ตอนที่แล้ว1316 - พบพระพุทธเจ้าปลายทาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1318 - รนหาที่ตาย

1317 - ภูเขาหลิงซานเหือดแห้ง


1317 - ภูเขาหลิงซานเหือดแห้ง

พบศากยมุนีที่ปลายทาง!

มันเกินความคาดหมายของทุกคน แม้แต่เย่ฟ่านเองก็ยังตกตะลึง พระเฒ่าหลายรูปคุกเข่าลงด้วยความตื่นเต้น สวดมนต์ในนามของพระพุทธเจ้า ก้มศีรษะลงกับพื้นด้วยความศรัทธา

ดอกไม้บานสะพรั่งที่ร่วงหล่นเสียงดังกรอบแกรบ ต้นโพธิ์โบราณหยั่งรากอยู่ที่นี่ มีชายที่นั่งหลับตาอยู่ใต้ต้นไม้ กลมกลืนกับทัศนียภาพทั้งหมดทั้งปวง

ดอกไม้อันสดใสร่วงหล่นลงมาบนร่าง ดูเหมือนเขาจะไม่เคยลุกขึ้นยืนมานานนับพันปีแล้ว แม้ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่านี่จะต้องเป็นศากยมุนีอย่างแน่นอน

ศากยมุณีและพระพุทธเจ้าคนอื่นๆ ล้วนเข้าสู่ปรินิพพานไปแล้ว อย่างไรก็ตามการได้เห็นซากสังขารของพวกเขาล้วนทำให้ทุกคนเกิดความปราบปลื้มใจเป็นอย่างมาก

แม้แต่เย่ฟ่านก็ยังสั่นสะท้านอยู่ในใจ นี่คือบุคคลในตำนาน และตอนนี้เขาได้เห็นพระองค์ด้วยตัวเอง มันเกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง

ศากยมุนีเป็นชายโบราณเมื่อสองพันห้าร้อยปีที่แล้ว เขามีความถ่อมตนและมีสติปัญญาอย่างมาก ว่ากันว่าในตอนที่ยังเป็นเด็กเขาสามารถศึกษาคัมภีร์พระเวทของศาสนาพราหมณ์ได้อย่างถ่องแท้แล้ว

หลังจากนั้นเขาก็ออกค้นหาตัวเองจนกระทั่งกลายเป็นมหาบุรุษของโลกในปีต่อๆ มา

ชื่อของเขาได้แพร่หลายเกินขอบเขตของอินเดียทั้งในสมัยโบราณและสมัยใหม่

ปรมาจารย์หลายคนคลานเข่าไปข้างหน้าทีละก้าว ค่อยๆ เข้าไปใกล้ต้นโพธิ์โบราณ เย่ฟ่านก็ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าแล้วคุกเข่าลงเช่นกัน

แม้ว่าตัวของเย่ฟ่านจะไม่ได้มีความศรัทธาต่อศาสนาพุทธจนเกิดความลุ่มหลง แต่ในฐานะจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ศากยมุนีก็สมควรได้รับการเคารพด้วยประการทั้งปวง

เสียงระฆังบนภูเขาที่ห่างไกลดังแผ่ออกไปหลายร้อยวา แผ่พลังอันน่าสะพรึงกลัวออกไปทุกทิศทาง

วัดโบราณ ระฆังบนภูเขาและพระพุทธเจ้าใต้ต้นโพธิ์เป็นเหมือนความฝัน

“ทุกท่านมาสายเกินไปแล้ว ภูเขาหลิงซานกลายเป็นดินแดนที่แห้งเหือดไม่มีทางฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ได้อีกแล้ว”

คลื่นพลังแผ่กระจายจากพระพุทธเจ้าที่อยู่ใต้ต้นโพธิ์ มันคล้ายกับคำพูดที่พระองค์กล่าวกับพวกเขาผ่านแม่น้ำสายยาวแห่งกาลเวลา

“พระพุทธเจ้า!”

พวกเขาได้ยินพระพุทธเจ้าตรัสกับพวกเขาและทุกคนก็เกิดความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

“เหตุใดจึงช้า เรานำวัตถุศีกดิ์สิทธิ์เปิดเส้นทางโบราณเพื่อมาที่หลิงซานแล้ว”

เย่ฟ่านยืนอยู่ไม่ไกลจากต้นโพธิ์และถามออกไปด้วยความสงสัย

“ภูเขาหลิงซานที่เหือดแห้งยากที่จะค้นพบ แม้ว่าจะมีวัตถุศักดิ์สิทธิ์เส้นทางก็ไม่สามารถเปิดได้”

พระพุทธเจ้านิ่งเฉยราวกับว่าเขากำลังนั่งขัดสมาธิเช่นมาตั้งแต่ยุคโบราณ คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ล้นหลามจนกลายเป็นกงล้อศักดิ์สิทธิ์เบื้องหลังศรีษะของเขา

เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจและสงสัย นี่คือศากยมุนีจริงหรือ?

จากสิ่งที่เย่ฟ่านรู้เกี่ยวกับจักรพรรดิอู่ซือ ดูเหมือนจะเป็นภาพเงาที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทิ้งไว้ บางทีสถานการณ์นี้อาจเป็นเช่นเดียวกัน

“เส้นทางสู่หลิงซานสิ้นสุดลงแล้ว จงหันหลังกลับไป”

ชายวัยกลางคนกระซิบ ดวงตาของเขายังคงหลับ สีหน้าแสดงถึงความสงบ ดอกไม้ที่ร่วงหล่นทุกดอกสองแสงเจิดจ้า ทุกคนปฏิบัติตามตามคำสั่งและถอยกลับ

แต่เย่ฟ่านไม่ได้ทำตาม เพราะในเวลานี้เขาเห็นต้นโพธิ์โบราณสีเขียวนั้นกลายเป็นหิน แม้แต่คนที่อยู่ใต้ต้นไม้เองก็กลายเป็นรูปปั้น ดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นกลายเป็นดอกไม้หิน

ความผันผวนหายไป ทุกสิ่งที่เขาเห็นกลายเป็นประติมากรรมหิน แตกต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง

เย่ฟ่านโล่งใจ ศากยมุนีเดินไปตามถนนสายโบราณ ท่ามกลางดวงดาวบนท้องฟ้า เป็นไปไม่ได้ที่เขายังคงอยู่อยู่บนโลก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นเท่านั้น

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” พระเฒ่าหลายรูปจากอินเดียตัวสั่น

ร่างของพระพุทธเจ้านี้สามารถแสดงพลังวิเศษบางอย่างได้ เมื่อมาถึงตรงนี้พวกเขาก็ตระหนักว่าหลิงซานอยู่ไม่ไกลแล้ว

แต่ซีมาติและคนอื่นๆ ปฏิเสธที่จะไปต่อ พวกเขาปฏิบัติตามคำสั่งของพระพุทธเจ้าโดยไม่กล้าฝ่าฝืน

“ภูเขาหลินซานอยู่ข้างหน้า พวกท่านไม่อยากเข้าไปหรือ” เย่ฟ่านสอบถามอีกครั้ง

“เราจะปฏิบัติตามคำพูดของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด”

ปรมาจารย์หลายคนพนมมือแล้วแนะนำเย่ฟ่านว่าอย่าไปเลย สาเหตุก็เพราะพระพุทธเจ้าหวังดีต่อทุกคนอย่างแน่นอน การที่จะเดินหน้าต่อย่อมไม่มีผลลัพธ์ที่ดีแต่อย่างใด

เย่ฟ่านเมินเฉยต่อต้นโพธิ์และพระพุทธเจ้าที่กลายเป็นหินแล้วเขาเดินต่อไปในข้างหน้า ปรมาจารย์หลายคนตกตะลึง พวกเขาทั้งหมดยืนจ้องมองไปยังเส้นทางโบราณที่คดเคี้ยวอย่างว่างเปล่า

สุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่เดินตามหลังเย่ฟ่าน นั่นก็เพราะหากไม่มีพระพุทธรูปหินพวกเขาก็ไม่สามารถออกจากที่นี่ได้เช่นกัน

หลังจากเดินไปอีกสองสามลี้ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงภูเขาอันกว้างใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า มันเหมือนดินแดนที่เป็นจุดสิ้นสุดของโลก

ไม่มีสิ่งชีวิตใดๆ อยู่ที่นั่น มีแต่คลื่นพลังแห่งพุทธะ ภูเขานั้นไม่มีชีวิต แม้แต่นกตัวเดียวก็ไม่สามารถเห็นได้

เย่ฟ่านเปิดตาที่สามของเขาและพบว่ามันพร่ามัวมาก ภูเขาหลิงซานอันกว้างใหญ่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เขารู้เพียงว่าวิหารโบราณแห่งอวิ๋นหนิงตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของภูเขา

เย่ฟ่านรู้ดีว่าเส้นทางที่อยู่ข้างหน้านั้นถูกตัดขาดแล้ว ไม่ว่าเขาจะใช้ความพยายามมากเพียงใดก็ไม่สามารถเปิดภูเขาที่อยู่ตรงหน้าขึ้นได้

ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปก้าวแรก เขาก็สัมผัสได้ถึงความวุ่นวายพลุ่งพล่านทันทีและพลังแห่งจิตวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น

เย่ฟ่านเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีเสียงคำรามของราชสีห์ดังก้องสวรรค์พิภพ จากนั้นภาพเงาของพระอรหันท่องถือไม้เท้าปราบมารก็ปรากฏขึ้นบนภูเขา

ทุกเส้นทางในวิหารทองไม่อาจเข้าใกล้ได้ มีเสียงจากท้องฟ้าที่เหมือนจะพังทลายลงมา

คนอื่นๆตกตะลึง นี่คือการเผชิญหน้ากับเทพและพระโพธิสัตว์ คนเหล่านั้นไม่ต้องการให้พวกเขาเข้าสู่ภูเขาหลิงซานหรือไม่?

“บูม!”

คลื่นพลังที่แข็งแกร่งลุกลามไปทั่วภูเขาหลิงซานอันตระหง่าน ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงคำรามดังก้องและกระแทกหมัดหกสังสารวัฏเพื่อบดขยี้ภาพเงาเหล่านั้นให้แหลกละเอียด

เย่ฟ่านตะโกนเสียงดัง คลื่นสะท้อนกลับมาทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นร่างศักดิ์ศรีเซียนโบราณแต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังทำให้เขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

นี่คือพลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ความผันผวนของพลังที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยุคโบราณยังเพียงพอที่จะปิดกั้นไม่ให้เขาเข้าไปข้างในได้

ยักษ์ อสูร นาคราช ครุฑ ฯลฯ แปดสิ่งมีชีวิตโบราณซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ธรรมของพุทธศาสนาได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อต่อสู้กับเย่ฟ่านโดยตรง

เย่ฟ่านถอยกลับเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว แม้แต่ร่างกายอันสิทธิ์ของเขาไม่สามารถหยุดยั้งผู้พิทักษ์ธรรมทั้งแปดได้ เขาเชื่อว่าหากเป็นคนอื่นของถูกทำลายจนแหลกเป็นชิ้นๆ แล้ว

หลิงซานเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของพุทธศาสนาแห่งอินเดีย กล่าวกันตามตรงมันมีความผูกพันกับพุทธศาสนามากกว่าเขาพระสุเมรุด้วยซ้ำ

เย่ฟ่านมองดูพระพุทธรูปหินในมือและขมวดคิ้ว หากไม่มีอักษรที่อยู่ข้างในวัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้ หากไม่มีพระพุทธรูปชิ้นนี้คงไม่มีทางที่เขาจะมาถึงที่นี่ได้

เขารู้ว่ามันยากที่จะเข้าไปข้างใน แต่เขาต้องการเข้าไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลิงซานกันแน่ บางทีเขาอาจจะรู้จุดหมายปลายทางของศากยมุนีพุทธเจ้าก็ได้

เสียงระเบิดดังกึกก้องสวรรค์พิภพอีกครั้ง เย่ฟ่านต่อสู้กับผู้พิทักษ์ธรรมทั้งแปดและในที่สุดเขาก็ใช้ทักษะซิงจื่อพุ่งเข้าไปข้างในภูเขาหลิงซานได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก ไม่มีหญ้าหรือต้นไม้ ทุกอย่างเหี่ยวเฉา แห้งแล้งไม่มีชีวิต ราวกับว่าไม่เคยมีใครเคยเหยียบย่ำมาตั้งตั้งแต่สมัยโบราณ

ภูเขาหลิงซานเหี่ยวเฉาไปแล้ว!

วัดโบราณที่ตั้งตระหง่านกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง ไม่มีพระอรหันต์อาศัยอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าโบราณ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดให้เห็นอีกต่อไป

การดำรงอยู่ของวัดโบราณนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพระพุทธศาสนามาถึงจุดเสื่อมโทรมโดยสมบูรณ์

สุดท้ายภายใต้การผลักดันของผู้พิทักษ์ธรรมทั้งแปด เย่ฟ่านก็ถูกผลักดันออกจากภูเขาหลิงซานโดยไม่สามารถสำรวจสิ่งใดได้มากนัก

……..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด