บทที่ 14 : การแก้แค้นและการฝึกหนัก!
บทที่ 14 : การแก้แค้นและการฝึกหนัก!
“อะไรนะครับ? คุณอยากให้ผมโทรเรียกทีมเก็บกู้ซากงั้นหรอครับ?”
“อะไรนะครับ? มันมีซากกระต่ายเขาเดียวเยอะมากด้วย?”
เวลาเย็น
เมื่อคังจุนโมวางสายซังวู เขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาอูจังซานโดยทันที
' เขาบอกให้ฉันโทรเรียกทีมเก็บกู้ซากเลยหรอ? นี่เขาจะต้องล่าได้เยอะขนาดไหนกัน?'
ฮันเตอร์ทำอะไรกับซากของมอนสเตอร์หลังจากที่พวกมันตายแล้ว?
ฮันเตอร์ส่วนใหญ่ที่ออกล่าตามลำพังหรือฮันเตอร์รายย่อยมักจะขนย้ายและนำพวกมันไปขายด้วยตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองได้ แต่กระบวนการก็ค่อนข้างยุ่งยาก
ด้วยเหตุนี้เอ ฮันเตอร์แรงค์ E ขึ้นไปหรือฮันเตอร์บริษัทใหญ่จึงมักจะมีการโทรติดต่อบริษัทเก็บกู้ซากมอนสเตอร์มืออาชีพ หรือไม่ก็สมัครใช้บริการผ่านแอปของกิลด์ฮันเตอร์โดยเฉพาะ
ซากศพของมอนเตอร์ที่เก็บรวบรวมมาด้วยวิธีนี้จะถูกส่งไปยังโรงชำแหละโดยตรง ซึ่งพวกมันก็จะถูกแยกส่วนอย่างประณีตและขายเป็นไอเทม
แต่ฮันเตอร์แรงค์ F เพียงคนเดียวจะถึงขั้นต้องเรียกทีมเก็บกู้ซากเลยหรอ?
เมื่อเขาโทรหาทีมเก็บกู้ซาก เขาก็จะต้องจ่าย 200,000 วอนต่อคน ดังนั้นเมื่อพิจารณาว่าราคาตลาดของซากกระต่ายเขาเดียวอยู่ที่ประมาณ 100,000 ถึง 120,000 วอนต่อตัว หากคุณเรียกพวกเจาเข้ามา คุณก็มีแนวโน้มว่าจะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เอง ในท้ายที่สุดแล้ว คังจุนโมจึงไม่ได้โทรหาทีมเก็บกู้ซากโดยทันทีแม้ว่าซังวูจะร้องขอแล้วก็ตาม
จนกว่าฉันจะได้เห็นด้วยตาของฉันเอง!
หลังจากมาถึงภูเขาอูจังซานแล้ว คังจุนโมก็มุ่งหน้าตรงไปที่ชั้นสาม
' ให้ตายเถอะ พวกแม่งเก็บค่าเข้ากูอีกแล้ว ;-; '
“ขออนุญาตนะครับ เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมขอผ่านทางหน่อยครับ”
คังจุนโมฝ่าฝูงฮันเตอร์ไปได้และมาถึงที่ตั้งของซังวูกับร่างโคลน
เขาอ้าปากค้างทันทีเมื่อเห็นฉากที่น่ามหัศจรรย์นี้
“โอ้พระเจ้า...”
ซากกระต่ายเขาเดียวกองพะเนินอยู่เต็มโถงทางเดิน
เลือดที่ไหลนองลงมาผ่านรูกระสุนในร่างกายของพวกมันทำให้โถงทางเดินเปียกโชกไปด้วยเลือด
“คุณฮันเตอร์.. เอ่อ? มันคือหมายเลข 2 หรอ?”
คังจุนโมเดินเข้าไปหาชายที่สวมหน้ากากอนามัยและแว่นกันแดด
จากนั้นชายคนนั้นหรือหมายเลข 2 ก็หันกล้องสมาร์ทโฟนไปที่คังจุนโม แล้วหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “คุณมาถึงแล้วหรอครับ?”
“เอ่อ? คุณฮันเตอร์นี่เอง มันเกิดอะไรขึ้นครับ?”
คังจุนโมมองคนในจอสมาร์ทโฟนและจำอีกฝ่ายได้ในทันที อย่างไรก็ตาม เสียงพูดก็มาจากหมายเลข 2 แทนที่จะดังมาจากในสมาร์ทโฟน
“คุณตัวแทน จริงๆ แล้วตอนนี้ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมรู้แค่ว่านี่คือสิ่งที่หมายเลข 2 ล่ามาได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณตัวแทน ทีมเก็บกู้ซากจะมาถึงเมื่อไหร่กันครับ?”
“เอ่อ ทีมเก็บกู้ซาก? อ้า! สักครู่นะครับ กรุณารอสักครู่!”
จากนั้นคังจุนโมก็รีบโทรหาบริษัทเก็บกู้ซากมอนสเตอร์ที่เขารู้จัก
“เอ่อผู้จัดการคิม นี่ผมเองครับ ไม่ครับ ฉันไม่ได้โทรมาชวนคุณดื่ม ตอนนี้คุณช่วยส่งทีมเก็บกู้ซากมาที่สนามล่าอูจังซานหน่อยได้ไหมครับ? ครับ? จำนวนคนในทีมหรอครับ...”
คังจุนโมจ้องมองภูเขากระต่าย(?)อยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเปิดปากของเขา
“เอาคนงานมาประมาณ 10 คนก็ได้ครับ ไม่มีคนพอหรอครับ? เอ่อ...งั้นตอนนี้มีกี่คนครับ? ตกลงครับ กรุณาส่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ทีนะครับ”
จากนั้นเขาก็วางสาย
ฮันเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ พูดกับคังจุนโม
“ขอโทษนะครับ คุณคือผู้จัดการของฮันเตอร์คนนั้นใช่รึเปล่า?”
“ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“อ่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ ชายคนนั้นเขานิ่งมากจนผมไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี”
ชายคนนั้นหยิบนามบัตรออกมาแล้วมอบให้คังจุนโม
นามบัตรนี้มีคำว่า 'สมาคมฮันเตอร์มหาวิทยาลัยซองซิล' เขียนอยู่
คังจุนโมตระหนักได้ทันทีว่าจุดประสงค์ของชายคนนี้คือการรับสมัคร
“ผมอยากรับสมัครเขาเข้ามาร่วมทีมด้วยน่ะครับ ขอผมทราบชื่อฮันเตอร์คนนั้นหน่อยจะได้ไหมครับ?”
“เฮ้ เราก็เหมือนกัน...”
“กรุณาเอานามบัตรของผมไปด้วย”
เมื่อคังจุนโมบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการของซังวู นามบัตรก็หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุม
ในสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้ คังจุนโมก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องควบคุมมันให้อยู่มือ
“ทุกคนโปรดเงียบด้วย!”
จากนั้นทุกอย่างก็หยุดอยู่ในความสงบ
คังจุนโมพูดกับพวกเขา
“บุคคลนี้อยู่ภายใต้นามบริษัท JM เอเจนซี่ของเรา ผมไม่สามารถเปิดเผยชื่อของเขาได้ และมันก็จะไม่มีการรับสมัครใดๆ เกิดขึ้นกับคนของเรา”
คังจุนโมพูดออกมาอย่างมั่นใจ
มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนมุมปากของเขา
* * *
ห้องของฮายอนตกแต่งอย่างน่ารักด้วยตุ๊กตา
ซังวูและฮายอนนั่งเคียงข้างกันที่หน้าโต๊ะเรียน
ซังวูกำลังดูสมาร์ทโฟนของเขา ขณะที่ฮายอนกำลังแก้ไขโจทย์ปัญหา
หน้าจอสมาร์ทโฟนกำลังแสดงภาพคังจุนโมที่กำลังควบคุมฝูงชนอยู่
ใช่.
ซังวูกำลังวิดีโอคอลกับหมายเลข 2 เขาเฝ้าดูสถานการณ์โดยรอบหมายเลข 2 แบบเรียลไทม์ และสั่งการระยะไกลเกี่ยวกับสิ่งที่หมายเลข 2 ควรพูดและควรเคลื่อนไหวอย่างไร
“พี่ซังวู พี่กำลังดูอะไรอยู่”
ในเวลานั้นเอง ฮายอนก็เงยหน้าขึ้นมองซังวูราวกับว่าเธอได้แก้ไขโจทย์ปัญหาทั้งหมดเสร็จแล้ว
ทันใดนั้น ซังวูก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของฮายอนที่อยู่ข้างๆ เขากดวางสายลงโดยทันที
“โอ้ มันไม่มีอะไรเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ออกคำสั่งให้หมายเลข 2 ทำตามคำสั่งของคังจุนโม
“ไม่จริง! เห็นๆ กันอยู่ว่าพี่เอาแต่ดูสมาร์ทโฟน”
“ฮ่าฮ่า ขอโทษที... พอดีฉันมีเรื่องเร่งด่วนน่ะ”
“มันเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ หรอ?”
ในเวลาเดียวกัน ฮายอนก็เริ่มแสดงสีหน้าชั่วร้าย
“พี่กำลังดูอะไรลามกอยู่ใช่ไหม?”
“ห้ะ? เปล่า! ฉันไม่ได้ดูอะไรพวกนั้นซะหน่อย”
“โอ้โห นี่พี่มาติวหนูแล้วก็ดูหนังโป๊ไปด้วยเนี่ยนะ! ว้าย คนโรคจิต!”
“เปล่านะ!”
“ไม่เป็นไรนะพี่ หนูเป็นคนใจกว้างและเข้าใจทุกอย่าง”
“ห้ะ! เธออยากโดนตีใช่ไหม?”
“ตีเลย ตีเลย~ คิคิ พี่ตีหนูไม่ได้หรอก”
ฮายอนแลบลิ้นออกมาและยั่วโมโหซังวู
ซังวูคว้าหัวของเธอเข้ามาในทันทีและล็อคหัวเธอไว้
“อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!”
“หนูจะไม่ทำอีกแล้ว พอแล้ว”
“หึ! ดูวิธีที่เธอพูดกับผู้ใหญ่สิ!”
“หนูยอมแพ้แล้ว หนูยอมแพ้แล้ว!”
จางฮายอนประกาศยอมแพ้ขณะพยายามดิ้นรนขัดขืน
จากนั้นซังวูก็ปล่อยเธอออกไป
ผมยาวตรงของฮายอนพันกันยุ่งเหยิงเป็นกระจุก
อย่างไรก็ตาม ซังวูก็ไม่แสดงอาการใดๆ เลยและแสดงสีหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากพูดคุยและหัวเราะกันสักพัก พวกเขาก็เติมพลังและเริ่มเรียนหนักอีกครั้ง
หลังจากสอนเสร็จก็เป็นเวลาเกือบ 22.00 น.
ที่บ้านของฮายอน ซังวูกำลังนั่งอยู่ด้วยกันในห้องนั่งเล่นกับฮายอนและคิมอ๊กจอง พวกเขากำลังนั่งกินไก่ทอดกันอยู่
“ขอบคุณนะซังวู ฉันจะกินให้อร่อยเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ได้รับค่าสอนพิเศษมาเยอะแล้ว แค่นี้ไม่ได้มากมายอะไรเลย”
“ช่ายช่าย ถูกต้องแล้ว พี่ซังวูไม่ได้สอนหนักอะไรเลย.. แอ่ก!”
ซังวูยัดขาไก่เข้าไปในปากของฮายอนอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมเป็นคนทุ่มเทให้กับงานอยู่แล้วครับ คุณแม่ไม่จำเป็นต้องห่วงเลย คุณแม่กินเยอะๆ เถอะครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ซังวูเองก็กินเยอะๆ เถอะจ่ะ”
ขณะที่เขากำลังกินไก่ทอดอยู่นั้น เขาก็ได้รับสายโทรเรียกเข้า
ซังวูลุกขึ้นและเดินออกไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ?”
-ลูกชาย~
ลีแอซุกแม่ของซังวูพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เอ่อ.. แม่”
- ขอบใจนะลูกสำหรับไก่ทอด ว้าว~
จริงๆ แล้ว ในตอนที่ซังวูสั่งไก่มากินที่นี่ เขาก็ได้สั่งไก่ไปให้ที่บ้านของเขาที่บูชอนด้วย
เนื่องจากเขาไม่ได้กลับไปบ้านพ่อแม่ในช่วงวันหยุด เขาจึงคิดว่าเขาควรจะติดต่อพวกเขากลับไปบ้าง ด้วยเหตุนี้เอง มันจะมีการติดต่อไหนที่ดีกว่าไปกว่าการส่งไก่ทอดไปให้กัน?
“ฮ่าฮ่า ดีใจครับที่แม่ชอบ”
-แน่นอนสิลูก~ ตั้งใตเรียนนะลูก~ แล้วก็กลับมาบ้านบ้าง~
“ เอ่อ.. แม่ครับ ผมกำลังออกกำลังกายอยู่ เดี๋ยวผมต้องไปก่อนแล้วนะครับ
-แม่! นั่นแม่กำลังคุยกับพี่ชายหนูอยู่หรอ?
ขณะนั้นเอง เสียงคนอื่นก็ดังเข้ามาในสาย จากนั้นเสียงผู้หญิงอีกคนก็ดังชัดขึ้น
นั่นคือจองจีวู น้องสาวของซังวู
-พี่ชาย! ขอบคุณนะสำหรับไก่!
" จ้า~”
-แต่พี่คะ คือเงินในกระเป๋าตัง...
ทันทีที่ซังวูได้ยินคำว่า 'เงิน' กับ 'กระเป๋าตัง' เขาก็กดวางสายลงในทันที
พวกเขาเป็นพี่น้องที่ดีจริงๆ
เสียงโทรเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง แต่ซังวูก็ปรับเป็นโหมดเงียบโดยทันที
' ถ้าอยากได้รับก็ต้องพยายามหามาด้วยตัวเองนะน้องสาว~'
ในความเป็นจริง ซังวูผู้ซึ่งมีปรัชญาแปลกๆ ก็กำลังทำสิ่งที่ขัดกับคำพูดของเขาโดยการสั่งให้ร่างโคลนของเขาไปทำทุกอย่างแทน
ซังวูกลับมาดูทีวีและกินไก่
ขณะที่ฮายอนและเขากำลังคุยกันอย่างมีความสุข จู่ๆ ข้อความก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
[ ความว่องไวเพิ่มขึ้น 0.001 ]
จากนั้นซังวูก็นึกถึงหมายเลข 1 ที่กำลังเรียนศิลปะการต่อสู้ที่ไฮเปอร์ยิม
' มันก็ผ่านมาสักระยะแล้วที่ค่าความว่องไวของฉันเพิ่มขึ้น โอ้ใช่ คิดดูอีกที ฉันก็ลืมหมายเลข 1 ไปเลย โดยปกติแล้วการฝึกจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ดังนั้นตอนนี้เขาก็คงจะฝึกเสร็จแล้วสินะ'
เนื่องจากผลงานอันน่าตกใจของหมายเลข 2 ในวันนี้ เขาจึงลืมเรื่องหมายเลข 1 ไปโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้ หมายเลข 1 ก็อยู่ที่ยิม เขากำลัง ‘ฟังครูฝึกอย่างระมัดระวังและฝึกซ้อมอย่างหนัก’ เขาจะต้องฝึกฝนอย่างหนักตามคำสั่งที่ได้รับและ 'ตอบให้เสียงดังฟังชัด'
'หมายเลข 1 หลังจากฝึกเสร็จแล้วก็ไปออกกำลังกายในยิมต่อเลย'
ซังวูออกคำสั่งในใจอีกครั้งและกลับมาใช้กินไก่ทอดต่อ
เขาไม่ได้รู้เลยว่าหมายเลข 1 เองก็ได้สร้างเรื่องเอาไว้เหมือนกัน
* * *
ณ ไฮเปอร์ยิม
ลีจงฮุนที่กำลังฝึกหมายเลข 1 อยู่รู้สึกประหลาดใจ
' อะไรกัน? ทำไมการเคลื่อนไหวของคุณถึงช้าเป็นเต่าแบบนั้นกัน?'
ตอนแรกเขาต้องการจะแก้เผ็ดทัศนคติที่เย่อหยิ่งของซังวูจากเมื่อวันก่อน ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อหมายเลข 1 มาถึง เขาจึงได้เริ่มการฝึกฝนอย่างหนักโดยทันที
การฝึกนี้คือการกลิ้งเพื่อฝึกหลบหลีก
นี่เป็นการฝึกต่อจากการฝึกครั้งเมื่อวาน
การฝึกนี้เป็นการฝึกที่สำคัญมาก แต่มันก็เป็นการออกกำลังกายที่ใช้พลังมากกว่าที่คิดด้วยเช่นกัน นี่เป็นเพราะคุณต้องเหวี่ยงตัวและกลิ้งตัวไปมาบนพื้น
เหนือสิ่งอื่นใด ความรู้สึกของการทำร้ายตัวเอง(?) ที่เกิดจากการกลิ้งตัวลงบนพื้นยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย ด้วยเหตุนี้เอง นี่จึงเป็นการฝึกฝนที่เข้ากันได้ดีกับแผนการอันชั่วร้ายของลีจงฮุน
แต่แล้วนี่คืออะไร?
ทันทีที่เขาเริ่มฝึก ลีจงฮุนรู้สึกได้ทันทีว่าการเคลื่อนไหวของหมายเลข 1 นั้นช้ากว่าเมื่อวานแบบครึ่งๆ
แน่นอนว่าลีจงฮุนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับร่างโคลน ดังนั้นเขาจึงคิดว่านี่เป็นกลอุบายหนึ่งของซังวู
“คุณซังวู นี่มันไม่ช้ากว่าเมื่อวานมากไปหน่อยหรอครับ? คุณไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?”
“ผมทำได้เท่านี้ครับ”
“นั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้แล้วหรอ? เร็วขึ้นอีก! ขยับให้เร็วขึ้นอีก! พวกมอนสเตอร์ไม่มาสนใจคุณหรอกนะ! ทำให้การเคลื่อนไหวของคุณรวดเร็วขึ้นซะ! ออกแรงที่เท้าของคุณให้มากขึ้นไปอีกเมื่อคุณกระโดด!”
ท้ายที่สุดแล้ว เนื่องจากเขาเป็นโค้ช เขาจึงดำเนินการแก้ไขการเคลื่อนไหวและวิธีการกลิ้งของหมายเลข 1 ต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
ลีจงฮุนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีแล้วเพราะซังวูหรือหมายเลข 1 กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถึงอย่างนั้น อีกฝ่ายก็กลับไม่เคยแสดงอาการหยุดและยังคงดำเนินการฝึกฝนต่อไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ
เมื่อเห็นดังนี้ ในที่สุดเขาก็มองดูนาฬิกา
' โอ้ ผ่านไป 10 นาทีแล้วหรอเนี่ย? 'ฉันใช้เวลานานเกินไปรึเปล่านะ?'
การกระโดดไปด้านข้าง กระโดดไปข้างหน้า และกลิ้งสุดกำลังนั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากกว่าที่คุณคิด
จากประสบการณ์ของลีจงฮุน ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถยืนหยัดได้นานถึง 5 นาที พวกเขามักจะเส้นยึดและขยับต่อไม่ไหวกันซะก่อน
อย่างไรก็ตาม หมายเลข 1 ก็ยังทำตามได้โดยปกติ และลีจงฮุนก็ตัดสินใจที่จะแสร้งทำเป็นไม่รู้ต่อไปเพื่อแก้แค้นที่ซังวูทำไว้เมื่อวันก่อนหน้า
' เอาล่ะ กลิ้งต่อไปอีกสัก 5 นาทีแล้วค่อยให้พักก็แล้วกัน นายจะได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของศิลปะการต่อสู้อย่างแท้จริง และนายจะได้รู้ไว้ว่าคำสั่งของโค้ชนั้นเด็ดขาดแค่ไหน!’
แม้ว่าเขาอยากจะจงใจแก้แค้นซังวู แต่เขาก็ยังทำงานหนักเพื่อพยายามเคี่ยวเข็นหมายเลข 1 อย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?
การเคลื่อนไหวของหมายเลข 1 ค่อยๆ ดีขึ้น แต่ลีจงฮุนก็เริ่มกังวลขึ้นมาหลังจากเห็นว่าหมายเลข 1 ยังคงไม่พูดอะไรเลย
“เฮ้ คุณซังวู คุณเหนื่อยรึเปล่าครับ?”
“ฮะ ฮะ ใช่ครับ”
“งั้นเราจะหยุดกันก่อนดีไหมครับ? เรายังมีการฝึกอื่นๆ อยู่อีกด้วย”
“ได้ครับ ฮะฮะ”
จากนั้นหมายเลข 1 ก็หยุดลง
ลีจงฮุนไม่รู้ว่าซังวูหรือหมายเลข 1 มีสกิลด้านความอดทนหรือเป็นเพราะเขามีความอุตสาหะอย่างยิ่งกันแน่
‘ เมื่อวานเขาดูเย่อหยิ่ง แต่วันนี้เขากลับกลายเป็นคนเชื่อฟังคำสั่งซะแล้ว?’
ลีจงฮุนมอบน้ำให้กับหมายเลข 1
“เฮ้ คุณซังวู ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆ นะครับที่เห็นคุณฝึกหนัก นี่ครับ ดื่มน้ำหน่อย”
“ได้ครับ”
หมายเลข 1 ดื่มน้ำหมดภายในครั้งเดียว
“คุณคงจะกระหายน้ำมากสินะครับ.. การฝึกก่อนหน้านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้เริ่มต้น แต่คุณก็ผ่านมันมาได้ ตอนนี้คุณอยากจะฝึกกันต่อเลยไหมครับ?”
“ได้ครับ”
ต่างจากซังวูคนเมื่อวานที่ลีจงฮุนพบ เขาคิดว่ามันแปลกเล็กน้อยที่คำตอบของซังวู(?)นั้นสั้นและกระชับ ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร
“เอาล่ะครับ ครั้งนี้ผมจะฝึกในหัวข้ออื่นต่อเลยนะครับ”