ตอนที่แล้วบทที่ 17 รากฐานของตัวแปรการเติมเต็มให้ชีวิต – ความเปรียบต่าง (Contrast)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18.1 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์

บทที่ 18 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์


บทที่ 18 ความเป็นต้นแบบแท้จริงในนิยายออนไลน์

1 – ประสบการณ์ส่วนตัวของคุณกับบางสิ่ง อาจไม่ใช่เรื่องจริง

ในบทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องว่า บางสิ่งที่คุณเห็นมาเป็นการส่วนตัว อาจไม่ใช่เรื่องจริง และต่อไปนี้คือประสบการณ์ส่วนตัวของนักเขียนมืออาชีพคนหนึ่ง

ครั้งแรกที่เขาไปเที่ยวฝรั่งเศส เขานั่งรถไฟไปที่นั่น เขายังจำได้ว่า ช่วงเวลาที่ก้าวเท้าออกจากรถไฟที่สถานีรถไฟปารีส เขาได้พบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ยืนเข้าแถวเป็นแนวยาวอยู่ตรงหน้าเขา เป็นเวลานานกว่ายี่สิบนาที ก่อนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจะผ่านไปจนหมด ในตอนนั้นเขารู้สึกตื่นตะลึงพร้อมกับอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เจอในฝรั่งเศสอย่างที่คาดหวังไว้

ในที่สุดเขาก็ออกจากสถานีรถไฟมาได้ และไปที่โรงแรมเพื่อพบกับเพื่อนของเขาซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในปารีส เพื่อนของนักเขียนพาเขาเที่ยวชมไปทั่วเมือง เพื่อนของเขาเล่าให้ฟังว่าสถานที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการปกครองบางครั้งในอดีต และสถานที่นั้นเคยเป็นที่ประหารจักรพรรดิบางคน...นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขารู้สึกตื่นตะลึงและอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น กับสิ่งที่คาดหวังว่าจะเจอได้ในฝรั่งเศส

แต่ต่อมาในคืนนั้น เขาตั้งใจจะขึ้นรถไฟใต้ดินกลับไปที่โรงแรม แล้วเขาก็พบว่าระบบเดินรถไฟใต้ดินทั้งหมดในปารีสหยุดให้บริการทุกสาย เมื่อเขาสอบถามคนใกล้เคียงก็ได้รู้ว่าพนักงานของรถไฟใต้ดินได้หยุดงานไปเดินประท้วงกันหมด คนคนนั้นยังบอกอีกว่า เขามาจากเมืองลียง คนทำความสะอาดถนนที่นั่นก็หยุดงานไปประท้วงเหมือนกัน ทำให้เมืองสกปรก หนูวิ่งพล่านไปทั่วตามถนนที่เต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกลาดไปหมด นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขารู้สึกตื่นตะลึงและอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น กับสิ่งที่คาดหวังว่าจะเจอได้ในฝรั่งเศส

ที่จริงแล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าจะมีการปฏิวัติ หรือกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือการประท้วง เขาเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาก่อนนานมาแล้ว ก่อนที่เขาจะมาเที่ยวที่ฝรั่งเศสเสียอีก ความจริงก็คือเขาเคยแม้กระทั่งได้เข้าทดสอบความรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศสหลายครั้งเมื่อตอนเขายังเรียนอยู่ระดับมัธยม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้อ่านจากหนังสือหรือเห็นตามสื่อต่างๆ ไม่ได้มีความใกล้เคียงกับความรู้สึกของการได้เห็นและสัมผัสในสถานที่จริงอย่างใกล้ชิดแบบนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

หลังจากเขากลับมาจีน ทุกครั้งที่พวกเพื่อนหรือญาติพี่น้องวางแผนไปเที่ยวฝรั่งเศส เขาจะเตือนทุกคนให้พิจารณาผลกระทบของการประท้วงที่จะเกิดขึ้น อย่างเช่น พนักงานสนามบินอาจก่อการประท้วงหยุดงาน ทำให้เครื่องบินออกช้าได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อนและญาติของเขาที่ได้ไปเที่ยวฝรั่งเศสและกลับมาจีนบอกเขาว่า ไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นเลย และตัวนักเขียนเองก็ได้กลับไปเที่ยวฝรั่งเศสอีกสองครั้งเช่นกัน ครั้งหนึ่งไปโดยเรือ อีกครั้งโดยเครื่องบิน ไม่มีครั้งไหนที่เขาได้เจอเหตุการณ์ประท้วงหรือพบกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่อีกเลย ต่อมาเขาลองเช็กสถิติดูก็พบว่า แม้ว่าชาวฝรั่งเศสชอบการประท้วง แต่มันก็เกิดขึ้นน้อยลงมาก นับจากเมื่อตอนที่เขาเจอครั้งแรก มันอาจกล่าวได้ว่า เหตุการณ์ก่อนหน้าทำให้เขาเข้าใจฝรั่งเศสผิดไปจากความเป็นจริง

แล้วทำไมถึงต้องนำประสบการณ์ของนักเขียนมาเล่าสู่กันฟัง? นั่นเพราะเขาเกิดความสงสัยในภายหลังว่าทำไมเขาถึงได้เข้าใจผิดได้ถึงขนาดนั้น?

เขาเชื่อว่า นั่นเป็นเพราะอิทธิพลโน้มนำสองชั้นของข่าวลือผสมกับประสบการณ์ส่วนตัวของเขา หากมันเป็นแค่ข่าวลือ เขาคงไม่เชื่อลงไปง่ายๆ และถ้าหากเขามีประสบการณ์ตรงแค่ครั้งเดียว เขาคงไม่ทึกทักเอาว่าเป็นเรื่องธรรมดาของที่นั่นเช่นกัน แต่ข่าวลือผสมกับประสบการณ์ส่วนตัว สามารถมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนได้อย่างมากทีเดียว

แม้ว่าข่าวลือพวกนี้จะไม่ใช่เรื่องจริง และผลกระทบจากประสบการณ์ส่วนตัวอาจเป็นเรื่องบังเอิญ ตราบใดที่สองสิ่งนี้บังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกัน มันจะเหมือนมีปฏิกิริยาเคมีบางอย่างที่ทรงพลังเกิดขึ้นระหว่างกัน

ถ้าเป็นอย่างนั้น มันมีสถานการณ์คล้ายกับในนวนิยายออนไลน์ไหม? นักเขียนมืออาชีพคิดว่าคำตอบคือ “ใช่” อย่างชัดเจน และสถานการณ์ที่คล้ายกันนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น หัวข้อเรื่องความเป็นต้นแบบแท้จริงของนิยายออนไลน์ที่นักเขียนมืออาชีพอยากจะมาคุยให้ฟัง

ตั้งแต่เมื่อนวนิยายออนไลน์ได้กำเนิดขึ้นมา ข่าวลือเกี่ยวกับความคิดริเริ่มที่เป็นต้นแบบของนิยายออนไลน์ได้แพร่กระจายออกไปอย่างไม่หยุดหย่อน ตัวอย่างเช่น ข่าวลือเรื่องนิยายออนไลน์เป็นเหมือนกันหมด คือทุกเรื่องเลียนแบบกันและกันตลอดเวลา หนังสือนิยายออนไลน์ทุกเรื่องใช้พล็อตอย่างเดียวกัน พวกนักเขียนไม่มีความคิดสร้างสรรค์เลย...

ข่าวลือพวกนี้มีความจริงอยู่แค่ไหน? มันมีแน่นอน ในตลาดหนังสือออนไลน์ที่กว้างใหญ่ ไม่สำคัญเลยหากเราต้องการหานิยายตามกระแสสักเรื่องหนึ่ง หรือเรื่องที่เนื้อหาเกือบจะเหมือนเรื่องเดียวกันเลย คุณหามันได้ง่ายมาก ที่จริงเราแทบไม่ต้องตั้งใจหามันด้วยซ้ำ แค่เวลาเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ตามปกติ เราก็จะเจอเรื่องที่ใช้พล็อตซ้ำซากอย่างที่เราเคยอ่านมาแล้วมากมาย

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริงหรือ ที่นวนิยายออนไลน์ไม่มีความเป็นต้นแบบแท้จริงเลย พวกมันเหมือนๆ กันหมด? ก่อนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ เราควรพิจารณาถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่นักเขียนมืออาชีพนำมาเล่าสู่กันฟังก่อนหน้า แล้วคิดถึงว่า สิ่งที่เราคิดมันเป็นแบบเดียวกับที่เขาพูด ถึงเรื่องข่าวลือผสมกับประสบการณ์ส่วนตัวเป็นอิทธิพลโน้มนำนั้นหรือเปล่า?

เราได้เห็นข่าวลือเช่นนั้นในอดีตมาก่อนหรือเปล่า? เราได้ตอกย้ำความรู้สึกของเราที่มีต่อข่าวลือโดยการอ่านนิยายที่คล้ายคลึงกันมากหรือเปล่า? คำตอบที่ได้คือ “ใช่” อย่างแน่นอน

ถ้าเป็นอย่างนั้นอะไรคือความจริงของเรื่องนี้กันแน่? ยังมีการเขียนหนังสือนิยายออนไลน์ที่เป็นต้นแบบแท้จริงบ้างไหม? ในฐานะนักเขียน คุณจะเขียนงานชิ้นใหม่อย่างไรดี เรามาพูดคุยกันถึงคำถามเหล่านี้ในบทความนี้กันเถอะ

2 – งานของเราพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรามาลองมองดูนวนิยายออนไลน์ตั้งแต่มันกำเนิดขึ้นมา ว่างานเขียนพวกนี้มีความเป็นต้นฉบับแท้จริงไหม และมีความคิดริเริ่มมากเพียงใด

หากเราวัดจากจำนวนหนังสือนิยายออนไลน์ทั้งตลาด คำตอบที่ได้จะค่อนข้างแน่นอนว่า นวนิยายออนไลน์มีความเป็นต้นแบบแท้จริงอย่างเหลือเชื่อ ไม่เพียงเท่านั้น มันยากที่จะอธิบายความเป็นต้นแบบของมันด้วยคำว่าเหลือเชื่ออย่างเดียว แค่ลองดูในประเภทย่อย (Sub-genre) ของหนังสือนิยายที่ปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ตในปีถัดมานี้ เรื่องประเภทตลาดวงกว้าง แนวเรื่องประเภทกลุ่มขนาดย่อม ประเภทยอดนิยม และประเภทเฉพาะกลุ่ม และยังมีเรื่องแนวใหม่ออกมาเป็นร้อยในตลาด พวกแนวเรื่องประเภทใหม่นี้ ไม่ได้พัฒนามาจากความเป็นต้นแบบแท้จริงหรอกหรือ?

และสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ภายในประเภทของมันเอง ทุกเรื่องมันเหมือนกันหมดหรือ?

เรามาลองใช้เรื่องประเภทการเดินทางข้ามมิติ ที่ผู้อ่านคุ้นเคยกันเป็นอย่างมากมาเป็นตัวอย่างในการวิเคราะห์กัน เหล่านักเขียนมืออาชีพและทีมงานทำหนังสือออนไลน์ต่างก็ได้เห็นคำวิพากษ์วิจารณ์สามัญที่เจอเป็นประจำในบทความต่างๆ เรื่องนวนิยายออนไลน์ว่า “หนังสือนิยายออนไลน์เหมือนกันทั้งหมด ต้องมีการเดินทางข้ามมิติในแบบใดแบบหนึ่ง” หรือคำวิจารณ์ที่ว่า “นิยายออนไลน์แนวเดินทางข้ามมิติมีพล็อตเหมือนๆ กันหมด...”

แล้วสถานการณ์จริงคืออะไรกันแน่? สำหรับผู้อ่านที่คุ้นเคยและเข้าใจนวนิยายออนไลน์ดีอยู่แล้ว แค่เรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติที่เริ่มต้นบนโลก แค่ตัวละครหลักเท่านั้นที่เดินทางกลับไปโลกอดีต แบบนี้ก็ได้ถูกเขียนไปแล้วสารพัดวิธีจนนับไม่ถ้วน

ในช่วงแรก นักเขียนเขียนเรื่องเกี่ยวกับผู้คนในสมัยใหม่เดินทางข้ามมิติกลับไปสู่โลกอดีตยุคโบราณ แล้วใช้ความรู้สมัยใหม่สร้างเครื่องใช้โลหะ สร้างอาวุธปืน และปืนใหญ่ แล้วต่อมาก็ครอบครองโลก แต่ต่อมาไม่นาน นักเขียนก็ได้ตระหนักว่า การเข้ายึดครองโลกไม่จำเป็นต้องใช้ปืนหรือโลหะ บางทีมันเป็นไปได้ที่จะใช้ความรู้พิเศษเช่นการผลิตกระจกให้เป็นประโยชน์ในยุคโบราณ และทำเป็นธุรกิจจนใหญ่โตแล้วครอบครองโลกผ่านความร่ำรวยแทน

อีกทั้งยังมีวิธีมากมายที่จะครอบครองโลกใช่ไหม? สำหรับในยุคสมัยใหม่ ผู้คนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเทคนิคอะไรมาก แล้วเขาจะใช้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ในการสร้างผลกระทบต่อเหตุการณ์ในอดีต แล้วกลายเป็นความสำเร็จในชีวิตได้ไหม? มันไม่มีความคิดสร้างสรรค์อื่นใดหรือหนทางพิเศษใดเลยให้ดำเนินไปหรือ? อีกอย่าง จำเป็นหรือไม่ที่คนในสมัยใหม่เมื่อไปโลกอดีต จำเป็นจะต้องการครองโลกทุกคนไหม? บางทีแค่ต้องการมีความร่ำรวยขึ้น หรืออาจได้เป็นขุนนางในเมืองที่เขาได้อยู่ หรือกลายเป็นกวีอัจฉริยะ หรือหมอวิเศษรักษาโรค ทั้งหมดนี้ก็ใช้ได้ไม่ใช่หรือ?

สำหรับวิธีการเดินทางข้ามมิติ ไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดอยู่ที่ร่างกายของตัวละครหลักถูกส่งผ่านมิติไปในอดีต คุณสามารถเขียนให้เฉพาะวิญญาณของตัวละครหลักเดินทางไปอดีตได้เช่นกัน และกลับไปสิงร่างคนท้องถิ่น ขุนนาง นักรบ หรือแม้กระทั่งจักรพรรดิ สถานะใหม่ของตัวละครหลักจะมีผลให้เกิดมุมมองและสไตล์การเขียนแบบใหม่ขึ้นใหม่ด้วยเช่นกัน

แม้กระทั่งถ้ากลับไปสิงร่างจักรพรรดิ มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างราชวงศ์ถังกับราชวงศ์ซ่ง และกลุ่มจักรพรรดิที่ปกครองตั้งแต่ต้นราชวงศ์จนสิ้นสุดราชวงศ์ มีสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน ความแตกต่างของยุคสมัย ตัวละครหลักหลายบุคลิก สถานการณ์ที่แตกต่างกัน สามารถสร้างเรื่องราวที่แตกต่างไปได้

อีกอย่าง มันจำเป็นต้องเป็นบุคคลสมัยใหม่ที่เดินทางข้ามมิติไหม? ยกตัวอย่าง คุณสามารถเขียนให้เป็นเรื่องของจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ซ่ง วิญญาณของเขาเดินทางข้ามมิติไปเข้าร่างหนึ่งในลูกหลานของเขา และค้นพบว่าตอนนั้นมีนักรบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งชื่อเหย่อเฟย กำลังถูกตัดสินประหาร และอาณาจักรของเขาก็กำลังอยู่ในช่วงที่จะล่มสลายพอดี นี่ไม่ใช่วิธีการใส่ตัวแปรการเติมเต็มให้ชีวิตด้วยหรือ?

เราสามารถเขียนเกี่ยวกับคนสมัยใหม่เดินทางข้ามมิติไปสู่อดีต หรือคนสมัยโบราณเดินทางข้ามมิติมายังโลกปัจจุบัน แล้วยังมีคนจากโลกอนาคตเดินทางข้ามมิติมาสู่ปัจจุบัน... เราสามารถให้แค่หนึ่งคนเดินทางข้ามมิติ หรือเป็นกลุ่มคน และเราสามารถเขียนให้ใครก็ได้เดินทางข้ามมิติไป... อีกทั้งเวลาเดินทางข้ามมิติ บุคคลนั้นอาจไปมือเปล่า หรือมีนาฬิกาข้อมือและไฟแช็ก หรือคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป หรือปืนยาวติดกล้อง หรือแม้กระทั่งแม่น้ำ กล่องเก็บของทะลุมิติ หรือกองทัพทั้งกองร้อย...

และหัวข้อเหล่านี้คือเฉพาะการเดินทางข้ามมิติบนโลกเท่านั้น หากเราขยายหัวข้อของเราออกไป เราสามารถแม้กระทั่งเดินทางข้ามมิติไปโลกอีกใบหนึ่งได้ หรือให้ผู้วิเศษเดินทางข้ามมิติมายังโลก ให้หุ่นยนต์สงครามเดินทางข้ามมิติมาสู่โลกแฟนตาซีตะวันออก หรือจอมยุทธ์อมตะเดินทางข้ามมิติไปสู่โลกแห่งเวทมนตร์ หรือให้ผู้เล่นเกมข้ามมิติไปสู่โลกของเกม...

ด้วยวิธีการเดินทางข้ามมิติอย่างนับไม่ถ้วนขนาดนี้ ใครก็สามารถพัฒนาไอเดียใหม่ขึ้นมาได้เพิ่มอีกมากมาย ลองใช้หนึ่งในวิธีการที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือเดินทางข้ามมิติมาเข้าร่างตนเองตอนยังหนุ่ม ในช่วงที่นวนิยายออนไลน์เริ่มเป็นที่นิยม นักเขียนมืออาชีพคนหนึ่งกำลังอ่านนิยายแนวประวัติศาสตร์ทางเลือกอยู่ แล้วเขาก็เกิดได้ไอเดียการเดินทางข้ามมิติแบบนี้ขึ้นมา

ถ้าคุณเดินทางข้ามมิติกลับไปในอดีตแค่สามสี่ปี แล้วกลับมาเข้าร่างเดิมของคุณ อะไรจะเกิดขึ้น? ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับนิยายออนไลน์ควรจะตระหนักว่าที่จริงนั่นคือประเภทที่เรียกว่า “กลับชาติมาเกิด” นิยายแนวกลับชาติมาเกิดที่จริงคือหมวดย่อยของนิยายประเภท “เดินทางข้ามมิติ” และในขณะที่มันเป็นหมวดย่อย แนวกลับชาติมาเกิดก็เป็นประเภทหลักของตัวมันเองโดยธรรมชาติ ที่สามารถพัฒนาเพิ่มหมวดย่อยได้อีกนับไม่ถ้วน

สิ่งที่ต้องสังเกตก็คือ แต่ละหมวดย่อยที่กล่าวมาในบทความนี้ คือนิยายประเภทที่มีตัวตนแล้ว มีนักเขียนเขียนงานออกมาแล้วทั้งสิ้น

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เราสามารถเห็นได้ว่า แค่หัวข้อของการเดินทางข้ามมิติอย่างเดียว ก็ได้พัฒนาเรื่องไปได้แทบจะนับไม่ถ้วนแล้ว

ด้วยความที่นวนิยายออนไลน์ได้มีพัฒนาการมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว มันยังมีความเป็นต้นแบบแท้จริงเหลืออยู่บ้างไหม?

บางที นักเขียนบางคนอาจจะบอกว่า นวนิยายออนไลน์มีความเป็นต้นแบบแท้จริงนับไม่ถ้วนในอดีต แต่ปัญหาก็คือในปัจจุบัน หัวข้อเรื่องต้นแบบที่เป็นความคิดริเริ่ม ได้ถูกใช้ไปหมดแล้วโดยนักเขียนมืออาชีพรุ่นแรกๆ ดังนั้นเมื่อนักเขียนรุ่นหลังไม่สามารถคิดหัวข้อเรื่องต้นแบบแท้จริงใหม่ๆ จึงไม่ใช่ความผิดของพวกเขาแล้วในจุดนี้ เราจะมีการกล่าวถึงข้อนี้อีกในบทความต่อไป

.................................................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด