บทที่ 41 ข้อมูลมีมากเกินไป!
บทที่ 41 ข้อมูลมีมากเกินไป!
ราชันย์วิญญาณ นี่คือครั้งแรกที่นินจาทุกคนเคยได้ยิน
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแค่ชื่อนี้ประกอบกับทัศนคติของทั้งสองคนก็เพียงพอที่จะพูดได้ทั้งหมด
“สิบหน่วยพิทักษ์ควรหมายถึงผู้พิทักษ์ที่ดูแลเซเรย์เทย์”
“งั้น…ราชันย์วิญญาณ นั่นคือราชาของเซเรย์เทย์ใช่ไหม?”
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ สามคาเงะกับมินาโตะระมัดระวังตัวอย่างมากเช่นกัน
แน่นอน ไม่ได้หมายความว่าราชันย์วิญญาณจำเป็นต้องคือผู้แข็งแกร่งที่สุดเสมอไป ตัวอย่างเช่น สถานะสูงสุดในนามของห้าแคว้นคือ ‘ไดเหมียว’
แต่ในความเป็นจริง มันคือคาเงะของหมู่บ้านนินจาทั้งห้าที่เป็นตัวแทนของพลัง
แต่เห็นได้ชัดว่าการดำรงอยู่ที่เรียกว่าราชันย์วิญญาณไม่ได้รวมอยู่ด้วย
สิ่งนี้สามารถเห็นได้จากการแสดงออกอันเคร่งขรึมและกังวลของคู่หูเจ็ดเทพโจรสลัด
“ฝ่าบาท เจ็ดเทพโจรสลัดได้แย่งชิงเป้าหมายของเราในครั้งนี้ไป”
คำพูดถัดมาของเบียคุยะชี้นิ้วไปยังคู่หูเจ็ดเทพโจรสลัดโดยตรง
“โอ้? ผู้คนจากรัฐบาลโลกมีส่วนร่วมด้วย?”
ในตอนท้ายของคำพูดจากราชันย์วิญญาณผู้ลึกลับดูราบเรียบ
แต่ทุกคนดูเหมือนสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของอีกฝ่าย
ในขณะเดียวกัน หัวใจของเหล่านินจาบริเวณนั้นมีความคิดในการดูการแสดงดีๆ ขึ้นมาทันที
ท้ายที่สุดแล้ว ในความเห็นของพวกเขา ด้วยความแข็งแกร่งและสไตล์ที่เอเนลกลับครอกโคไดล์แสดงเอาไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขาควรไม่ยอมมอบทรัพย์สินของตนเองให้อย่างซื่อสัตย์แน่นอน
เมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าสู่สงคราม พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถเห็นได้ว่าใครคือราชันย์วิญญาณผู้ลึกลับเท่านั้น แต่ยังมีความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับภายในของทั้งสององค์กรอีกด้วย
แต่พวกเขาคิดไม่ถึง…
“ท่านราชันย์วิญญาณ นี่เป็นเพียงตัวหมากรุกเล็กๆ”
“พวกเรารัฐบาลโลกไม่มีความตั้งใจในการทำสงครามกับยมทูต”
“ท่านซึ่งเป็นผู้พิทักษ์เซเรย์เทย์มาหมื่นปี คงไม่ตระหนี่มากนักใช่ไหม”
“เท่าที่เรารู้ ‘ฮอลโลว์’ เผ่าพันธุ์ใน ‘ฮูเอโกมุนโด้’ กำลังจะกลับมา และมันไม่สมเหตุสมผลเลยหากท่านต้องปะทะกับเราในเวลานี้”
“คราวหน้าปล่อยให้คนตัวเล็กจัดการกันเอง หากท่านลงมือ…มันไม่เหมาะสม”
จู่ๆ มีเสียงชราห้าเสียงดังขึ้น
“แคร่ก!”
ในเวลาเดียวกัน คล้ายกับหลุมดำครั้งก่อนมาก มีช่องว่างปรากฏขึ้นด้านหลังเอเนลและครอกโคไดล์ในเวลานี้
และในหลุมดำนั้น สามารถมองเห็นเมืองสีขาวตั้งอยู่บนแผ่นดินสีแดงเข้ม
เท่าที่ตาสามารถมองเห็น เห็นได้ชัดว่าทวีปสีแดงเข้มนี้ดูเหมือนอยู่ในใจกลางของทะเลอันไม่มีที่สิ้นสุด
จากการแสดงออกที่ผ่อนคลายอย่างกะทันหันของเอเนลกับครอกโคไดล์ นินจาทุกคนสามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างคร่าวๆ
“ยังมีคนอยู่เบื้องหลังเจ็ดเทพโจรสลัด”
สีหน้าของไรคาเงะกับสึจิคาเงะที่สงบมาจนถึงตอนนี้เริ่มน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้เรื่องนี้
เมื่อพิจารณาจากสมาชิกทั้งสองของเจ็ดเทพโจรสลัด ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาในการคาดเดาว่ากองกำลังผู้อยู่เบื้องหลังอีกฝ่ายนั้นใหญ่โตเพียงใด
ไม่ต้องพูดถึงส่วนที่เหลือ เพียงแค่ทะเลกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดกับทวีปสีแดงเข้มเหล่านั้น พวกเขาไม่มีแหล่งข้อมูลมาก่อนเลย
“ทะเลนั่น…นั่นคือแกรนด์ไลน์ที่เซ็นอิทสึพูดถึงงั้นเหรอ?”
ยังไงก็ตาม ต่างจากสองคนนั้น มินาโตะและฮิรุเซ็นมองหน้ากันในเวลานี้ ด้วยสายตาเข้าใจและสงสัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทะเลนั้นควรจะเป็น ‘แกรนด์ไลน์’ ที่เซ็นอิทสึกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้
แต่ตามลำดับ ใครคือเจ้าของเสียงทั้งห้านั้น? รัฐบาลโลกหมายถึงอะไร?
จากนั้นยังมีราชันย์วิญญาณผู้ดูแลเซเรย์เทย์มาถึงหมื่นปี มันไม่ได้หมายความว่าการดำรงอยู่ของราชันย์วิญญาณนี้มีอายุมากกว่าเซียนหกวิถีในตำนานใช่ไหม?
นอกจากนี้ชื่อของฮอลโลว์ยังปรากฏชัดเจนในคำพูดของอีกฝ่าย และ ‘ฮูเอโกมุนโด้’ คืออะไร?
เหมือนว่าพวกเขาเพิ่งรู้วิธีเดินไปบนถนน แต่หลังจากเดินบนถนนสายนี้ ก็พบทันทีว่ามีเส้นทางสาขานับไม่ถ้วนซ่อนอยู่หลังถนน ข้อมูลจำนวนมหาศาลทำให้ตัวละครเจ้าเล่ห์อย่างฮิรุเซ็น มีความรู้สึกวิงเวียนศีรษะไปครู่หนึ่ง
แต่ในขณะเดียวกันเขาได้เข้าใจแล้ว
สิ่งที่พวกเขาได้ยินตอนนี้ ทั้งไม่เคยได้ยินและไม่เข้าใจเลย…คือความจริงของโลกนี้!
‘โลกนินจา…บางทีมันอาจเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งในโลกนี้ก็ได้!’
ไม่ใช่แค่ความคิดของฮิรุเซ็นคนเดียว แต่ยังเป็นความคิดของคาเงะอีกสองคนเกิดขึ้นพร้อมกันในเวลานี้
ในขณะเดียวกัน การสื่อสารระหว่างเสียงลึกลับทั้งห้ากับราชันย์วิญญาณยังคงดำเนินต่อไป
และเหล่านินจาก็ฟังอย่างเงียบๆ
หลังจากได้ยินเสียงชราทั้งห้า ราชันย์วิญญาณตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา: “ห้าผู้เฒ่า เมื่อเทียบกับ ‘ฮูเอโกมุนโด้’...เจ้าควรให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น”
“สี่จักรพรรดิแห่งแกรนด์ไลน์ไม่ใช่เรื่องง่ายจะจัดการ”
หลังจากดุอีกฝ่ายแล้ว ราชันย์วิญญาณยังพูดโดยตรงว่า: “แต่พวกเจ้าพูดถูก เรื่องของคนตัวเล็กปล่อยให้พวกเขาแก้ไขด้วยตัวเอง”
เมื่อคำพูดจบลง ราชันย์วิญญาณดูเหมือนไม่มีความตั้งใจพูดต่ออีก
หลังได้ยินการตัดสินใจของราชันย์วิญญาณ เบียคุยะและเคมปาจิก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็น
พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมแม้แต่คำเดียว ก้าวเข้าไปในช่องว่างด้านหลังทันที
ในเวลาเดียวกัน เอเนลกับครอกโคไดล์เดินไปทางด้านหลังพวกเขาด้วย
เห็นได้ชัดว่าหลังจากคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งสองฝ่ายตัดสินใจแล้ว พวกเขาทั้งหมดต้องการออกจากสถานที่นี้เช่นกัน
“คิดจะไป!”
แต่เมื่อเห็นฉากนี้ ไรคาเงะระเบิดออกมา!
ความหวาดกลัวคือความกลัว และความประหลาดใจคือความประหลาดใจ
แต่ร่างพ่อของเขายังอยู่ในมืออีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาปล่อยให้อีกฝ่ายจากไปแบบนี้ไม่ได้!
ดังนั้นไรคาเงะไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง รีบพุ่งไปหาอีกฝ่ายโดยตรง
มือขวาชูขึ้น จักระสายฟ้าทั่วร่างกายควบแน่นอยู่ในมือ
ไรคาเงะฟันมือของเขาออกไป เกิดสายฟ้าแลบขนาดใหญ่สว่างมากตามมา!
“เสียบโลกันตร์!”
ไม่ใช่แค่ไรคาเงะ อีกสองคาเงะและมินาโตะก็ลงมือพร้อมกัน
ไม่ว่าจะเป็นราชันย์วิญญาณหรือห้าผู้เฒ่า ตั้งแต่เวลาที่พวกเขาปรากฏตัวจนถึงช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจากไป พวกเขาสื่อสารกันเองและเพิกเฉยต่อเหล่านินจาโดยสิ้นเชิง
ในมุมมองของพวกเขา ไม่ต้องสงสัยหรือว่าอีกฝ่ายดูถูกคาเงะเหล่านี้
ด้วยเหตุนี้ แม้แต่ฮิรุเซ็นและมินาโตะผู้รู้ตัวตนของอีกฝ่ายแล้วก็ยังไม่สามารถยอมรับได้
คาเงะเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านนินจาด้านหลังพวกเขา และหมู่บ้านนินจา…ไม่ควรถูกดูหมิ่น!
สึจิคาเงะประสานมือเล็กน้อย จากมือของเขา แสงสีขาวเพียงพอให้ทำลายทุกสิ่งพุ่งเข้าหาเอเนล
“คาถาธุลี แยกพิภพบรรพกาล!”
คาถาธุลี วิชาลับอันล้ำค่าที่สึจิคาเงะรุ่นสามเท่านั้นมีครอบครองในโลกนินจา!
ในเวลาเดียวกัน ฮิรุเซ็นแยกโคลนเงาออกมาสี่ตัว จากนั้นร่างหลักของเขากับร่างแยกเงาทั้งสี่ใช้คาถานินจาแตกต่างกันห้าแบบในเวลาเดียวกัน
นี่เป็นวิชาลับสำหรับปรมาจารย์ผู้สามารถใช้คุณสมบัติจักระธาตุทั้งหมด…
“คาถาผสานห้าธาตุ!”
การโจมตีอันทรงพลังที่สุดของคาเงะทั้งสามได้แผ่พลังมหาศาลไปยังศัตรูทั้งคู่ตามลำดับ
พูดตรงๆ แม้แต่บาเรียป้องกันอันแข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้จาทุกวันนี้ก็ยังต้องพังทลายลงด้วยการโจมตีเต็มกำลังของคาเงะทั้งสาม!
แต่ช่วงเวลาต่อมา สามคาเงะต้องตกตะลึง!
เพราะไม่ว่าจะเป็นเสียบโลกันตร์ของไรคาเงะ คาถาธุลีของโอโนกิ หรือระเบิดห้าธาตุของฮิรุเซ็น พวกมันทั้งหมดสลายหายไปเมื่อเข้าใกล้ประตูอวกาศ
เช่นเดียวกับหยดน้ำที่ตกลงในทะเล วิชานินจาทั้งหมดเหมือนกับเศษหินตกลงสู่ทะเลโดยไม่มีคลื่นแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานร่างทั้งสี่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อประตูอวกาศปิดลง สนามรบทั้งหมดก็เงียบสนิท
แน่นอนคาเงะทั้งสามไม่รู้ว่าหุ่นเชิดของเย่หลินอยู่ในสภาพอยู่ยงคงกระพันอย่างสมบูรณ์เมื่อถูกเรียกกลับมาจากระยะไกล และการโจมตีใดๆ ไม่มีผลต่อมัน
จากมุมมองของพวกเขา สาเหตุที่คาถานินจาของพวกเขาถูกกำจัดนั้นไม่ต้องสงสัยเลย เป็นเพราะสิ่งมีชีวิตอีกด้านหนึ่งของประตูอวกาศได้ลงมือ
การลงมือนั้นสามารถทำให้การโจมตีเต็มรูปแบบสลายหายไปได้!
“ห้าผู้เฒ่า และราชันย์วิญญาณ…”
เวลานี้ หัวใจของพวกเขาหนักอึ้ง…
…………………….