นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 566 - เฮ้! สาวน้อย เธอคิดจะทำอะไรกันแน่!
วูบ!!! ตึง!!!!
เดวิดมีเวลาเดินสำรวจอย่างวุ่นวายอยู่เพียงแค่พักเดียวเท่านั้น คลื่นอากาศสั่นไหวพร้อมกับเสียงประตูลั่นปิดตัวดังขึ้นมาในที่สุด และยังคงเหมือนเดิม ร่างที่ปรากฏขึ้นก็ยังเป็นสาวน้อยธีล่าเหมือนเดิม
“โอ้! นายอีกแล้วหรือ? เคลียร์เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย? เอ๋! มันเกิดอะไรขึ้นกับนายกันละเนี่ย?” หลังจากที่กวาดตามองไปรอบท้องพระโรงอย่างละเอียดเสร็จสิ้น สาวน้อยผู้ที่เพิ่งเข้ามาก็เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่สดใส ก่อนที่คิ้วจะขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพร่างกายของเดวิดได้อย่างชัดเจน
“หือ? ไม่มีอะไรหรอก? อุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้น ออกไปรอคนอื่น ๆ ที่ด้านนอกดีกว่า ในนี้ไม่มีอะไรแล้ว!” ด้วยคิ้วที่ขมวดอยู่เช่นกัน เดวิดกล่าวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเย็นชา ในใจเริ่มรู้สึกหงุดหงิดรำคาญอีกฝ่ายมากขึ้นทุกที แม่สาวคนนี้จะปล่อยให้เขามีเวลาว่างทำอะไรส่วนตัวบ้างไม่ได้เลยหรือยังไง?
“ไม่มีอะไรได้ยังไง? แขนนายทำไมมันถึงได้ลีบไปข้างหนึ่งแบบนั้นล่ะ? ได้รับบาดเจ็บตรงอื่นอีกมั้ย? มา! ลองให้ฉันตรวจดูหน่อยดีกว่า” ธีล่าเอียงหัวของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ดวงตาที่จ้องเขม็งสำรวจอยู่ทั่วร่างกายของเดวิดวาบทอประกายขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“หืม?” คลื่นพลังที่ก่อขึ้นรอบตัวกลายเป็นวงแหวน มันทำให้เดวิดที่กำลังเดินสวนเข้าไปยังประตูซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหลังของสาวน้อยคนนี้ชะงักเท้าของตัวเองลง
วงแหวนที่ปรากฏขึ้นรอบตัวเขาไม่มีอำนาจในการทำลายล้าง หน้าที่ของมันคือการตรวจสอบอาการบาดเจ็บในร่างกายเท่านั้น มันไม่ต่างจากรังสีหรือสนามพลังที่เฮเซลใช้แสกนตรวจสอบร่างกายของเดวิดเลย
นี่ไม่ใช่ความสามารถที่แปลกประหลาดหรือน่าตกใจอะไรเลย ดวงตาเอ็กซ์เรย์เป็นยีนระดับพื้นฐานที่ใช้โควตาช่องว่างของศักยภาพทางพันธุกรรมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และทักษะกระตุ้นให้มันฟอร์มตัวเป็นสนามพลังแบบนี้ได้ก็เป็นเพียงทักษะระดับสีดำชั้นกลางเท่านั้น สิ่งเดียวที่ทำให้เดวิดสับสนอยู่ก็คือ ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงถึงขั้นยกระดับตัวเองเป็นร่างสมบูรณ์ได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้อย่างธีล่า ไม่มีทางที่เธอจะตัดต่อยีนระดับพื้นฐานเข้าไปในร่างกายแน่? แล้วที่สาวน้อยคนนี้ใช้อยู่คือความสามารถของอะไรกัน?
“อืม? ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ด้วยแฮะ! ร่างกายของนายสมบูรณ์ดีไม่มีอะไรเสียหาย กล้ามเนื้อที่แขนนั่นก็กำลังฟื้นฟูอยู่อย่างรวดเร็ว เฮ้อ! นึกว่าจะมีเรื่องอะไรให้ตื่นเต้นเสียอีก” สาวน้อยธีล่าทำหน้ามุ่ยทันทีที่ตรวจสอบเสร็จ น้ำเสียงที่กล่าวออกมาดูจะไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
เดวิดแค่นเสียงออกมาเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะขยับตัวเดินต่อแบบไม่สนใจสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายมากนัก เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาต่อล้อต่อเถียงหรือพูดเล่นหัวกับใครในตอนนี้
“คราวนี้นายได้อะไรมาเป็นรางวัลตอบแทน?” ธีร่าถามต่อออกมาอย่างสงสัย เธอยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้คิดจะหันหลังออกจากห้องนี้ไปก่อนเลยแม้แต่น้อย
“หือ? แล้วเธอล่ะ! ได้อะไรมา?” เดวิดตอบด้วยการถามกลับ
“ทักษะการฝึกฝนระดับสวรรค์ขั้นกลาง” สาวน้อยบอกออกมาอย่างรวดเร็ว
และนั่นทำให้เท้าที่เพิ่งก้าวออกมาของเดวิดหยุดชะงักกึกลงอีกครั้ง บรรยากาศภายในห้องขังกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ กลิ่นอายที่คละคลุ้งครอบคลุมอยู่ทั้งหนักหน่วงและเย็นชา ท้องพระโรงหรือแม้แต่กระทั่งบัลลังก์ที่ตั้งอยู่เหมือนจะสั่นไหวขึ้นมาน้อย ๆ เลยด้วยซ้ำ
ดวงตาของเดวิดถูกปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับการสูดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างเต็มที่ อีกฝ่ายได้ทักษะระดับสวรรค์อีกเล่ม!? ในขณะที่ตัวเองขาดทุนอย่างยับเยิน!! จิตสังหารอันรุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาอย่างแทบจะควบคุมไม่ได้ โลกใบนี้อยุติธรรมเกินไปแล้ว!!!
“โว้! โว้! ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โมโหหนักแบบนี้ได้ล่ะ นายจะทำให้ฉันตกใจตายรู้มั้ย? จู่ ๆ ก็ปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงแบบนี้ออกมา ทำไม? จะแย่งทักษะระดับสวรรค์ของฉันไปหรือยังไง?” ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะตกใจกับปฏิกิริยาของเดวิดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เธอตื่นตระหนกเกินไปนัก น้ำเสียงที่กล่าวออกมายังแฝงไปการล้อเล่นอยู่ไม่น้อย
มือของเดวิดกำแน่นอย่างพยายามข่มโทสะที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งอย่างเต็มที่ ความคิดที่จะปล่อยการจู่โจมออกไปสังหารภายในฝ่ามือเดียวถูกระงับเอาไว้สุดความสามารถ สาวน้อยที่อยู่ข้างหน้าคนนี้อาจจะดูลึกลับและมีนิสัยออกไปในทางโรคจิตเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายยังประเมินไม่ได้อย่างชัดเจน เขายังไม่คิดที่จะเสี่ยงในตอนนี้ หลังจากที่ควบคุมลมหายใจของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติได้แล้ว เดวิดก็เลิกที่จะเดินอ้อมอีกฝ่ายตรงไปที่ประตูอย่างไม่รีรอ
“มันก็แค่ทักษะการฝึกฝนระดับสวรรค์ไม่ใช่หรือไง? ทำไมนายจะต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย ของแค่นี้ขอเพียงมีเงินก็หาซื้อได้แล้ว! นายแค่ต้องหาช่องทางติดต่อกับ ‘ต่างแดน’ ให้ได้เท่านั้นเอง” ยัง! ยังไม่จบ สาวน้อยธีล่าเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ เธอยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะบ่นพึมพำออกมา
เดวิดที่กำลังเดินสวนกับเธอเหลือบตากลับมามองเล็กน้อย คำถามว่า ‘เธอเป็นใครกันแน่!?’ เกือบจะหลุดออกมาจากปากตามสัญชาตญาณ แต่เขาก็หยุดมันเอาไว้ได้ทัน หลังจากสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ อีกครั้ง ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ
“พอเถอะ! ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกเราออกไปข้างนอกกันดีกว่า คนอื่น ๆ อาจจะกำลังรออยู่!” หลังจากพูดจบ เดวิดก็เปิดประตูเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ธีล่าตามออกมาด้วยสีหน้าและแววตาที่สนุกสนานพึงพอใจไม่น้อย แม้ว่าเดวิดจะหนีออกมานั่งขัดสมาธิอยู่ไกลถึงปากโถงทางเดินที่เป็นเส้นทางพาพวกเขามาสู่ห้องโถงแห่งนี้ แต่เธอก็ยังตามมานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าในระยะประชิดแบบเข่าชนเข่า ไม่เพียงเท่านั้น ยังโน้มตัวยื่นหน้าเข้ามากระซิบถามในระยะประชิดอีกด้วย!
“เร็วสิ! บอกมาว่านายได้อะไรตอบแทนจากการเคลียร์ห้องขังล่าสุด ฉันบอกส่วนของตัวเองออกไปแล้ว ไม่ต้องมาทำโยกโย้เลย บอกมาดี ๆ เดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงนั้นคาดคั้นแบบอยากรู้คำตอบเป็นอย่างมาก
ลมหายใจที่ปะทะกับใบหน้า และกลิ่นหอมที่ลอยเข้าจมูกทำให้เดวิดต้องลืมตาขึ้นมามองอย่างสงสัย คิ้วของเขาเลิกขึ้นสูงเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายลอยอยู่ในระยะชิดเช่นนี้
“เฮ้! สาวน้อย เธอคิดจะทำอะไรกันแน่! ขยับออกไปห่าง ๆ เลย!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรำคาญ
ธีล่าดึงตัวเองให้ถอยออกไปเล็กน้อย และหัวของเธอก็เอียงลงเล็กน้อย สายตากวาดมองไปทั่วใบหน้าของเดวิดอย่างไม่วางตา “อืม? ดูใกล้ ๆ นายก็ดูดีเหมือนกันนะ! อาจจะไม่ค่อยหล่อเท่าไร แต่ก็ถือว่าโครงหน้าคมไม่ใช่เล่นเลย” เสียงกระซิบดังขึ้นอีก
สีหน้าของเดวิดไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย “อ้อ! ขอบใจที่ชม!”
“นายรู้มั้ย? นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันมองหน้าผู้ชายในระยะใกล้แบบนี้?” สาวน้อยกล่าวชะโงกตัวมาข้างหน้าอีกเล็กน้อยในขณะที่กระซิบเอ่ย สายตาของเธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเดวิดอย่างเต็มที่
“ไม่รู้? และไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องรู้ด้วย! มันมีประโยชน์อะไรอย่างนั้นหรือ?”
“อือ? ไม่รู้แล้วก็ไม่เป็นไรจริง ๆ นั่นแหละ แล้วตอนนี้? ฉันอยู่ใกล้กับนายขนาดนี้? นายไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือ?” สาวน้อยกล่าวออกมาด้วยแก้มที่เริ่มมีสีแดงระเรื่อปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าคำพูดที่กล่าวออกมาจากปากจะทำให้รู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อย ท่าทางของเธอในตอนนี้มันพอที่จะทำให้ชายหนุ่มเลือดร้อนทุกคนหวั่นไหวได้อย่างไม่ยากเย็นนักเลย
แต่สีหน้าของเดวิดไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว ดวงตาที่จ้องมองกลับมาไม่กระพริบเลยแม้แต่ครั้งเดียว มือข้างซ้ายถูกยกขึ้นจับที่ไหล่ของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล ก่อนจะผลักร่างอันบอบบางให้ถอยห่างออกไป พร้อมกับบ่นพึมพำออกมา “ถอยไปห่าง ๆ! ผมเธอเข้าจมูกฉันไปหมดแล้ว!”
วูบ!!!!
คลื่นอากาศสั่นไหวขึ้นอย่างฉับพลัน มันทำให้ธีล่าที่ตอนนี้หน้ามุ่ยลงยิ่งกว่าเดิมขยับออกห่างเดวิดเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ มีคนกำลังเดินผ่านประตูออกมาแล้ว และเหมือนกับทุกครั้ง มันเป็นกลุ่มของอีก 3 คนที่เหลือนั่นเอง พวกเขาถูกส่งเข้าไปในห้องขังเดียวกันอีกครั้ง
สภาพของอฮาลีและการ์ดอฟดูอิดโรยและเหนื่อยอ่อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอฮาลี ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับพิษบางอย่างติดออกมาด้วย แขนข้างหนึ่งนั้นกลายเป็นสีม่วงอย่างชัดเจน ในขณะที่สภาพของนายน้อยอลันยังคงไร้รอยขีดข่วน นอกจากลมหายใจที่แรงกว่าปกติบ้างเล็กน้อย นายน้อยคนนี้ไม่มีอาการผิดปกติหรือบาดแผลตรงไหนอีกเลย!
“พวกแก 2 คนออกมากันก่อนอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?” เสียงของอฮาลีตวาดก้องออกมาทันทีที่เห็นเดวิดกับธีล่านั่งอยู่ด้วยกัน ในครั้งนี้พวกเขาทำความเร็วอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ยอมเสียเวลาในการพักฟื้นร่างกายอยู่ภายในห้องขังเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดูเหมือนว่าเจ้า 2 คนนี้จะยังเร็วกว่าพวกเขาทั้ง 3 คน! เรื่องที่ไม่ชอบมาพากลนี้ทำให้อฮาลีมีโทสะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้!