บทที่ 45 นั่นคือพี่ชายและน้องสาวของเจ้า
บทที่ 45
นั่นคือพี่ชายและน้องสาวของเจ้า
“อ๊า! เจ้าตายไปแล้วไม่ใช่รึ?! เหตุใดยังกลับมาวนเวียนอยู่ในเรือนของเราอีก! ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า ออกไปซะ! อ๊าาา!”
หลังจากที่อวี้เซียงสาปแช่งจนสิ้นคำกล่าว นางก็เอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอวี้เจี๋ย ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวตลอดเวลา
อวี้ซีหยวนยิ้มเยาะ การกระทำดังกล่าวทำให้สีหน้าของนางดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเก่า นางหยิบกริชออกมาจากที่ใดสักแห่ง ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าอวี้ซีหยวนจะจ้วงแทงมันไปที่ต้นขาของอวี้เจี๋ย
เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ บรรดาคนรับใช้รีบถอยห่างออกไปหลายก้าว อวี้ซีหยวนไม่คิดแสดงความปรานีเลยแม้เพียงนิด หลังจากพุ่งตัวเข้าประชิดก็ไม่ลืมที่จะบิดกรามอีกฝ่ายสองครั้งจนเลือดกำเดาไหล
หลังจากที่อวี้ซีหยวนตรึงอวี้เจี๋ยไว้ไม่ให้ขยับเคลื่อนไหวได้สำเร็จ นางจึงหันไปทางอวี้เซียงเป็นรายต่อไป
“ถึงคราวของเจ้าแล้ว!”
อวี้ซีหยวนพุ่งเข้าหาอวี้เซียงที่กำลังหวาดกลัวมากเสียจนแข้งขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ทำได้เพียงส่ายหน้ารัวและโบกมือไปมา นางค่อย ๆ ถอดปิ่นปักผมรูปนกกระเรียนแดงที่มีพู่ห้อยออกมาจากมวยผมของอีกฝ่าย ภายใต้แรงกระทำดังกล่าวทำให้ผมเผ้าของอวี้เซียงสยายตกลงเรี่ยพื้น
“ดูสิ แบบนี้ดูดีกว่าเป็นไหน ๆ”
อวี้ซีหยวนเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ทว่ารอยยิ้มนั้นไร้ซึ่งความหวานอย่างจริงใจ ส่งเสริมให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อของ อวี้ซีหยวนดูน่ากลัวยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว
สภาพนางยามนี้ไม่ต่างอะไรไปจากยมทูตจากนรก และวันนี้นางมาที่นี่เพื่อหมายเอาชีวิต
อวี้ซีหยวนจับข้อมืออวี้เซียงไว้อย่างแน่นหนา แม้ว่า อวี้เซียงจะพยายามดิ้นรนเพียงใด แต่อวี้เซียงผู้อ่อนแอหรือจะเอาชนะแรงกำลังของอวี้ซีหยวนได้?
ปิ่นปักผมที่ถูกกระชากจนพู่ห้อยขาดออก พุ่งปลายแหลมทิ่มแทงไปยังปลายนิ้วของอวี้เซียงซึ่งสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ปลายปิ่นเสียบแทงเข้าจนจมเนื้ออย่างแม่นยำ ก่อนที่อวี้ซีหยวนจะดึงออก แล้วปักแทงลงไปยังนิ้วถัดไป…
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่มีทีท่าว่าจะเงียบลง
และการกรีดร้องเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อวี้เซียงสามารถทำได้ในตอนนี้
ไป๋ตู้รั่วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนถูกทรมานด้วยวิธีรุนแรง รีบออกคำสั่งให้คนรับใช้ของนางลุกขึ้นแล้วดึงร่างอวี้ซีหยวนออกไปเสีย
แต่เมื่อพวกเขาปรี่ออกไปข้างหน้าได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น องครักษ์เงาจ้านก็ปรากฏตัว เขายืนขวางหน้าบรรดาคนรับใช้เหล่านั้นไว้ ใครก็ตามที่กล้าก้าวออกไปข้างหน้าจะถูกเขาเตะให้ถอยกลับทันที
กระทั่งเวลาผ่านไปนาน ก็ยังไม่มีผู้ใดกล้าก้าวออกไปข้างหน้า
ไป๋ตู้รั่วไม่อาจทนมองได้ นางรีบหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว หยดเหงื่อผุดพรายออกมาจากหน้าผาก
ผู้ที่กำลังถูกทำร้ายอย่างเจ็บปวดคือลูก ๆ ของนางนะ!
ไป๋ตู้รั่วสบถสาปแช่งอวี้ซีหยวนและรีบหาทางเข้าไปหาลูก ๆ ของตน ทว่าจ้านไม่ปล่อยให้นางเข้าใกล้อวี้ซีหยวนแม้แต่ครึ่งก้าว
“อวี้ซีหยวน นั่นคือพี่ชายและน้องสาวของเจ้า เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?! อย่า... อย่านะ เจ้าอย่าทำลายมือของ เซียงเอ๋อ! อย่า...”
ระหว่างที่นางไม่ทันกล่าวจนจบ อวี้ซีหยวนไม่ลังเลเลยที่จะเงื้อปิ่นปักผมขึ้นสุดแรงแล้วเสียบมันลงไป ทำให้ปลายแหลมของปิ่นปักผมเสียบทะลุฝ่ามือของอวี้เซียง ปักมือของนางลงกับพื้นโดยตรง
เห็นได้ชัดว่าอวี้ซีหยวนพยายามรวบรวมแรงกำลังของตนมากเพียงใดเพื่อทำเช่นนี้ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการกระทำโดยง่าย
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นกว่าครั้งก่อนหน้า อวี้เซียงเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจนแทบสิ้นสติสมประดี ทว่าทุกครั้งที่จวนสลบไสลกลับฟื้นคืนสติกลับมาทุกครั้ง
ไป๋ตู้รั่วไม่อาจทนมองได้อีกต่อไป รีบเบือนหน้ามองไปทางอื่น ครั้นเห็นว่าลั่วจ้านชิงยังคงยกถ้วยชาขึ้นจิบด้วยท่าทางผ่อนคลาย จึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมคลานกระเสือกกระสนไปอยู่ตรงหน้าลั่วจ้านชิง คว้าชายเสื้อคลุมของเขาไว้แล้วร้องไห้ คร่ำครวญปริ่มจะขาดใจ “องค์ชายรัชทายาท ได้โปรดช่วยชีวิตของเซียงเอ๋อและเจี๋ยเอ๋อด้วยเถิดเพคะ”
แววตาเย็นชาเป็นนิจของลั่วจ้านชิงทอประกายเข้มจ้า มองไปยังส่วนหนึ่งของชายเสื้อที่ถูกไป๋ตู้รั่วคว้าไว้
“ปล่อย!”
สิ้นคำสั่ง ก่อนที่ไป๋ตู้รั่วจะตอบสนองใด ๆ นางตื่นตกใจยิ่งเสียจนคลายมือออกจากชายเสื้อคลุมของลั่วจ้านชิงทันทีและรีบถอยกรูดกลับไป ทว่าร่างกายของนางไม่อาจยืนหยัดได้อย่างมั่นคงเช่นคราวแรก ทำให้ล้มลงกองกับพื้น
น้ำตาไหลอาบไปทั่วทั้งใบหน้า เครื่องสำอางที่ถูกแต่งแต้มบนใบหน้าอย่างวิจิตรประณีตจางหายไปจนหมดสิ้น รูปลักษณ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ รวมถึงท่วงท่าอันสง่างามมลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“อะ... องค์ชายรัชทายาท...”
ไป๋ตู้รั่วหยุดนิ่งอยู่กับที่
ในมืออวี้ซีหยวนตอนนี้ถือกริชอยู่เล่มหนึ่ง... มันถูกค้นพบจากร่างของอวี้เจี๋ย นางกรีดปลายกริชลงบนพื้นเพื่อทดสอบความคมแล้วเลิกคิ้วอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว คมกริบมากทีเดียว”