บทที่ 5 ปล้นบุรุษ
บทที่ 5
ปล้นบุรุษ
ดวงตาของอวี้ซีหยวนจับจ้องไปที่คนตรงหน้า และเมื่อนางเห็นว่าเขายังคงเดินผ่านมาโดยไม่ได้สังเกตเห็น จึงรู้สึกผ่อนคลายลงมาก โชคดีเหลือเกินที่เสียงของอวี้ซินหรานไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากเขา
ส่วนภายในใจของอวี้ซีหยวนนั้น มีแผนการอื่นอยู่มากมาย
เดี๋ยวก่อน...
นี่มัน กลิ่นยาสมุนไพร?
หญ้าเสวียนหวง อู่เว่ยจื่อ* เห็ดอวิ๋นจือ สามกลีบเฉา... ส่วนประกอบของยาอายุวัฒนะชัด ๆ!
(*อู่เว่ยจื่อ = หรือ โหงวบี่จี้ ในสำเนียงแต้จิ๋ว เป็นผลไม้ห้ารส ทั้งรสหวาน เปรี้ยว เค็ม ปร่า ขม มีสรรพคุณบำรุงไต ฝาดสมานแก้ท้องเสีย แก้อาการเหงื่อออกมาผิดปกติ บำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ในแสดงฤทธิ์ในการเหนี่ยวนำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงบำรุงสายตาอีกด้วย)
เป็นยาที่อวี้ซีหยวนต้องการอย่างยิ่ง
อวี้ซีหยวนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย สายตาที่จับจ้องไปยังบุรุษตรงหน้าเปล่งประกายยิ่งขึ้น
“ประเสริฐนัก สวรรค์ไม่เคยทอดทิ้งข้า! สิ่งที่ตัวข้าสูญเสียไป อยู่ที่ชายผู้นี้แล้ว!”
อวี้ซีหยวนไม่มีพลังปราณใดที่เป็นประโยชน์อยู่ภายในร่างกายเลย หากนางต้องการรักษาพิษในร่างกาย จำเป็นต้องใช้ยาอายุวัฒนะเพื่อฟื้นฟู และแน่นอนว่ายาอายุวัฒนะที่ใช้สำหรับล้างพิษอย่างสมบูรณ์นั้นเป็นสิ่งที่สามารถหาได้ยากยิ่ง ถึงอย่างไรก็ต้องใช้มันควบคุมการแพร่กระจายของสารพิษเสียก่อน!
สารพิษที่ปิดกั้นจุดตันเถียนได้สะสมอยู่ในร่างกายของนางมานานหลายปีแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่แน่ว่าจุดตันเถียนอาจถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์ แล้วนางก็จะตายในไม่ช้า
อวี้ซีหยวนกระซิบกับอวี้ซินหราน สั่งให้นางคอยหลบอยู่ที่นี่ให้ดี ตราบใดที่นางไม่กลับมาหา ห้ามวิ่งหนีเตลิดไปไหนตามลำพังเป็นอันขาด
อวี้ซินหรานจ้องสบสายตาอันเข้มงวดของอวี้ซีหยวน ก่อนจะพยักหน้ารับคำอย่างหนักแน่น
สิ่งใดก็ตามที่มาจากปากของพี่สาว นางจะต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด
ดีมาก!
หลังจากที่อวี้ซีหยวนทิ้งอวี้ซินหรานไว้ยังจุดเดิม นางถือดาบคมกริบหักครึ่งที่คว้าติดมือมาจากสุสานหมู่ แล้วรีบก้าวพรวดออกไปหลังจากเห็นชายคนนั้นเดินมาจนถึงตำแหน่งที่นางคำนวณไว้
“หยุดก่อน!”
อวี้ซีหยวนพาดดาบของนางคั่นกลางไว้ระหว่างตนและเขา สายตาจับจ้องไปที่ชายตรงหน้า ทว่านางไม่อาจสัมผัสถึงพลังทางจิตวิญญาณใด ๆ ในกายเขา เมื่อดูจากชุดที่เขาสวมใส่อย่างเต็มตา เขาคงเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลขุนนาง ลูกพลับอ่อนงั้นรึ? ไม่เป็นไร นางไม่ถือสา
ริมฝีปากแดงเรื่อของอวี้ซีหยวนเผยอออกเบา ๆ นางอ้าปากกล่าวความจำนงออกไป “ข้าอุตส่าห์ปลูกต้นไม้ไว้ตลอดทาง ถนนสายนี้ข้าก็เป็นผู้บุกเบิก หากเจ้าต้องการผ่านทางไปจากที่นี่โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าต้องจ่ายเงินซื้อถนนมาซะ!”
ชายที่อยู่ตรงหน้าก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าว เมื่อเขาเห็นคนตรงหน้า คิ้วของเขาพลันกระตุกครั้งหนึ่งทันที บุตรสาวคนที่สามซึ่งเป็นที่รู้จักของทุกคนในจวนท่านแม่ทัพ กลายเป็นสตรีงี่เง่าที่ไม่ยอมอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน วิ่งโร่เข้ามาในป่าหนานหลินหวังดักปล้นบุรุษงั้นรึ?
ทั้งยังมีดาบหักที่ฉกฉวยมาจากที่ใดสักแห่งอีก?
หึ
เขาไม่มีเวลามัวเจรจายืดเยื้อกับนางอยู่ที่นี่
“หลีกทาง!”
สองคำที่ออกจากริมฝีปากของชายผู้นี้ เต็มไปด้วยน้ำเสียงก็เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งที่พอกพูนมานับพันปี ให้ความรู้สึกกดดันเล็กน้อย
ทว่าความรู้สึกกดดันดังกล่าวใช้ไม่ได้ผลกับอวี้ซีหยวน
อวี้ซีหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางยกยิ้มมุมปาก “แล้วหากข้าไม่ยินยอมเล่า?”
“รนหาที่ตาย!”
จู่ๆ ชายคนนั้นพลันพุ่งตรงเข้าหานาง อวี้ซีหยวนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หยิบดาบหักขึ้นมาทันทีเพื่อตั้งรับการโจมตีที่ไม่คาดคิดจากชายคนนั้น จากนั้นจึงเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นจู่โจมกลับบ้าง โจมตีด้วยวิธีการที่ดุร้ายยิ่งขึ้น
หากทุ่มร่างเขาลงกับพื้น ไม่แน่ว่ายาอายุวัฒนะอาจร่วงหล่นลงมาด้วย! หรือควรใช้วิธีการจู่โจมอย่างตรงไปตรงมา
อวี้ซีหยวนอาศัยความรวดเร็วของตัวนางเองเพื่อค้นหาจุดอ่อนของลั่วจ้านชิง ถ้านางพบมัน เขาจะเป็นฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
องครักษ์เงาของชายผู้นี้ซ่อนกายอยู่ในอากาศ พวกเขามองไม่เห็น อวี้ซีหยวนและท่านอ๋องของพวกเขา ร่างสีขาวโพลนของหญิงสาวกำลังพัวพันอยู่กับร่างเย็นชาดุจน้ำแข็งของท่านอ๋อง สันนิษฐานว่าอาจเป็นท่านอ๋องที่ชักดาบออกมารวดเร็วเสียจนพวกเขาไม่อาจมองเห็นการกระทำของทั้งสองได้อย่างชัดเจน
ในเมื่อเป็นกรณีนี้อย่าด่วนรีบร้อนไป ตราบใดที่กล้าทำร้ายองค์ชายรัชทายาท นับว่าทำความผิดอย่างใหญ่หลวง!
เขาลอบถอนหายใจในใจ ‘สตรีนางนี้เป็นใครกัน? เหตุใดถึงได้ทรงพลังนัก แม้แต่ดาบขององค์ชายรัชทายาทยังไม่อาจไล่ตามได้ทัน สตรีอ่อนแอที่ไร้พลังปราณแห่งการฝึกตนในร่างกาย สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้เชียวรึ?’
ทางฝั่งอวี้ซีหยวน นางคิดว่าความรวดเร็วของชายผู้นี้ไม่ควรประมาทเช่นกัน ถึงอย่างไรก็ไม่ควรดูถูกความสามารถของศัตรู นางพยายามมองหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน ในที่สุดก็มองเห็นแล้ว