ตอนที่แล้วตอนที่ 31 ไอเดียสุดบรรเจิดอีกแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 การทดสอบ

ตอนที่ 32 การประชุมของเบื้องบน


  "นั่นใคร?"

  ฟึบ

  หลังจากที่ชายคนนั้นแยกกับเคนจาคุ โกโจ คาเอเดะก็จงเดินตามเขาเป็นระยะทางกว่าสามกิโลเมตร ก่อนจะเริ่มลงมือ

  "ที่แท้ชายคนนี้มีชื่อว่าชิเงโมะ ฮารุตะ อาคมสะสมปฏิหารย์หรอ? น่าสนใจจริงๆ!"

  หลังจากดูความทรงจำวิญญาณของชายคนนี้ โกโจ คาเอเดะก็พอจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาคร่าวๆ

  เขาไม่ได้มองย้อนกลับไปไกลขนาดนั้น เดี๋ยวเจ้านี่จะปัญญาอ่อนไปซะก่อน

  หลังจากแก้ไขความทรงจำระหว่างการเผชิญหน้าของทั้งสองแล้ว โกโจ คาเอเดะก็ถอนพลังหัตถ์ออก

  ชิเงโมะ ฮารุตะที่ถูกแก้ไขความทรงจำ ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา เขาหน้าบึ้งและรู้สึกแปลกๆ

  อย่างไรก็ตาม เขากลับตรวจไม่พบว่ามีอะไรที่ผิดปกติ

  เขาส่ายหัวและไม่คิดมากเรื่องนี้อีก

  เขามองไปที่โกโจ คาเอเดะแล้วพูดว่า

  "เอส นายคิดถูกแล้วล่ะที่มาร่วมมือกับพวกเรา!"

  นี่คือสิ่งที่โกโจ คาเอเดะปลูกฝังให้ชิเงโมะ ฮารุตะ

  "ถ้าเราไม่กำจัดเจ้าโกโจ ซาโตรุ วันของนักสาปแช่งอย่างพวกเราคงไม่มีวันมาถึงแน่!"

  โกโจ คาเอเดะแสร้งทำเป็นพูดอย่างเห็นด้วย

  "ใช่ เมื่อก่อนเราจะทำอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้จะทำอะไรก็ต้องคอยระวังไปหมดเลย แต่สถานการณ์มันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว วันที่เรารอคอยกำลังจะมาถึง!"

  เพราะการดำรงอยู่ของโกโจ ซาโตรุส่งผลต่อความสมดุลระหว่างผู้ใช้คุณไสยและนักสาปแช่งโดยสิ้นเชิง

  มันทำให้พวกนักสาปแช่งไม่สามารถทำมาหากินแบบที่เคยทำอย่างเปิดเผยได้อีก

  และพอสมดุลของสองฝ่ายถูกทำลาย ก็เป็นผู้ใช้คุณไสยที่ตามล่าพวกนักสาปแช่งไปมากมาย

  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเกลียดโกโจ ซาโตรุมาก และเต็มใจที่จะร่วมมือกับวิญญาณคำสาป

  "เอาเถอะ แต่ฉันสงสัยว่าฉันจะได้เจอกับชายคนนั้นเมื่อไหร่ เพราะฉันอยากจะยืนยันความแข็งแกร่งของเขาด้วยตัวฉันเอง"

  เหตุผลหลักที่สุดที่โกโจ คาเอเดะเลือกมาทำงานกับพวกนี้เพราะความเบื่อหน่าย อีกอย่างคือเพื่อมาลองเช็คอินที่ที่พวกวิญญาณคำสาประดับพิเศษรวมตัวกัน

  ยิ่งถ้าได้เช็คอินตอนวิญญาณคำสาปรวมตัวกับนักสาปแช่งได้ละก็ รางวัลจะต้องมหาศาลมากเลยแน่ๆ

  "ฉันจะติดต่อนายเร็วๆนี้"

  ฮารุตะไม่ตอบกลับในทันที

  แต่เขาแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับโกโจ คาเอเดะด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงจากไปเพียงลำพัง

  ตามความทรงจำของฮารุตะ เอสนั้นเป็นนักสาปแช่งที่ใช้ไฟได้แข็งแกร่งมาก

  แต่หากอยากจะเจอกับเคนจาคุ ก็ต้องผ่านภารกิจสักสอง-สามภารกิจก่อน ถึงจะมีคุณสมบัติ

  “แหงแหละ ก็คงต้องทดสอบกันก่อน ช่างมัน ไหนๆก็ออกมาแล้ว หาที่มีวิญญาณคำสาปเยอะๆแล้วเช็คอินหน่อยดีกว่า”

  ความคิดที่จะเป็นสายลับนั้นเขาคิดขึ้นมากระทันหัน

  จึงไม่มีแผนแบบละเอียด ทำได้แค่ตามน้ำไปก่อน

  ภายใต้พลังฮาคิสังเกตของโกโจ คาเอเดะ ในที่สุดเขาก็พบสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งซึ่งมีวิญญาณคำสาปรวมตัวกันอยู่

  “ติ๊ง - พบสถานที่เช็คอินแห่งใหม่แล้ว ต้องการเช็คอินไหม?”

  "เช็คอิน!"

  "ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เช็คอินสำเร็จ รางวัลคือทักษะ 'คาถาแยกร่างไม้' "

  เมื่อได้ยินรางวัลจากการเช็คอิน โกโจ คาเอเดะก็มีสีหน้ายินดีอย่างยิ่ง

  เมื่อเปรียบเทียบกับร่างเงาแล้ว ร่างไม้นั้นดูสมจริงเกินไป

  ถ้าไม่มีการต่อสู้หรือการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ แม้แต่คนที่มีดวงตาริคุกันก็อาจจะดูไม่ออกว่าเป็นร่างปลอม (ตาของโกโจ)

  "ตอนนี้จะทำอะไรก็สะดวกกว่าเดิมล่ะนะ"

  หลังจากเคลียร์วิญญาณคำสาปในสถานที่ก่อสร้างแบบชิลๆ โกโจ คาเอเดะก็วิ่งด้วยความเร็วสูง มุ่งตรงกลับโรงเรียนไสยเวท

  แต่ในช่วงค่ำคืนอันแสนยาวนานมี พวกเบื้องบนกำลังรวมตัวกัน

  เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้น่ากลัวกว่าตอนเหตุการณ์ของโอคตสึ ยูตะมาก

  "เขาจะต้องถูกประหารทันที เราจะปล่อยให้เรียวเมง สุคุนะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งไม่ได้!"

  งาคุกันจิ โยชิโนบุซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเกียวโตคำรามออกมา

  ในฐานะที่เป็นคนอนุรักษ์นิยม เขาจะไม่ยอมให้มีตัวอันตรายแบบนี้ดำรงอยู่

  "ใช่ เขาต้องถูกฆ่า เราปล่อยเรียวเมง สุคุนะไว้ไม่ได้จริงๆ"

  ชายชราอีกคนก็พูดด้วยความหนักแน่นเช่นกัน

  "ต่อให้เราจะฆ่าอิตาโดริ ยูจิในตอนนี้ มันก็เป็นแค่นิ้วเดียวเท่านั้น เป็นเรื่องยากที่จะภาชนะของสุคุนะได้อีกนะ เพราะงั้นปล่อยให้อยู่ต่อดีกว่า รอให้กินนิ้วเพิ่มสักหน่อยแล้วค่อยฆ่าตอนนั้นก็ไม่สายนี่"

  โกโจ ซาโตรุรู้ดีว่าถ้าเขาต้องการให้อิตาโดริ ยูจิมีชีวิตอยู่ นี่เป็นทางเลือกเดียว

  สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นจะมีการพูดคุยกันในภายหลัง

  "ไม่ได้แน่นอน การปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักวันก็ถือเป็นความเสี่ยงต่อโลกผู้ใช้คุณไสยแล้ว!"

  งาคุกันจิ โยชิโนบุยังคงรั้นไม่ยอมง่ายๆ

  "ใช่ เราไม่สามารถทนต่อความเสี่ยงนี้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราต้องรีบทำลายภาชนะนี้"

  คนส่วนใหญ่เห็นพ้องตรงกัน

  "ฉันคิดว่าเราควรลองอย่างที่โกโจพูดนั่นแหละ โอกาสที่จะทำลายราชาคำสาปแบบนี้หายากนะ"

  "ใช่ เราลองแบบนี้ก่อนก็ได้ ปล่อยให้เจ้าภาชนะนี่กินนิ้วไปเรื่อยๆก่อน ถึงเวลาก็ค่อยฆ่ามัน ถือเป็นการทำลายเจ้าราชาคำสาปนั่นทีเดียวซะเลย"

  แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะอยากให้ฆ่าอิตาโดริ ยูจิ เพราะกลัวพลังของราชาคำสาป

  แต่ยังมีคนส่วนน้อยที่เห็นด้วยกับความคิดของโกโจ ซาโตรุ

  ท้ายที่สุดแล้ว โอกาสแบบนี้นั้นหาได้ยาก

  นอกจากนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกับโกโจ ซาโตรุได้

  ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าโกโจ ซาโตรุต้องการจะปกป้องใคร ก็คงไม่มีใครฆ่าคนคนนั้นได้

  "เสียงส่วนใหญ่ต้องมายอมเสียงส่วนน้อยหรอ ฮึ่ม เป็นการประชุมที่ดีจริงๆ!"

  โกโจ ซาโตรุยิ้มเพิกเฉยต่อการพูดประชดของงาคุกันจิ โยชิโนบุ จากนั้นก็เดินออกไปโดยไม่สนใจใคร

  เพราะแม้ว่าพวกเขาจะมีมติเป็นเอกฉันท์และปฏิเสธความคิดของเขา แต่สุดท้ายคำพูดของเขาก็จะมีผลอยู่ดี

  นี่คือความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง

  "ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวเอ้ย!"

  งาคุกันจิ โยชิโนบุตัวสั่นและคำรามด้วยความโกรธ

  "เราปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดทำต่อหน้าไม่ได้ ก็ทำแบบลับๆกันเถอะ"

  งาคุกันจิ โยชิโนบุหลังจากได้ยินข้อเสนอนี้ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยและแสดงรอยยิ้มที่เย็นชา

  “เพื่อความปลอดภัยของโลกแห่งผู้ใช้คุณไสย ภาชนะนั้นจะต้องถูกลบออกไปจากโลกนี้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด