บทที่ 48 ท่านแม่ทัพกำลังจะกลับมา
บทที่ 48
ท่านแม่ทัพกำลังจะกลับมา
ไป๋ตู้รั่วเชิดศีรษะ หมุนคอด้วยท่าทางประหนึ่งหุ่นเชิด ก่อนจะเผยรอยยิ้มน่าสังเวช
คราวนี้นางคงจบสิ้นแล้ว...
เจี๋ยเอ๋อก็มาตายตกไปอีกคน...
“ฮูหยินเจ้าคะ!”
ใบหน้าซีดขาวของไป๋ตู้รั่วเต็มไปด้วยรอยยับย่น ขณะที่นางหันขวับกลับไปมองตามเสียงเรียก ก็อดไม่ได้ที่จะดุด่าอีกฝ่าย “มีอะไร?!”
“คุณชายเจ้าค่ะ คุณชายยังหายใจอยู่ ข้า...”
“ว่าอย่างไรนะ?! เจี๋ยเอ๋อยังไม่ตายงั้นรึ?!”
ไป๋ตู้รั่วคล้ายมองเห็นแสงสว่างแห่งความหวังอันริบหรี่ ดวงตาทอประกายวาววับ รีบหยัดกายลุกขึ้นจากพื้นแล้วโผเข้าหาร่างของอวี้เจี๋ยทันที
เมื่อวางนิ้วไว้ใต้จมูกของอวี้เจี๋ย นางพลันรู้สึกปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาถึงแม้ว่าจะแผ่วเบานัก
“เร็วเข้า! รีบไปเชิญท่านหมอฝีมือดีที่สุดในเมืองให้มารักษาเขา!”
“เจ้าค่ะ”
สาวรับใช้คนสนิทของไป๋ตู้รั่วรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที นางโบกมือเรียกคนอื่น ๆ ให้เดินตามไปด้วย
ภายในห้องโถงจึงเหลือเพียงคนรับใช้ร่างกายแข็งแรงเพียงไม่กี่คน คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปอุ้มร่างของอวี้เซียงซึ่งมีเลือดไหลอาบทั่วฝ่ามือ อีกสี่คนคอยพยุงอวี้เจี๋ยอย่างระมัดระวัง ก่อนจะวางร่างพวกเขาลงบนเตียงภายในห้องทั้งสองที่อยู่ติดกัน
ไป๋ตู้รั่วรีบวิ่งเข้ามาอยู่เคียงข้างอวี้เจี๋ยด้วยความห่วงใย...
ทว่าอีกห้องหนึ่งกลับเงียบสงัดอย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงกะพริบตาช้า ๆ โดยไม่ปริปากเอ่ยคำใด หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หยดน้ำใสพลันร่วงผล็อยลงจากดวงตา
อวี้เซียงเพียงหมดสติแต่ยังไม่ตาย
ถึงกระนั้นนางก็ตระหนักดีถึงความลำเอียงของผู้เป็นแม่เสมอ
ในห้วงความสิ้นหวังที่นึกว่าพี่ชายตกตายไปแล้ว ข้าก็ยังคาดหวังให้เขารอดชีวิต เพราะถึงอย่างไรพี่ชายก็เป็นที่โปรดปรานของท่านแม่เสียยิ่งกว่าข้า
ความเหน็ดเหนื่อยจากการอดทนต่อความเจ็บปวด ทำให้นางไม่อยากรู้สึกตัวตื่น จึงหลับตาลงเสีย...
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้...
“ท่านเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ?”
“หรือมีธุระใดเป็นพิเศษ?”
อวี้ซีหยวนพยักหน้า “ทำนองนั้น”
หลังกล่าวเช่นนั้น นางให้จ้านบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาพบเข้า
“อีกอย่างเมื่อครู่นี้ จริงสิ! ตัวยาของท่านอ๋องใช้ในการรักษาได้ผลชะงัดนัก...”
อวี้ซีหยวนใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามในการรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของชิวเหอ แม้ว่านางจะยังวิ่งและกระโดดไม่ได้ในทันที ทว่าอาการบาดเจ็บดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินอีกต่อไป
“ว้าว! จริงด้วย”
ท่าทางชิวเหอยามนี้เสมือนเด็กที่ได้รับขนมชิ้นหนึ่ง ยิ้มแย้มเสียจนดวงตาหรี่เล็กลงเหลือเพียงขีดเดียว
อวี้ซีหยวนปาดเหงื่อจากหน้าผาก แม้ว่านางต้องเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย ถึงกระนั้นก็นับว่าคุ้มค่า
ขณะที่ผู้คนในห้องมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง และต้องการเดินออกไปข้างนอก ทันใดนั้นป้ากู้กลับวิ่งสวนเข้ามาจากด้านนอกด้วยท่าทางรีบร้อน ก่อนจะกวาดสายตามองไปโดยรอบแล้วปิดประตูลงกลอนแน่น
“คุณหนูสาม ท่านรีบไปซ่อนตัวเร็วเถิดเจ้าค่ะ ข้างนอกมีผู้คนมากมายเต็มไปหมด!”
อวี้ซีหยวนตะลึงงันไปครู่หนึ่ง กะพริบตาปริบพร้อมเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นรึ?”
“ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินไป๋กำลังเรียกทุกคนในจวนให้ไปรวมตัวกันยังห้องโถงกลางด้านหน้า รู้เพียงว่าขณะนี้มีบุคคลทรงเกียรติผู้หนึ่งต้องการเรียกพบ”
เสียงของจ้านดังขึ้นจากทางด้านหลังของอวี้ซีหยวน “เป็นท่านอ๋องไม่ผิดแน่!”
ยังไม่ทันที่อวี้ซีหยวนจะกล่าวคำใด ฉับพลันกลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
“ป้ากู้ เจ้ามัวทำอะไรอยู่ในนั้น? ชิวเหอก็ด้วย รีบออกมาเร็วเข้าเถอะ ฮูหยินไป๋ให้ข้ามาตามเจ้าอีกครั้งแล้ว!”
“ได้ ประเดี๋ยวข้าจะออกไป”
ป้ากู้ตะโกนตอบกลับ ทว่าท่าทางของนางเต็มไปด้วยความร้อนรน หันศีรษะพยักพเยิดไปอีกทางด้วยต้องการให้ อวี้ซีหยวนรีบหลบซ่อน แต่พบว่าภายในห้องเหลือเพียงชิวเหอแค่ผู้เดียวเท่านั้น
เห็นเช่นนั้นป้ากู้จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบเข้าไปประคองชิวเหอให้ก้าวข้ามธรณีประตูออกไปข้างนอก แล้วเอ่ยถามขณะที่กำลังเดินอยู่ “เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจู่ ๆ นางจึงเรียกหาพวกเราเล่า?”
“ข้าจะล่วงรู้เจตนาของฮูหยินได้อย่างไร? แต่จากข่าวที่ได้ยินมาจากคนในจวน คล้ายว่าท่านแม่ทัพจะกลับมาในเร็ววันนี้...”
ประโยคดังกล่าว อวี้ซีหยวนเองก็ได้ยินเช่นกัน
นางหันไปถามจ้าน “ท่านแม่ทัพกำลังจะกลับมาอย่างนั้นหรือ?”
ดวงตาจ้านเปล่งประกายครั้งหนึ่งขณะนึกย้อนเหตุการณ์ ก่อนจะเอ่ยตอบ “คุณหนู ข้าลืมบอกกล่าวเรื่องนี้แก่ท่านไปเสียสนิท ท่านแม่ทัพอวี้กำลังจะกลับมาในเร็ววันนี้ เนื่องจากบริเวณชายแดนมีการระบาดใหญ่ของอหิวาตกโรค ทว่าข้าไม่รู้วันเวลาที่แน่นอน และนี่คือสาเหตุที่ฉางอี้ถูกท่านอ๋องมอบหมายให้เดินทางไปยังชายแดน”