บทที่ 23 : สัมผัสมานา
บทที่ 23 : สัมผัสมานา
เขาได้รับเงินจาก JM เอเจนซี่
' อะไรนะ? นี่ฉันมีเงิน 50 ล้านวอนแล้วหรอ?
' นี่คือกำไรจากการล่าของร่างโคลนสองตัวภายในเวลาหนึ่งวันงั้นหรอ?'
ซังวูคิดเช่นนั้นและตัดสินใจตรวจสอบกับคังจุนโมเพื่อขอดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“มันเป็นแบบนั้นจริงๆ 30 ล้านวอนนี้เป็นเงินที่ได้มาจากการล่า... ทำไมนายมองฉันแบบนั้น?”
“พี่ชาย~”
จู่ๆ คยองโดก็เรียกเขาว่าพี่
ซังวูมองไปที่คยองโด
“เอาล่ะ ในที่สุดนายก็รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพี่ชายคนนี้แล้วสินะ?”
“ครับพี่ โปรดช่วยดูแลผมในอนาคตด้วยครับ”
คยองโดรีบวิ่งเข้าไปกอดซังวูอย่างดุเดือดและแลบลิ้นออกมา
“เห้ย! ออกไปห่างๆ ฉันเลย!”
แม้ว่าซังวูจะแสดงท่าทีเหมือนล้อเล่น แต่เขาก็รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ และพยายามจะวิ่งหนีอย่างเต็มที่
ทา-ดา-ดา-ดา-!
เนื่องจากความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ เขาจึงหนีจากคยองโดซึ่งมีค่าความแข็งแกร่งสูงได้อย่างง่ายดาย
และในตอนนั้นเอง...
[ สกิลการวิ่งถูกสร้างขึ้น ]
“ห้ะ?”
ซังวูหยุดครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าเขาได้รับสกิลมาอย่างกะทันหัน
จากนั้นเขาก็ถูกคยองโดตามทันโดยทันที
“ฉันรักนายน้า~ จุ๊บ~”
“ว้ากก!”
* * *
ซังวูกลับมาที่ห้องของเขา
“อ้า ไอ้สารเลวซกมกนั่น มันไม่เคยแปรงฟันรึไงกันนะ?”
ซังวูรู้สึกตกใจกับกลิ่นเน่าๆ ที่แผ่ออกมาจากใบหน้าของคยองโด
หลังจากล้างตัวในที่สุด เขาก็เปิดหน้าต่างค่าสถานะเพื่อตรวจสอบสกิลใหม่ของเขา
───────────────
[ สกิลการวิ่ง/ประเภทร่าย (Lv.1) ]: คุณจะได้รับเอฟเฟกต์เพิ่มเติมเมื่อคุณวิ่ง
- จะวิ่งได้เร็วขึ้นเล็กน้อย
- จะใช้พลังงานลดลง
───────────────
' มันก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย'
ซังวูคิดว่าในอนาคตร่างโคลนของเขาคงจะได้วิ่งบ่อยขึ้นเมื่อออกล่า
หลังจากยืนยันสกิลที่ได้รับมาแล้ว ซังวูก็ติดต่อคังจุนโมโดยทันที
-[ซังวู]: ผมได้ยืนยันจำนวนเงินเรียบร้อยแล้วนะครับ
-[ซังวู]: มันคือ 30 ล้านวอนใช่ไหมครับ?
หลังจากส่งข้อความไปไม่นาน เขาก็ได้รับคำตอบกลับจากคังจุนโม
-[คังจุนโม]: ใช่แล้วครับคุณฮันเตอร์ นี่เป็นรายได้จากการขายซากกระต่ายเขาเดียวเมื่อวันก่อน
เนื่องจากซากปลาสองขามีค่าน้อยกว่าที่คาดไว้ เขาจึงไม่ได้กลับไปล่าพวกมันอีกเลบนับตั้งแต่เขาได้รับดาบต้องสาปมา
และเนื่องจากเขามีเงินติดลบอยู่เนื่องจากการซื้อสกิลแฟมิเลีย ดังนั้นเขาจึงมุ่งเน้นไปที่การล่ากระต่ายเขาเดียว
ดาบต้องสาปเป็นดาบขึ้นสนิมที่ซังวูเก็บขึ้นมาได้ แต่มันก็เป็นชื่อชั่วคราวที่เขาตั้งให้เพราะเขายังไม่ได้ประเมินราคามันและยังไม่ทราบชื่อที่แน่นอนของมัน
-[คังจุนโม]: นอกจากนี้ จำนวนกระต่ายเขาเดียวที่ถูกล่าก็มีถึง 1,000 ตัวแล้ว ดังนั้นเราจึงน่าจะได้เงินรางวัลเพิ่มมาจากทางสมาคมอีกนะครับ
-[คังจุนโม]: ไว้ผมจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อได้รับเงินมาแล้วนะครับ
-[ซัววู]: โอ้ เงินรางวัล ฮ่าๆ ใช่แล้ว ฉันเข้าใจแล้ว~
ยอดคงเหลือตอนนี้เขาอยู่ที่ 58 ล้านวอน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีเงินอีกงวดกำลังจะโอนเข้ามา
-[คังจุนโม]: โอ้ใช่ คุณฮันเตอร์ครับ ผมลืมบอกเรื่องการย้ายที่ล่าไป?
-[คังจุนโม]: การล่าในวันนี้ประสบความสำเร็จดีมากเลย!
-[ซังวู]: ดันเจี้ยนแรคคูนหนามหรอน่ะหรอครับ?
-[คังจุนโม]: ใช่ครับ ฮ่าๆ ร่างโคลนของคุณสามารถจัดการกับพวกมันได้อยู่หมัดเลย เงินที่ได้มาคราวนี้เองก็น่าจะเยอะมากเลยทีเดียว
แรคคูนหนามเป็นมอนสเตอร์แรงค์ E
แบบนี้แล้วซังวูฮันเตอร์แรงค์ F หรือร่างโคลนของเขาจะไปออกล่าในดันเจี้ยนแรงค์ E ได้อย่างไร?
ซังวูไม่อยากจะเชื่อมากนัก แต่คังจุนโมก็เริ่มอธิบายให้เขาฟังว่าการล่าวันนี้เป็นเช่นไร
* * *
ชายสองคนกำลังเดินผ่านป่าที่มีใบไม้ร่วงหล่น
เขาสวมกางเกงทหารและเสื้อยืดรัดรูปสีดำ นอกจากนี้ยังมีเสื้อเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาสีดำพร้อมกับซองแม็กกาซีนสวมทับเสื้อยืดของเขา และใบหน้าของเขาก็สวมหน้ากากสีดำและหมวกใบสีดำ ด้วยปืนพกในกระเป๋าและปืนไรเฟิล K2 ที่คล้องอยู่บนไหล่ มันก็ทำให้พวกเขาดูเหมือนกองกำลังพิเศษมาก แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะถือดาบขึ้นสนิมก็ตาม
เครื่องแต่งกายของพวกเขาคือเครื่องแต่งกายที่ฮันเตอร์ระดับต่ำส่วนมากมักใช้กัน
อย่างไรก็ตาม สีดำก็เป็นสิ่งที่ผิดไปจากคนปกติ
นี่เป็นเพราะที่นี่คือป่าที่มีใบไม้ร่วงหล่น
ชุดสีดำจะดูโดดเด่นมากในป่าสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งและต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา
ด้วยเหตุนี้เอง คะแนนการพรางตัวของพวกเขาจึงได้เพียง 3 เต็ม 10
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในไม่ช้าพวกเขาจึงตกกลายเป็นเป้าหมายของมอนสเตอร์และเริ่มถูกโจมตี
พรึ่บ!
เสียงบางสิ่งที่กำลังใกล้เข้ามาดังขึ้น
คนที่อยู่ใกล้ๆ คือคนทางซ้าย
เขารีบยกปืนไรเฟิล K2 ที่เขาคล้องสะพายอยู่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชายคนนั้นรีบจัดไหล่ของเขาให้เสร็จอย่างรวดเร็วและมองไปทุกทิศทุกทางรอบๆ ตัว
ในไม่ช้า มอนสเตอร์ก็ปรากฎตัวขึ้น
ร่างสีดำเตี้ยติดพื้นแต่มันก็วิ่งด้วยความเร็วสูง
ปัง!
แม้ว่าสถานการณ์จะเกิดขึ้นในพริบตา แต่ชายคนนั้นก็เล็งอย่างใจเย็นและยิงมันตายในนัดเดียว
มอนสเตอร์ที่ถูกยิงคือแรคคูนหนาม มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนแรคคูนแต่มีหนามปกคลุมทั้งตัว
หนามของมอนสเตอร์ตัวนี้ค่อนข้างแข็ง และมันก็เป็นมอนสเตอร์ที่อึดตายยาก
แต่ถึงอย่างนั้น คราวนี้มันก็ตายลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เหตุผลถูกเปิดเผยในซากของแรคคูนหนามที่ตายแล้ว
รูกระสุนแล่นทะลุระหว่างคิ้วของมัน
มันเป็นผลงานการยิงที่ประณีตมาก
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มอนสเตอร์ก็เริ่มหลั่งไหลกันเข้ามา
ปัง!
ปัง! ปัง!
ชายสองคนหรือหมายเลข 1 และหมายเลข 2 เดินวนไปมารอบๆ และฆ่าเหล่าแรคคูนหนาม
แน่นอนว่านอกจากแรคคูนหนามแล้ว มันก็ยังมีมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ อีกด้วย เช่นจิ้งจอกแดงที่มีนิสัยชอบวิ่งเข้าหากลิ่นเลือด และมอนสเตอร์สุนัขที่มีโครงสร้างฟันขนาดใหญ่ผิดปกติ
เมื่อจำนวนมอนสเตอร์ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จำนวนมอนสเตอร์ที่เข้าประชิดพวกเขาได้ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น
จากนั้นในที่สุดร่างโคลนหมายเลข 2 ก็หยิบดาบขึ้นสนิมซึ่งเป็นดาบต้องสาปออกมา
หมายเลข 2 มีดวงตาสีแดงก่ำในทันทีที่มันชักดาบออกมา เขาเคลื่อนที่เร็วขึ้นเล็กน้อยและเริ่มแกว่งดาบของเขา
กรี๊ด-ฟ้าว-
มอนสเตอร์สุนัขและจิ้งจอกแดงมีเลือดไหลนองออกมาจากร่างเมื่อพวกมันถูกฟัน
อาจเป็นเพราะใบมีดทื่อ ดังนั้นมันจึงดูเหมือนจะถูกฉีกออกจากกันแทนที่จะถูกเฉือนขาด
[ มานาเพิ่มขึ้น 0.001 ]
แรคคูนหนามสามารถหลบไปทางด้านข้างได้ อาจเป็นเพราะเกราะหนามของมันแข็ง
อย่างไรก็ตาม ปืนพกในมือซ้ายของหมายเลข 2 ก็เล็งไปที่ใบหน้าของแรคคูนหนามโดยทันที
ปัง!
บางทีอาจเป็นเพราะผลของความกระหายเลือดที่ได้รับมาจากดาบต้องคำสาป หมายเลข 2 จึงพยายามกวาดล้างมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ อย่างบ้าคลั่ง
ในทางตรงกันข้าม หมายเลข 1 ก็กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด
หมายเลข 1 ถือปืนไรเฟิล K2 ในมือขวา และปืนพกในมือซ้ายและยิงพวกมันอย่างเมามัน
เมื่อกระสุนของเขาหมดและต้องเติมแม็กกาซีน เขาก็ถูกมอนสเตอร์กัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉึก!
ขาของหมายเลข 1 ถูกกัดโดยมอนสเตอร์สุนัข มันตั้งใจที่จะฉีกขาเขาให้ขาดเป็นชิ้นๆ
อย่างไรก็ตาม หมายเลข 1 ก็เปลี่ยนแม็กกาซีนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเป่าหัวมอนสเตอร์สุนัขปลิกกระจาย
ในเวลานั้นเอง แรคคูนหนามที่อยู่ใกล้ๆ ก็กระโดดเข้ามาเกาะท้องของหมายเลข 1 และกางหนามทั่วร่างของมันออก
พรึ่บ-
หมายเลข 1 โดยเจาะทั้งตัวเหมือนรวงผึ้ง
อย่างไรก็ตาม หมายเลข 1 ก็ยังยิงกระสุนแสกหน้าแรคคูนหนามที่ห้อยอยู่บนร่างของเขาได้อย่างใจเย็น
ปัง!
แม้ว่าบาดแผลเหล่านี้อาจจะร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่หมายเลข 1 ก็กลับดูไม่กังวลใดๆ เลย
[ พลังฟื้นฟูเพิ่มขึ้น 0.001 ]
ในช่วงเวลาที่หมายเลข 1 กำลังดิ้นรนอยู่นั้นเอง หมายเลข 2 ซึ่งเคลียร์มอนสเตอร์รอบๆ เสร็จแล้วก็รีบเข้ามาช่วยหมายเลข 1
ปัง! ปัง! ปัง! ···
มอนสเตอร์ในระยะใกล้ถูกจัดการลง
ในท้ายที่สุด ร่างโคลนทั้งสองก็สามารถสังหารมอนสเตอร์ทั้งหมดลงได้
เมื่อการล่าสิ้นสุดลง ร่างโคลนทั้งสองก็เริ่มรวบรวมซากมอนสเตอร์และกองพวกมันไว้
แรคคูนหนามที่ติดอยู่บนร่างของหมายเลข 1 เองก็ถูกแกะออกและโยนกองไว้อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
เมื่อกองซากมอนสเตอร์เนินสูงขึ้น ร่างโคลนทั้งสองก็เรียกทีมเก็บกู้ซากมาจัดการ
* * *
คำอธิบายของคังจุนโม ที่นี่ก็คือดันเจี้ยนแรงค์ E แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังถูกกวาดล้างลงด้วยร่างโคลนเพียงสองตัว
แม้ว่าหมายเลข 1 จะได้รับบาดเจ็บหนักมาก แต่พลังของดาบต้องสาปที่หมายเลข 2 ใช้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้ว
เนื่องจากจำเป็นต้องรักษาหมายเลข 1 ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเรียกมันมาใหม่อีกครั้งในตอนเช้า
-[คังจุนโม]: ผมเห็นว่าร่างโคลนจับมนุษย์ปลาได้ ดังนั้นผมเลยส่งมันไปที่นั่นโดยหวังว่ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้น
-[คังจุนโม]: ผมไม่เคยคิดเลยว่าร่างโคลนของคุณจะจัดการกับมอนสเตอร์แรงค์ E ได้จริงๆ
-[คังจุนโม]: นอกจากนี้ หนังของแรคคูนหนามที่จับมาได้ในครั้งนี้ก็ยังมีราคาแพงมากอีกด้วย
-[คังจุนโม]: คุณสามารถรอรับเงินได้เลยครับ
-[ซังวู]: ผมเข้าใจแล้วครับ ฮ่าๆ
-[ซังวู]: ในอนาคตก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ~
-[คังจุนโม]: อีกไม่นานคุณก็คงจะได้กลายเป็นฮันเตอร์แรงค์ E แล้วนะครับ
-[ซังวู]: จริงหรอครับ?
-[คังจุนโม]: สิ่งที่คุณต้องทำก็มีแค่ลงดันเจี้ยนแรงค์ E อีกสองครั้งให้สำเร็จ ฮ่าฮ่าฮ่า
-[คังจุนโม]: เพราะงั้นขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยนะครับ!
-[ซังวู]: ขอบคุณครับ ฮ่าฮ่าฮ่า แต่คุณตัวแทนครับ แบบนี้แล้วคุณจะไม่ขาดทุนเอาหรอครับ?
-[คังจุนโม]: ไม่เป็นไรครับ~ คุณจะได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นไงครับ
'คุณตัวแทนเองก็ทำเงินได้หลายล้านวอนต่อวันด้วย ในแง่ของเงินเดือน มันก็นับเป็นเงินหลายสิบล้านวอน'
แม้ว่าซังวูจะมีรายได้เกือบร้อยล้านวอนต่อเดือนก็ตาม แต่หากทำสัญญาที่ 7:3 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมฮันเตอร์ ผลกำไรก็จะแตกต่างกันอย่างมาก
'เป็นความคิดที่ดีที่จะมองไปที่อนาคตและลดอัตราการชำระของตัวเองลง'
หลังจากการสนทนากับคังจุนโม ซังวูก็จมอยู่กับความคิด
จู่ๆ เขาก็สงสัยว่าคังจุนโมได้เงินไปเท่าไหร่
ดังนั้นเขาจึงเริ่มคำนวณเงินเดือนประจำปีของเขา
' ตอนนี้พอมาลองคิดดูแล้ว ฉันก็มีรายได้อย่างน้อย 10 ล้านวอนต่อวัน ซึ่งก็คือ 300 ล้านวอนต่อเดือน... หรือ 3.6 พันล้านวอนต่อปี...?'
หาเงินได้ปีละ 3.6 พันล้านวอน!
ว่ากันว่าฮันเตอร์แรงค์ F จะได้รับเงินเดือนโดยเฉลี่ยเทียบเท่ากับพนักงานบริษัทขนาดใหญ่ แต่นี่ก็เป็นตัวเลขที่ไร้สาระและยังเป็นตัวเลขโดยเฉลี่ย
คังจุนโมจะรับ 20% จากเขาหรือก็คือ 720 ล้านวอน
แน่นอนว่ายังมีประเด็นเรื่องภาษีอยู่
จากนั้นซังวูก็คิดออกสักทีว่ารายได้ของเขาคือเท่าใด
“เรียบร้อยแล้ว...”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงในทางทฤษฎีเท่านั้น และไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตเขาจะสามารถทำกำไรได้เพิ่มมากกว่านี้หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะในกรณีใด ซังวูก็เข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว
' แต่ตอนนี้ฉันเป็นเพียงฮันเตอร์แรงค์ F เท่านั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันกลายเป็นฮันเตอร์แรงค์ D, C,... หรือแรงค์ A?'
บทความเรื่องเงินเดือนประจำปีของฮันเตอร์แรงค์ D นั้นอยู่ที่ประมาณหมื่นล้านวอนต่อปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากซังวูมีร่างโคลนคอยช่วยด้วย เงินหลายหมื่นล้านวอนจึงต้องคูณด้วยจำนวนร่างโคลนที่เขามี
'ฉันจะทำเงินเป็นล้านล้าน... ไม่ใช่พันล้าน...?'
ซังวูไม่รู้จริงๆ ว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้เกลียดความหวังและความคาดหวังเหล่านี้
กลับกัน มันทำให้เขารู้สึกมีแรงบันดาลใจด้วยซ้ำ!
เขากระโดดขึ้นจากที่นั่ง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็รู้สึกเหมือนต้องทำอะไรสักอย่าง
' อืม... ฉันควรทำอะไรดี?'
หลังจากคิดอย่างใจเย็น เขาก็ตระหนักได้ว่าการฝึกหายใจมานาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
' เอาล่ะ ฉันจะต้องรู้สึกถึงมานาให้ได้ ไม่อย่างนั้นร่างโคลนของฉันก็คงจะใช้มันไม่... เดี๋ยวนะ ทำไมฉันไม่ลองให้ร่างโคลนพยายามสัมผัสถึงมานาดูแล้วฉันค่อยใช้สกิลแฟมิเลียกับพวกเขาแทนล่ะ?’
ด้วยเหตุนี้เอง ซังวูจึงนอนลงบนเตียงอีกครั้งและเริ่มนั่งสมาธิ
เขาพยายามสัมผัสถึงมานาอย่างเงียบๆ ผ่านร่างโคลนโดยใช้สกิลแฟมิเลีย
ความรู้สึกเสียวซ่าดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
โดยปกติแล้ว ซังวูก็คงจะเผลอหลับไปหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง วันนี้มันจึงรู้สึกแตกต่างออกไป
เขารู้สึกเหมือนเขาจะสามารถสัมผัสอะไรได้
และในที่สุดเขาก็ทำได้!