บทที่ 17 : สกิลใหม่ (2)
บทที่ 17 : สกิลใหม่ (2)
“สกิลหรอครับ? ได้สิครับ ตอนนี้คุณมีรายได้หลายร้อยล้านวอนต่อเดือนแล้ว คุณมีความสามารถในการซื้อมันได้อยู่แล้ว”
“ใช่ครับ ผมลองดูมันมาก่อนหน้านี้แล้วในเว็บฮันเตอร์ แต่มันก็มีราคาแพงมากเลย”
“เว็บฮันเตอร์ค่อนข้างอันตรายนะครับ มันมีการฉ้อโกงเกิดขึ้นในนั้นเยอะมากเลย”
“อ่า...”
“คุณต้องระมัดระวังในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้ดีเช่น คัมภีร์ ปืน สกิล เวทย์มนตร์และไอเท็ม ผมว่าคุณควรไปที่ตลาดฮันเตอร์ในกังนัมมันน่าจะอย่างปลอดภัยกว่านะครับ คุณอยากลองไปดูไหมครับ?”
ตามคำแนะนำของคังจุนโม ทั้งสองจึงไปที่ตลาดฮันเตอร์ในกังนัมโดยทันที
ตลาดฮันเตอร์เป็นชื่อของบริษัท และมันก็เป็นสถานที่ขายสินค้าสำหรับฮันเตอร์และผู้อเวคที่มีชื่อเสียงที่สุด มันเป็นบริษัทแรกที่เปลี่ยนการซื้อขายของฮันเตอร์ให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้า
ตลาดฮันเตอร์ที่พวกเขามาถึงหลังจากขับรถประมาณ 30 นาทีเป็นอาคารสูง
“ผมเคยมาที่นี่สองสามครั้งตอนที่ผมยังเด็ก และดูเหมือนมันจะสูงขึ้นทุกครั้งที่ได้เห็นเลย”
“เป็นเพราะว่ามีอุปกรณ์ฮันเตอร์และวัตถุดิบมอนสเตอร์มากมาย คุณฮันเตอร์เข้าไปก่อนเลยครับ”
ตลาดฮันเตอร์เต็มไปด้วยผู้คน ชั้น 1 เป็นชั้นของสินค้าฟุ่มเฟือยพวกยาเพิ่มเลือดและอื่นๆ
เมื่อเขาขึ้นลิฟต์ไปถึงที่ชั้น 7 ศูนย์รวมสกิลก็ปรากฏขึ้น สมกับที่เปแนห้างสรรพสินค้า มันไม่มีการตะโกนชักชวนใดๆ แต่ละบริษัทจะจัดระเบียบและขายลูกบอลสกิลและม้วนสกิลอย่างเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน มันก็มีบริษัทที่โดดเด่นในหมู่พวกเขา
[เฮอริเทจ]
เฮอริเทจเป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการขายสินค้าไอเทมหรู
และถึงแม้จะเป็นบริษัทแบรนด์หรู แต่มันก็ยังขายสินค้าจิปาถะด้วย
“เรามาเริ่มดูกันที่นี่ดีไหม?”
ซังวูเข้าไปในร้านเฮอริเทจกับคังจุนโม
ต่างจากร้านอื่นๆ ลูกบอลสกิลหลากสีสันถูกจัดแสดงอยู่ในร้าน ตู้โชว์ของร้านค้าแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ [กายภาพ] และ [เหนือธรรมชาติ]
หมวดหมู่ [กายภาพ] ส่วนใหญ่นั้นเป็นสกิลที่สามารถได้รับมาจากการฝึกฝนง่ายๆ ได้
“...มันเป็นสกิลการทำเฟอร์นิเจอร์ แล้วก็สกิลการเขียนพู่กัน... นี่มันราคา 2.99 ล้านวอนเลยหรอ?”
ไม่มีคนมองหามันเพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องซื้อและเรียนรู้สกิลพวกนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความขาดแคลน มันจึงทำให้พวกมันมีราคาสูง
'สกิลการวิ่งก็ดูเหมือนจะดี แต่นี่มันก็แพงอยู่นะเนี่ย'
เขาเห็นสกิลที่เป็นประโยชน์บางอย่างในหมวดกายภาพ แต่สกิลเหล่านั้นก็มีราคาแพง ดังนั้นตอนนี้พวกมันจึงเหมือนพายที่อยู่บนฟ้า
ซังวูกำลังมองหาสกิลประเภทโทรจิต ดังนั้นเขาจึงดูส่วนที่มีการแสดงสกิลประเภทพลังจิต
และแน่นอน ราคาของพวกมันแพงมาก
ช่วงราคาพื้นฐานนั้นเริ่มอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านวอน
นี่คือในกรณีของสกิล 'แสง' ซึ่งสร้างลูกบอลแสงทรงกลมเล็กๆ เพื่อส่องแสงให้สว่างขึ้น มันมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านวอน
' สำหรับสกิลแสง ฉันว่าฉันเก็บเงินเอาไปซื้อโคมไฟ LED ราคาสัก 30,000 วอนเอาดีกว่า'
ในที่สุดหลังจากเดินดูอยู่พักหนึ่ง พนักงานร้านคนสวยก็เดินเข้ามาทักทาย
“ยินดีต้อนรับค่ะ มีอะไรที่คุณกำลังมองหาอยู่รึเปล่าคะ?”
“เอ่อ.. คุณมีสกิลประเภทโทรจิตบ้างไหมครับ?”
“โทรจิตหรอคะ? รอสักครู่นะคะ”
พนักงานค้นหาข้อมูลไอเทมบนคอมพิวเตอร์ของร้าน ในที่สุดเธอก็นำทางพวกเขาไปยังตำแหน่งของสกิลประเภทโทรจิต
“จากตรงนี้ไปจนถึงตรงนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสกิลที่เกี่ยวข้องกับโทรจิตค่ะ ส่วนคำอธิบายสกิลจะแนบอยู่ที่นี่ตรงใต้ป้ายชื่อนะคะ”
“ขอบคุณครับ ผมจะค่อยๆ พิจารณามัน”
พนักงานร้านกลับไปทักทายลูกค้าอีกคนหนึ่ง และคังจุนโมก็ถามซังวูราวกับว่าเขากำลังสงสัย
“คุณฮันเตอร์ ทำไมคุณถึงต้องการทักษะประเภทโทรจิตกันล่ะครับ?”
“โอ้ นี่เป็นเพราะผมอยากจะแบ่งปันมุมมองว่าร่างโคลนกำลังทำอะไรอยู่น่ะครับ คุณต้องรู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงเมื่อคุณออกคำสั่ง”
“แบบนี้นี่เอง”
ในที่สุดซังวูก็ค้นพบสกิล 'แฟมิเลีย' ท่ามกลางสกิลโทรจิต
───────────────
เนื้อหา: เมื่อคุณใช้สกิลนี้กับสัตว์อสูร สัตว์เลี้ยง สัตว์อัญเชิญ ฯลฯ คุณจะสามารถแบ่งปันประสาทสัมผัสของเป้าหมายได้ เช่นการมองเห็น การรับกลิ่น และการได้ยิน
คำเตือน: ห้ามใช้กับมนุษย์! มอนสเตอร์หรือสัตว์บางชนิดอาจไม่สามารถใช้ได้!
ราคา: 129,990,000 วอนเกาหลี
───────────────
' เจอแล้ว'
แต่ราคามันก็ไม่ธรรมดาเลย
“ ฉันไม่สามารถใช้มันกับผู้คนได้ แต่ร่างโคลนไม่ใช่คน'
ซังวูคิดว่ามันคงจะโอเคเพราะร่างโคลนนั้นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตมานา
คังจุนโมรู้สึกงุนงงขณะที่ซังวูกำลังมองไปที่คำอธิบายสกิล
“นี่คือสกิลแฟมิเลีย”
“ผมคิดว่ามันน่าจะสามารถใช้กับร่างโคลนได้นะครับ”
“··· อืม ผมไม่รู้สิครับ”
คังจุนโมดูลังเลเล็กน้อย
มันเป็นเรื่องจริงที่ร่างโคลนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกอัญเชิญออกมา แต่การเรียกอัญเชิญ 'ร่างโคลน' นั้นก็คลุมเครือ
ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถระงับมันได้...
“คุณตัวแทน คุณช่วยออกเงินให้ผมก่อนได้ไหมครับ?”
* * *
ซังวูได้รับเงินล่วงหน้า 50 ล้านวอนจากคังจุนโมและซื้อลูกบอลสกิลผ่อน 3 เดือนกลับบ้านไปทันที
นี่เป็นเพราะว่าเขาต้องการจะใช้ลูกบอลสกิลเลย
เมื่อซังวูกลับมาถึงบ้าน เขาก็เปิดกล่องทันที
ลูกบอลสกิลห่อด้วยบับเบิ้ลอย่างระมัดระวัง
“เอาล่ะ เรามาดูคู่มือกันเลยดีกว่า”
เขาวางลูกบอลไว้ครู่หนึ่งแล้วอ่านคู่มือ
───────────────
[ เฮอริเทจ ]
[ คู่มือผลิตภัณฑ์ ]
[ วิธีใช้ ] ฉีดมานาเข้าไปในลูกบอลสกิล ผู้ใช้ที่ไม่สามารถควบคุมมานาได้ควรใช้ตัวกระตุ้นสกิลในขณะที่ร่างกายสัมผัสกับลูกบอลสกิล
[ ข้อควรระวังในการคืน/เปลี่ยน ] ไม่สามารถคืนหรือเปลี่ยนได้หลังจากใช้ลูกบอลสกิลไปแล้ว หากตรวจสอบด้วยสายตาแล้วสินค้ามีปัญหา กรุณาขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้าก่อนใช้งาน
───────────────
ปัจจุบัน ซังวูไม่สามารถควบคุมมานาของเขาได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้จึงเป็นการใช้ตัวกระตุ้น
' มันคือเจ้านี่เองหรอ?'
เขาหยิบลูกบอลสกิลและตัวกระตุ้นรูปทรงคล้ายรีโมตคอนโทรลที่แนบมาด้วยออกมา
หลังจากนั้น เขาก็ถือลูกบอลสกิลไว้ในมือซ้ายและกดปุ่มสวิตบนตัวกระตุ้นด้วยมือขวา
จากนั้นลูกบอลสกิลก็เริ่มเปล่งแสงออกมา
วี๊ด-
เมื่อเวลาผ่านไปหลายวินาที ลูกบอลสกิลที่เปล่งแสงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
[ สกิลแฟมิเลียได้ถูกสร้างขึ้น ]
ในที่สุดซังวูก็ได้เรียนรู้สกิล
───────────────
[ สกิลแฟมิเลีย/ประเภทร่าย (Lv.1)] แบ่งปันมุมมองกับวัตถุเป้าหมาย ระยะขอบเขตเพิ่มขึ้นตามเลเวล
- ระยะขอบเขตปัจจุบัน: 1 กม
───────────────
'ในที่สุดฉันก็ได้มันมาแล้ว!'
ซังวูอ่านคำอธิบายสกิลอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
'ระยะสกิลของฉันจำกัดอยู่แค่นี้เองหรอ?'
ระยะทางเพียง 1 กม.
สิ่งนี้จะมีการใช้งานที่จำกัด
'ถ้าฉันอัพเลเวลมันได้ ระยะทางก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย งั้นมาลองดูกัน'
ซังวูโทรหาหมายเลข 2 ซึ่งกำลังออกกำลังกายอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ให้มาหาโดยทันที
จากนั้นเขาก็ใช้สกิลแฟมิเลีย
ทันทีที่เขาตัดสินใจใช้ทักษะนี้ พลังงานในร่างกายของเขาก็หมดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของมานานั้นก็แตกต่างออกไปเล็กน้อย และความรู้สึกก็แตกต่างกันเมื่อเทียบกับในตอนที่เขาใช้สกิลร่างโคลน
ตรงกันข้ามกับความกังวลที่ว่า 'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสกิลแฟมิเลียใช้ไม่ได้กับร่างโคลน' สกิลแฟมิเลียสามารถทำงานได้ตามปกติ
เมื่อใช้สกิล มุมมองของซังวูที่กำลังมองหมายเลข 2 ในชุดฝึกซ้อมอยู่ก็สั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว
หลังจากนั้น วิสัยทัศน์ของเขาก็บิดเบี้ยวราวกับว่าเขาถูกดูดไปที่ไหนสักแห่ง และก่อนที่เขาจะรู้ตัว ภาพที่คุ้นเคยของตัวซังวูเองที่สวมกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตก็เริ่มปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
' นี่คือวิสัยทัศน์ของหมายเลข 2 งั้นหรอ?'
แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งใดๆ แต่หมายเลข 2 ก็มองไปที่ซังวูและมองไปรอบๆ เป็นครั้งคราว
ซังวูประหลาดใจที่เห็นมันจากมุมมองของหมายเลข 2
ความรู้สึกนี้แปลกๆ มันแตกต่างจากการมองเห็นของตัวเองเล็กน้อย
ซังวูสั่งให้หมายเลข 2 ขยับ
'เลี้ยวซ้าย'
หมายเลข 2 เลี้ยวซ้าย
มันแตกต่างจากการเคลื่อนที่ตามปกติของเขา มันเลี้ยวซ้ายตรงราวกับเป็นระบบสั่งการ
ซังวูสั่งให้มันกระโดดอยู่กับที่ วิดพื้น นั่งและยืนขึ้น
หมายเลข 2 ทำตามได้อย่างง่ายดาย
' ไม่จำเป็นต้องระบุการกระทำโดยละเอียด หากฉันให้พวกเขาทำอะไรที่เป็นปกติ พวกเขาก็จะสามารถทำมันได้โดยตรงเลย ถ้าอย่างนั้น...'
ซังวูสั่งหมายเลข 2 ให้ไปที่สวนสาธารณะและออกกำลังกาย
จากนั้นหมายเลข 2 ก็เปิดประตูหน้าและไปที่สวนสาธารณะใกล้เคียง
ในที่สุด หมายเลข 2 ก็มาถึงสวนสาธารณะและเริ่มวิ่งวนรอบสวนสาธารณะ
มันไม่ได้อยู่ในระดับของการวิ่งช้าๆ หลังจากวิ่งไปประมาณ 1 ถึง 2 นาที หมายเลข 2 ก็เริ่มหายใจหอบ
ความรู้สึกหายใจลำบากของหมายเลข 2 ถูกส่งไปยังซังวูในทันที
' อะไรนะ ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้กัน?'
ซังวูซึ่งมีประสาทสัมผัสเหมือนกับหมายเลข 2 และมองเห็นวิสัยทัศน์ของหมายเลข 2 ด้วยสกิลแฟมิเลียเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน
มันรู้สึกเหมือนฉันกำลังวิ่งอยู่จริงๆ เลย
' ฉันไม่สามารถใช้สิ่งนี้นานได้ ฉันจะใช้มันเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เป็นครั้งคราวเท่านั้นพอ'
ซังวูซึ่งได้ทำการทดสอบต่างๆ จากระยะไกลโดยใช้สกิลแฟมิเลียได้ยกเลิกการใช้สกิลนั้น
จากนั้นมุมมองของเขาก็กลับมาสู่ร่างกายเดิมของเขา
เขารู้สึกง่วงซึมและเหนื่อยล้าราวกับว่าพลังงานในร่างกายของเขาได้หลุดหายออกไปที่ไหนสักแห่ง
' ดูเหมือนว่ามันจะใช้มานาเยอะอยู่นะเนี่ย'
ในบรรดาสกิลประเภทร่าย (ใช้งาน) สกิลแฟมิเลียนั้นก็ใกล้เคียงกับสกิลที่ต้องร่ายต่อเนื่อง
แม้ว่าเขาจะเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ซังวูก็ยังพยายามใช้สกิลของเขากับหมายเลข 1 ที่กำลังฝึกศิลปะการต่อสู้อยู่ในยิม
เมื่อเขาดูระยะห่างระหว่างห้องของเขากับยิมผ่านแอปแผนที่ มันก็ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่า 1 กม.
เมื่อเขาใช้สกิล เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่พุ่งออกจากร่างกาย
จากนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงที่อธิบายไม่ได้ระหว่างซังวูและหมายเลข 1
ในไม่ช้า มุมมองของซังวูก็เปลี่ยนไป และภาพฉากใหม่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
พื้นปูด้วยเบาะ
นี่คือไฮเปอร์ยิม
ตอนนี้ซังวูกำลังมองมันจากมุมมองของหมายเลข 1
และวิสัยทัศน์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
หมายเลข 1 กำลังวิ่งไปข้างหน้า
แล้วกำแพงสูงก็ปรากฎขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเขา
'อะไรน่ะ!'
หลังจากแปลกใจที่เขาอาจชนกำแพง หมายเลข 1 ก็ได้กระโดดข้ามกำแพงอย่างสุดกำลัง เ
จากนั้นเมื่อเท้าเขาอยู่ตรงข้ามกำแพง หมายเลข 1 ก็ทะยานขึ้นไปตามปฏิกิริยาของแรงเคลื่อน
หมายเลข 1 ทะยานสูงขึ้นไปเกือบ 1 เมตร
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกและเกาะมันไว้บนขอบกำแพง
จากนั้นหมายเลข 1 ก็ยกมืออีกข้างขึ้นแล้วปีนขึ้นไปบนกำแพงอย่างรวดเร็ว
“ว้าว คุณทำสิ่งนี้ได้ในคราวเดียว สมแล้วที่เป็นเอซของที่นี่”
เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากเบื้องล่าง เขากำลังกล่าวยกย่องเสียงดัง
เมื่อหมายเลข 1 มองกลับไป มันก็คือโค้ชลีจงฮุน
“เอาล่ะครับคุณซังวู ลงมาได้แล้ว ตอนลงมามีทริคอะไรไหม? เมื่อกระโดดและลงจอด คุณสามารถใช้เทคนิคการลงที่คุณได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้ได้ เอาล่ะนะครับ เริ่มได้เลย!”
จากนั้นหมายเลข 1 ก็กระโดดลงมาจากความสูงเกือบ 2 ถึง 3 เมตร
'อ้า!'
ซังวูที่แชร์มุมมองอยู่รู้สึกกลัวเพราะเขากลัวความสูง แต่กระนั้นหมายเลข 1 ที่กระโดดลงมาอย่างไม่ลังเลเลยก็กลิ้งตัวเป็นวงกลมในทันทีที่เท้ากำลังจะแตะพื้นแล้วใช้เทคนิคการลง
ด้วยเหตุนี้เอง หมายเลข 1 จึงลงจอดได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีผลกระทบเลยแม้แต่น้อย
“ไชโย! มันเจ๋งมาก คุณเก่งมากจริงๆ ฮ่าฮ่า”
ลีจงฮุนยกนิ้วให้และปรบมือ
ในขณะนั้นเอง วิสัยทัศน์ของซังวูก็เริ่มวิงเวียน เขารู้สึกเหมือนกำลังจะอาเจียน และการเชื่อมต่อกับหมายเลข 1 ก็สิ้นสุดลง
ซังวูสังเกตเห็นว่าสกิลแฟมิเลียถูกบังคับให้ต้องยุติลง
' ฉันใช้มานาจนหมดแล้วหรอ?'
เขารู้สึกเหนื่อยมากและรู้สึกเหมือนร่างกายได้สูญเสียพลังงานทั้งหมดไป
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อมานาในร่างกายหมดลง
แต่กระนั้นซังวูก็กำลังยิ้ม
นี่เป็นเพราะมันไม่สำคัญ
ในเวลานี้ ซังวูได้มองเห็นความเป็นไปได้อีกอย่างในการเคลื่อนไหวร่างกายของหมายเลข 1 และความเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม
ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความสุข