ตอนที่ 864 นารูโตะพบกับคางูยะเป็นครั้งแรก
หลังจากที่อันดับที่ 8 ของรายการวิชากระบวนท่าหายไป อันดับที่ 7 ก็ยังไม่ได้รับการประกาศในทันที
เหล่าผู้คนจึงใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ เพื่อคาดเดาว่าใครอาจจะอยู่ในอันดับที่ 7 ของรายการวิชากระบวนท่า
ในขณะเดียวกัน ภายในคฤหาสน์ของหลี่ฟาน
“สวัสดีคะ หนูชื่ออุซึมากิ คาริน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
หลังจากที่หน้าจอถ่ายทอดสดของรายการทองคำหายไป คารินก็เดินเข้าไปหาคุชินะด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“ฉันรู้จักเธอ เธอคืออุซึมากิ คาริน และเธอก็เป็นคนของตระกูลอุซึมากิด้วย!”
คุชินะหันกลับมา และมองไปที่ผมสีแดงเข้มของคารินด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เดิมที เธอคิดว่าหลังจากการตายของเธอ จะไม่มีใครในตระกูลอุซึมากิรอดชีวิตแล้ว
แต่การปรากฏตัวของคาริน ทำให้ความคิดนั้นของเธอแตกสลายไป
แต่สิ่งที่เธอไม่ได้คาดคิดก็คือ เธอเพิ่งจะได้พบกับคารินด้วยตาของเธอเอง และยังกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอด้วย!
“พวกเรามาจากตระกูลอุซึมากิเหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการของอาจารย์หลี่ฟานเหมือนกันด้วย ในอนาคตหนูหวังว่าพวกเราจะเข้ากันได้ดีนะคะ”
คารินดันแว่นของเธอและยื่นมือไปหาคุชินะอย่างสุภาพ
แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่หลายปีที่เธอใช้ชีวิตพเนจรและผ่านการฝึกฝนของหลี่ฟาน ก็ทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
“แน่นอน”
มองไปที่เด็กสาวผมแดงตัวเล็กที่ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ตรงหน้าเธอ คุชินะก็คิดว่าเธอน่าสนใจมาก และในขณะเดียวกันก็เอื้อมมือไปจับมือของคารินด้วย
“นารูโตะ อย่ายืนเฉยสิลูก มาทักทายพี่คารินสิ”
คุชินะพูดพลางผลักนารูโตะออกมาจากด้านหลังของเธอ
เนื่องจากประสบการณ์ในวัยเด็กและการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย นารูโตะในตอนนี้จึงไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน
“เอ่อ... สวัสดีครับ” นารูโตะก้มหัวทักทายคาริน
“สวัสดีจ้ะ” คารินมองไปที่นารูโตะด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แต่จะพูดให้ถูกก็คือ มองไปที่ผมสีเหลืองทองของนารูโตะต่างหาก
“อาจารย์หลี่ฟานเคยบอกว่า สายเลือดของตระกูลอุซึมากินั้นทรงพลังมาก”
“โดยทั่วไปแล้ว ลูกหลานของตระกูลอุซึมากิจะมีผมสีแดง”
“แต่การที่นารูโตะมีผมสีเหลือง... บางทีอาจเป็นเพราะจักระอาชูร่าในตัวของเขาก็ได้”
ได้ยินคำพูดของคาริน คุชินก็มองไปที่ผมของนารูโตะ
ก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าเป็นเพราะนารูโตะได้รับยีนของมินาโตะไปมากกว่ายีนของตัวเอง
แต่หลังจากได้ฟังคำเตือนของคาริน คุชินะก็คิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ของจักระอาชูร่าก็ได้
“เอาเป็นว่า หนูว่าพวกเราพานารูโตะไปพบเธอกันเถอะ!”
ทันใดนั้น ดวงตาของรินก็สว่างขึ้น และหันไปพูดกับคุชินะและนารูโตะทันที
“หืม คาริน ที่เธอพูดมันหมายความว่าอะไร?” คุชินะถามด้วยความสงสัย
“ฮิฮิ หนูจะบอกอะไรที่เป็นความลับให้ฟัง” คารินยกมุมปากขึ้นและพูดกับคุชินะด้วยเสียงต่ำ
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่โอซึซึกิ คางูยะที่เคยปรากฏตัวในการท้าทายของรายการทองคำ เป็นแม่ของโอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ”
“อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็อยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ด้วย”
“ถ้านารูโตะมีจักระของอาชูร่าอยู่ในตัว เธอก็ถือได้ว่าเป็นคุณย่าของนารูโตะในระดับหนึ่ง”
“ใช่แล้ว ในอีกแง่หนึ่ง เธอก็อาจจะเป็นแม่ของพี่คุชินะด้วยก็ได้นะ?”
ปากของคุชินะเปิดกว้าง และมองไปที่เคารินด้วยความไม่เชื่อ
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ คารินก็จับมือของเธอแล้ววิ่งเข้าไปในห้องที่อยู่ไม่ไกล นารูโตะที่เห็นแบบนั้นก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว
“เธออยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย!”
ทันทีที่คุชินะเข้าไปในห้อง เธอก็เห็นคางูยะซึ่งกำลังยืนพึงกำแพงอยู่
“เข้ามาสิ” คางูยะชำเลืองมองไปที่คุชินะและนารูโตะ
ท้ายที่สุดมันเป็นการกลับชาติมาเกิดของอาชูร่า หลานชายของเธอ ดังนั้นเมื่อเห็นนารูโตะปรากฏตัวที่นี่จริงๆ คางูยะจึงถอนหายใจในใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เอ่อ... คือว่า สวัสดีค่ะ”
แม้จะไม่รู้ว่าทำไมคางูยะถึงมาอยู่ที่นี่ แต่คุชินะก็พานารูโตะเข้ามาทักทายเธอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างนารูโตะกับคางูยะ เธอจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเรียกคางูยะว่าอะไรดี?
“ในตัวลูกชายของเจ้า มีจักระของอาชูร่าอยู่”
“แต่หลี่ฟานพูดถูก มันเป็นเพียงการกลับชาติมาเกิดของจักระเท่านั้น ไม่ใช่การกลับชาติมาเกิดของวิญญาณ”
“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจักระนั้น ในเมื่อพวกเจ้าต่างก็เป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟาน ก็ขอให้ปฏิบัติต่อข้าในฐานะเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง”
คางูยะพูดขึ้นอย่างเรียบๆ
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุชินะก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเริ่มพูดคุยกับคางูยะในหลายๆ หัวข้อ
เธอค่อนข้างสงสัยว่าทำไมคางูยะถึงกลายมาเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟาน
…
