ตอนที่ 833 ย้อนเวลา(ตอนฟรีรับปีใหม่)
ภูเขาปีศาจไม่ใช่พื้นที่พิเศษ มันเกิดจากโลกโบราณที่พังทลายมากมายของจักรวาล เต็มไปด้วยหมอกปีศาจ
ตลอดมา จอมปีศาจและปีศาจโบราณมากมายจากโลกต่างๆได้มารวมตัวที่ภูเขาปีศาจ
ปีศาจบางตนที่เคยสร้างชื่อให้ตัวเองยังยอมจำนนต่อภูเขาปีศาจและรับใช้เพียงปีศาจสาวชุดแดง
ในภพเบื้องบน ณ ปัจจุบัน ภูเขาปีศาจถือเป็นหนึ่งในขุมอำนาจชั้นนำ ยกเว้นอาณาจักรเทพ
ยังมีข่าวลือว่าภูเขาปีศาจมีสายสัมพันธ์กับผู้ปกครองคนปัจจุบันของอาณาจักรเทพ กู่ฉางเกอ เพราะเขาเคยเป็นนายแห่งหมู่มาร
นายของภูเขาปีศาจ ฉานหงอี้คือศิษย์ของกู่ฉางเกอ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งสองขัดแย้งกันและเข้ากันไม่ได้
แต่นี่ไม่ส่งผลต่อสถานะของภูเขาปีศาจ มันถือเป็นขุมอำนาจที่ทัดเทียมได้กับตระกูลกู่และราชวงศ์เซียนสูงสุด
ตอนนี้ พอเถาเหยาก้าวเข้าภูเขาปีศาจ คลื่นรุนแรงก็ถาโถม เมฆมารม้วนตัว และร่างมากมายก็ปรากฏในสันเขา
แต่ ร่างเหล่านี้ได้รับคำสั่ง พวกเขาเหลือบมองเถาเหยาและหายไป
เถาเหยาเดินไปในส่วนลึกของภูเขาปีศาจด้วยสีหน้าสงบ ความเร็วไม่เร็ว เมฆมารปั่นป่วนแหวกออกด้านหน้านาง เผยให้เห็นเส้นทางสู่สวรรค์
ในส่วนลึกของภูเขาปีศาจ มียอดเขาโดดเดี่ยว มันไม่สูงมาก
มีกระท่อมเรียบง่ายและสระหินใส ปราณปีศาจพลุ่งพล่านในทุกทิศทาง แต่สภาพแวดล้อมสงบสุขมาก
ที่ยอดเขา ร่าชุดแดงนั่งสมาธิ นางสวยมาก ใบหน้าไร้ที่ติ คิ้วสวยได้รูป ดวงตาดำสนิท และมีใฝใต้หางตา
นางมองเถาเหยาที่เดินมาและยิ้ม
รอยยิ้มนี้ดูเหมือนจะสามารถนำหายนะมาสู่โลกและทำให้ผู้ชายทุกคนคลั่งได้ มันยากที่จะอธิบายทั้งหมดเป็นคำพูด เพราะเหตุนี้ ท้องฟ้าจึงสดใสขึ้น
“ไม่เจอกันนานเลย..”
“สหายเก่า”
ฉานหงอี้มองเถาเหยาด้วยรอยยิ้มน่ารัก เวลานี้ นางดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ธรรมดา และเถาเหยาที่เดินมาก็สัมผัสได้ถึงความสงบสุขและโหยหา
“มันนานมากจริงๆ ไม่คิดเลยว่าในที่สุด ข้าจะเป็นคนที่มาเจอเจ้า”เถาเหยาพูดเสียงเบา
พอมองฉากคุ้นเคยรอบนาง นางก็เงียบไป
แม้ฉานหงอี้จะเกลียดกู่ฉางเกอเข้ากระดูก นี่ก็ไม่อาจปกปิดความรักของนางได้
ไม่งั้น ฉากของสถานที่นี้คงไม่เหมือนกับภูเขาในอดีต
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาเจอข้า”
ฉานหงอี้ยิ้ม นางดูเหมือนจะสงบมาก และไม่มีร่องรอยของความเป็นปฏิปักษ์
นางนั่งสมาธิที่ยอดเขา ข้างนางเป็นโต๊ะหินธรรมดาและม้านั่งหิน ยังมีต้นท้อเล็กๆที่ยังไม่โต
“เจ้า…กำลังเลียนแบบเขา?”
พอมองการกระทำของฉานหงอี้ สีหน้าปัจจุบันของนางและท่านั่ง เถาเหยาก็ถอนหายใจ
นางรู้สึกว่าฉานหงอี้หมกมุ่นจริงๆ
“อาจจะ”
“มีเพียงทางนี้ข้าถึงรู้สึกถึงเขา ราวกับข้าเคยมีเขา..”
ฉานหงอี้ยังแย้มยิ้ม รอยยิ้มของนางยิ่งน่าหลงใหล นางไม่ปฏิเสธการกระทำของนาง
แน่นอน ต่อหน้าสหายเก่าอย่างเถาเหยา นางไม่มีอะไรให้ปิดบัง ทั้งสองเคยรู้จักกันดีมาก
“เจ้าหมกมุ่นจริงๆ”
เถาเหยามองนาง เวลานี้ สีหน้าของฉานหงอี้ดูเหมือนกู่ฉางเกอ
“ไม่ใช่ว่าตอนนี้ข้าคือปีศาจสาวชุดแดงเหรอ?ข้าจะหมกมุ่นแล้วไง?”ฉานหงอี้ยังส่ายหัว
เถาเหยาไม่รู้จะพูดอะไร ฉานหงอี้ในปัจจุบันไม่เหมือนกับสาวน้อยชุดแดงแสนบริสุทธิ์และไร้เดียงสาในอดีตเลย
“เจ้าเฝ้าถามคำถามนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
หลังเงียบไป นางก็ถามอีก
ฉานหงอี้ได้ยินคำถามนี้แต่ไม่ตอบ ใบหน้านางดูเหม่อลอย
นานแค่ไหน?
หมายถึงหมกมุ่น?หรือหมายถึงนั่งบนยอดเขาและลืมรดน้ำดอกไม้?
นางจำไม่ได้ ความทรงจำนางบ้างก็เลือนราง บ้างก็ใส และบ้างก็รู้สึกเหมือนางได้กลับเป็นเด็ก
ใสและขุ่นมัว
หลาญฉากซ้อนทับ บางครั้ง นางยังบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
“บางทีคงหลายร้อยปี..”
ฉานหงอี้พูดเสียงเบา รอยยิ้มบนหน้าเลือนหาย นางเหมือนดอกบัวที่โดดเดี่ยว
“หลายร้อยปี?”
“วันแต่งงานของเขา?”
เถาเหยาเงียบไป นางไม่แปลกใจเลย
ฉานหงอี้ไม่พูดอะไรอีก นางเปลี่ยนเป็นท่านั่งที่สบายขึ้นและไม่นั่งสมาธิเหมือนเดิม นางโบกมือ และหม้อชาร้อนก็ปรากฏบนโต๊ะหิน
“สหายเก่า ข้าไม่มีชาดีๆให้เจ้า”
“เชิญจัดการเองเลยนะ”
หลังพูด นางก็นั่งกอดเขา และเอาคางวางบนเข่า ราวกับกำลังมองบางสิ่ง
เถาเหยานั่งบนม้านั่งหินและรินชาให้ตัวเอง“อย่ามอง แทนที่จะเหม่อมองไปไกล ทำไมเจ้าไม่ถามเขาเองเล่า?”
ฉานหงอี้ละสายตาและโบกมือ รับถ้วยชามา
“ถามอะไร?”สายตานางหยุดที่ถ้วยชา มีกลีบดอกท้อแห้งลอยบนชา
“ถามเหตุผล ถามคำตอบที่เจ้าอยากรู้”เถาเหยาลดสายตาและเป่าชา
ฉานหงอี้ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย
“ถามแล้วได้อะไร?”
“เหตุุผลหรือคำตอบจะยังสำคัญอยู่อีกหรือ?”นางถาม
เถาเหยามองนางอย่างไม่แยแส
“มีเพียงเจ้าที่รู้ว่ามันสำคัญหรือไม่สำคัญ”
“ข้าไม่ได้มาหาเจอเพื่อคุยเรื่องอดีต ข้าคิดว่าเจ้าเองก็คงรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อม..”
“ด้วยพลังปัจจุบันของเรา เราควรสามารถต้านทานผลกรรมได้ ถ้าเราย้อนอดีตไป เราอาจได้เห็นบางสิ่งด้วยตาเราเอง”
“นี่ถือได้ว่าเป็นจุดจบของหนึ่งในความหมกมุ่นของเรา”
“ถ้าผลกรรมตีกลับและเราต้านทานไม่ได้ เราจะตาย ซึ่งนั่นก็ยังดีกว่าการใช้ชีวิตอย่างที่เราใช้อยู่ตอนนี้…”
นี่คือทางเลือกที่นางเลือกก่อนออกจากหมู่บ้านท้อ
ตอนนี้ที่สภาพแวดล้อมของโลกเปลี่ยน นางเลยฟื้นคืนพลังดั้งเดิม แม้มันจะไม่ใช่การย้อนเวลาจริงๆและหวนกลับสู่อดีต นางก็ยังท่องเวลาในฐานะผู้สัญจรได้ นางยังเห็นบางสิ่งได้ด้วยตานางเอง
แต่ การท่องเวลาก็ยังมีผลกรรมหนักหนาที่แม้กระทั่งเถาเหยาก็ไม่แน่ใจว่าจะรับได้
ถ้าอยากเห็นอดีต ก็ต้องจ่ายราคา
“ย้อนเวลา?”
ฉานหงอี้ไม่คิดว่านี่จะเป็นเหตุผลที่เถาเหยามาหานาง
“นักบุญหญิงแห่งโชคชะตาของวังเซียนตอนนี้อยู่ในอาณาจักรเทพ นางมีเรือเซียนแห่งการสรรค์สร้าง ด้วยของชิ้นนั้น นางสามารถข้ามเวลาและเลี่ยงผลกรรมได้”
“ไปหานาง นางควรเต็มใจจะให้ยืมมัน”
เสียงของเถาเหยายังสงบ