นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 557 - รวมกลุ่มกันอีกครั้ง?
“เดวิด! นั่นนายเหรอ?”
“ใช่! ฉันเอง” เดวิดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ผู้ที่เอ่ยปากถามและกำลังเดินเข้ามาอย่างระมัดระวังตัวคือธีล่า สมาชิกหญิงคนเดียวในทีมนั่นเอง
“หือ? ทำไมถึงได้มีแต่เธอคนเดียวล่ะ? คนอื่นไปอยู่ในกันหมด นายน้อยอลัน อฮาลี และการ์ดอฟด้วย?” เขาถามต่อออกมาอย่างสงสัย หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่ด้านหลังสาวน้อยคนนี้อีกเลย
ธีล่าที่เริ่มมีท่าทีผ่อนคลายขึ้นถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากที่พวกเราเดินผ่านประตูเข้ามา ฉันก็ถูกส่งตัวไปที่ห้องขังแห่งหนึ่งคนเดียว มีซากระดับอาตมันที่หลงเหลือจิตใต้สำนึกอยู่ในด้วย คงนับว่าเป็นโชคดีของฉัน ที่ซากนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากมายเท่าไรนัก หลังจากที่จัดการกับมันได้แล้ว ฉันก็วนเวียนหาทางออกอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะพบว่าประตูทางเข้าสามารถเปิดและส่งตัวกลับไปที่ห้องโถงเริ่มต้นได้อีกครั้ง ที่นั่นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว มันทำให้ฉันตัดสินใจเดินผ่านประตูบานเดิมเข้ามาอีกครั้ง ก็นี่แหละ! ฉันถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้” เธออธิบายออกมาอย่างยืดยาว ในน้ำเสียงมีความโล่งใจแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด
มันเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผล เดวิดพยักหน้ารับรู้ออกมาเป็นระยะ ดูเหมือนว่าประตูทางด้านหน้าจะเป็นเหมือนกับประตูที่เอาไว้ใช้ส่งตัวนักโทษเข้าสู่ห้องขังที่แตกต่างกัน และถ้ามีบุคคลภายนอกผ่านเข้ามา ทางเดียวที่จะออกไปได้คือการสังหารนักโทษลงเสียก่อน นี่อาจจะเป็นวิธีป้องกันไม่ให้มีผู้ใดลอบเข้ามาช่วยเหลือนักโทษออกไปก็ได้
เขาครุ่นคิดต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวชวนสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ดูเหมือนว่าแต่ละประตูจะไม่ได้มีห้องขังอยู่แค่เพียงห้องเดียว และพวกเราแต่ละคนก็ถูกส่งแยกกันไป เงื่อนไขในการเปิดประตูอีกครั้งคือนักโทษต้องตายลงเสียก่อนเท่านั้น คนที่เข้ามาถึงจะกลับออกไปได้ ถ้าอย่างนั้นในนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว พวกเราออกไปรอคนอื่น ๆ ที่ห้องโถงด้านนอกกันเถอะ!”
“อืม!? ก็ดีเหมือนกัน เอ๊ะ!” เธอตอบรับกลับมาอย่างง่าย ๆ แต่แล้วสายตาที่กวาดมองไปทั่วห้องก็หยุดชะงักลงพร้อมกับเสียงอุทานเบา ๆ ที่หลุดออกมาจากปาก ก่อนที่ร่างบอบบางจะแวบหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ในพริบตา
เป้าหมายในการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือด้านหน้าของบัลลังก์ ร่างของธีล่าปรากฎขึ้นอีกครั้งบนนั้น พร้อมกับมือที่ถูกยื่นออกไปเพื่อหมายจะคว้าแผ่นหินที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้าง แต่ก็สัมผัสได้แต่พื้นโต๊ะที่ว่างเปล่าเท่านั้น เดวิดที่ออกตัวช้ากว่ายื่นมือมาเก็บมันตัดหน้าเธอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“อืม! ดูเหมือนว่ามันจะเป็นของฉันนะ!” หลังจากที่ยัดแผ่นหินเข้าไปในแหวนเก็บของได้แล้ว เดวิดก็กล่าวออกมาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะไร้อารมณ์ ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ในตอนนี้ออกจะพิกลไปเล็กน้อยก็ตาม
ทั้งจากความรีบร้อนและพื้นที่อันแคบแคบตรงนี้ ร่างของทั้งคู่แทบจะยืนอยู่แนบชิดติดกันเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าของเดวิดที่หันมาเอ่ยคำพูดอยู่ห่างจากใบหน้าของธีล่าไม่ถึงคืบเท่านั้น และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยืนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวตอบออกมาได้
“อ้อ! ก็น่าจะใช่! นายเป็นคนกำจัดนักโทษในห้องขังนี้ ของที่อยู่ที่นี่ก็ต้องเป็นผลตอบแทนของนายถูกแล้ว” ธีล่าดึงตัวถอยกลับออกไปเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวและกระโดดลงมาจากแท่นหน้าบัลลังก์ทันที
“ไปกันเถอะ! มันไม่มีอะไรที่นายต้องเก็บอีกแล้วใช่มั้ย?”
“ไม่มีแล้ว ออกไปกันได้เลย!” เดวิดเอ่ยตอบพร้อมกับก้าวลงมาตามขั้นบันไดอย่างไม่รีบร้อนนัก
หลังจากที่พากันเดินย้อนกลับมาถึงประตูทางเข้าที่ปิดสนิท เขาก็เอื้อมมือออกไปผลักบานประตูเป็นการทดลองทันที มันถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย เดวิดเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้าวนำออกไปอย่างไม่ลังเล ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะไม่ได้โกหกอะไร
พวกเขาทั้งคู่กลับมาปรากฏตัวอยู่ในห้องโถงใหญ่ห้องเดิมอีกครั้ง แต่แทนที่จะมีประตูทางเข้าอยู่แค่เพียง 3 บานเหมือนเดิม กลับมีประตูบานที่ 4 ปรากฏอยู่ด้วย เดวิดหันไปมองหน้าธีล่าพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เธอก็ตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล
“ตอนที่กลับออกมาครั้งแรกฉันก็เห็นมันอยู่แล้ว แต่นายเห็นรอยที่โถงทางเดินนั่นมั้ย มันเป็นเครื่องยืนยันว่าที่นี่คือห้องโถงเดียวกันกับที่พวกเรามาถึงก่อนจะถูกแยกส่งไปห้องขังต่าง ๆ มันทำให้ฉันมั่นใจและกล้าที่จะกลับเข้าไปตามหาทุกคนจนได้เจอกับนายอีกครั้ง!”
เดวิดเหลือบไปมองยังจุดที่สาวน้อยคนนี้ชี้บอก ก่อนจะหมุนตัวกลับไปมองสำรวจประตูทั้ง 4 บานอย่างพิจารณาอีกครั้ง
“เอายังไงต่อกันดี! จะกลับเข้าไปตามหาพวกเขามั้ย? หรือว่าจะรออยู่ที่นี่? หรือว่าจะลองเข้าไปในประตูบานอื่นดู?” ธีล่ากล่าวถามออกมาเบา ๆ
“รอ! ถ้าไม่มีประตูบานที่ 4 ปรากฏขึ้นมา เดิมทีฉันคิดที่จะเข้าไปสำรวจประตูบานอื่น ๆ ล่วงหน้าอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ควรจะเสี่ยงทำแบบนั้นเลย ภายในคุกขังเทพแห่งนี้อาจจะมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดอะไรแปลก ๆ อยู่ก็ได้ รอนายน้อยอลันอยู่ที่นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เขาต้องมีข้อมูลดี ๆ อะไรเก็บเอาไว้กับตัวอีกแน่!” เดวิดถอนสายตาออกมาจากประตูทั้ง 4 บาน ก่อนที่จะเอ่ยความคิดเห็นของตัวเองออกไปตามตรง และเพื่อยืนยันคำพูดนั้น เขานั่งลงขัดสมาธิและหลับตานิ่งไม่สนใจสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าอีกเลย
เดวิดไม่ต้องเสียเวลารอนานมากนัก เพียงแค่อีกไม่ถึง 1 ชั่วโมง ประตูบานเดิมที่เขาและธีล่าเดินออกมาก็ปรากฏเงาร่างคนขึ้นแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือจำนวนคนที่เดินออกมา นายน้อยอลัน อฮาลี และการ์ดอฟถูกส่งเข้าไปในห้องขังห้องเดียวกันอย่างนั้นหรือ? มันจะบังเอิญเกินไปมั้ย?
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เดวิด! ธีล่า! พวกนาย 2 คนอยู่กันที่นี่เอง ไม่ได้รับอันตรายอะไรใช่มั้ย? ฉันนึกว่าประตูนั่นจะส่งตัวพวกนายหายไปจนกลับมาไม่ได้แล้วเสียอีก เกิดอะไรขึ้น พวกนายเข้าไปไม่ได้หรือว่าถูกส่งไปคนละที่กับพวกฉัน” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนายน้อยอลัน ก่อนที่คำถามจะถูกยิงรัวออกมาอย่างรวดเร็ว
“โอ้! พวกเราถูกส่งไปที่ห้องขังห้องอื่นนะ! หลังจากกลับออกมาได้แล้ว ฉันกับเดวิดตัดสินใจที่จะรอดูสถานการณ์อยู่ที่นี่ก่อน ยังไม่กล้าที่จะทำอะไรลงไปอย่างพละการ” ธีล่าเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เดวิดพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันคำตอบนี้ด้วยอีกคน
“อ้อ! เยี่ยมมาก ดีแล้วที่ไม่รีบร้อนสำรวจไปกันเองก่อน” นายน้อยอลันพยักหน้ารับรู้อย่างพอใจ
“พวกนายเข้าไปในห้องขังอื่นอย่างนั้นหรือ? ในนั้นมีนักโทษอยู่มั้ย? เป็นแค่ซากศพนอนนิ่งหรือยังมีจิตสำนึกหลงเหลืออยู่?” อฮาลีเอ่ยถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“หือ? มี! ห้องขังที่ฉันถูกส่งไปมีร่างของนักโทษระดับอาตมันที่ยังมีจิตใต้สำนึกอยู่ด้วย แต่โชคดีที่ศพนั่นแทบไม่เหลือพลังโจมตีอะไรแล้ว หลังจากที่ใช้ความพยายามอยู่นานพอสมควรฉันก็จัดการกับมันลงได้ ร่างกายระดับอาตมันแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ” ธีล่าตอบคำถามออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก เธอถึงกับกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่าทำไมตัวเองถึงรอดมาได้แบบไร้รอยขีดข่วนให้ฟังเสียด้วยซ้ำ
“ทางนี้ก็เหมือน ๆ กัน!” เดวิดตอบออกไปแบบแกน ๆ และไม่บอกความจริงที่ว่าซากศพที่ไม่แข็งแกร่งเท่าไรเกือบจะฆ่าตัวเองไปแล้วเหมือนกัน
“หลังจากที่จัดการกับซากพวกนั้นได้แล้ว เธอเจอของมีค่าอะไรในห้องขังพวกนั้นบ้างมั้ย?” อฮาลีถามต่ออย่างรวดเร็วด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกาย สีหน้าของธีล่ามืดครึ้มไปเล็กน้อย เธอเข้าใจความหมายที่แฝงมากับคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี และรีบปฏิเสธออกมาอย่างไม่ลังเล
“ไม่เจอ! ฉันไม่มีเวลาได้มองหาเสียด้วยซ้ำ หลังจากจัดการเสร็จ สิ่งแรกที่ทำคือหาทางออกเพื่อกับมายังข้างนอกนี่เท่านั้น?
อฮาลีพยักหน้าให้ธีล่าเบา ๆ ก่อนจะหันหน้ามาถามเดวิดบาง “แล้วนายล่ะ?”
“จำไม่ได้! ฉันจำไม่ได้จริง ๆ ว่านายมีสิทธิอะไรมาถามคำถามแบบนี้กับฉัน! หัวหน้าทีมก็ไม่ใช่ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ทำไมถึงคิดจะยุ่งเรื่องของชาวบ้านแบบนี้?” เดวิดตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“แก! ปากดีนักนะ!!”
“พอได้แล้ว!!” เสียงตวาดห้ามดังออกมาจากปากของนายน้อยอลันก่อนที่อฮาลีจะได้กล่าวหรือทำอะไรมากไปกว่านั้น
“ทั้งเดวิดและธีล่าเป็นคนจัดการเคลียร์ห้องขังด้วยความสามารถของตัวเอง ต่อจะพบสมบัติหรือของมีค่าอะไร พวกเขาทั้งคู่ก็มีสิทธิที่จะเก็บเอาไว้เป็นของตัวเองอยู่แล้ว นายจะถามไปเพื่ออะไรกัน?
เอาล่ะ! ถ้าพักผ่อนกันพอแล้ว พวกเราจะทำการสำรวจกันต่อไปเลย ฉันคิดว่าสถานการณ์อาจจะไม่ต่างจากประตูบานแรกมากนัก พวกเราอาจจะถูกส่งตัวไปยังห้องขังที่ต่างกันอีก ระวังตัวเอาไว้ให้มาก และถ้ามีใครจัดการเคลียร์ห้องขังได้ก่อนก็ให้กลับมารออยู่ที่นี่เหมือนเดิมก็แล้วกัน”
หลังจากกล่าวจบ นายน้อยของตระกูลเคียร์รินก็เดินนำหน้าไปยังประตูบานที่ 2 จากทางซ้ายมือทันที...