ตอนที่ 18 ภัยพิบัติมาเยือนสถานที่รวมตัว
ในตอนนี้ คนในสถานที่รวมตัวนั้นไม่รู้กันเลยว่ากลุ่มสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากนั้นกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาและอยู่ห่างไปเพียงแค่ห้าสิบกิโลเมตรเท่านั้น
ตามปกติแล้ว เหลิงหยูเหว่ยและทีมของเธอนั้นจะออกไปล่าสัตว์กลายพันธุ์กันในตอนเช้า เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด เธอจึงไม่รับสมัครใครเข้ากลุ่มเลย และในตอนนี้ทีมของเธอนั้นยังคงเป็นทีมสามคน
หลังจากเหตุการณ์ล่าสุด เธอนั้นได้ตระหนักว่ามีเพียงคนของเธอเท่านั้นที่จะพึ่งพาได้
ซูเฉินนั้นได้มอบคริสตัลพลังานให้กับเธอเป็นจำนวนมากซึ่งเธอก็ได้เอาไปแบ่งกับลั่วฮางและจางเถา หลังจากดูดซับคริสตัลเหล่านี้ไปหลายวัน เธอก็ทะลวงเข้าสู่ระดับสองดาว ต้น ส่วนอีกสองคนนั้นอยู่ในระดับหนึ่งดาว กลางและปลายตามลำดับ
ในฐานะคนเหนือมนุษย์ใครกันหล่ะจะไม่อยากแข็งแกร่งขึ้น?
“พี่สาว ฉันไม่คิดเลยนะว่าฉันจะเป็นระดับหนึ่งดาวกลางได้เร็วขนาดนี้ ตอนแรกฉันคิดว่าคงใช้เวลาสองปีกว่าจะถึง”ลั่วฮางก็พูดออกมาอย่างตื่นเต้น
เขานั้นกลายมาเป็นคนเหนือมนุษย์ช้ามาก แถมพรสวรรค์ของเขาก็ไม่ได้ดีเลย ยิ่งกลายเป็นคนเหนือมนุษย์ได้ในตอนอายุน้อยๆ ก็จะยิ่งมีศักยภาพสูง
เขานั้นกลายมาเป็นคนเหนือมนุษย์ระดับหนึ่งดาวนานแล้ว แต่เขานั้นกลับไม่อาจจะทะลวงสาระดับต่อไปได้สักที ด้วยการช่วยเหลือจากคริสตัลที่ซูเฉินมอบให้ ในที่สุดเขานั้นก็ทะลวงเข้าสู่ระดับหนึ่งดาว กลาง
“คริสตัลพวกนี้มันของซูเฉินหน่ะ เขามองมันให้กับเราก็เพราะต้องการจะบ่มเพาะเราอย่างลับๆนั่นแหละ”เหลิงหยูเหว่ยก็พูดออกมา
ลั่วฮางนั้นก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีแต่เขานั้นกลับไม่แคร์ “ติดตามซูเฉินก็ไม่ได้แย่นักหรอก ก็ดูสิ ตั้งแต่เขามา สถานที่รวมตัวแห่งนี้ก็เสียยักษ์ใหญ่ไปสองคนแล้ว ฉันได้ยินว่าหม่าซานหยานกลัวถึงขั้นไม่กล้าออกไปใหนเลยหล่ะ”
จางเถาก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “พอดีฉันผ่านไปแถวที่ของหม่าซานหบานมาเมื่อวัน ตอนนั้นฉันเห็นคนมากมายืนเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านของเขาเลยหล่ะ รวมไปถึงคนเหนือมนุษย์หลายคนด้วย ไอ้หมอนั่นคงกลัวตายจริงๆนั่นแหละ”
ทั้งสามนั้นก็ได้กลับมาสู่สถานที่รวมตัวพร้อมกับของของล้ำค่าติดตัวมาเต็มกระเป๋า ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น พวกเขาจึงได้ออกล่าสัตว์กลายพันธุ์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เพราะคนของซูเฉินนั้นเก็บกวาดสัตว์กลายพันธุ์รอบข้างไปเยอะ พวกเขาจึงต้องออกเดินไปทางไกลเพื่อจะล่าสัตว์กลายพันธุ์
ตอนนี้มูลค่าของเนื้อ กระดูกและสิ่งต่าๆงของสัตว์กลายพันธุ์ในสถานที่รวมตัวนั้นสูงขึ้นมากกว่าเดิม
ดังนั้น สัตว์กลายพันธุ์ที่พวกเธอมาเต็มที่นั้นก็เพียงพอจะสร้างเงินให้พวกเธอได้
เมื่อพวกเธอนั้นกลับมายังสถานที่รวมตัว พวกเธอนั้นก็พบว่าบางอย่างนั้นแปลกไป ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็แตกตื่นและถืออาวุธกันอย่างเพรียบพร้อมในขณะจ้องมองด้านนอกด้วยดวงตาที่อันตายด้าน มันเป็นท่าทางที่เตรียมพร้อมจะต่อสู้
หลังจากสอบถามคนแถวนี้ พวกเธอนั้นก็ได้รู้ว่าตอนนี้ฝูงสัตว์กลายพันธุ์กำลังบุกมาที่นี่!!
ข่าวนี้ได้มาจากเมืองฐานทัพที่อยู่ใกล้เคียง ในแต่ละเมืองฐานัทพนั้นจะมีวิธีสังเกตการณ์ในระยะไกลอยู่ซึ่งมันไม่ชัดเจนเท่าเรดาห์ของซูเฉินซึ่งมันแย่กว่านิดเดียวเท่านั้น
เมืองฐานทัพนั้นได้ค้นพบการเคลื่อนไหวของสัตว์กลายพันธุ์หลายตัวพวกนี้มานานแล้วซึ่งพวกนั้นก็ได้แจ้งให้ทางสถานที่รวมตัวหมายเลข160 ได้รับรู้ และเรื่องนี้มันทำให้พวกเขารู้สึกราวกับกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่อันตรายมากๆ
เหตุผลใหญ่ที่สถานที่รวมตัวในปัจจุบันนั้นมีคนเพียงไม่กี่คนก็เพราะสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้
เหตุผลที่เกิดขึ้นนั้นไม่รู้ที่มาแน่ชัด สัตว์กลายพันธุ์บางตัวจู่ๆก็บ้าคลั่งขึ้นมาแล้วเข้าบ่อนทำลายหลายอย่างรอบตัว ถ้าหากมันเป็นเมืองฐานหล่ะก็ มันคงไม่เป็นไรหรอกแต่การป้องกันของสถานที่รวมตัวมันอ่อนแอมากๆ หากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์กลายพันธุ์บ้าคลั่งแบบนี้หล่ะก็ พวกเขาก็ต้องตายแน่นอน
ในตอนนี้ ยังไม่มีสถานที่รวมตัวใหนที่สามารถต้านทานฝูงสัตว์กลายพันธุ์บ้าคลั่งได้เลย เมื่อผู้คนได้ยินว่ามีฝูงสัตว์กลายพันธุ์บ้าคลั่ง พวกเขาทุกคนจึงสิ้นหวังกันนั่นเอง
ส่วนหนี?
ฮ่าๆ!!
ใครมันจะหนีเร็วกว่าสัตว์กลายพันธุ์? แม้กระทั่งรถยนต์ยังทำไม่ได้เลย
ในโลกนี้มีสัตว์กลายพันธุ์หลายประเภทที่มีความเร็วระดับสายฟ้า แน่นอนว่าคนนั้นไม่สามารถหนีจากมันได้
ดังนั้นการอยู่ในสถานที่รวมตัวนั้นอาจจะดีกว่า อย่างน้อยมันก็พอมีหวังบ้าง
ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ที่คนซ่อนตัวอยู่ในสถานที่รวมตัวแล้วโชคดีรอดชีวิตออกไปได้อยู่
แน่นอนว่าถ้าหากโดนพบเจอหล่ะก็ พวกเขาก็จะต้องโดนประหารในทันที!!
ในสถานการณ์เป็นตายของสถานที่รวมตัว คนที่คิดแต่จะเอาชีวิตรอดนั้นไม่มีสิทธิจะรอดไปได้
เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็เห็นผู้คนหลายคนที่แอบซ่อนตัวถูกพบเจอก่อนที่จะถูกฆ่า ณ ตรงนั้น บนถนนในตอนนี้มีร่างหลายร่างกองเต็มไปหมด
ในตอนนี้ ไม่มีใครสนใจกับศพที่กองอยู่เลยสักคน ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถหยุดฝูงสัตว์กลายพันธุ์ได้ ในไม่ช้าพวกเขาก็จะกลายเป็นศพอยู่ดี
ไม่สิ แม้กระทั่งศพก็ยังไม่เหลือ สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้หน่ะให้ความสนใจกับมนุษย์มากๆ
มนุษย์นั้นถือว่าสัตว์กลายพันธุ์เป็นอาหารแต่สัตว์กลายพันธุ์ก็นับว่ามนุษย์นั้นเป็นอาหารด้วย
“พี่สาว หลายปีมานี้มันไม่มีฝูงสัตว์กลายพันธุ์บ้าคลั่งแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย ฉันไม่คิดเลยนะว่าปีนี้พวกมันจะหมายหัวเราหน่ะ นี่ฉันโชคดร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?”ลั่วฮางก็พูดออกมาอย่างขมขื่น
จางเถานั้นก็ถอนหายใจ “ฉันอายุกว่านายแต่ยังไม่เคยเจอฝูงสัตว์กลายพันธุ์คลั่งเลยด้วยซ้ำ ไอ้พวกสัตว์กลายพันธุ์นี่มันคลั่งขึ้นมาจริงๆหรอ?”
“ลุงจาง ลุงบอกว่าอายุเยอะกว่าผมไม่กี่ปี ที่จริงลุงหน่ะอายุเกือบเท่าพ่อผมเลยนะ”ลั่วฮางก็พูดกวนๆ
“ล้อเล่นน่า ฉันอายุแค่ 35เองนะ”
“หะ ผมคิดว่าลุงอายุห้าสิบ…”
เหลิงหยูเหว่ยก็เมินการคุยเล่นของทั้งสอง ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงซูเฉินและสงสัยว่าหมอนั่นทำอะไรอยู่ นี่เขารู้เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นกับสถานที่รวมตัวแล้วหรือยัง?
“แม้เขาจะรู้ แล้วเขาจะทำอะไรกับเจ้าสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ได้หล่ะ?”
ซูเฉินที่อยู่ในห้องบัญชาการนั้นก็ได้ยินเสียงระบบดังขึ้นอย่างฉับพลัน “ภารกิจ ช่วยเหลือเหลิงหยูเหว่ย เนื่องจากภารกิจนั้นมีความยากเกินไป เมื่อคำนวณจากระดับความแข็งแกร่งของโฮสต์ในปัจจุบัน ขอปลดล็อคผู้บัญชาการระดับ 4 ชั่วคราว ได้รับการละเว้นการสร้างท่าอากาศยานและอนุญาตให้โฮสต์สร้างเฮลิคอปเตอร์จู่โจมได้โดยตรง หากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับโอกาสในการจับรางวัล 1 ครั้ง หากล้มเหลวจะทำการลดปริมาณพลังงานที่ได้รับครึ่งนึงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์”
ดวงตาของซูเฉินก็เปร่งประกายขึ้นมา โอกาสจับรางวัลหน่ะหรอ?
“แล้วรางวัลที่ว่ามันมีอะไรบ้าง?”
“ทุกอย่างที่เร้ดอะเริ้ทมี ขึ้นอยู่กับโชคของโฮสต์”
ทันใดนั้นซูเฉินก็เข้าใจในทันที มันก็คือกับไม่ได้ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับโอกาสนี้
จากนั้นแล้วเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ “ฉันสร้างเฮลิคอปเตอร์จู่โจมได้แต่ฉันไม่มีท่าอากาศยาน แล้วมันจะทำงานยังไง?”
ด้วยการมีท่าอากาศยานถึงจะสามารถสร้างยูนิตทางอากาศได้ หากไม่มีท่าอากาศยาน ก็ไม่อาจจะส่งยูนิตไปยังสถานที่ที่เจาะจงได้
เรดาห์ก็คือเรดาห์ และมันมีฟังชั่นก์ต่างกับท่าอากาศยานซึ่งไม่อาจจะใช้รวมกันได้
“โฮสต์สามารถใช้ได้แต่ไม่สามารถกำหนดเป้าอย่างชัดเจนได้”
ซูเฉินก็ยิ้มขึ้น ด้วยเฮลิคอปเตอร์จู่โจม เขานั้นก็ไม่กลัวว่าจะไม่สามารถช่วยเหลิงหยูเหว่ยได้ สิ่งเดียวที่เขากังวลนั้นก็คือเหลืองหยูเหว่ยนั้นจะเหลือรอดก่อนที่เขาจะไปถึงหรือเปล่า
บนแผนที สัตว์กลายพันธุ์นันก็ได้เข้ามาใกล้สถานที่รวมตัวในระยะห้าไมล์ ระยะทางนี้มันไกล้มากถึงขั้นที่คนบางส่วนชักอาวุธของตัวเองออกมากันเลย
บางคนชักปืน บางคนชักแท่งเหล็ก แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์กับการต่อกรสัตว์กลายพันธุ์ แต่มันก็เป็นเครื่องป้องกันสำหรับพวกเขา
ที่ยืนอยู่หน้าฝูงชน นั้นก็คือหม่าซานหบานที่แสดงสีหน้าน่าเกลียดออกมา
“ทำไมสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ถึงเลือกที่นี่ด้วย? ทำไมไม่มีใครแจ้งข่าวฉันล่วงหน้ากัน? หรือว่ามีคนต้องการใช้สัตว์กลายพันธุ์มากำจัดฉัน?”หม่าซานหยานนั้นก็รู้สงสัยมาก
การเป็นยักษ์ใหญ่ในสถานที่รวมตัวแห่งนี้ได้นั้น ไม่ว่าใครก็สามารถจินตนาการได้ว่าความสามารถของเขากับเมืองฐานทัพนั้นไม่ใช่อะไรที่ดูง่ายดายแน่
แต่ตอนนี้ หม่าซานยานั้นกลับรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าความสัมพันธ์ของเขากับเมืองฐานทัพนั้นกำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ