บทที่ 8 องค์ชายรัชทายาท
บทที่ 8
องค์ชายรัชทายาท
สภาพแวดล้อมดังกล่าวกลับทำให้อวี้ซีหยวนที่เพิ่งตื่นได้ไม่นานรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
อวี้ซีหยวนลุกขึ้นจากเตียงอย่างระแวดระวัง เห็นว่า อวี้ซินหรานอยู่ไม่ห่างไปจากนาง เด็กหญิงตัวน้อยดูเหนื่อยอ่อนยิ่งนัก จึงผล็อยหลับนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายอุรา
เห็นเช่นนั้นแล้วอวี้ซีหยวนจึงรู้สึกผ่อนคลาย นางเอื้อมมือออกไปลูบศีรษะของอีกฝ่ายแผ่วเบา รู้สึกสงสารและเอ็นดูเด็กหญิงผู้นี้ยิ่งขึ้น
เจ้าของร่างอวี้ซีหยวนเดิมอย่าได้กังวลไป ข้าให้คำมั่นว่าจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุดเพื่อเจ้า
อวี้ซีหยวนกล่าวอย่างเงียบเชียบภายในใจของนาง
แม้ว่าอวี้ซินหรานจะเหนื่อยเสียจนหลับสนิทอยู่ในห้วงนิทรารมณ์ แต่ด้วยความเป็นห่วงพี่สาวอย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่า อวี้ซีหยวนจะขยับเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่การกระทำนั้นยังรบกวนอวี้ซินหรานให้ตื่นขึ้น
อวี้ซินหรานลืมตามองอวี้ซีหยวนอย่างเงียบ ๆ เผยรอยยิ้ม แล้วกล่าวทักทาย “พี่สาว ท่านตื่นแล้ว!”
อวี้ซีหยวนพยักหน้ารับพร้อมกล่าวตอบเสียงแผ่วเบา “อืม ข้ารบกวนเจ้าหรือไม่?”
อวี้ซินหรานสะบัดศีรษะขับไล่ความง่วงงุน ก่อนจะขยี้ตาและบังคับตนเองให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “เปล่าเลย ข้าคอยให้พี่สาวตื่นขึ้นพอดี พี่สาว เป็นองค์ชายรัชทายาทที่ช่วยพวกเราไว้ ทั้งยังขอให้ใครบางคนมาตรวจร่างกายของท่าน ตอนนี้ท่านยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือไม่?”
องค์ชายรัชทายาท?
อวี้ซีหยวนขมวดคิ้ว
องค์ชายรัชทายาทผู้นั้นคือใครกัน? นางเคยรู้จักคุ้นเคยกับเขามาก่อนหรือไม่?
เมื่อมองเห็นว่าท่าทีของอวี้ซีหยวนเป็นเช่นนี้ อวี้ซินหรานตระหนักทันทีว่านางคงลืมแล้ว จึงถอนหายใจก่อนกล่าวออก “พี่สาว ท่านเป็นคนของจวนท่านแม่ทัพ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติสามัญหรือไม่! แต่... ข้าจำเป็นต้องบอกให้ทราบว่า คนที่พี่สาวตั้งใจจะปล้นเขาเมื่อคืนนี้ คือองค์ชายรัชทายาทที่ว่า...”
“แต่องค์ชายรัชทายาทไม่ถือสาหาความ อีกทั้งเขายังช่วยเหลือเราสองคนไว้!”
อวี้ซินหรานเฝ้าดูองค์ชายรัชทายาทเรียกท่านหมอเข้ามาช่วยรักษาพี่สาวของนางอย่างทันท่วงที ความโกรธที่สุมอยู่ในอกก่อนหน้านี้จึงมลายหายไป
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเด็กที่จะโกรธง่ายหายเร็ว
ความระมัดระวังภายในจิตใจของอวี้ซีหยวนเพิ่มพูนขึ้นยิ่งกว่าเก่า นางมองไปยังอวี้ซินหรานผู้มีอารมณ์เรียบง่ายเสมือนกระดาษแผ่นหนึ่งตรงหน้า แล้วส่งยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน ลุกขึ้นจากเตียงเพื่ออุ้มอวี้ซินหรานให้ขึ้นมานอนบนเตียงตามเดิม ก่อนกล่าวว่า “ซินหรานก็คงเหนื่อยล้าไม่แพ้กัน ข้าต้องดูแลซินหรานให้ดี เจ้านอนพักผ่อนต่ออีกสักหน่อยดีหรือไม่?”
“แต่…” อวี้ซินหรานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ ข้าจะเชื่อฟังคำของพี่สาว”
อวี้ซีหยวนพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกล่าวว่า “ดีมาก” ไม่นานนักอวี้ซินหรานก็หลับตาลงและผล็อยหลับไป
เมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังหลับใหลของน้องสาวซึ่งเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา อวี้ซีหยวนพลันถอนหายใจยาว
ผู้ใดในโลกบ้างนี้เป็นคนบริสุทธิ์อย่างหมดจด? มนุษย์ล้วนเห็นแก่ตัวกันทั้งสิ้น และมีเพียงเด็กน้อยที่ยังเยาว์วัยและไร้เดียงสาเช่นอวี้ซินหรานเท่านั้น ที่คิดว่าของขวัญที่ได้รับมาเพียงชั่วคราวเป็นการแสดงน้ำใจของคนดี
นางผุดลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ประตู แล้วผลักประตูให้เปิดออก แม้ว่าจะไม่มีใครเฝ้าอยู่ด้านหน้า แต่อวี้ซีหยวนสัมผัสได้ว่าบรรยากาศโดยรอบมีกลิ่นอายบางอย่างที่ผิดปกติ
กำบังกายงั้นรึ?
ไม่เลวนี่
องครักษ์ที่กำบังกายอยู่เหล่านั้น สังเกตเห็นว่าสายตาของอวี้ซีหยวนคล้ายหันมองสบมาทางตนโดยไม่ได้ตั้งใจ ทว่ากลับทำให้แผ่นหลังของพวกเขาเย็นวาบจนเส้นขนตั้งชัน ดวงตาที่เป็นเหมือนดาบคมกริบทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
“นางคือคุณหนูสามแห่งจวนท่านแม่ทัพจริงหรือ?”
“เห็นใบหน้าของนางแล้วยังไม่ชัดเจนอีกรึ?”
องครักษ์เงาพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบกระซาบ มองไปที่ใบหน้าของอวี้ซีหยวนอย่างพิจารณา
ใบหน้าของแม่นางผู้นี้มีจุดด่างดำ เต็มไปด้วยสิวแห่งวัยสาว บางจุดสิวปริแตกจนมีหนองไหลเยิ้มออกมา ไม่สามารถคาดเดารูปลักษณ์เดิมได้อย่างชัดแจ้ง... หน้าตาน่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ทุกคนที่พบเห็นนางรู้สึกคลื่นไส้ บางคนถึงกับคิดว่าคุณหนูสามแห่งจวนท่านแม่ทัพอาจไม่ใช่นางก็เป็นได้ อาจเป็นสัตว์อสูรที่แฝงกายมา
“ลักษณะตรงกันกับคำอธิบายทุกประการ เพียงแต่... ข้ายังคิดว่ามันแปลกอยู่สักหน่อย”
หนึ่งในนั้นบอกว่าเขาไม่เคยพบเห็นอวี้ซีหยวนมาก่อน
แต่มีบางคนที่เคยพบเห็นอวี้ซีหยวนมาแล้ว ทว่าสีหน้าของพวกเขาดูเคร่งขรึมกว่าคนอื่นเล็กน้อย
“เป็นนางไม่ผิดแน่!” ใครคนหนึ่งยืนยัน