ตอนที่แล้ว1314 - เส้นทางสิ้นสุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1316 - พบพระพุทธเจ้าปลายทาง

1315 - ผู้ที่พบกับความล้มเหลว


1315 - ผู้ที่พบกับความล้มเหลว

ภูเขาโบราณพองตัวและรัศมีแห่งความเย็นก็แผ่ซ่านออกไปทุกที่ เย่ฟ่านและคนอื่นๆ รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้เดินทางสู่ยุคดึกดำบรรพ์เพราะทัศนียภาพทั้งหมดเต็มไปด้วยความรกร้าง

ไกลออกไปมีภูเขาสูงนับหมื่นวา ต้นไม้เก่าแก่บังแสงอาทิตย์ และสิ่งมีชีวิตที่อธิบายไม่ได้อาศัยอยู่มากมาย

เมื่อเข้าไปใกล้จะได้ยินเสียงคำรามของนกอินทรีบนท้องฟ้า และเสียงคำรามของสัตว์ร้ายในภูเขา เสียงคำรามนั้นทำให้หูหนวกอย่างมาก หากเป็นผู้บ่มเพราะระดับต่ำจะต้องเกิดความหวาดกลัวอย่างแน่นอน

“เราอยู่ที่ไหน?”

กลุ่มพระเฒ่าที่ติดตามอยู่ด้านเย่ฟ่านไม่ถือว่าเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงด้วยซ้ำ พวกเขาย่อมเกิดความหวาดกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เราน่าจะอยู่ใกล้ภูเขาหลิงซาน เราอาจจะได้เห็นพระโพธิสัตว์โบราณและพระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้” ปรมาจารย์คนหนึ่งกล่าว

ถนนสายโบราณอยู่ใกล้แค่เอื้อม นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้สบายใจ หากเดินไปตามทางนี้ ก็จะเห็นโครงกระดูกของพระที่เข้ามาแสวงบุญก็กระจัดกระจายอยู่ทั่ว

แม้แต่ตัวอักษรสันสกฤตโบราณบางตัวก็ถูกแกะสลักโดยคนกลุ่มนี้ อักขระเต๋าที่อยู่ในตัวอักษรเหล่านั้นเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง แสดงให้เห็นว่าในอดีตผู้บ่มเพาะของโลกมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

เย่ฟ่านมีจิตใจที่สงบนิ่ง ปรมาจารย์หลายคนมีมุมมองที่แตกต่างกันและรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขาสังเกตอย่างรอบคอบ หวังว่าจะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า

เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้นพวกเขาต้องท่องคาถาโบราณเสียงดังมากขึ้น ไม่เช่นนั้นถนนที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาก็จะหายสาบสูญไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เมื่อมองหาหลิงซานเราทุกคนต้องมีศรัทธา ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถเข้าใกล้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธะได้” ซีมาติกล่าวพร้อมสวดมนต์พระนามของพระพุทธเจ้า

เย่ฟ่านขมวดคิ้ว มีพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์โบราณอยู่ในเขาลูกนี้จริงๆ หรือ? สถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งความตายอย่างชัดเจนมันไม่ควรมีความเกี่ยวข้องกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธะ

“นี่คือภูเขาหลิงซานที่กว้างใหญ่และไม่อาจคาดเดาได้ มันเป็นสถานที่ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ!”

ในที่สุดหลังจากเดินมาเป็นเวลานาน เขาก็สังเกตเห็นเบาะแสบางอย่าง และมีสัมผัสได้ถึงเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งกว่าภายนอกอย่างชัดเจน

หลังจากเดินทางกว่าร้อยลี้ ดินแดนที่ทรุดโทรมก็ปรากฏขึ้นข้างหน้า ถัดจากถนนโบราณมีซากปรักหักพัง ได้ยินเสียงร้องไห้และคร่ำครวญของภูตผี ดูหน้าตกใจอย่างยิ่ง

วัดกลายเป็นสถานที่รกร้าง มีกำแพงพังๆ และหญ้ารกรก ปรากฏขึ้น พลังศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธะหายไปแล้วเหลือเพียงพลังหยินที่น่าสะพรึงกลัวเท่านั้น

ในขณะนั้นมีวิญญาณชั่วร้ายพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านราวกับสายฟ้า เสียงกรีดร้องของมันทำให้พระเฒ่าทุกคนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม พระพุทธรูปหินเล็กๆ ในมือของเย่ฟ่านกำลังเบ่งบานไปด้วยแสงของพุทธะ และวิญญาณร้ายที่กำลังพุ่งเข้าหาเขาได้เลี้ยวหนีกลับเข้าไปในซากปรักหักพังของวัดโบราณอย่างรวดเร็ว

ซีมาติและพระเฒ่าทั้งสองใบหน้าเปลี่ยนสี แม้แต่พวกเขาที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากก็ยังรู้สึกหวาดกลัวต่อภูตผีตนนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ ที่เกือบจะหมดสติจากความกลัวไปแล้ว

“แง แง!”

เสียงร้องราวกับเสียงร้องของทารกดังก้องอยู่ในหู และในที่สุดเงาสีเทาก็ปรากฏขึ้น เขาเป็นพระเฒ่า สวมจีวรสีเทา มีรูปร่างสูง ล้อมรอบด้วยพลังปราณสีดำ ใบหน้าที่ดุร้าย และดวงตาแดงก่ำ

นอกจากนี้ ยังมีเกล็ดเล็กๆ ปรากฏขึ้นทั่วใบหน้าของเขา พระเฒ่าคนนี้เห็นได้ชัดว่ากลายเป็นปีศาจไปแล้ว

“อาจารย์ เหตุใดท่านจึงทำชั่วเช่นนี้”

ผู้เชี่ยวชาญภาษาสันสกฤตโบราณถาม เขาไม่ได้มีญาณวิเศษเหมือนผู้บ่มเพาะทำให้มองไม่เห็นความลึกลับของพระเฒ่า และคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น

“ชายผู้นี้สูญเสียพุทธะและตัวตนที่แท้จริงไปนานแล้ว ตอนนี้เขามีแต่ความคิดชั่วร้ายภายในจิตใจ กล่าวคือเขาตายไปแล้ว” พระเฒ่าท่านหนึ่งกล่าว

“น่าเสียดาย อาณาจักรของคนคนนี้สูงกว่าของข้ามาก ทำไมเขาถึงลุ่มหลงอยู่ที่นี่?” ซีมาติรู้สึกประหลาดใจ

“เจ้ากำลังมองหาภูเขาหลิงซานด้วยหรือ ข้าเกลียดที่สุด…”

พระเฒ่าที่มีดวงตาสีแดงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด "ข้ามองหาพระพุทธเจ้าด้วยใจจริง แต่ข้ากลับไปไม่ถึงภูเขาหลิงซาน ข้าตามหามันมาทั้งชีวิต แต่สุดท้ายกลับพบเจอเพียงความล้มเหลว?”

ทุกคนเข้าใจทันทีว่าเขาตายไปเพราะความเคียดแค้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาเป็นเพียงคนน่าสงสารที่พบกับความล้มเหลวจนในที่สุดก็ละทิ้งพุทธะเข้าสู่ด้านมืด

“พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พวกเจ้ากำลังหาอะไรอยู่? ต่อให้พวกเจ้าไปถึงภูเขาหลิงซานแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” พระเฒ่าในชุดสีเทาร้องไห้และพุ่งเข้าหา

ผู้คนต่างพากันถอนหายใจว่า ชายผู้นี้ใช้เวลาทั้งชีวิตบูชาพระพุทธเจ้า แต่เมื่อมาถึงที่นี่เขากลับตายไปก่อน นั่นทำให้วิญญาณของเขาเกิดความเครียดแค้นอย่างถึงที่สุด

การกระทำของพระเฒ่าทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ความแข็งแกร่งของเขาเกินกว่าพลังของทุกคนที่อยู่ที่นี่หลายเท่า

และการโจมตีครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างง่ายดาย

“ติง”

เย่ฟ่านยกมือขึ้นและทะลวงดรรชนีให้ทะลุผ่านกะโหลกศีรษะของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย จากนั้นแสงสีทองได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเห็นได้ชัดว่านี่คือจิตวิญญาณสุดท้ายของพระเฒ่า

“เจ้าเป็นใคร...”

พระเฒ่ามีสีหน้าดุร้าย เขาคำรามด้วยเสียงแหลมเล็ก มีเขี้ยวงอกออกมาจากปาก และพยายามตะเกียกตะกายหลบหนีด้วยความหวาดกลัว

เย่ฟ่านยกมือขึ้นแล้วกดมันไปข้างหน้าเหมือนกับหินโม่ขนาดใหญ่ พลังเหนือธรรมชาติอันน่าหวาดหวั่นบดขยี้ร่างกายของพระเฒ่าจนแหลกละเอียดในเวลาเพียงลมหายใจเดียว

ในขณะนี้ปรมาจารย์หลายคนดูตกตะลึงเป็นอย่างมาก ในความเห็นของพวกเขา พระเฒ่าควรจะเป็นจอมอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดต้านทานได้ แต่เขากลับถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย

เย่ฟ่านถอนหายใจเบาๆ เขารู้สึกว่าพระเฒ่าคนนี้เป็นเพียงคนน่าสงสารคนหนึ่ง หากเขามีทางเลือกอื่นคงไม่เลือกที่จะทำลายอีกฝ่ายทั้งร่างกายและวิญญาณ

“ให้เราพาเขาออกไปเถอะ”

ซีมาติทนไม่ไหวและก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือพระเฒ่าก่อนที่ศีรษะของเขาจะถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด

เย่ฟ่านพยักหน้าและไม่กล่าวอะไร ปรมาจารย์หลายคนก้าวออกมาข้างหน้า ทุกคนนั่งสมาธิข้างศีรษะของพระเฒ่าที่กลายเป็นภูตผีไปแล้ว พวกเขาสวดมนต์เพื่อขับไล่ความชั่วร้ายและฟื้นคืนสติให้แก่พระเฒ่าอีกครั้ง

“นะโมอมิตาภะ ดูโอตากาดู ดูโอดีเยฮิม อมิตาภะ..” ไม่นานหลังจากนั้น

พระเฒ่าที่ถูกเย่ฟ่านโจมตีจนเหลือเพียงศีรษะก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติกลับมา ดวงตาที่เคยแดงก่ำของเขากลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

ในที่สุดพระเฒ่าก็กลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณของเขานั่งสมาธิอยู่ต่อหน้าทุกคนพร้อมกับท่องสรรเสริญพุทธคุณพร้อมกับเปล่งประกายด้วยความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

“อาตมาบูชาพระพุทธองค์ด้วยความลุ่มหลงมากเกินไป นั่นทำให้อาตมาไม่สามารถมองเห็นพุทธะที่แท้จริงได้ ด้วยเหตุนี้อาตมาจึงลงเอยอย่างที่ทุกท่านเห็น…”

“นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านผู้เฒ่า” ปรมาจารย์ทั้งหลายคนยังคงสวดมนต์อย่าเงียบๆ

สุดท้ายเมื่อวิญญาณของพระเฒ่ากลายเป็นแสงที่กระจัดกระจายไปทั่วความว่างเปล่า พวกเขาก็เดินทางต่อไป

บนถนนมีกระดูกของผู้คนมากมาย กว่าจะไปถึงหลิงซานเย่ฟ่านคาดคำนวณว่าอาจมีซากศพของพระของศาสนาพุทธที่ตายอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่าแสนคน

สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความเศร้าโศกเป็นอย่างมาก คนเหล่านี้มีความศรัทธาต่อศากยมุนีและเชื่อว่าหนทางที่ศากยมุนีสร้างขึ้นจะนำพวกเขาไปสู่ความสงบสุข

แต่สุดท้ายพวกเขากลับพบความตายอย่างน่าเศร้าโดยไม่อาจไปถึงภูเขาหลิงซานได้ ไม่รู้ว่ามีวิญญาณของพระมากน้อยเท่าใดที่มีความบ้าคลั่งเหมือนพระเฒ่าคนเมื่อครู่

ทันใดนั้นถนนโบราณก็พังทลายลง และมีเหวอันมืดมิดพาดผ่านด้านหน้าเพื่อขัดขวางเส้นทางไม่ให้พวกเขาเดินหน้าต่อ

“นี่เป็นการทดสอบหรือเปล่า?” เย่ฟ่านถาม

“ไม่ใช่ แต่มันเป็นเพราะบทสวดที่เราได้รับมายังขาดความสมบูรณ์แบบ นั่นทำให้เส้นทางที่จะทอดยาวไปสู่ภูเขาหลิงซานเกิดความเสียหายจนมีหุบเหวนี้ปรากฏขึ้น บางทีพวกเราอาจต้องใช้ความพยายามในการข้ามหุบเหวนี้ด้วยตัวเอง” พระเฒ่าท่านหนึ่งกล่าว

……..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด