บทที่ 33 : ทะลุขีดจำกัด ขนส่งเสบียง
บทที่ 33 : ทะลุขีดจำกัด ขนส่งเสบียง
เงินตอบแทนที่กิลด์เคนัสมอบให้คือหนึ่งพันล้านวอน
ซังวูได้รับครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นมาก่อนเป็น 5,000 อัญมณีมูลค่า 500 ล้านวอนในทันทีที่เซ็นสัญญา
พัควอนแทดูจมอยู่กับความคิดในขณะที่เขามองดูซังวูและคังจุนโมเดินออกไปจากกิลด์พร้อมกับถุงที่บรรจุอัญมณี
' ฉันยิงนกสองตัวด้วยปืนนัดเดียวเพราะฉันสามารถทิ้งสิ่งของเบ็ดเตล็ดที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ไปได้ แต่ถึงอย่างนั้น...'
ท้ายที่สุดแล้ว ท่าทีดีใจของซังวูในขณะที่เขารับอัญมณีเหล่านั้นไปนั้นก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้รับความสูญเสียใดๆ เลย
นั่นเป็นเหตุผลที่พัควอนแทเอาแต่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อัญมณีไม่สามารถใช้กับคนได้ เห็นได้ชัดว่าเขาอาจจะพยายามใช้มันเพื่อเปลี่ยนร่างโคลนของเขาเอง”
อัญมณีถูกละเลยเนื่องจากมันมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใช้กับคนได้ และผลข้างเคียงจากการใช้ก็ทำให้ผู้ใช้กลายเป็นมอนสเตอร์ได้
“หรือของพวกนี้จะไม่ส่งผลข้างเคียวสำหรับเขา? หัวหน้าทีม 2 จับตาดูจองซังวูไว้”
หากการตัดสินของเขาถูกต้อง มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงในการจัดอันดับฮันเตอร์อย่างแน่นอน
* * *
ซังวูใช้อัญมณีทันทีที่เขากลับบ้าน
อัญมณีระดับต่ำสุดที่เขาได้รับมามีดังนี้:
───────────────
อัญมณีแห่งความแข็งแกร่ง: 1200
อัญมณีแห่งความว่องไว: 1,000
อัญมณีแห่งแรงกาย: 900
อัญมณีแห่งความอดทน: 800
อัญมณีแห่งมานา: 450
อัญมณีแห่งพลังฟื้นฟู: 650
───────────────
อัญมณีทั้งเจ็ดประเภทจัดเรียงอย่างประณีตในบรรจุภัณฑ์พลาสติก ถุงละ 100 ชิ้น
ซังวูหยิบถุงอัญมณีแห่งความแข็งแกร่งออกมาและใช้มันกับร่างโคลนของเขา
ในขณะที่หมายเลข 1 กินอัญมณีเข้าไปทีละชิ้น กล้ามเนื้อของหมายเลข 1 ก็พองโตและดูน่าขยะแขยงยิ่งขึ้น
ในเวลาเดียวกัน กล้ามเนื้อของซังวูก็เริ่มบวมเล็กน้อยเช่นกัน
นอกจากความรู้สึกแสบร้อนแล้ว บาดแผลเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นในกล้ามเนื้อของซังวู ถึงอย่างนั้นมันก็หายอย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ขึ้น เส้นใยกล้ามเนื้อแต่ละเส้นบิดเบี้ยวปูดโปนและแข็งแรงขึ้น
เขากำลังแข็งแกร่งขึ้น!
อย่างไรก็ตาม เมื่อร่างกายของเขาโตขึ้นมาแบบนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังเป็นหวัด
' อ้า มันเจ็บกว่าที่ฉันคิดไว้แหะ'
เขาเคยประสบเหตุการณ์นี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้มันก็รุนแรงเป็นพิเศษ
[ ระดับความแข็งแกร่งถึงขีดจำกัดของมนุษย์ 1 แล้ว ]
[ ระดับความแข็งแกร่งเกินขีดจำกัดแรกแล้ว ]
[ เลเวลสกิลเสริมแกร่งร่างโคลนเพิ่มขึ้น ]
ข้อความที่ปรากฎขึ้นมาในใจของเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้มันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น กล้ามเนื้อของซังวูที่โตขึ้นเหมือนนักเพาะกายเริ่มถูกบีบอัดลงทีละน้อย
เส้นใยกล้ามเนื้อแต่ละเส้นมีความเหนียวและถูกบีบอัดอย่างหนาแน่น
ซังวูกำหมัดแน่
ว้าว-
เขารู้สึกมั่นใจในพลังของเขา
' นี่คือพลัง!'
แม้ว่าค่าสถานะจะถึงแค่ 1 เท่านั้น แต่เขาก็ได้รับพลังมามหาศาลแล้ว
นี่คือขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา
' แต่มันยังไม่เพียงพอ!'
ซังวูป้อนอัญมณีให้ร่างโคลนของเขากินมากขึ้นไปอีก
ความแข็งแกร่ง ความว่องไว แรกงาย ความอดทน พลังฟื้นฟู มานา
มากขึ้น! มากขึ้นอีก! มากขึ้นกว่านี้อีก!
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของซังวูก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
อวัยวะภายในของเขาแข็งแรงขึ้น และกล้ามเนื้อหน้าท้องจางๆ ที่ซังวูมีก็ดูชัดเจนขึ้น
กล้ามเนื้อหน้าอกขยายใหญ่ขึ้นและโครงร่างของเขาก็ดูชัดเจนขึ้น แม้แต่กล้ามเนื้อหลังก็ยังค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นเช่นกัน
ไหล่และต้นขาของเขาพองเหมือนเสาหิน
ความสูงของซังวูเพิ่มขึ้นทีละน้อย และร่างกายของเขาก็กลายเป็นเหมือนรูปปั้นกรีกที่สร้างขึ้นมาอย่างประณีต
มีพัฒนาการเกิดขึ้นทั่วทั้งร่างกาย
ด้วยวิธีนี้ ซังวูจึงสามารถดูดซับอัญมณีทั้งหมด 5,000 เม็ดได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
เหตุผลที่เขาใช้เวลานานมากก็เพราะเขาจะสูญเสียการควบคุมร่างโคลนของเขาเมื่อเขาใช้อัญมณีมากกว่า 1,000 เม็ดในคราวเดียว
───────────────
[ ค่าสถานะ ]
• ความแข็งแกร่ง: 0.850 → 1.450
• ความว่องไว: 0.660 → 1.160
• แรงกาย: 0.791 → 1.241
• ความอดทน: 0.688 → 1.088
• มานา: 1.153 → 1.407
• พลังชีวิต: 0.336 → 0.339
• พลังฟื้นฟู: 0.423 → 0.774
───────────────
แม้แต่ในขณะที่ใช้อัญมณี ร่างโคลนก็ยังต้องออกไปล่าและฝึกฝน
ด้วยเหตุนี้เอง ตัวเลขจึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
' คงจะดีไม่น้อยหากมันเพิ่มเป็น 5.0 ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเลเวลของสกิลเสริมแกร่งร่างโคลนก็ยังต่ำอยู่ ดังนั้นมันจึงสะท้อนกลับมาเพียง 50% กว่าเท่านั้น...'
ถึงกระนั้น ค่าสถานะส่วนใหญ่ของเขาก็เกิน 1 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยสำหรับฮันเตอร์แรงค์ E ไปแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือพลังฟื้นฟู
เนื่องจากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงต้องตัดผมและโกนเคราบ่อยขึ้น แต่ก็อาจเป็นเพราะพลังฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน บาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาได้รับมาจึงหายสนิทภายในหนึ่งวัน
แต่เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น ร่างกายของเขาก็ต้องการสารอาหารเพื่อตอบสนองต่อการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ซังวูคิดในขณะที่เขากินอาหารเสริมโปรตีนและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ
' ตอนนี้ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น'
ตราบใดที่เขาเคลียร์ดันเจี้ยนแรงค์ E ได้สักสองสามครั้งและผ่านมาตรฐานของสมาคมได้ เขาก็จะสามารถเลื่อนแรงค์ได้โดยทันที
หลังจากกินข้าวและอาบน้ำในขณะที่คิดเรื่องต่างๆ ซังวูก็เริ่มแต่งตัว
เมื่อถึงคราวใส่เสื้อยืด เขาก็พบว่าเสื้อยืดของเขาฉีกขาดเล็กน้อย
นี่เป็นเพราะร่างกายของฉันโตขึ้นหรือเพราะฉันแข็งแกร่งขึ้นรึเปล่านะ?
' โอ้... ฉันเดาว่าฉันจะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่อีกครั้งแล้วสินะ'
เขาต้องการเวลาในการปรับตัวและทดลองร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของเขา
แต่กระนั้นเขาก็ไม่มีเวลา
เพราะวันนี้เป็นวันที่เราจะออกเดินทางไปยังหอคอยโอดิน!
* * *
หลังจากบินเป็นเวลาหลายสิบชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงไอซ์แลนด์
ที่นี่มีพอร์ทัลวัลฮาล่าที่นำไปสู่หอคอยโอดินตั้งอยู่
' มันใหญ่มาก!'
รัศมีความกว้างของมันคือ 1 กม.
พอร์ทัลนี้มีขนาดใหญ่กว่าพอร์ทัลปกติมาก มันตั้งอยู่เพียงลำพังในทุ่งหญ้ากว้าง
ซังวูรู้สึกทึ่งกับขนาดที่ใหญ่โตของมัน
ราวกับได้เห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันลึกลับและน่าตื่นตาตื่นใจ
“ไปกันเถอะครับ”
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีเวลาที่จะล่าช้า
ซังวูกลืนน้ำลายของเขาและติดตามคังจุนโมไปผ่านพอร์ทัลพร้อมกับสมาชิกกิลด์เคนัส
เมื่อเขาเดินผ่านพอร์ทัล สิ่งที่เขาเห็นก็คืออวกาศ
แท้จริงแล้ว จักรวาลก็เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดซึ่งมีดวงดาวระยิบระยับจำนวนนับไม่ถ้วน
“ห้ะ?”
มันคืออวกาศจริงๆ
ซังวูได้รับการเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในนี้อยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังแปลกใจมากอยู่ดี
“จะยังไงก็เถอะ แค่เราสามารถหายใจในนี้ได้ก็พอแล้ว”
ยูซีวูหัวหน้าทีมจู่โจมที่ 2 กล่าว
จากนั้นสิ่งรอบข้างก็ปรากฏให้เห็น
พื้นหินสีขาวทึบขนาดยักษ์กำลังลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขา
มันดูแบนมากราวกับว่ามีคนมาปรับระดับพวกมันเอาไว้
ขณะเดียวกัน หอคอยสีดำก็ตั้งอยู่บนพื้นหินสีขาวที่แตกร้าว
“นี่คือหอคอยโอดินสินะ”
หอคอยโอดิน
ในที่สุดเราก็มาถึงดันเจี้ยนที่เลวร้ายและเคลียร์ยากที่สุด
พวกเขาไปถึงทางเข้าชั้น 1 ที่ด้านล่างของหอคอยสีดำ
ทางเข้าถูกปกคลุมไปด้วยม่านของเหลวสีดำแวววาว
“นี่คือทางเข้าอย่างที่คุณเห็น...”
ยูซีวูขว้างก้อนหินไปที่ทางเข้า
อย่างไรก็ตาม หินก็จมเข้าไปในม่านของเหลวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะกระเด้งกลับขึ้นมา
“วัตถุธรรมดาไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม มันก็อนุญาตให้อุปกรณ์หรือสิ่งของสวมใส่ที่ติดอยู่กับมนุษย์สามารถผ่านเข้าไปได้ด้วย”
ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่สามารถส่งเสบียงเข้าไปได้เพียงลำพังได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราส่งทีมกู้ภัยไปพร้อมทรัพยากร มันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่แม้แต่ทีมกู้ภัยเองก็จะยังติดอยู่ในดันเจี้ยน
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากร่างโคลนของซังวู
ตอนนี้ถึงคราวของซังวูที่จะได้ออกโรงแล้ว
“เอาล่ะ... งั้นผมจะเข้าไปแล้วนะครับ”
หลังจากปักหลักเรียบร้อยแล้ว ซังวูก็ใช้สกิลแฟมิเลียกับหมายเลข 1 ที่มากับเขา
วิสัยทัศน์ของซังวูเปลี่ยนแปลงไปและเขาก็มองเห็นทุกสิ่งผ่านดวงตาของหมายเลข 1
ร่างกายของหมายเลข 1 ถูกห่อหุ้มด้วยชุดสูทกันหนาวหนาๆ ดังนั้นมันจึงให้ความรู้สึกค่อนข้างอบอุ่นและชื้นในเวลาเดียวกัน
เขาสั่งให้หมายเลข 1 ถือเป้ทรัพยากรและส่งเขาเข้าไปในหอคอยโอดิน
เมื่อเขาสัมผัสพื้นผิวของเหลวสีดำที่หน้าทางเข้า คราวนี้ หมายเลข 1 ก็จมหายเข้าไปในหอคอยโอดินพร้อมกับกระเป๋าเป้ของเขาได้โดยไม่มีการต่อต้านใดๆ
สกิลแฟมิเลียยังคงทำงานได้ภายในนั้น
มันเป็นความจริงที่ทราบกันดีอยู่แล้วเพราะซัมมอนเนอร์คนอื่นๆ เองก็เคยท้าทายหอคอยโอดินด้วยการทดลองใช้สัตว์อัญเชิญมาก่อนแล้ว
“สำเร็จ!”
หูของซังวูได้ยินเสียงเชียร์จากกิลด์เคนัส
ดูเหมือนพวกเขาจะมีความสุขมากที่หมายเลข 1 สามารถผ่านเข้าไปได้
' มาโฟกัสหน้างานกันดีกว่า'
เขาพยายามที่จะไม่ใส่ใจและมุ่งความสนใจไปที่วิสัยทัศน์ของหมายเลข 1
ภายในชั้นหนึ่งของหอคอยโอดินนั้นเรียบง่าย
มันเป็นทุ่งน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุด
แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เขาก็กลับไม่เห็นทางเข้าที่ควรจะอยู่ตรงนั้นเลย
' นี่คือสาเหตุที่ฉันไม่สามารถหลบหนีกลับออกมาได้งั้นสินะ'
แถมที่นี่ก็ยังหนาวเป็นบ้าเลย
แม้ว่าเขาจะสวมชุดกันหนาวแล้ว แต่หมายเลข 1 ก็ยังรู้สึกหนาวเย็นจนนิ้ว นิ้วเท้า หู จมูกและแขนขาของเขารู้สึกชาไปหมด
' เอาล่ะ หมายเลข 1 ดำเนินการตามแผน A'
จากนั้นหมายเลข 1 ก็รีบหยิบสิ่งของต่างๆ ออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา
บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับพลังใจของหมายเลข 1 แต่ร่างกายของหมายเลข 1 ก็ยังสั่นไหวในขณะที่เขาค้นหาผ่านกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา
ซังวูที่แบ่งปันความรู้สึกด้วยเองก็เจ็บปวดอย่างมากเช่นกัน
' อ้า...'
ซังวูเฝ้าดูหมายเลข 1 สร้างบังเกอร์แบบพกพาโดยใช้สิ่งของที่กิลด์เคนัสเตรียมเอาไว้ให้ เขาวางยาแก้พิษ ที่ทำความร้อนและเสบียงอาหารต่างๆ ไว้ที่นั่น
ประการแรก แผนแรกคือการจัดเตรียมสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ตำแหน่งทางเข้าให้เสร็จสมบูรณ์
หลังจากนั้น หมายเลข 1 ก็จะยิงพลุสัญญาณเพื่อแสดงให้เห็นการเข้ามา
ปิง- บูม!
ข้อความเวทย์มนตร์ถูกจารึกไว้บนท้องฟ้าสีขาวของบริเวณน้ำแข็งขั้วโลกซึ่งมีแสงสว่างแม้ว่าจะไม่มีดวงอาทิตย์ก็ตาม
[ ผู้รอดชีวิตจากกิลด์เคนัสจงไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น ]
ข้อความเวทย์มนตร์ที่เขียนด้วยภาษาเกาหลีส่องสว่างบนท้องฟ้า
หลังจากเงยหน้าขึ้นและยืนยันว่าพลุสัญญาณทำงานอย่างถูกต้อง หมายเลข 1 ก็เคลื่อนย้ายและเริ่มติดตั้งป้ายนำทาง
' ทำดีมาก ตอนนี้เราก็มาเริ่มการค้นหากันเลยดีกว่า'
ถึงตอนนี้ มันก็ถึงเวลาค้นหาผู้รอดชีวิตจากทีมจู่โจมที่ 1 แล้ว
แม้ว่าหิมะจะไม่ได้ตกหนัก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะหาผู้รอดชีวิตได้อย่างไรในสถานที่ซึ่งมีหิมะและน้ำแข็งสีขาวโพลนอยู่เต็มไปหมดแบบนี้
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงตัดสินใจที่จะก้าวตรงไปข้างหน้า
เมื่อเขาเดินผ่านระยะ 3 กม. ซึ่งเป็นระยะห่างสูงสุดของสกิลแฟมิเลีย เขาก็รู้สึกเหมือนการควบคุมของเขากำลังจะหยุดลง
มุมมองของเขาสั่นไหว..
' มาได้แค่นี้งั้นหรอ?'
ถึงเวลานำหมายเลข 1 กลับมาแล้ว
ขาของหมายเลข 1 เริ่มแข็งอย่างรวดเร็ว
' เอ่อ.. ห้ะ?'
จากนั้นร่างของหมายเลข 1 ก็หยุดนิ่งในทันที
เนื่องจากประสาทสัมผัสของเขาถูกแบ่งปันกับหมายเลข 1 ผ่านสกิลแฟมิเลีย ดังนั้นซังวูจึงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอันแสนสาหัสจากการที่ร่างกายของหมายเลข 1 แข็งตัวจนขยับไม่ได้
และในเวลานั้นเอง เงาประหลาดก็กระโดดออกมาและกระโจนเข้าใส่ร่างของหมายเลข 1
ตู้ม!
ร่างที่แข็งราวกับหินของหมายเลข 1 แตกสลายเป็นชิ้นๆ โดยทันที
“อ้าาา-!”
การมองเห็นของซังวูกลับมาสู่ร่างเดิมของเขา
ทันใดนั้น ซังวูก็หมอบลงและเริ่มตัวสั่นอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นดังนี้ สมาชิกกิลด์เคนัสที่รออยู่ใกล้ๆ ก็เดินเข้ามาดูอาการเขา
“หนาว…หนาว…”
ความเจ็บปวดอันสาหัสทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ
ความเจ็บปวดที่เขาประสบมาจนกระทั่งร่างโคลนของเขาถูกเรียกกลับทำให้ซังวูตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอยู่พักหนึ่ง
“เราประสบความสำเร็จในการเติมเสบียงแล้ว ดังนั้นเราออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ”
เมื่อเห็นซังวูหมดสติไป กิลด์เคนัสจึงตัดสินใจถอนตัวกลับไปก่อน
กลุ่มสนับสนุนซังวูและออกไปยังพอร์ทัลวัลฮัลลาตามลำดับที่สมบูรณ์แบบ
นั่นคือหลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว
ในชั้นหนึ่งของหอคอยโอดินซึ่งดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพื้นที่น้ำแข็งขั้วโลก
พื้นที่ว่างเปล่าจู่ๆ ก็ปรากฎรอยแตกและมีแสงแวววาวส่องออกมาจากภายในนั้น
จากนั้นใบหน้าเล็กๆ น่ารักก็โผล่ออกมาจากรอยแตกนั้น
เธอมองไปรอบๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ จากนั้นเธอก็หายตัวไปอีกครั้ง
สักพักรอยแตกก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
กลุ่มคนที่สวมเสื้อผ้ากันหนาวกระโดดออกมาจากที่นั่น
“ดูเหมือนว่าผู้พิทักษ์น้ำแข็งจะออกไปแล้วนะ”
“ขอบคุณพระเจ้า อ้า มันหนาวจัง”
“ไม่ว่าความต้านทานความเย็นของฉันจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับความหนาวเย็นนี้อยู่ดี”
“รีบไปกันเถอะ ไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง”
“ตกลง แล้ววันนี้เราจะไปทางไหนกันดีล่ะ?”
เข็มทิศไม่สามารถทำงานได้ภายในดันเจี้ยน
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาสัญชาตญาณของผู้นำโดยสิ้นเชิง
“เอ่อ...นั่นสินะ”
พัคยูน่าเริ่มมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าจะไปที่ไหนดี
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่องรอยสัญญาณที่ยิงออกมาโดยหมายเลข 1 บนท้องฟ้าก็ได้หายไปหมดแล้ว
ในไม่ช้า พัคยูนาก็เลือกเส้นทางหนึ่ง
น่าเสียดายที่เส้นทางนี้อยู่ตรงกันข้ามกับตำแหน่งเริ่มต้นซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดส่งเสบียง
“สำหรับตอนนี้ เราไปทางนี้กันเถอะ”
พวกเขาเริ่มเดินผ่านภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งอย่างเงียบๆ
พวกเขาก้าวไปหนึ่งก้าว สองก้าว
เครื่องหมายกิลเคนัสถูกสลักไว้อย่างชัดเจนบนเสื้อผ้าฤดูหนาวของพวกเขา
พวกเขาดูเหนื่อยล้ามากหลังจากเดินวนไปมาในชั้น 1 อยู่เป็นเวลานาน
* * *
หลังจากส่งเสบียงไปยังหอคอยโอดินเสร็จแล้ว
ซังวูก็ส่งร่างโคลนของเขาไปที่หอคอยโอดินอยู่อีกหลายครั้ง
อาจเป็นเพราะร่างโคลนของเขาได้สัมผัสกับความหนาวเย็นของชั้นหนึ่ง ดังนั้นค่าสถานะความต้านทานความหนาวของเขาจึงถูกปลดล็อค
อย่างไรก็ตาม ตามที่คาดไว้ การพัฒนานี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก
ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากส่งเสบียงเข้าไปวันละครั้งเป็นเวลา 10 วัน กิลด์เคนัสก็ตัดสินใจถอนตัวกลับมา
หลังจากนั้น ซังวูก็เดินทางกลับเกาหลี
จากนั้นเขาก็ไปพบพัควอนแทโดยทันที
“สถานการณ์ภายในชั้นหนึ่งของหอคอยโอดินตรงกับข้อมูลที่เราได้รับมา มันถูกคุ้มกันโดยมอนสเตอร์ที่เรียกว่า ‘ผู้พิทักษ์น้ำแข็ง’”
“ใช่ครับ ถ้าผมแข็งแกร่งกว่านี้ ผมก็คงจะได้เห็นมัน แต่น่าเสียดายที่ผมมองไม่เห็นมันเลย”
“แล้วมีร่องรอยของทีมจู่โจมที่ 1 บ้างไหมครับ?”
“ ไม่เลยครับ
ซังวูส่ายหัว
“ถ้างั้น...”
พัควอนแทถอนหายใจ
' เขาเคยบอกว่าน้องสาวของเขาติดอยู่ข้างในนั้นใช่ไหมนะ.. เวรเอ้ย'
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาอยากจะช่วยมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังอ่อนแอมากเกินไป
นอกจากนี้ เขาก็ยังไม่สามารถช่วยน้องสาวของเขาเองได้ด้วยซ้ำ
นับตั้งแต่เขาให้สัญญากับตัวเองมา ซังวูก็พยายามอย่างเต็มที่มาโดยตลอด
“นั่นคือทั้งหมดที่ผมรู้ หากคุณต้องการความช่วยเหลืออีกครั้ง โปรดติดต่อผมมาได้เลยครับ สัญญายังคงมีผลอยู่ และผมก็ยินดีที่จะช่วย”
ซังวูกำลังจะลุกขึ้นในทันทีที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลจบลง
“คุณจองซังวูครับ รอสักครู่ มันยังไม่จบครับ”
“ครับ?”
พัควอนแทพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ยังมีการฝึกสอนเหลืออยู่ตามเงื่อนไขของสัญญานะครับ ผมจะช่วยฝึกคุณให้เอง”
พัควอนแทมองซังวูด้วยสายตาจริงจัง
เขารู้ดีว่าความหวังเดียวของกิลด์เคนัสหรือความหวังเดียวในการช่วยน้องสาวของเขากลับมาก็คือจองซังวู
' ผมจะขัดเกลาคุณให้เป็นดาบชั้นเลิศให้ได้'
พัควอนแทตัดสินใจทุ่มสุดแรงของเขา
เขาจะยกระดับซังวูให้เก่งขึ้นไปอีกขั้นให้จงได้!