บทที่ 41 รักษาอาการบาดเจ็บที่ขา
บทที่ 41
รักษาอาการบาดเจ็บที่ขา
ชิวเหอและจ้านอุทานออกพร้อมกัน
“ได้อย่างไรกัน คุณหนูอวี้จะให้ข้าอุ้มนางงั้นหรือ?”
“คุณหนูสาม ข้าพอเดินเข้าไปเองได้เจ้าค่ะ! อีกอย่าง ชายหญิงไม่ควรสัมผัสต้องตัวกัน…”
ขณะกล่าวเช่นนั้น ใบหน้าชิวเหอก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อ
แต่อวี้ซีหยวนไม่สนใจท่าทีกระอักกระอ่วนของพวกเขา นางเพียงขมวดคิ้วพลางมองดูทั้งสองด้วยแววตากดดัน หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนจึงยอมประนีประนอมภายใต้การจับจ้องนั้นอย่างจนใจ
อวี้ซีหยวนหันกลับมากล่าวกับป้ากู้ว่า “อาการบาดเจ็บของชิวเหอไม่สามารถปล่อยให้ล่าช้าไปกว่านี้ได้ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกสองวัน ขาของนางอาจไม่สามารถใช้การได้อีก”
“ถึงขั้นนั้นเชียวหรือ?”
เมื่อป้ากู้ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความกังวลยิ่ง
นางคอยดูแลชิวเหอมาโดยตลอดตั้งแต่ยังเยาว์จนกระทั่งนางเติบใหญ่ ทั้งสองต่างทำงานด้วยกันมาหลายปีแล้ว จนมีความผูกพันเฉกเช่นเดียวกับมารดาและบุตรสาว หากมีสิ่งใดร้ายแรงเกิดขึ้นกับชิวเหอ เห็นทีป้ากู้ซึ่งเป็นเหมือนญาติสนิทเพียงคนเดียวของนางคงเป็นทุกข์ไม่น้อย
“ป้ากู้ อย่ากังวลไปเลย ข้าพอมีวิธีรักษาอาการของ ชิวเหอ”
เมื่อป้ากู้ได้ยินเช่นนั้น แสงสลัวภายในแววตาที่ริบหรี่ลงพลันสว่างขึ้น นางรีบคว้าแขนของอวี้ซีหยวนไว้อย่างลืมสงวนท่าที พร้อมเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น “คุณหนูสาม หากท่านสามารถรักษาชิวเหอได้ ข้ายินดีมอบทุกสิ่งอันมีค่าให้กับท่าน!” แม้กระทั่งชีวิตก็สามารถอุทิศให้ได้
อวี้ซีหยวนส่ายหน้า “หากไม่ใช่เพราะเจ้าและชิวเหอคอยช่วยเหลือข้าเสมอมาเมื่อต้องเผชิญปัญหา ข้าก็ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้หรือไม่ ป้ากู้ หากอาการบาดเจ็บของชิวเหอหายขาดแล้ว พวกเจ้าสามารถมาอาศัยอยู่กับข้าได้ ไม่ควรมีใครต้องรับชะตากรรมแทนข้าอีก”
อวี้ซีหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ตลอดชีวิตของนางทั้งภพชาตินี้และภพชาติก่อนในแดนเทพ มีผู้คนผ่านมาในชีวิตนางเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ก่อนหน้านี้นางดำรงอยู่อย่างไม่แยแสผู้ใดและไร้เมตตา ทว่าตอนนี้อวี้ซีหยวนกลับรู้สึกว่าความอ่อนโยนในส่วนลึกของตนถูกถ่ายทอดออกมาจนสิ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ดีต่ออวี้ซีหยวนแล้ว นางไม่คิดเพิกเฉย
ขณะที่อวี้ซีหยวนครุ่นคิดอยู่นั้น ป้ากู้ก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเช่นกัน นางเผยรอยยิ้มบางพร้อมพยักหน้า “เจ้าค่ะ”
ติดตามคุณหนูสามเสียยังดีกว่า
นางไม่เพียงแต่เป็นผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น แต่ยังเป็นแสงสว่างเพียงดวงเดียวภายในจวนท่านแม่ทัพอันมืดมิดแห่งนี้
แววตาลึกล้ำของอวี้ซีหยวนกลอกไปมา นางตบไหล่ป้ากู้แทนการตอบรับ และกำชับให้นางคอยเฝ้าประตู อย่าให้ใครเข้ามาวุ่นวาย
จากนั้นนางจึงหันกลับเข้าไปในเรือน เพื่อไม่ให้จ้านอึดอัดใจเป็นเวลานาน
อวี้ซีหยวนเดินตรงเข้าหาชิวเหอ แล้วลงมือแทงเข็มเงินทั้งเจ็ดเข้าที่บริเวณหัวเข่า ฝ่าเท้า ต้นขา และจุดตันเถียนของชิวเหอ
“โอ๊ย! คุณหนูสามเจ้าคะ! เจ็บ เจ็บเหลือเกิน ข้า... ข้า...”
อวี้ซีหยวนเพิกเฉยต่อเสียงร้องโอดโอยของนาง ทั้งยังรวบรวมแรงกำลังเพื่อแยกขาของชิวเหอที่ขดเข้าหากันอย่างผิดรูปออก ก่อนจะดึงเข็มเงินที่เจาะเข้าเส้นในครั้งแรกออกมาแล้วแทงกลับลงไปใหม่
หยดเหงื่อซึมออกมาจากแผ่นหลังสู่เสื้อผ้าของชิวเหอ
การรักษาในครั้งที่สองทำให้อวี้ซีหยวนนึกกังวลอยู่บ้าง
หากพลังวิญญาณของนางฟื้นคืนดังเช่นปกติ ชิวเหอคงไม่ต้องทนเจ็บปวดอย่างสาหัสเช่นในตอนนี้ แต่ในเมื่อนางปราศจากพลังวิญญาณ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาอันโง่เขลาเช่นนี้เท่านั้น
เมื่อครบกำหนดเวลา นางหยิบยาระงับประสาทออกมาจากถุงยาที่ลั่วจ้านชิงเป็นผู้มอบให้ ครุ่นคิดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงยัดมันเข้าไปในปากของชิวเหอ
หญ้าม๋าซุ่ยดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้ขับล้างพิษ
ลืมไปเสียเถอะ ถึงอย่างไรสถานการณ์ใกล้ตัวย่อมสำคัญกว่า ถึงแม้หญ้าม๋าซุ่ยจะเป็นสิ่งหายาก แต่คงหามาใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น
ผ่านไปไม่นานนัก ชิวเหอก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีก
อย่างไรก็ตาม ชิวเหอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบริเวณขาทั้งสองข้างของตนมีเข็มเงินถูกปักคาอยู่ ดังนั้นนางจึงหลับตาพร้อมเบือนหน้าหนี
อีกด้านหนึ่ง...
ลั่วจ้านชิงไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่แต่อย่างใด ซ้ำยังเข้ามานั่งอยู่ภายในที่นั่งรับรองหลักของห้องโถงกลางแล้ว กำลังจิบชาชั้นดี และมีคนรับใช้จำนวนมากคอยปรนนิบัติอยู่ไม่ห่างกายในระหว่างรอคอยให้นายหญิงแห่งจวนท่านแม่ทัพออกมาพบ
หากจ้านและอวี้ซีหยวนเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้า ไม่รู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเศร้าใจเพียงใด
ผ่านไปเพียงครู่ สตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก แม้ว่าบนใบหน้าของนางจะมีริ้วรอยย่นเล็กน้อยตามวัยที่ล่วงไปตามกาลเวลา ทว่ายังคงเปี่ยมไปด้วยสง่าราศี งดงามราวดอกพีชที่ถูกแต่งแต้มอย่างวิจิตร นางสวมชุดกระโปรงลวดลายดอกไม้ ในมือถือพัดไว้แนบลำตัว เมื่อบิดเอวเรียวก้าวเข้ามาแล้ว จึงย่อตัวลงเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพ