บทที่ 4 องค์ชายรัชทายาท
บทที่ 4
องค์ชายรัชทายาท
“ข้าขออภัยขอรับ ท่านแม่ ต่อไปพวกเราจะระวังให้มากยิ่งขึ้น” อวี้เจี๋ยและอวี้เซียงยืนขึ้น ก่อนจะโค้งคำนับพร้อมก้มศีรษะเพื่อขออภัยไป๋ตู้รั่ว
ไป๋ตู้รั่วไม่ได้ตำหนิพวกเขาแต่อย่างใด ซ้ำยังดึงแขนทั้งสองเข้ามาใกล้เพื่อปลอบโยน “เจ้ากล่าวถูก ขยะไร้ค่าพรรค์นั้น หากตายตกไปเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่นับจากนี้จะไม่มีของเล่นรองมือรองเท้าให้กับพวกเจ้าอีกต่อไป”
อวี้เจี๋ยและอวี้เซียงหันมองหน้ากันทันที ก่อนเอ่ยถาม ไป๋ตู้รั่วพร้อมกัน “ท่านแม่ไม่กล่าวโทษพวกเราหรือ?”
“กล่าวโทษ? เหตุใดต้องกล่าวโทษด้วยเล่า?” ไป๋ตู้รั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย มุมปากกระตุก “การที่มันทั้งสองคนมีชีวิตอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้ เพราะเห็นแก่หน้าท่านพ่อของพวกเจ้าเท่านั้น พวกมันมีค่าเป็นเพียงของเล่นเพื่อรองรับอารมณ์ของพวกเจ้า ในเมื่อตายตกไปแล้วก็อย่าได้ใส่ใจเลย”
หลังจากอวี้เซียงและอวี้เจี๋ยได้ยินเช่นนั้นจึงโล่งใจยิ่งกว่าเก่า
ตราบใดที่อวี้ซีหยวนและอวี้ซินหรานตายตกไปจากโลกนี้แล้ว พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข
อวี้ซีหยวนพาอวี้ซินหรานเดินตรงไปข้างหน้าตามถนนทอดยาว ทว่าไม่พบที่พักอาศัยที่ดีเลยสักแห่ง
อวี้ซินหรานมองไปที่สถานที่ซึ่งดูคุ้นเคยเล็กน้อยเบื้องหน้า จากนั้นดึงมือของอวี้ซีหยวนเข้ามาใกล้ “พี่สาว สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นหนานหลิน เนินเขารกร้างและแห้งแล้งขนาดใหญ่ มีสัตว์ร้ายและสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ในนั้น ไปจากที่นี่กันเถอะ สถานที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัย”
ว่าแล้วอวี้ซินหรานก็ชี้ไปยังถนนอีกสายหนึ่งซึ่งมีขนาดกว้างขวางกว่า
อวี้ซีหยวนมองเข้าไปในป่าทึบซึ่งเรียกขานว่าหนานหลิน ก่อนจะส่ายหน้าและเสนอแนวทางที่ตรงข้าม “เข้าไปยังส่วนลึกของหนานหลินกันเถอะ” หลังจากกล่าวเช่นนั้น อวี้ซีหยวนก็เดินเข้าไปข้างในทันที
สถานที่แห่งใดมีสัตว์อสูร สถานที่แห่งนั้นควรมีสมบัติฟ้าดิน รวมถึงพืชสมุนไพรธรรมดาสามัญ ถึงแม้ว่าจะไม่มีสิ่งเหล่านั้น อย่างน้อยสามารถจับสัตว์ป่าสักสองสามตัวได้ก็ยังดี เพื่อนำพวกมันมาย่างและกินเนื้อเป็นอาหารเพื่อประทังชีพ
ส่วนลึกงั้นหรือ?
รูม่านตาของอวี้ซินหรานหดเล็กลง นางไม่ต้องการให้พี่สาวของตนเข้าไปที่นั่นเอาเสียเลย อาจมีอันตรายที่ไม่อาจคาดเดาจำนวนมากจ้องเล่นงานอยู่ภายในนั้น
แต่หากพี่สาวของข้ายืนกรานว่าจะเข้าไป...
อวี้ซินหรานกระทืบเท้าเล็กน้อย ก่อนพาร่างกายเล็กกะทัดรัดของตนวิ่งตามไปให้ทันอวี้ซีหยวน
“พี่สาว รอข้าด้วย!”
——
“ไม่พบบุคคลที่คำพยากรณ์กล่าวถึงเลยหรือ?”
“ท่านอ๋อง ผู้ใต้บังคับบัญชาไร้ความสามารถ ไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
ภายในส่วนลึกของหนานหลิน องครักษ์ชุดดำคุกเข่าต่อหน้าท่านอ๋องขณะกล่าวรายงาน อ๋องผู้นี้มีคิ้วคมเข้มดุจดาบ ดวงตาสุกสกาวเหมือนดวงดารา ผิวกายของเขาซีดเผือดเล็กน้อย อายุประมาณวัยรุ่น สวมใส่เสื้อคลุมสีฟ้าน้ำแข็ง ร่างกายผอมเพรียว เพียงยืนหลังตรงเอามือไพล่ไว้ด้านหลัง คนรอบข้างก็สามารถสัมผัสได้ถึงความของเขา เขาเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ทหารองครักษ์กล่าวรายงาน
“นี่ก็ดึกดื่นเต็มทีแล้ว พวกเจ้ากลับไปเถิด”
เมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้ว องค์ชายรัชทายาทยกเท้าขึ้นพร้อมหันหลังกลับ ทหารองครักษ์จึงประสานหมัดคำนับอีกครั้ง จากนั้นร่างกายก็หายวับไป
องครักษ์เงา ความสามารถในการซ่อนเร้นกายของเขาแข็งแกร่งเป็นที่สุด
“ซินหราน จับมือข้าไว้!” อวี้ซีหยวนกล่าว นางกวาดสายตามองไปโดยรอบอย่างระมัดระวัง สถานการณ์ดูผิดแปลกไปจากปกติเล็กน้อย นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสัตว์อสูรภายในหนานหลิน แต่เหตุใดพวกมันถึงไม่ยอมย่างกรายออกมาเสียทีกันเล่า ดูเหมือนว่าจะมีขั้นพลังที่เหนือกว่าพวกนางอีกด้วย
หากเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นเข้า เกรงว่าอาจรับมือได้ยากพอสมควร
อวี้ซีหยวนพาอวี้ซินหรานไปซ่อนตัวอยู่หลังหินก้อนใหญ่ ตรงหน้ามีถนนที่ทอดยาวเป็นทางเดียว จากนั้นเป็นไปตามที่นางคาดการณ์ไว้ มีร่างหนึ่งเดินตรงมาจากด้านหน้า
ขณะที่ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ในที่สุด อวี้ซีหยวนก็มองเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน เสื้อคลุมสีฟ้าน้ำแข็ง ส่งเสริมให้ร่างกายสูงโปร่งและผอมเพรียวให้ยิ่งหล่อเหลาด้วยเข็มขัดไหมสีขาวเส้นยาวที่ผูกอยู่รอบเอว มีหยกขาวแกะสลักชิ้นหนึ่งถูกห้อยอยู่ด้านข้าง รูปร่างและโครงหน้าของบุรุษผู้นี้นับว่าไร้ที่ติ
ดวงตาของอวี้ซีหยวนพลันเปล่งประกายขึ้นทันใด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางให้ความสนใจไม่ใช่ใบหน้าอันหล่อเหลาซึ่งอาจทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั้งมวลพลอยหวั่นไหว ทว่าเป็นเพราะเสื้อผ้าชั้นดี สามารถบ่งบอกได้ทันทีว่าอาภรณ์ที่ตัดเย็บขึ้นจากวัสดุเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสวมใส่อย่างแน่นอน
“พี่สาว ผู้ชายคนนั้นมิใช่...” องค์ชายรัชทายาทหรอกหรือ?
ยังไม่ทันที่อวี้ซินหรานจะกล่าวจนจบประโยค อวี้ซีหยวนรีบเอื้อมมือไปปิดริมฝีปากนางไว้เสียก่อน