ภายในของค่ายกลซูโจวเทียนดูเหมือนจะกว้างใหญ่ แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้ครอบครองพื้นที่มากนัก อย่างไรก็ตาม มีจักรวาลอยู่ข้างใน เหมือนกับโลกที่เกิดจากฟ้าดิน ภายในค่ายกลนี้ ใครๆ ก็จะรู้สึกว่ามันดูไร้ขอบเขต

ในตอนนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของจักรพรรดิอสูรดาราในค่ายกลไม่สามารถซ่อนไว้จากตา และหูของฉินซู่เจียนได้

เมื่อเห็นดาวตกทำอะไรไม่ได้ เขาก็โบกมือ

เมื่อโบกมืออีกครั้ง และค่ายกลก็เปลี่ยนไปทันที

ในทันที

จิตสังหารสาดเทลงมา

ทะเลดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุดตกลงมาจากท้องฟ้า ดูงดงามมากแต่เปล่งด้วยจิตสังหารอันท่วมท้น

บูม!

ที่ใดก็ตามที่ทะเลดวงดาวผ่านไป ความว่างเปล่าก็พังทลายลง

จักรพรรดิอสูรดาราคำราม แทนที่จะถอยกลับ มันกลับก้าวขึ้นไปในอากาศ และต่อย พยายามทำให้ทะเลดวงดาวแตกสลาย

ในที่สุด

ทะเลดวงดาวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ร่างกายของจักรพรรดิอสูรดาราก็สั่น และถอยหลังไปหนึ่งก้าวเช่นกัน

ฉินซู่เจียนโบกมืออีกครั้ง

ดวงดาวบนท้องฟ้าเบ่งบานด้วยความสุกใสพร่างพราว

แล้วดวงดาวตกลงมาทีละดวง กลายเป็นอสูรดาราที่สูงหนึ่งล้านฟุต และปิดล้อมจักรพรรดิอสูรดาราที่อยู่ตรงกลาง

ออร่าของอสูรดาราแต่ละตัวมีพลังมหาศาล

แม้ว่าจะมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกมันกับจักรพรรดิอสูรดาราที่เป็นกึ่งผู้ข้ามกฏ แต่ก็มีเป็นจำนวนมาก

หลังจากที่อสูรดาราเหล่านั้นถือกำเนิด พวกมันก็โจมตีพวกพวกมันเองภายใต้คำสั่งของฉินซู่เจียน

การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่

ปะทุขึ้นแล้ว

พลังชี่ของฉินซู่เจียนหลั่งไหลเข้าสู่ค่ายกล เพื่อเพิ่มพลังของมัน

“กึ่งผู้ข้ามกฏนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ถ้าเดาไม่ผิด นี่คือจักรพรรดิอสูรดารา!”

จักรพรรดิอสูรดารา!

มันเป็นจักรพรรดิแห่งเผ่าอสูรดารา และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอสูรดาราทั้งหมด

แม้ว่ายังมีดวงดาวโบราณหลายดวงที่ยังไม่ถูกทำลาย แต่โดยพื้นฐานแล้ว ฉินซู่เจียน ก็มั่นใจว่าอสูรดาราที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ จักรพรรดิอสูรดาราอย่างแน่นอน

เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นกึ่งผู้ข้ามกฏแล้ว นี่ก็เพียงพอที่จะอธิบายบางสิ่งได้แล้ว

เขาไม่เชื่อว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่านี้ในหมู่อสูรดารา

หากแม้แต่กึ่งผู้ข้ามกฏก็ไม่ใช่จักรพรรดิอสูร แล้วจักรพรรดิอสูรดาราจะอยู่ในระดับใด?

ผู้ข้ามกฏ?

ฉินซู่เจียนรู้ว่าไม่มีผู้ข้ามกฏปรากฏขึ้นในยุคนี้ โดยธรรมชาติแล้วจะไม่มีผู้ข้ามกฏอยู่ในหมู่อสูรดารา

ณ ตอนนี้.

อสูรดาราที่สร้างโดยค่ายกลซูโจวเทียนยังคงต่อสู้กับจักรพรรดิอสูรดารา

อสูรดาราเหล่านี้ไม่ใช่อสูรดาราจริงๆ พวกมันเป็นเพียงการแสดงพลังของแผนภูมิดาว

เป็นเพียงเพราะพลังของแผนภูมิดาวนั้นเข้ากันได้กับอสูรดารามากที่สุด ดังนั้น เมื่อ อสูรดารา ปรากฏตัว พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังได้มากขึ้น

ในตอนนี้ด้วยพลังของแผนภูมิดาวสามารถสร้างอสูรดาราได้ทั้งหมด 365 ตัว

ยิ่งไปกว่านั้น พลังของอสูรดาราแต่ละตัวยังเทียบได้กับพลังอมตะระดับห้า

เดิมทีแผนภูมิดาวซึ่งเพิ่งถูกสร้างขึ้น สามารถสร้างอสูรดาราที่เป็นอมตะระดับสี่ได้อย่างมากที่สุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากดูดซับแกนดาวจำนวนมาก พลังของแผนภูมิดาวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ขณะนี้อสูรดาราสามารถปรากฏอยู่ภายในได้มากขึ้น

พวกมันยังได้ทะลวงผ่านจากอมตะระดับสี่ไปจนถึงอมตะระดับห้าด้วย

เมื่อถูกล้อมโดยอมตะระดับห้า 365 คน แม้แต่อมตะระดับเก้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตาย

อย่างไรก็ตาม

เมื่อเผชิญกับการโจมตีดังกล่าว จักรพรรดิอสูรดาราไม่ได้แสดงอาการพ่ายแพ้ใดๆ เลย แต่มันกลับฆ่าอสูรดาราตัวแล้วตัวเล่า

เมื่อเหล่าอสูรดาราเสียชีวิต

ดวงดาวบนท้องฟ้าดูเหมือนจะมืดสลัวลงเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน ค่ายกลก็สั่นเล็กน้อย ราวกับว่าแสดงสัญญาณของการแตกสลาย

ต่อมาระฆังเทียนตี้ และกระจกสวรรค์ซึ่งเป็นแกนกลางของค่ายกล ทั้งคู่ส่องสว่างอย่างสดใส จากนั้น พวกเขาก็รวมพลังเข้ากับแผนภูมิดาว และทำให้ค่ายกลที่สั่นไหวเล็กน้อยมีความมั่นคง

ฉินซู่เจียนไพล่มือของเขาไว้ด้านหลัง และเฝ้าดูสถานการณ์ในค่ายกลอย่างใจเย็น

เขาไม่ได้ผ่อนคลายสักครู่ในขณะที่เขาส่งพลังชี่ลงไป

“กึ่งผู้ข้ามกฏนั้นยากที่จะรับมือจริงๆ แม้แต่ค่ายกลซูโจวเทียนก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ในทันที แต่กลับทำได้แค่สะกดมันได้ในช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น”

“ถ้าเป็นบาฮัน หรือโม่เซี่ย เกรงว่าพวกเขาคงไม่ห่างไกลจากความตาย”

ฉินซู่เจียนถอนหายใจในใจ

กึ่งผู้ข้ามกฏเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ

จักรพรรดิอสูรดาราที่อยู่ตรงหน้าเขามีรากฐานที่แข็งแกร่งจริงๆ

เขาสงสัยด้วยซ้ำว่าหากไม่มีอุบัติเหตุ อีกฝ่ายอาจกลายเป็นผู้ข้ามกฏคนแรกในยุคนี้

นี่ไม่ใช่เรื่องตลก

เนื่องจากมีกึ่งผู้ข้ามกฏเพียงไม่กี่คนในจักรวาลทั้งหมด

ฉินซางเสียชีวิตไปแล้วในอดีต หยิน และหยางในโลกไร้ขอบเขตไม่มีความเป็นไปได้ที่จะก้าวหน้าในอนาคต กึ่งผู้ข้ามกฏคือ ขีดจำกัดของพวกเขา

ในทางตรงกันข้าม จักรพรรดิอสูรดาราซึ่งเดิมทีหลับใหลอยู่ในดวงดาวโบราณนั้นไม่มีข้อจำกัดใดๆ

ตราบใดที่มีเวลามากพอก็สามารถทะลวงผ่านเป็นผู้ข้ามกฏได้

"จริงๆ แล้ว มีคนจำนวนมากที่มีโอกาสเป็นผู้ข้ามกฏในยุคนี้" ฉินซู่เจียนคิดอะไรบางอย่างได้แล้วก็ส่ายหัวทันที

ยกเว้นจักรพรรดิอสูรดาราที่อยู่ตรงหน้าเขา

มีอมตะสองสามคนในศาลสวรรค์ที่มีโอกาสก้าวหน้าไปถึงระดับนั้น

จักรพรรดิจ้าว และเซียวเฉิงเฟิงก็ใช่

อมตะที่เหลือเช่น จักรพรรดิมาร และจักรพรรดิหลี่ฉวนก็มีความหวังเช่นกัน แต่มันก็น้อยนิดมาก

ในบรรดาปีศาจมิติ บาฮัน และโม่เซี่ยก็มีโอกาสที่จะทะลวงผ่านได้เช่นกัน

โดยเฉพาะบาฮัน

อีกฝ่ายเป็นจอมจักรพรรดิปีศาจมานาน และมีรากฐานที่แข็งแกร่ง ที่ยังไม่ได้ไปถึงกึ่งข้ามกฏเพราะเขาขาดโอกาส

อย่างไรก็ตาม

บาฮันเสียชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะมีความเป็นไปได้มากมายเพียงใด มันก็กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว

ความคิดของเขาล่องลอยไป และหวนกลับมาอย่างรวดเร็ว การจ้องมองของฉินซู่เจียนยังคงจ้องมองไปที่ค่ายกล

ในขณะนี้ อสูรดาราหลายตัวที่ปรากฏขึ้นได้ถูกฆ่าไปแล้ว

ในค่ายกลนั้น อสูรดาราล้มลงมาทีละตัว พลังของจักรพรรดิอสูรดารานั้นไม่มีใครเทียบได้

เมื่อเห็นสิ่งนี้

ฉินซู่เจียนยิ้มเล็กน้อย และโบกแขนเสื้ออีกครั้ง

ดวงดาวบนท้องฟ้าซึ่งหรี่แสงลงเล็กน้อยก็ส่องแสงแวววาวอีกครั้ง จากนั้นอสูรดาราก็ถือกำเนิดขึ้นทีละตัว

“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะฆ่าได้มากแค่ไหน!”

“อสูรดาราเป็นอมตะในค่ายกล ตราบใดที่พลังของค่ายกล และพลังชี่ของข้ายังไม่หมดลง พวกมันก็สามารถเกิดใหม่ต่อไปได้”

"ต่อไปก็ถึงเวลาดูว่ารากฐานของเจ้าจะแบกรับได้นานแค่ไหน"

ฉินซู่เจียนดูไม่กังวลมากนัก แต่กลับมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา

อสูรดาราในค่ายกลนั้นเป็นอมตะ

เนื่องจากพวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง พวกมันเกิดมาจากพลังของค่ายกล ตราบใดที่เขาเต็มใจมอบพลังให้ อสูรดาราก็สามารถเกิดได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

แน่นอน

หลักฐานก็คือผู้ที่วางค่ายกลจะต้องมีพลังชี่เพียงพอที่จะสนับสนุน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉินซู่เจียนมีความมั่นใจอย่างมาก

เป็นการแข่งขันด้านการบริโภคพลัง

พูดตามตรงในเรื่องนี้เขาไม่เคยกลัวใครเลย

เมื่อวางทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างๆ

เพียงแค่มีโลกภายในอยู่ในร่างกายของเขาก็ทำให้พลังชี่ของฉินซู่เจียน ไปถึงระดับที่ไม่มีวันหมดสิ้น

แม้ว่ามันจะไม่สิ้นสุด แต่มันก็มีมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน

แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงรากฐานอันล้ำลึกของเขาด้วย

ฉินซู่เจียน เชื่อว่าหากกึ่งผู้ข้ามกฏคนอื่นๆ แข่งขันกับเขา อีกฝ่ายจะถูกทรมานจนตายอย่างแน่นอน

แม้ว่ารากฐานของจักรพรรดิอสูรดาราจะแข็งแกร่งก็ตาม

แต่ในความเห็นของเขา มันยังขาดอยู่นิดหน่อย

ในค่ายกล

อสูรดาราที่ร่วงหล่นเกิดใหม่ และเข้าร่วมการต่อสู้ซ้ำไปซ้ำมา

แม้ว่าสติปัญญาของจักรพรรดิอสูรดาราจะไม่สูงนัก แต่ก็เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ตรงหน้าหมายถึงอะไร

"โฮกกกก!"

มันคำรามอย่างโกรธเคืองดั่งก้องสะเทือนท้องฟ้า และคลื่นเสียงก็กวาดไปทุกทิศทุกทางราวกับคลื่น ทำให้ร่างกายของอสูรดาราจำนวนมากพังทลายลง

ตั้งแต่ถือกำเนิดมา

จักรพรรดิอสูรดาราไม่เคยประสบปัญหาเช่นนี้มาก่อน

มันไม่เคยพบกับศัตรูที่ไม่อาจฆ่าได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด