นอนแต่ดูเหมือนว่ามันจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างนั้นด้วย คุณฉื่อเฉา นี่พวกเราต้องรายงานเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ครับ?”คนๆหนึ่งก็หันไปมองฉื่อเฉา
พวกเขาทั้งหมดนั้นรู้ดีว่าฉื่อเฉานั้นเป็นเพียงคนเดียวที่มีอำนาจะตัดสินใจได้ ส่วนพวกเขานั้นไม่มี
“น่าสนใจดีหนิ สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลึกลับ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นคนเหนือมนุษย์ที่มีความสามารถในการบินหล่ะก็ มันก็ยังพอนับได้ว่าเราทำภารกิจสำเร็จลุล่วงหากเราสามารถค้นหามันเจอ”ฉื่อเฉาก็ยกยิ้มขึ้นแล้วหันไปมองอีกสามคน “ตรวจสอบบริเวณรอบๆในทันที บางทีอีกฝ่ายอาจจะอยู่ใกล้ๆ เชื้อเพลิงเฮลิคอปเตอร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะหามาได้ง่ายๆ และแม้ว่าจะเป็นคนเหนือมนุษย์ที่มีความสามารถในการบินก็ไม่สามารถบินไปได้ไกล”
ทั้งสามคนก็พยักหน้าแล้วแยกย้ายกันไปตรวจสอบ
ร่องรอยความตื่นเต้นก็ได้ผุดขึ้นมาในสายตาของฉื่อเฉา เดิมทีเขานั้นคิดว่ามันก็เป็นแค่งานปกติๆแต่เขากลับค้นพบเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
มันเป็นเฮลิคอปเตอร์หรือคนเหนือมนุษย์ที่มีความสามารถในการบินนะ?
ฉื่อเฉาน้นก็กลับมายังเฮลิคอปเตอร์เพียงลำพังแล้วสั่งการคนขับให้บินตรวจสอบ
หลายชั่วโมงต่อมา ซูเฉินที่นั่งเรื่อยเปื่อยนั้นก็ได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบอย่างฉับพลัน “คำเตือน พบผู้บุกรุก ทำการกำจัดผู้บุรุกเลยหรือไม่?”
หลังจากเปิดอินเตอร์เฟสเรดาห์แล้วซูมดู ซูเฉินก็มองเห็นคนแอบย่องตรงมาที่ฐานของเขา
“ส่งคำเตือนไปให้มันก่อน ถ้าหากไม่ฟัง ก็จัดการได้เลย”