บทที่ 47 วันข้างหน้าอย่าได้กลับมาเหยียบอีก
บทที่ 47
วันข้างหน้าอย่าได้กลับมาเหยียบอีก
อวี้ซีหยวนค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้นมองไป๋ตู้รั่วด้วยสายตาที่เป็นประหนึ่งน้ำนิ่ง ริมฝีปากเผยกล่าววาจาเหน็บแนม “ก็แค่สาวรับใช้ฐานะต่ำต้อยที่ได้ไต่เต้าขึ้นเป็นใหญ่เพราะคลอดบุตรชาย คิดจะขับไล่ข้าออกจากจวน เจ้าคู่ควรแล้วรึ? หึ อย่างไรก็เถอะ อวี้เจี๋ยผู้นี้อาจเกิดจากท่านพ่อของข้าไม่ผิดแน่ ทว่าอวี้เซียงผู้นี้ ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่านางเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ถือกำเนิดจากผู้ใด”
“หุบปาก! กล้าดีอย่างไรมาใส่ร้ายข้า?”
“ข้าไม่กล้าใส่ความแน่ หากเรื่องที่กล่าวมาไร้มูลความจริง!”
อวี้ซีหยวนพ่นลมหายใจเย็นเยียบ สังเกตเห็นอาการตื่นตระหนกอย่างกะทันหันของไป๋ตู้รั่ว กล้าดีอย่างไรงั้นหรือ หึ ข้าเพียงไม่ต้องการให้เจ้าตายตกไปเร็วนัก
เปลือกตาอวี้ซีหยวนสั่นระริก นางหันไปกล่าวกับลั่วจ้านชิง “ข้าเหนื่อยแล้ว เรากลับกันเถอะ”
ลั่วจ้านชิงพยักหน้า ไม่ปฏิเสธหรือแสดงท่าทีเห็นด้วย ทว่าจ้านและอวี้ซีหยวนก็พอรับรู้จากการแสดงสีหน้าของเขาว่าอนุญาต
จากนั้นทั้งสามจึงเดินไปทางประตูพร้อมกัน
คนรับใช้เหล่านั้นเห็นแล้วรีบแหวกแถวออกเป็นสองฝั่งจนเหลือเพียงช่องตรงกลาง ปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไป
อวี้ซีหยวนหยิบผ้าผืนใหญ่ขึ้นมาปิดคลุมใบหน้าตามเดิมขณะเดินออกไป และเมื่อนางเดินไปจนถึงครึ่งทาง นางก็หันกายกลับไปด้านหนึ่งพร้อมผายมือออก
คนรับใช้หลายคนรีบถอยกลับด้วยความหวาดกลัว
มือข้างที่ผายออกนั้นเคยบีบคอไป๋ตู้รั่วจนถึงแก่ความตายมาแล้ว ทั้งยังเคยคว้ากริชสั้นและจ้วงแทงเข้าไปตรงหัวใจของคุณชายอวี้เจี๋ย ไม่แน่ว่าหนึ่งในพวกเขาอาจกลายเป็นศพที่ถูกรัดคอตายเป็นรายถัดไป
ท้ายที่สุดแล้ว บรรดาคนเลวที่เคยรวมหัวกันข่มเหงรังแกและกลั่นแกล้งอวี้ซีหยวน
ล้วนหวาดกลัวจนตัวสั่น
ทุกคนต่างถอยกรูด มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ไม่หวาดกลัวนางแต่อย่างใด ทั้งสองก้มลงมองมือตนเองในตอนแรก ก่อนจะหันมายิ้มให้แก่กัน พร้อมกับจับมือประคองกันไว้
เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น อวี้ซีหยวนจึงเผยรอยยิ้ม
“ป้ากู้ ชิวเหอ มากับข้าเถิด”
ชิวเหอพยักหน้า “คุณหนูสาม ชิวเหอยินดีติดตามท่านไปเจ้าค่ะ”
ส่วนป้ากู้เพียงเผยรอยยิ้มจาง ทว่าแววตาปรากฏชัดซึ่งการตัดสินใจอย่างแน่วแน่
ขณะที่ทั้งสามยืนอยู่เคียงข้างกัน ช่างเป็นภาพบรรยากาศที่น่าอบอุ่นยิ่ง
อย่างไรก็ตาม...
มักจะมีคนหนึ่งที่ทนเห็นผู้อื่นมีความสุขไม่ได้ จึงจ้องจะบ่อนทำลายช่วงเวลาที่ดี
ขณะที่ทั้งสามกำลังจะจับมือประคองกันอีกครั้ง เสียงหวีดแหลมอันน่ารำคาญก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
“อวี้ซีหยวน ตราบใดที่เจ้าก้าวออกจากประตูจวนไปในวันนี้ วันข้างหน้าก็อย่าได้คิดกลับมาเหยียบที่นี่อีก!”
อวี้ซีหยวนหยุดชะงักฝีเท้า ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่คิดจะมองย้อนกลับไป
ไป๋ตู้รั่วคิดว่าอวี้ซีหยวนคงจบสิ้นอยู่ภายใต้อาณัติของตนแน่แล้ว จึงเกิดความกระหยิ่มยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าอวี้ซีหยวนผู้นี้จะยังขี้ขลาดตาขาวเช่นทุกครั้ง
ตราบใดที่นางยังคำนึงถึงจวนท่านแม่ทัพเป็นใหญ่ ตราบใดที่นางยังคงอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาจวนแห่งนี้ ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ นางยังมีเวลาพอที่จะทรมานอีกฝ่ายจนสิ้นลมหายใจอย่างช้า ๆ ตราบใดที่...
“อุ๊บ...”
อวี้ซีหยวนหลุดเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันขวับกลับมา “ก่อนหน้านี้ข้าทำเจ้าเกือบตายไปแล้วหนหนึ่ง ยังไม่คิดหุบปากให้สนิทเพื่อรักษาชีวิตของตนเองอีกรึ?”
“ข้ายอมปล่อยให้เจ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ดังนั้นทางที่ดีเจ้าควรจัดการกับหลักฐานที่อาจเปิดโปงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและชายชู้โดยเร็วเสียจะดีกว่า มิฉะนั้นเห็นทีเจ้าอาจต้องจัดเตรียมงานศพของตนเอง”
“ท่านแม่ทัพจวนกลับมาถึงที่นี่ในเร็ววันนี้ และมีสิทธิ์สืบทราบข้อเท็จจริงอันโสมมทุกอย่าง วันที่เขากลับมา คือวันที่เจ้าถึงคราวสิ้นชื่อ”
ไป๋ตู้รัวเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางรู้ นางรู้ความจริงแล้ว หนำซ้ำยังมีหลักฐาน
ไป๋ตู้รั่วรีบตะโกนสั่งให้ “หยุด” อีกครั้ง ทว่าไม่มีผู้ใดสนใจนาง
บรรดาคนรับใช้ทั้งหมดภายในห้องโถงพากันก้มศีรษะงุด ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำใด
ทำให้จิตใจที่สิ้นหวังเป็นทุนเดิมของไป๋ตู้รั่วยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
นางกำลังต่อต้านจิตสำนึกของตนเองอ่างสุดความสามารถไม่ให้หวาดกลัวอวี้ซีหยวน นางเป็นเพียงขยะไร้ประโยชน์ ซึ่งเป็นผลมาจากฝีมือของนางเองที่วางยาพิษอีกฝ่ายตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เช่นนั้นภายในร่างกายจะมีฐานการฝึกตนได้อย่างไร...
“ฮูหยิน ดูเหมือนว่าคุณหนูสามจะกลับไปกับ องค์ชายรัชทายาทแน่แล้วเจ้าค่ะ...”