ตอนที่แล้วบทที่ 18 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18.2 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์

บทที่ 18.1 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์


บทที่ 18.1 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์

3 – สองวิธีใหญ่ในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่

นักเขียนจำนวนมากจะบอกว่ามีนวนิยายออนไลน์ออกมามากมายแล้วตอนนี้ ทำให้การเขียนงานที่เป็นต้นแบบแท้จริงนั้นทำได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อคุณเห็นว่านิยายทั้งหมดมีแต่ความซ้ำซากเหมือนๆ กันหมด นั่นเป็นเพราะนักเขียนถูกสถานการณ์แห่งความเป็นจริงบังคับให้ต้องทำอย่างนั้น ไม่ใช่ความผิดพลาดของนักเขียนทั้งหมดแต่อย่างใด

แต่ความจริงมันเป็นอย่างนี้หรือ? เขียนงานที่เป็นต้นแบบแท้จริง เลือกทางทำงานที่ไม่ปกติ มันยากขนาดนั้นเลยหรือ? นักเขียนมืออาชีพกล่าวว่า นั่นไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริงหรอก

ก่อนอื่นเราต้องเปลี่ยนวิธีคิดเสียก่อน การเขียนบางสิ่งใหม่ที่ไม่ซ้ำซากมันมีแนวคิดแตกต่างจากการสร้างบางสิ่งที่ยังไม่มีใครเคยเขียนมาก่อน ไม่อย่างนั้น ไม่ใช่แค่นิยายออนไลน์เท่านั้น มีหนังสือนิยายเรื่องไหนในตลาดที่ไม่เคยใช้ไอเดียของนิยายเรื่องอื่นเลยตั้งแต่มีนวนิยายกำเนิดขึ้นบ้างไหม? และมันไม่สำคัญเลยว่าจะเป็นแนวการเดินทางข้ามเวลา การกลับชาติมาเกิด การเหาะเหินเดินอากาศ ตะลุยโลกใต้พิภพ ผีสางนางฟ้า เวทมนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย แนวคิดเหล่านี้ยังไม่มีการเอาไปเขียนเรื่องโดยนักเขียนรุ่นก่อนหน้าหรอกหรือ?

หากคุณยังไม่ได้อ่านมัน นั่นเป็นเพราะคุณยังไม่รู้เกี่ยวกับมัน ไม่ได้หมายความว่ามันไม่เคยถูกเขียนมาก่อน

แม้ว่าคุณยังไม่เคยอ่านมัน เขาและเธอยังไม่เคยอ่านมัน และทุกคนที่คุณรู้จักไม่เคยอ่านมัน นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีตัวตนอยู่ บางที นักเขียนรุ่นเก่าบางคนได้เขียนไว้แล้ว และอาจวางให้ฝุ่นเกาะอยู่ในห้องสมุดหรือพิพิธภัณฑ์บางแห่งก็เป็นได้

แต่เป็นเรื่องของใครเป็นคนเขียนก่อนหรือไม่ มีความสำคัญมากจริงหรือ? ตราบใดที่คุณและผู้อ่านยังไม่เคยอ่านเรื่องอย่างนั้นมาก่อน จะไม่นับว่ามันเป็นเรื่องต้นแบบแท้จริงสำหรับคุณหรือ?

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเข้าใจว่า ต้นแบบแท้จริงนั้น มันไม่ใช่แท้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างขึ้นอยู่กับปัจจัยเกี่ยวข้องด้วย ตราบใดที่ไอเดียที่เราใช้เขียนไม่ธรรมดาเกินไป และไม่มีนักเขียนอื่นเอาไปเขียนบ่อยนัก นั่นหมายความว่ายังมีผู้อ่านรู้เรื่องนี้น้อยอยู่ เรื่องจึงยังมีความรู้สึกถึงความเป็นต้นแบบแท้จริงอยู่ระดับหนึ่ง

เมื่อเราสรุปได้แน่ใจและชัดเจนแล้ว ว่าเราจะเอาความเป็นต้นแบบแท้จริงไปใช้อย่างไร กระบวนการเข้าถึงต่อไปมีวิธีการอยู่สองระดับ

ระดับแรกควรจะเรียกมันว่า การสร้างสรรค์หลัก หรือการสร้างสรรค์โดยรวม นี่คือรากฐานของการสร้างเส้นทางใหม่ให้หัวข้อและแนวคิดของการแต่งเรื่อง

โดยทั่วไปแล้ว ทุกแนวเรื่องใหม่และสไตล์การเขียนแบบใหม่ที่ปรากฏ จะขึ้นอยู่กับการใช้ความสร้างสรรค์หลักช่วยผลักดันให้งานเดินหน้าไป และสิ่งนี้ต้องการการจุดประกายแรงบันดาลใจที่ต้องได้รับอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่ต้องไปหามัน พวกเรานักเขียนส่วนใหญ่จะขาดความสามารถนี้ และแม้กระทั่งนักเขียนผู้ซึ่งค้นพบแนวเรื่องประเภทใหม่ ถ้าถามเขาเพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจครั้งที่สองหลังจากครั้งแรก มันยากที่จะเกิดขึ้นทีเดียว

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่ไม่ใช่เส้นทางธรรมดาที่เราควรใช้ในสถานการณ์ปกติ

ระดับที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับระดับแรก เราจะเรียกระดับนี้ว่า การสร้างสรรค์น้อย หรือการสร้างสรรค์บางส่วน วิธีนี้ไม่ใช่ต้องการอะไรที่เป็นรากฐานเรื่องใหม่เอี่ยม แต่คุณควรพุ่งความสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหนึ่งหรือสามสี่จุด

โดยทั่วไป ตัวอย่างที่แสดงได้ดูก่อนหน้าคือแบบสร้างสรรค์น้อย บางทีคุณได้อ่านเรื่องจากนักเขียนที่กำลังจะเดินทางข้ามมิติกลับไปอดีต ไปสู่สมัยราชวงศ์หมิง และกลายเป็นจักรพรรดิ คุณอาจเขียนเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติกลับไปสู่สมัยราชวงศ์ซ่ง และกลายเป็นขุนนางผู้ชั่วร้าย การเปลี่ยนแบบนี้ ไม่ต้องการความสร้างสรรค์ที่น่าตื่นตะลึงมากมายแต่อย่างใด ที่จริงแล้วมันแทบจะพูดได้ว่า ใครก็สามารถคิดแบบนี้ได้ แต่มันก็ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งไปสู่หัวข้อใหม่ และเราต้องการความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแบบนี้เช่นกัน

เห็นได้ชัดว่านี่คือวิธีธรรมดาในการสร้างความเป็นต้นแบบแท้จริง และเป็นวิธีคิดที่เราจำเป็นต้องมีเช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องออกแบบสินค้าใหม่หมดจด สิ่งที่จำเป็นคือเราดัดแปลงและปรับปรุงสินค้าที่มีอยู่แล้ว และเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้มัน หรือแม้กระทั่งทำให้มันกลายเป็นสินค้าอีกแบบอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น ถ้างูหางกระดิ่งดวงตาสีทองคำสองหัว รับบทเป็นสัตว์ร้ายในเรื่อง เราอาจเปลี่ยนสี จำนวน อวัยวะภายนอก และสายพันธุ์ เปลี่ยนมันจนกลายเป็น อีแร้งสามกรงเล็บจะงอยปากสีม่วง

แน่นอนว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่ตัวอย่างที่เหมาะสมนัก นั่นเป็นเพราะในนิยายออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ไม่สำคัญที่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนจริงๆ แต่การเปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม ไม่ช่วยให้เรื่องกลายเป็นเรื่องใหม่ได้เสมอไป

ตัวอย่างเช่น หากคุณได้อ่านนิยายเรื่องหนึ่ง มีตัวละครหลักอายุ 23 ปีชื่อจ้างซัน แล้วคุณเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวละครอายุ 22 ปีชื่อหลี่ซือ การทำอย่างนี้ไม่นับว่าเป็นต้นแบบแท้จริงแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะการเปลี่ยนเช่นนี้ จะไม่ทำให้รากฐานของพล็อตเรื่องเกิดความแตกต่างออกไปจากเดิม

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว การเปลี่ยนจากรากฐานมันคืออะไรกันแน่ และอะไรที่นับได้ว่าคือการสร้างสรรค์ต้นแบบแท้จริง? เรามาหาคำตอบกันต่อไปได้เลย

4 – การสร้างสรรค์แท้ และการสร้างสรรค์เทียม

ในหัวข้อที่แล้วเราได้พูดถึงเรื่องการสร้างสรรค์บางส่วน ในการเขียนนิยายออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรตั้งใจทำเวลาเขียนเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม เราจะแยกการสร้างสรรค์บางส่วนออกจากการสร้างสรรค์เทียมได้อย่างไร?

ที่จริงแล้วมันง่ายทีเดียว เราสามารถแยกแยะมันได้อย่างง่ายโดยใช้ การแทนที่ แล้วมันหมายความว่าอย่างไร มันคือวิธีการนำองค์ประกอบใหม่ที่คุณต้องการเปลี่ยน แทนที่องค์ประกอบเดิมในเรื่องที่คุณยืมไอเดียมาจากเรื่องอื่น หากเรื่องสามารถดำเนินไปได้เหมือนเดิมโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างนั้นมันคือการสร้างสรรค์เทียม แต่ถ้าเรื่องหยุดทำงาน ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ต้องมีการเปลี่ยนพล็อต นั่นแหละคือการสร้างสรรค์บางส่วน และยิ่งเปลี่ยนแปลงเยอะเท่าไร ก็หมายถึงความเป็นต้นแบบแท้จริงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ได้ยกตัวอย่างตัวละครหลักอายุ 23 ปีเปลี่ยนเป็น 22 ปี จะไม่นำความเปลี่ยนแปลงมาให้รากฐานของเรื่องเลย สิ่งนี้สามารถมองเห็นได้จากวิธีการแทนที่อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันคือการสร้างสรรค์เทียม

แต่ถ้าจะใช้การเปลี่ยนอายุตัวละครหลักให้เกิดผล หากคุณเปลี่ยนจาก 23 เป็น 73 ปี และสภาพเหตุการณ์ในเรื่องคือนิยายสมัยใหม่ อย่างนั้นแล้วคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงพล็อตเยอะเลยทีเดียว และถ้าเปลี่ยนอายุเป็น 373 ปีแทน อย่างนั้นจะต้องเปลี่ยนประเภทของนิยายไปเป็นไซ-ไฟ แฟนตาซีตะวันออก ยุคโบราณ หรืออื่นๆ เลยทีเดียว และหลังจากเปลี่ยนทุกอย่างดังที่กล่าวแล้ว หากเรื่องดำเนินไปได้ด้วยดี นั่นแสดงว่าคุณทำการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับเรื่องแล้ว

สำหรับเงื่อนไขที่คล้ายกัน การเปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครหลักในเหตุการณ์ทั่วไป ส่วนมากจะไม่กระทบพล็อตเรื่อง เปลี่ยนชื่อจ้างซันเป็นหลี่ซือ หรือเทเลอร์เป็นไทเลอร์ ปกติแล้วจะไม่กระทบพล็อต ซึ่งมันถือเป็นการสร้างสรรค์เทียม

แต่มีบางกรณีในสถานการณ์สุดขั้ว เช่น ชื่อของตัวละครหลักมีอิทธิพลต่อพล็อตเรื่องอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครหลักของเรื่องมีชื่อเหมือนกันกับชื่อของบุคคลมีชื่อเสียง แล้วก่อให้เกิดเหตุการณ์ความเข้าใจผิดต่อเนื่องไป ส่งผลให้เขาได้รับปาฏิหาริย์โชคลาภในชีวิต ถ้าเราเปลี่ยนชื่อของตัวละครหลัก แม้ว่าเราจะใช้เลียนแบบเรื่องนี้ทุกอย่าง และใช้เทคนิคเดียวกันในการให้ตัวละครหลักได้ประสบชะตากรรมความเข้าใจผิดเดียวกัน ในเรื่องใหม่จะมีความแตกต่างจากเรื่องต้นฉบับมากทีเดียว เพราะใช้บุคคลมีชื่อเสียงแตกต่างกันเป็นเหตุแห่งความเข้าใจผิด ด้วยผลลัพธ์อย่างนี้เรื่องจึงมองได้ว่ามีความเป็นต้นแบบแท้จริงในระดับหนึ่ง

อีกทั้งเรื่องการเปลี่ยนตัวแปรความได้เปรียบที่ใช้ บางทีเรื่องต้นแบบคือตัวละครหลักเป็นคนมีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ และเกิดมาพร้อมกับร่างกายใหญ่โตแข็งแรงกว่าใคร และมีความสามารถฝึกฝนวิชาก้าวหน้าอย่างเร็วเป็นสิบเท่า หากเราสามารถสร้างตัวละครหลักผู้ซึ่งครอบครองวัตถุโบราณที่ช่วยในการฝึกฝนวิชาของเขาให้เร็วขึ้นเป็นสิบเท่าของอัตราปกติ สิ่งนี้ไม่ได้มีรากฐานที่แตกต่างจากเดิม การเปลี่ยนเช่นนี้ ปัจจัยในพล็อตต้นแบบยังคงอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นี่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ทั้งหมดเป็นการสร้างสรรค์เทียมอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่ามันดูเหมือนคุณจะทำการเปลี่ยนขนานใหญ่ต่อพล็อตต้นแบบ เช่นการให้ตัวละครหลักมีเคล็ดลับในการฝึกวิชาเร็วขึ้น หรือสามารถเข้าไปในมิติพิเศษที่เวลาเดินช้าลงสิบเท่า ทำให้เขาสามารถฝึกฝนวิชาในนั้นนานเป็นสิบวัน ในขณะที่ข้างนอกผ่านไปเพียงแค่วันเดียว อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนมากว่า ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนวิธีการฝึกวิชาเป็นแบบใด พล็อตเรื่องต้นแบบไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงยังเป็นการสร้างสรรค์เทียมอยู่

แต่ถ้าเราเปลี่ยนพลังความได้เปรียบ เขียนให้เขามีความสามารถใหม่เพิ่มเข้าไป เช่นสามารถล่องหนได้ แทนการเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกฝนวิชา แบบนี้จะเปลี่ยนเรื่องราวแน่นอน บางทีตัวละครหลักใช้วิชาล่องหนไปแอบดูคนที่กำลังอ่านตำราเคล็ดลับสุดยอดวิชา หรือแอบดูอาจารย์ยอดฝีมือกำลังฝึกฝนวิชาให้ลูกศิษย์ของเขา บางทีเขาอาจล่องหนเพื่อดูการต่อสู้ที่รุนแรงของยอดฝีมือ หรือเขากลายเป็นโจรขโมยทรัพย์สมบัติและวัตถุโบราณ... เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนดังกล่าวนี้ไม่ได้มีในพล็อตเรื่องต้นแบบ ทำให้การเปลี่ยนแปลงแบบนี้เป็นการสร้างสรรค์แท้จริงบางส่วน

หลังจากได้ให้ตัวอย่างไปหลายครั้งแล้ว หวังว่าพวกเราทุกคนคงได้เห็นความแตกต่างระหว่างการสร้างสรรค์แท้จริงบางส่วน และการสร้างสรรค์เทียมแล้ว

ว่ากันตามธรรมดาแล้ว การกำหนดคุณลักษณะชั้นนอกใดๆ หรือชื่อตัวละครต่างๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างสรรค์เทียม ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปลี่ยนพลังภายในเป็นแก่นแท้ลึกลับ พลังเวทมนตร์เป็นพลังจิตวิญญาณ ฝึกฝนวิชาเพื่อเป็นอมตะ ไปเป็นฝึกฝนวิชาให้ถึงระดับเซียน เปลี่ยนขั้นฝีมือของนักสู้ระดับเงินและระดับทอง ไปเป็นระดับราชาและระดับจักรพรรดิ...

ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายดายเพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์แท้จริงบางส่วน โดยทั่วไปคือการปรับปรุงผลลัพธ์ของตัวแปรความได้เปรียบ สภาพของโลกเบื้องหลังในเรื่อง บุคลิกของตัวละครหลัก ภูมิหลัง และอื่นๆ

แน่นอนว่าไม่มีความแน่นอนที่สุดต่อทุกสิ่ง คุณควรจะตรวจสอบโดยใช้วิธีการแทนที่เนื้อเรื่องในส่วนที่ต้องการเปลี่ยน แล้วตรวจดูว่า คุณกำลังสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาหรือไม่

บทความต่อไป เราจะพูดคุยถึงวิธีการสร้างความสร้างสรรค์บางส่วน

.................................................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด