ตอนที่ 34 พี่ชายบริสุทธิ์
เช้าวันต่อมา เย่อันผิงตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและตกใจที่พบว่ามีสาวสวยนอนข้างเขา เขาตัวแข็งก่อนจะจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน
ไป่เยวี่ยซินกำลังนอนยิ้มหวาน ไม่มีใครรู้ว่านางฝันอะไร
พอมองริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยของนาง เย่อันผิงก็รู้สึกร้อนรุ่มและอยากจูบนาง
แต่เขาตระหนักว่านี่เพราะกลิ่นกายของนาง ซึ่งกระตุ้นสมองของเขาให้เกิดอารมณ์
ไม่ว่าจะเป็นชายหน้าไหน ถ้ามีสาวสวยนอนข้างๆ แม้กระทั่งท้องฟ้าก็ยังหวั่นไหว
“ข้าก็อายุเยอะแล้ว…เห้อ..”เวลานี้ เย่อันผิงรู้สึกคอแห้ง เขารู้สึกตุงๆ
ดูเหมือนน้องชายเขาจะตื่น
พอมองน้องชายเขา เขาไม่รู้สึกประหม่าหรือแปลกใจ..แต่กลับหวนระลึกถึงอดีต นี่คือการตื่นตัวยามเช้าครั้งแรกตั้งแต่เขามาโลกนี้
เขาจำได้ว่าเรื่องแบบนี้โดยปกติมักจะเกิดขึ้นกับเด็กชายอายุประมาณ 14 ขึ้นไป เป็นสัญญาณถึงการแตกหนุ่ม..
เย่อันผิงลุกออกจากเตียง เดินไปหลังสวน และเริ่มร่ายรำเพลงหมัดเพื่อระงับฮอร์โมนส่วนเกินที่หลั่งในสมองเขา
แต่ตอนเขาฝึกถึงกระบวนท่าที่สาม ทันใดนั้น กระบี่บินสองเล่มก็พุ่งทะลุเข้ามา
เย่อันผิงไม่ได้สนใจในตอนแรก คิดว่าคงเป็นศิษย์ที่บินผ่าน แต่จู่ๆก็บินวนกลับมาและตรงมาทางสวนของเขา
เขาเลิกคิ้ว สงสัยว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า แต่สองวันที่แล้ว เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากถามถึงสำนักดาวดำและตกแต่งร้าน
ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงไป่เยวี่ยซินที่ยังหลับ และรีบวิ่งกลับไปห้องนอน
น่าเสียดาย เขาไม่เร็วพอ
พอเขาแตะประตูห้องนอน มือก็กดบนไหล่เขา
“น้องชาย’
“..”
เย่อันผิงหันไปมองด้านหลังเขา ที่จับไหล่เขาเป็นผู้บ่มเพาะกระบี่ชาย ศิษย์ของยอดเขาเมฆาสวรรค์และข้างเขาคือศิษย์หญิงที่มีกระบี่บนหลัง
เขาเม้มปาก รีบประสานมือและถาม“ผู้อาวุโส มีเรื่องอะไรหรือ?”
ชายคนนั้นสำรวจเขา คารวะกลับและถาม“ข้าขอถามได้ไหม ศิษย์น้องไป่มาเจอเจ้าหรือเปล่า?”
พวกเขามาหาไป่เยวี่ยซินจริง เย่อันผิงรู้สึกลำบากใจ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ เขาต้องบอกความจริง
“มาขอรับ”
ชายคนนั้นเลิกคิ้ว สบสายตากับหญิงสาวด้านหลังเขาและถาม“แล้ว นางยังอยู่กับเจ้าหรือเปล่า?”
เย่อันผิงรีบคิดและเชิญพวกเขาไปโถงบำบัด
ไม่ว่ายังไง สองคนนี้ก็ต้องห้ามเข้าห้องนอนเขา
ไม่งนั้น พวกเขาจะเห็นไป่เยวี่ยซินนอนบนเตียงเขาและมันจะอธิบายลำบาก
“ผู้อาวุโส เชิญนั่งตรงนี้กันก่อน ข้าจะไปเรียกพี่สาวไป่มา”
แต่ มันราวกับสวรรค์กลั่นแกล้งเขา ตอนนั้นเอง จู่ๆประตูห้องนอนก็เปิดออก
ไป่เยวี่ยซินดูเหมือนจะได้ยินเสียงและตื่น แต่พบว่าหมอนมนุษย์ของนางหายไป นางเลยอยากออกมาหา จากนั้นก็ดันมาเจอสองคนนี้
ชุดนางไม่เรียบร้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตายังดูงัวเงีย ไหล่นางเผยมาครึ่งหนึ่ง
ตอนศิษย์ชายเห็นนาง เขาก็รีบลบตาอายๆ ส่วนหญิงสาวก็ปิดปากด้วยสีหน้าตะลึง ดวงตามองสลับไปมาระหว่างไป่เยวี่ยซินกับเย่อันผิง
ไป่เยวี่ยซินสะดุ้งหลังเห็นทั้งสอง
นางหน้าแดง รีบสวมชุดให้เรียบร้อยและถามอย่างอ่อนแรง“ศิษย์พี่เฉิน..ศิษย์พี่หลิว ได้ยังไง..”
หญิงสาวแซ่หลิวถอนหายใจโล่งอก ก้าวมา”ศิษย์น้องไป่ ทำไมถึงหนีออกจากสำนักโดยไม่พูดอะไร?เราไปบ้านเจ้าตอนเช้าและพบจดหมายเจ้า และเราก็เป็นห่วงมาก เราเลยออกมาหาเจ้า’
นางนำจดหมายออกมาและส่งให้ไป่เยวี่ยซิน“ศิษย์น้องไป่ ข้าเก็บจดหมายอำลาของเจ้าไว้ อาจารย์ยังไม่เห็น เจ้าก็ทำเกินไป มันก็แค่ทดสอบกระบี่?เจ้าแพ้แล้วไง?ทำไมเจ้าถึงอยากออกสำนักเพราะเรื่องนี้?”
“คือ..”ไป่เยวี่ยซินรับมันมาและพยักหน้า“ข้า..”
“เจ้าก็รู้ว่าคนอื่นต้องพยายามกันแค่ไหนเพื่อเข้าร่วมสำนักดาวดำ แต่เจ้ากลับยังอยากไป”
หลังคิดได้ ไป่เยวี่ยซินก็รู้สึกแปลก นางถาม“แล้วรู้กันได้ไงว่าข้าอยู่ที่นี่?”
“คือ..”ศิษย์พี่หลิวยิ้มแห้ง โน้มตัวไปใกล้หูนาง และกระซิบ“เมื่อสองวันก่อนที่สำนักงานตลาด เจ้าอยู่ในห้องรับรองกับเด็กหนุ่มคนนั้น..อะแฮ่ม”
“แล้ว..”
“ข้าเลยสงสัยว่าเจ้าจะมาหาเขาที่นี่ ข้าเลยมากับศิษย์พี่เฉินเพื่อดู ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะอยู่จริง เจ้ามักจริงจังเสมอ แต่มันกลายเป็นว่าเจ้าก็มีด้านที่กล้า”
“ห้องรับรอง..”ไป่เยวี่ยซินคิดและนึกถึงฉากที่เย่อันผิงนวดฝ่าเท้าให้นางตอนเขามาขอยื่นแบบคำขอเปิดร้าน นางรีบโบกมือและพูด“ไม่ พี่หลิว ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ากับเขา..”
“ไม่เป็นไร เรารู้ความสัมพันธ์ของเจ้า”
“รู้..กันหมด?”
“ใช่ เราไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ไม่ต้องห่วง เราจะไม่บอกอาจารย์ เรายังอิจฉาเจ้าด้วยที่หาคู่บ่มเพาะได้”
หลังพูด พี่สาวหลิวก็เหลือบมองเย่อันผิงและยิ้ม“จริงๆแล้ว สหายน้อยผู้นั้นก็ผิวดี สะอาดและหน้าตาดีไม่เบา แต่เขายังเด็กไปหน่อย”
“เอ่อ..”ๆไป่เยวี่ยซินดูวิตก แต่ก็เถียงไม่ออก
หลังคิด นางก็เหลือบมองเย่อันผิงใหม่และพยักหน้า
“ใช่ ก็อย่างที่รู้กัน..เขาเป็นคู่บ่มเพาะของข้า”
“???”ทันใดนั้น เย่อันผิงที่ฟังบทสนทนาก็มีเครื่องหมายคำถามผุดบนหัว
ไป่เยวี่ยซินเมินเขา“พี่หลิว เรื่องเมื่อวานเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรออกมาอย่างกะทันหัน”
“ไม่เป็นไร การโดนซัดตกลานต่อหน้าคนมากมาย อย่าว่าแต่เจ้าเลย เป็นข้าก็คงหดหู่ไปหลายวัน”พี่สาวหลิวยิ้มและดึงไป่เยวี่ยซินไปทางห้องกายภาพ“ว่าแต่ คู่หูน้อยของเจ้าเปิดร้านในตลาดจริงๆรึ?เขาขายอะไร?”
“เขาทำกายภาพบำบัด?”
“กายภาพบำบัด?มันคืออะไร?”
“ข้าจะขอให้เขาช่วยทำให้ มันสบายมากจนพวกท่านจะต้องกลับมาซ้ำแน่หลังได้ลอง”
“ได้สิ”
ศิษย์ชายโบกมือและยิ้ม”ข้าไม่ต้องการ’
ไป่เยวี่ยซินรีบพูด“พี่เฉิน ท่านก็ควรลองด้วย มันดีต่อการบ่มเพาะมาก ให้ผลดีกว่าเม็ดยาซะอีก มันไม่แพงด้วย”
“ดีต่อการบ่มเพาะ?”ศิษย์พี่เฉินเลิกคิ้วและมองเย่อันผิงที่รู้สึกเขินอาย“สหายน้อย ข้าไม่เคยได้ยินคำว่ากายภาพบำบัดมาก่อนเลย”
เย่อันผิงมองไป่เยวี่ยซินอย่างพูดไม่ออก แต่คิดถึงมัน ทั้งสองคือศิษย์สายใน และก็สามารถช่วยเขาโฆษณาได้
หลังคำนวณส่วนได่ส่วนเสีย เขาก็พยักหน้า“ผู้อาวุโส พวกท่านจะรู้เมื่อได้ลอง ราคาเดิมคือห้าสิบหินปราณ แต่ในเมื่อพวกท่านเป็นสหายของพี่สาวไป่ ข้าจะลดให้20%!”
“40หินปราณ?ไม่ถูกเลยนะ”พี่เฉินแซว“ข้าสามารถตกลงได้ แต่ถ้ามันไม่ได้ผล ข้าจะไม่จ่าย”
“ไม่ต้องห่วง มันได้ผลแน่..พวกท่านสองคนนั่งรอกันก่อน ข้าจะไปเตรียมตัว”
ทั้งสองพยักหน้าและตรงไปห้อง
หลังส่งทั้งสองเข้าห้องดว้ยรอยยิ้ม เย่อันผิงก็มองไป่เยวี่ยซินด้วยสีหน้าสับสนและถาม“พี่สาวไป่ ทำไมถึงบอกพวกเขาว่าข้าเป็นคู่บ่มเพาะของท่าน?”
“อา..”ไป่เยวี่ยซินหน้าแดงและหัวเราะ“เจ้าอาจไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคู่บ่มเพาะสินะ?ขอข้าอธิบาย..”
“..”
“คู่บ่มเพาะคือการที่คนที่มีเพศตรงข้ามกันหลับนอนบนเตียงเดียวกัน”ไป่เยวี่ยซินอธิบายด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ“งั้น ตอนนี้ เราก็ถือเป็นคู่บ่มเพาะกัน”
“..”
เย่อันผิงถอนหายใจและตอบ“พี่สาวไป่”
“หือ?อะไรเหรอ?”
“ข้ารู้ว่าคู่บ่มเพาะคืออะไร และรู้ว่าการบ่มเพาะคู่คืออะไร อย่าคิดว่าแค่เพราะข้าดูเด็กแล้วข้าจะไม่รู้อะไร”
“โอ้..”ไป่เยวี่ยซินหน้าแดง
“พี่สาวไป่..”เย่อันผิงหรี่ตา“อย่าบอกข้านะว่าท่านชอบข้า?”
“อา..?ใครชอบเจ้า..”ไป่เยวี่ยซินตกใจและรีบเปลี่ยนเรื่อง“เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ ดูสิ ข้าพาแขกสองคนมาให้เจ้าไม่ใช่เหรอ?”
“..”
“รีบเตรียมตัวเร็ว ตอนข้ากลับสำนัก ข้าจะแนะนำร้านเจ้าให้สหายของข้า ข้าจะพาพวกเขามาที่นี่ในอนาคต จากนั้น เจ้าจะมีลูกค้าเพิ่ม และมันจะช่วยเจ้าได้เยอะ”
“งั้น อย่าบอกคนว่าข้าเป็นคู่บ่มเพาะของท่าน”เย่อันผิงมองนาง“อย่าลืมอธิบายผู้อาวุโสทั้งสองด้วย บอกให้ชัดว่าเราบริสุทธิ์”
“ก็ได้ ข้าจะอธิบายทีหลัง”
“อย่ารอกลับไปอธิบายทีหลัง อธิบายเลย’
“ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะอธิบายเลย!”
“ดี!”
เย่อันผิงถอนหายใจและเดินไปห้องนอนเพื่อเปลี่ยนชุด
พอมองหลังเขา ไป่เยวี่ยซินก็ยิ้มและเดินไปห้องบำบัดเพื่อคุยกับศิษย์พี่ของนาง