ตอนที่ 76 อายุขัย 5 ปี
แสงอาทิตย์สาดเข้ามาทางหน้าต่างสามบานที่ติดกับผนังซ้ายมือ โคมระย้าบนเพดานระยิบระยับไปด้วยแสงแดดยามเช้า สายตาสะลึมสะลือของออสบอร์นที่หรี่ปรืพยายามลืมให้ขึ้น เขาพึ่งตื่นจากฝันที่ไม่ค่อยดีนัก ฝันของเขานั้นย้อนกลับไปในโลกใบเก่าเขาฝันว่ากำลังนั่งรถไปกับลูกสาวและพบกับวิญญาณชั่วร้ายที่พยายามทำร้ายพวกเขาขณะขับรถ รถนั้นพลิกคว่ำตามด้วยเสียงหัวเราะน่าขนลุกของบางสิ่งที่ไม่เผยตัว ออสบอร์นสะดุ้งตื่นในตอนที่กำลังสิ้นหวังกับความอ่อนแอของตนเอง
“คุณฟื้นแล้ว”
เสียงของกรีมัวร์ดังขึ้นข้างเตียงของเขา สภาพของหญิงชราอยู่ในท่าทางอิดโรย มันเป็นสิ่งที่สร้างความปวดใจให้กับออสบอร์นโดยไม่รู้ตัว
“คุณได้นอนบ้างรึเปล่า?กรีมัวร์ ครอบครัวคุณกำลังรอคุณกลับไปหาพวกเขา อย่าได้เสี่ยงอันตรายเหมือนคราวก่อนอีก”
ออสบอร์นจำสายตาเด็ดเดี่ยวของผู้หญิงคนนี้ได้ตอนที่บอกให้หล่อนหาโอกาสหนีไป
“ฉันจะทิ้งคุณได้อย่างไร คุณมาเจออันตรายเช่นนี้ก็เพราะฉัน”
กรีมัวร์ยื่นแก้วน้ำไปให้พ่อมดเฒ่าที่นอนอยู่บนเตียง เธอได้ยินเสียงที่แหบแห้งของเขา
ออสบอร์นหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ เขาสัมผัสได้ทันทีว่ามันผสมน้ำศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ หินก้อนนั้นยังอยู่กับกรีมัวร์ เขาได้มอบให้นางขณะที่ถูกบังคับให้หนีออกมา
“เนียสแฟร์คงรู้ตัวตนของผมแล้ว”
ประธานหอการค้าไม่ใช่คนโง่ พ่อมดที่ใช้พลังธาตุแสงอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้มีเพียงพ่อมดสีเงินที่อาณาจักรวอร์ล็อคกำลังตามตัวอยู่เท่านั้น
“แน่นอนเขารู้แล้ว แต่ฉันเชื่อใจเขา”
กรีมัวร์ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไม แต่ออสบอร์นเองก็เชื่อในสายตาของหญิงชรา เขามั่นใจว่าถ้าหล่อนบอกว่าไม่มีปัญหามันก็จะเป็นไปตามนั้น
“เขาจะพาคุณกลับไปที่กระท่อม ภารกิจที่เหลือฉันจะจัดการเอง”
“กลับกระท่อม? ได้ยังไงกรีมัวร์ ผมจะเดินทางไปกับคุณ”
พ่อมดเฒ่าไม่ยินยอม หญิงชรามองไปยังร่างที่แก่ชราของสหายของนาง ใบหน้านั้นยังคุ้นเคยแต่กลับแก่เฒ่าลงไปมาก เส้นผมบางจุดหลุดร่วงลงไปจนเห็นหนังศรีษะขาวซีด มือนั้นเหี่ยวย่นและมีฝ่ากระขึ้นเป็นจุดๆ สังขารนี้ใกล้พังทลายเต็มที
“คุณไม่สามารถเดินทางไปกับฉันได้ออสบอร์น ฉันขอโทษที่ทำให้คุณเป็นเช่นนี้ เวลาของคุณเหลืออีกไม่มาก คุณควรกลับไป”
คาเดนได้ตรวจดูร่างกายของออสบอร์นอย่างละเอียดก่อนหน้านั้น เขามีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนจะหายไปในแหวนมรกตอีกรอบ
ออสบอร์นมองร่างกายที่แก่ชราของตนอย่างพินิจพิเคราะห์ กรีมัวร์ยื่นกระจกบานหนึ่งให้เขา ภาพที่สะท้อนอยู่อีกด้านคือใบหน้าใบเดิมที่ดูแก่ไปอีกยี่สิบปี สภาพแบบนี้จะไปช่วยใครได้ เขาเข้าใจกรีมัวร์แล้ว
“ผมขอโทษ”
ออสบอร์นถอดแหวนมรกตที่นิ้วออกมา เขากระซิบแผ่วเบากับมันเหมือนแหวนมีชีวิต แสงสีเขียวกระพริบทีหนึ่งแล้วดับไป
“คุณเก็บแหวนวงนี้เอาไว้ สวมมันไว้ตลอดเวลา หากต้องการความช่วยเหลือเพียงคุยกับเขา”
มันคือแหวนมรกตคาเดน
“แต่ออสบอร์น นี่มันมากเกินไป”
หญิงชราไม่ยอมรับ
“ไม่มากเลย น้อยเกินไปด้วยซ้ำ สภาพผมเป็นเช่นนี้แล้วไม่อาจช่วยคุณได้ แต่หวังว่าแหวนวงนี้จะช่วยคุณแทนผม”
ออสบอร์นบอกวิธีการใช้งานแหวนมรกตแก่กรีมัวร์ และบังคับให้หล่อนรับมันไว้ เมื่อแหวนถูกสวมลงบนนิ้วชี้ซ้ายของหญิงชรามันก็สว่างวาบและลดขนาดแหวนให้พอดีกับนิ้วของนาง
“คุณนอนหลับมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว กำหนดการณ์ล่าช้ามาหนึ่งวัน ฉันจำเป็นต้องเดินทางบ่ายนี้ ขอให้คุณรักษาตัวให้ดี”
กรีมัวร์จูบหน้าผากออสบอร์นเบาๆ
“ขอให้คุณโชคดี”
ออสบอร์นมองส่งร่างในชุดราตรีสีดำจนหายลับไปหลังประตูห้อง เขาได้มีเวลาอยู่กับตนเองอีกครั้ง
หน้าต่างของระบบถูกเปิดออก ก่อนที่เขาจะสลบไปเหมือนว่าเสียงแจ้งเตือนของระบบจะดังขึ้น เมื่อตรวจดูแถบแจ้งเตือนด้านใน ข้อความที่เขาไม่คาดคิดก็ปรากฎอยู่ในนั้น
[ ติ้ง! ท่านทำภารกิจสำเร็จโปรดรับรางวัลภารกิจดังนี้
1.ค่าประสบการณ์ +200000 2.โอกาสหมุนวงล้อนำโชค(ระดับตำนาน) ×1 3.กล่องสุมการ์ด(ระดับตำนาน) ×1 ]
ภารกิจเกี่ยวกับการสืบหาที่มาของหยดโลหิตหายไปแล้ว ดูเหมือนว่าข้อมูลที่เขาได้รับจากเมอราม็อกจะเพียงพอที่จะทำให้ภารกิจสำเร็จ ไม่ต้องถึงขั้นสืบให้รู้ตัวตนของเทพเจ้าองค์นั้น เพราะรางวัลภารกิจที่ได้รับเป็นเพียงระดับตำนาน หากให้สืบไปถึงเทพเจ้าลึกลับองค์นั้นด้วย มันก็คงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่
ถัดจากรางวัลภารกิจอันแรก มีการแจ้งเตือนรางวัลภารกิจอันที่สองอยู่ด้วย ภารกิจนี้เป็นไปตามที่ออสบอร์นคาดเดาเอาไว้ มันคือภารกิจขับไล่เมอราม็อกออกไป
[ ติ้ง! ท่านทำภารกิจสำเร็จโปรดรับรางวัลภารกิจดังนี้
1.ค่าประสบการณ์ +200000 2.อัปเกรดระบบหนึ่งครั้ง ]
ออสบอร์นกดรับราลวัลภารกิจทั้งสองโดยไม่ลังเล พลังเวทย์มากมายปะทุขึ้นในร่างของเขา เมื่อเปิดดูหน้าต่างสถานะ ค่าประสบการณ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นมาสี่แสนหน่วย เหลืออีกประมาณสองแสนหน่วยเขาก็จะสามารถฝ่าระดับถัดไปได้ทันที
[ชื่อ : เฟรเดอริก ออสบอร์น
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ค่าประสบการณ์ : 402546 / 600000 (พ่อมดระดับกลางขั้นแรก)
พลังชีวิต : 84 / 1300 (อายุขัย 5 ปี)...]
ตอนนี้ออสบอร์นมีโอกาสหมุนวล้อระดับตำนานส่องครั้ง และกล่องสุ่มการ์ดระดับตำนานหนึ่งครั้งเขามีของช่วยชีวิตสามอย่าง ไม่รู้ว่าจะเพียงพอสำหรับอนาคตหรือไม่ สถานการ์เร่งด่วนที่สุดไม่ใช่การต่อสู้กับอาณาจักรวอร์ล็อคแต่เป็นการฟื้นสภาพร่างกายกลับคืนมา หากศัตรูโจมตีออสบอร์นตอนนี้ ขอเพียงเป่าเบาๆเขาก็ล้มลงได้ ช่างน่าเวทนานัก
ใช่แล้ว! เขายังมีของวิเศษสามชิ้นที่ไถมาจากเทพเจ้าชั่วร้าย พวกมันไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน ของสามชิ้นที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีค่าเท่ากับร่างอวตารของเทพเจ้าในระดับที่สูงกว่าตำนาน แต่ระดับแท้จริงนั้นออสบอร์นยังคงไม่ทราบ เขายังขาดข้อมูลเกี่ยวกับระดับที่สูงขึ้นไป นี่คือข้อจำกัดของมรดกในระบบพ่อมดที่ขาดการสืบทอดจนถึงปัจจุบัน
ออสบอร์นกดหน้าต่างข้อความไปที่พื้นที่เก็บของอีกครั้ง ช่องภายในเหลือไม่มากแล้ว จากสิบช่องในนั้นมี ไม้เท้าแห่งเทลเพริออน วงแหวนดวงดาว กล่องสุ่มการ์ดระดับตำนาน ของวิเศษที่ไถ่มาสามชิ้น และน้ำศักดิ์สิทธิ์สำรองอีกสองช่อง เขายังเห็นการ์ดแปลกตาที่ระบุว่าเป็นการ์ดอัพเกรดระบบอยู่ด้วย ทั้งหมดเก้าในสิบช่องถูกใช้ไปในตอนนี้
[ การ์ดอัพเกรดระบบ
เงื่อนไขการใช้ : ไม่มี
*หมายเหตุ เมื่อเปิดใช้งานการ์ดแล้ว จะดำเนินการปิดระบบเพื่ออัพเกรดเป็นเวลา 7 วัน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจก่อนดำเนินการอัพเกรด]
ที่จริงออสบอร์นรอคอยการอัพเกรดของระบบมาตลอด เพราะแดนปฐมแก่งแสงจำเป็นต้องใช้ระบบภารกิจในระดับที่สูงกว่านี้เพื่อปลดล็อคข้อมูล แต่เมื่อการอัพเกรดต้องแลกกับการปิดระบบ7วัน ออสบอร์นก็เริ่มลังเล การปิดระบบหมายความว่าเขาจะใช้พื้นที่เก็บของไม่ได้ ใช้วงล้อนำโชคไม่ได้ รับภารกิจหรือรับรางวัลไม่ได้ หากในอนาคตเขามีเรื่องเร่งด่วน สิ่งนี้จะทำให้พ่อมดที่อยู่เพียงระดับกลางเช่นเขาเสี่ยงอันตรายแน่นอน
เอาเถอะค่อยคิดอีกที จัดการกับของชิ้นอื่นๆก่อนดีกว่า
ออสบอร์นมองไปในพื้นที่เก็บของอีกครั้ง รูปร่างของวิเศษแปลกตาทั้งสามถูกระบุเอาไว้ด้านหน้าช่องสามช่อง มันคือของที่เขาได้รับจากการใช้กฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ออสอบร์นไม่กล้าปล่อยพวกมันออกมา ของวิเศษที่ทรงพลังพวกนี้ไม่มีทางศิโรราบต่อเขาแน่นอน อำนาจสะกดข่มของแดนปฐมแห่งแสงทำให้พวกมันไม่อาจต่อต้านได้ตอนที่เขาเก็บพวกมันลงในพื้นที่เก็บของ แต่ไม่ใช่การกำราบอย่างแท้จริงพวกมันจะต่อต้านแน่นอนถ้าเขาพยายามใช้งานพวกมัน
ไม่ต้องพูดเลยว่าของที่ติดตามรับใช้เทพเจ้าชั่วร้ายจะน่าสะพรึงแค่ไหน ออสบอร์นจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลเสียก่อน
ภาพของทั้งสามสิ่งถูกวาดลงบนกระดาษที่ออสบอร์นพบตรงหัวเตียง เขาใช้ดินสอที่ดูเหมือนว่าจะเตรียมเอาไว้พร้อมกันแต่งเติมรายละเอียดทีละน้อยจนสมบูรณ์ เขาคือนักประวัติศาสตร์ที่มีประสบการณ์มานานหลายปี สกิลการวาดภาพของเขานั้นไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย เพราะการวาดภาพของวัตถุโบราณเป็นงานอย่างหนึ่งที่เขาคุ้นชิ้น
เมื่อถึงช่วงเย็นของวัน ประธานหอการค้าได้เข้ามาพบออสบอร์นเป็นครั้งแรก เนียสแฟร์อยู่ในชุดแบบเดิมของเขาที่เน้นหนักไปที่สีสันสดใส ใบหน้าของเขามีเลือดฝาดที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี เขากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้วโดยใช้เวลาไม่นาน ประธานหอการค้าผู้นี้มีสมบัติล่ำค่ามากมาย
“ขอบคุณสำหรับความชั่วเหลือท่านพ่อมด ผมเนียสแฟร์เพื่อนของกรีมัวร์”
เนียสแฟร์ไม่ได้แนะนำตัวเองในฐานะประธานหอการค้าแห่งวอร์ล็อค เขายื่นมือออกมาเพื่อทักทาย
“เรียกผมว่าออสบอร์นเถอะ”
พ่อมดยิ้มน้อยๆ และจับมืออีกฝ่าย
“ไม่รู้ว่ากรีมัวร์ใช้วิธีใดถึงสามารถเกลี้ยกล่อมคุณให้มาช่วยเธอได้ คุณสร้างปัญหาให้เรามากเหลือเกินออสบอร์น”
เนียสแฟร์นั่งลงข้างเตียงคนป่วย เขารินน้ำให้ตนเองหนึ่งแก้ว
“พวกคุณสร้างปัญหาให้ผมก่อน ป่าต้องห้ามอยู่ในความดูแลของผม ที่สำคัญคือเผ่าพันธุ์ออร์คล้วนเป็นศัตรูกับทุกเผ่าพันธุ์ พวกมันล้วนทำลายทุกชีวิตในทุกที่ที่มันไปถึง”
ออสบอร์นไม่ได้เกรงกลัววอร์ล็อคระดับสูงคนนี้
“ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นผิด แต่วอร์ล็อคจำเป็นต้องทำเช่นนี้ ศาสนจักรแห่งแสงไม่อาจยึดครองทั้งทวีปได้ เราคือผู้กล้าเบื้องหน้าความเลวร้าย คือความจริงที่ทำให้ความโง่เขลามลายไป การข่มขู่ผู้คนด้วยนรกและล่อลวงจิตใจด้วยสวรรค์ที่มีอยู่เพียงในความฝันต้องหมดไปในยุคใหม่ที่จะมาถึง ความถูกต้องคือสิ่งที่เราแสวงหา อำนาจที่เป็นของตนเองจึงจะเป็นอำนาจที่แท้จริง”
“ช่างเป็นปณิธานที่ยิ่งใหญ่นักเนียสแฟร์ คำพูดของคุณกินใจเหมือนพวกนักการเมืองตอนหาเสียง น่าเสียดายที่ผมผ่านโลกมามากจนเข้าใจว่าไม่มีสิ่งใดที่จะได้มาเปล่า สิ่งที่คุณปราถนาต้องแลกกับสงครามและชีวิตของผู้คนอีกนับไม่ถ้วน ผมจะไม่ห้ามคุณ แต่ระหว่างเรามีเส้นบางๆที่ไม่ควรข้ามไป”
“ผมเข้าใจ”
“คุณไม่ได้เข้าใจมันเลย”
ออสบอร์นยิ้ม
เนียสแฟร์ไม่ได้ตอบอะไรอีก ระหว่างพวกเขาคือทางขนานที่ไม่อาจบรรจบกันได้
เมื่อเห็นว่าการสนทนาจบลงแล้ว ออสบอร์นก็หยิบรูปภาพทั้งสามแผ่นออกมาให้กับคนตรงหน้า
“ผมวานคุณหาข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุเวทมนตร์สามชิ้นนี้ที น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่คุณอยากได้เป็นของผม เราจะใช้มันเป็นค่าจ้าง”
จะไม่มีการติดค้างใดๆระหว่างพวกเขา ออสบอร์นช่วยขับลมไล่เทพขั่วร้ายออกไป เนียสแฟร์ช่วยปกปิดตัวตนของออสบอร์นเอาไว้ นอกเหนือจากนั้นพวกเขาต้องแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม
เนียสแฟร์เดาได้นานแล้วว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นของพ่อมดสีเงินออสบอร์น เขาไม่ปฏิเสธการค้านี้และรับกระดาษทั้งสามแผ่นมาตรวจดู
“มันอาจใช้เวลาสักสองสามวัน”
“ผมไม่รีบ”
ทั้งสองไม่คุยอะไรกันอีก ทั้งทีในใจของออสบอร์นนั้นมีคำถามมากมายที่อยากจะถามออกไป ทั้งเรื่องที่ร่างอวตารเจาะจงปรากฏตัวที่นี่ ทั้งที่ดวงตาต้องสาบมีปฏิกิริยามาก่อนหน้านั้นแล้ว การที่เทพเจ้าชั่วร้ายนั่นเลือกสถานที่ในการอัญเชิญร่างอวตารออกมาจึงต้องมีวัตถุประสงค์แอบแฝง
ออสบอร์นรับรู้ได้ว่าเนียสแฟร์กำลังปกปิดอะไรบางอย่าง ประธานหอการค้าคนนี้มีความลับแน่นอน
แต่แล้วอย่างไร เราต้องคิดทุกอย่างที่พูด แต่จะพูดทุกอย่างที่คิดไม่ได้ เนียสแฟร์ยังไม่ถามถึงเหตุผลที่ออสบอร์นขับไล่เมอราม็อกไปได้เลย ดังนั้นเขาเองก็จะเคารพความเป็นส่วนตัวของเนียสแฟร์เช่นเดียวกัน
สภาพร่างกายของออสบอร์นตอนนี้ไม่พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ สิ่งเดียวที่จะช่วยให้ออสบอร์นกลับมาแข็งแรงอีกครั้งคือการเพิ่มอายุขัย หากอายุขัยของเขามีมากขึ้น การทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องยาก เขามีน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแห่งชีวิตเต็มเปี่ยม แม้จะไม่สามารถทำให้เป็นหนุ่มได้อีกครั้ง แต่ลำพังการชลอสังขารไม่ให้ทรุดโทรมลงไปมากกว่านี้ก็ควรเพียงพอแล้ว
แต่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถยืดอายุขัยได้ เพราะคนที่หมดอายุขัยจะไม่สามารถดูดซึมพลังงานภายนอกใดๆได้อีก ไม่เช่นนั้นเจ้าของร่างคนเก่าก็คงไม่ตาย
ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือหาวิธีในการเพิ่มอายุขัยอย่างเร่งด่วน และมันก็มีเพียงวิธีเดียว การฝ่าทะลุระดับ!