ตอนที่แล้วบทที่ 38 ฝูงวัวบ้าคลั่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 การโต้เถียงรายงานจากอาชญากร

บทที่ 39 ชนมหาประลัย


บทที่ 39

ชนมหาประลัย

สิ้นเสียงสะเทือนครั้งสุดท้าย วัวกลายพันธุ์ 21 ตัวถูกฆ่าจนหมด ไม่มีตัวไหนรอดชีวิต

หยางเซวี่ยยืนอยู่บนผืนดินนองเลือดที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง หลังจากการต่อสู้จบลง ดวงตาของหยางเซวี่ยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ราวกับพระเจ้าประทานจิตวิญญาณแห่งเทพสงครามมาให้

ในที่สุดเธอก็มีกลิ่นอายของเทพธิดาแห่งสงคราม!

เฉินเทียนเซิงเดินออกมาพร้อมกับสองพี่น้อง แล้วยื่นน้ำแร่ให้หยางเซวี่ย

“รีบกินยาฟื้นฟูเร็วเข้า”

“ขอบคุณ”

หยางเซวี่ยรับขวดน้ำแร่ไป แล้วคืนลูกดอกหนูให้           เฉินเทียนเซิง

“นี่ของคุณ”

“คุณเก็บไว้เถอะ”

เฉินเทียนเซิงไม่รับอาวุธคืน เพราะสไตล์การโจมตีของเขามีทั้งระยะใกล้และไกล ลูกดอกหนูจึงไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่

เมื่อมองไปรอบ ๆ ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยซากศพสัตว์กลายพันธุ์ และซากหมูกลายพันธุ์ในเล้าที่ยังไม่ย่อยสลาย

“กลับไปที่รถและรอฉันก่อน ฉันมีบางอย่างต้องทำ”

เขาต้องให้ทั้งสามออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา จึงหาเหตุผลเพื่อปกปิดการมีอยู่ของระบบ

หลังจากทั้งสามจากไป เฉินเทียนเซิงก็เริ่มดูดซับซากศพวัว แต่ก่อนหน้านั้น เขาได้ขุดเอาผลึกกลายพันธุ์จากหัวของวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 มาด้วย

ผลึกสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยเปล่งแสงสีเขียวจาง ๆ ออกมา

“ผลเก็บเกี่ยวที่ดี!”

ได้คะแนนมากกว่า 1000 แต้ม เพียงพอสำหรับแลกของสิบครั้งติดกันแล้ว

ถึงอย่างนั้นก็อดนึกถึงครั้งก่อนไม่ได้จริง ๆ หวังว่าคราวนี้คงไม่สุ่มได้หมูย่างกับวัวย่างกลายพันธุ์หรอกนะ?

ท้ายที่สุด หลังจากกำจัดวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ได้ ผีพนันก็เข้าสิง เขากดแลกแพ็กของขวัญโดยไม่ลังเล

สีขาว 10 สีขาว 9 สีเขียว 1 สีขาว 8 สีเขียว 1 สีน้ำเงิน 1...

หีบสมบัติสีขาว 80 กล่อง ไม่ผิดจากที่คาดคิดไว้เลย หมูย่างกลายพันธุ์ 10 ตันและวัวย่างกลายพันธุ์ 11 ตัน

หีบสมบัติสีน้ำเงิน 1 กล่องคือสกิลพิเศษ :

ชนมหาประลัย สร้างแรงกระแทกถึงสิบตันหลังสั่งใช้งาน เมื่อความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น พลังทำลายล้างก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังได้ยาเสริมคุณสมบัติมาอีก 8 ประเภท ทั้งหมดบวกค่าพลังอย่างละ 10

สิ่งที่ทำให้เฉินเทียนเซิงรู้สึกตื่นเต้นมาก คือต่อไปได้เวลาเปิดหีบสมบัติสีม่วงแล้ว

เมื่อสุ่มได้หีบสีม่วง ซึ่งหายากกว่าหีบสีทอง เขาก็อดใจไม่ไหวที่จะรีบเปิดดู

ประกายสีม่วงสว่างวับ

ยาสร้างยีนภูมิคุ้มกัน

ยาสร้างยีนภูมิคุ้มกันขวดที่สอง ตอนนี้มันจำเป็นซะที่ไหน ไม่ยุติธรรมเลย สำหรับเฉินเทียนเซิงแล้ว ยานี้สามารถใช้งานได้เพียงอย่างเดียวคือ ส่งมอบให้กับรัฐเพื่อแลกกับผลประโยชน์

หลังจากนั้นเขาก็ดื่มยาเสริมคุณสมบัติทั้งหมด ตอนนี้ค่าสถานะปัจจุบันคือ

พลังกาย : 44.67

ความแข็งแกร่ง : 47.32

ความเร็ว : 44.95

พลังใจ : 40.71

สกิลพื้นฐาน :

ฟื้นฟูความเร็วสูง ระเบิดพลังคูณ 2 ซูเปอร์สปีด เสียงสะท้อนแห่งจิตวิญญาณ

สกิลขั้นสูง :

ชนมหาประลัย

โดยรวมแล้ว สิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับในครั้งนี้ถือว่าไม่เลวเลย ค่าคุณสมบัติทุกด้านของเขามีมากกว่า 40 แล้ว ถ้าวัดตามเกณฑ์ความแข็งแกร่งของมนุษย์ยุคใหม่เมื่อชีวิตที่แล้ว เขาน่าจะก้าวผ่านระดับ 2 ในไม่ช้า ถ้าได้ยาเสริมคุณสมบัติเพิ่ม

ตอนนี้เขาเหมือนมีมหาอำนาจอยู่ในมือ เมื่อชาติที่แล้ว เขาได้รับการเสริมคุณสมบัติเพียงอย่างเดียว เหมือนกับความเร็วของหยางเซวี่ย เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้ ตัวเขาเมื่อก่อนแทบเทียบไม่ติดเลย

หลังกลับมาเกิดใหม่เพียงไม่กี่วันก่อนเกิดวันสิ้นโลก เขาได้วิวัฒนาการก่อนใคร จนตอนนี้ไม่มีใครที่เป็นภัยคุกคามแก่เขาทั้งนั้น

เขาผิวปากอย่างมีความสุข ก่อนเดินกลับไปที่รถบรรทุกสินค้า ขณะที่ก้าวขึ้นไปนั่งบนที่นั่งคนขับ หยางเซวี่ยพูดอย่างเคร่งขรึมว่า

“ตอนนี้มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย”

เฉินเทียนเซิงหันไปด้านข้าง หยางเซวี่ยก็พูดต่อว่า

“ข่าวดีคือ ฉันรู้สึกว่าตัวเองเร็วขึ้นกว่าตอนแรก”

เฉินเทียนเซิงอธิบายขณะสตาร์ทรถ

“ปกติ ตอนนี้คุณเป็นมนุษย์ยุคใหม่ระดับแรกที่มีทักษะความเร็วเป็นเลิศ แต่คุณยังต้องพัฒนาต่อไป ยิ่งต่อสู้บ่อยครั้งก็ยิ่งพัฒนาได้ไว”

ขณะที่เขาหมุนพวงมาลัย ก็ถามกลับอย่างเป็นกันเองว่า “แล้วข่าวร้ายคืออะไรล่ะ?”

“น้ำมันใกล้หมดแล้ว อาจไม่พอที่ให้ขับกลับไปที่เขตกักกัน”

เฉินเทียนเซิงรีบก้มไปดูหน้าปัดบอกน้ำมัน พบว่าเข็มตกไปถึงเกือบขีดล่างสุด

“ปัญหาใหญ่อีกแล้ว เราต้องพักคุยกันก่อน”

เฉินเทียนเซิงเกาหัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนขับรถบรรทุกออกไปด้วยความระแวง โชคดีที่สามารถกลับมายังเขตกักกันได้

เมื่อรถขับมาจอดอยู่หน้าหอสังเกตการณ์ น้ำมันก็หมดเกลี้ยงพอดี เหลืออีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะถึงเขตกักกันอยู่แล้วแท้ ๆ

“เอารถออกไปให้พ้น อย่ามาจอดขวางทาง!”

ทหารที่คอยสังเกตการณ์โบกมือไล่พวกเขา

เฉินเทียนเซิงเปิดประตูและกระโดดลงจากรถ แล้วพูดว่า

“ผมก็อยากขับรถออกไปอยู่นะ แต่โชคไม่ดีที่รถบรรทุกน้ำมันหมดซะก่อน”

ทหารมองเฉินเทียนเซิงด้วยสายตาเหยียดหยาม และสาปแช่งเขาในใจว่าสมควรแล้ว

“ถ้าน้ำมันหมดก็อย่ามาเกะกะ หาทางรอดเอาเอง”

เดิมทีเฉินเทียนเซิงมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับทหารในเขตกักกันอยู่แล้ว พวกเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ต้องยอมให้คนขวางโลกเข้ามาอยู่ด้วย

“อยากย้ายก็ย้าย ผลักได้ก็มาผลัก ถ้าย้ายไม่ได้ก็อย่ามาโทษผมแล้วกัน” เฉินเทียนเซิงตอบกลับอย่างติดตลก

“คุณ!” ทหารมือสั่นด้วยความโกรธ

ขณะที่พวกเขากำลังยืนเถียงกันอยู่นั้น ขบวนรถกลุ่มใหญ่ก็ขับมาจอดที่ด้านหลังรถบรรทุก

“ถ้าไม่ยอมขยับรถก็ลงมาจากรถซะ ระวังตัวด้วย!”

ทหารสังเกตการณ์ตื่นตัวเต็มที่ ก่อนบรรจุกระสุนปืน แล้วเล็งไปที่ขบวนรถ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและมองหาคนบาดเจ็บ

เฉินเทียนเซิงมองย้อนกลับไป เห็นขบวนรถกลุ่มใหญ่จอดอยู่ข้างหลัง เมื่อเทียบกับเมื่อวานแล้ว สภาพขบวนรถนั้นทรุดโทรมมาก และมีรถกลับมาไม่ครบอีกด้วย

ขบวนรถจอดคาอยู่หน้าทางเข้าของเขตกักกัน เมื่อรถทุกคันจอด ทหารบางคนก็กระโดดลงจากรถและตะโกนว่า

“มีคนบาดเจ็บ!”

ภายใต้การคุ้มครองของทหารสังเกตการณ์ พวกเขารีบสั่งให้ทหารในชุดป้องกันเชื้อรีบไปที่ขบวนรถ เพื่อแบกผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นเปลหาม แล้วรีบพาตัวเข้าไปรักษาในเขตกักกัน

มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและล้มตายมากมายจากการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในวันสุดท้าย แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาชะล่าใจเพราะเห็นว่าเมื่อวานภารกิจสำเร็จไปด้วยดี จึงเป็นเหตุให้พวกเขาต้องสูญเสียในวันนี้

เจิ้งเหว่ยและผู้บัญชาการคนอื่นรีบวิ่งออกมา ทหารที่นำทีมทำความเคารพและเริ่มรายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“ทีมค้นหาและกู้ภัยช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 7 คน เสียชีวิต 19 คน โดย 16 คนเป็นพลเรือนครับ”

เจิ้งเหว่ยโกรธทันทีเมื่อได้ฟัง

“ทำไมถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้?”

ทหารคนนั้นรายงานต่อว่า “ผมทำผิดพลาดในการค้นหาและกู้ภัย เนื่องจากพบปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลงโทษผมได้เลยครับ”

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตัดสินลงโทษ เจิ้งเหว่ยไม่สนใจเรื่องนี้ ก่อนเดินเข้าไปตบไหล่ทหารคนนั้นแล้วพูดว่า

“มากับผม เราต้องรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างทำภารกิจนี้”

เมื่อเขาหันหลังกลับ ก็บังเอิญเห็นเฉินเทียนเซิงและคนอื่น ๆ ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าพอดี จึงถามด้วยความประหลาดใจว่า

“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ ข้างนอกมันอันตราย อย่าอยู่นอกประตูนาน”

เฉินเทียนเซิงยักไหล่และตอบว่า “ผมก็อยากเข้าไปอยู่หรอก แต่ติดตรงที่รถน้ำมันหมด”

เจิ้งเหว่ยหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่รถบรรทุก ก่อนหันไปถามทหารอีกคนว่า

“ได้เอาต่อมไพเนียลในหัวซอมบี้มาด้วยรึเปล่า”

ทหารคนนั้นเปิดกระเป๋าเป้ที่เปื้อนเลือดสีดำ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นเน่า

“เอามาครับ ตอนนี้มีต่อมไพเนียลทั้งหมด 478 ชิ้น”

เจิ้งเหว่ยไม่ตอบอะไร แล้วหันไปพยักหน้าให้เฉินเทียนเซิง

“ยกทั้งหมดให้เขา แล้วย้ายเสบียง 478 กล่องออกจากรถบรรทุก ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นหรือตาย แต่ทิ้งเสบียงเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด”

เจิ้งเหว่ยพึมพำพร้อมหันหลังเดินจากไป

ลัวหลงโกรธมากเมื่อได้ฟัง “คุณหมายความว่ายังไงไม่ทราบ?”

เฉินเทียนเซิงรีบคว้าตัวเขาไว้ เพื่อไม่ให้เขาปล่อยไฟออกมา เมื่อเช็กผลึกกลายพันธุ์ในกระเป๋า พบว่ามีผลึกกลายพันธุ์ระดับ 2 มากกว่าหนึ่งโหล ไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายจะเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก

“อาจารย์ ถ้าปล่อยให้พวกเขาเอาเสบียงไป พวกเราก็ไม่เหลืออะไรแล้ว!” ลัวหลงพูดพร้อมแสดงสีหน้าเศร้าหมอง

“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”

สำหรับเฉินเทียนเซิงแล้ว การแลกเปลี่ยนสิ่งของกับผลึกกลายพันธุ์ระดับสูงนั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก

ในเวลาเดียวกัน รายงานของเฉินเทียนเซิงที่ลัวหมิงได้รับ ทำให้ศูนย์ประชุมแห่งชาติเกิดความโกลาหลอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด