บทที่ 39 ข้อเสนอที่ดี
บทที่ 39
ข้อเสนอที่ดี
อันที่จริง นางไม่สามารถอธิบายได้เช่นกันว่าเหตุใดตนจึงเกิดลางสังหรณ์เช่นนี้
แต่มีบางสิ่งที่ทำให้นางเกิดความหวั่นไหวจนต้องพาตนเองกลับมาให้จงได้
รู้เพียงว่าหากไม่กลับมา อาจพลาดบางสิ่งที่สำคัญยิ่ง
ในขณะเดียวกัน สิ่งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับหยกโลหิตซึ่งห้อยอยู่ตรงบั้นเอวของนาง เป็นเหตุผลที่ดึงดูดให้อวี้ซีหยวนทลายความกลัวและกลับมายังรังหมาป่าแห่งนี้
เพราะในความเป็นจริงแล้ว อวี้ซีหยวนจะไม่มีวันกลับมาเหยียบที่นี่อีก ถึงแม้ท่านแม่ทัพผู้เป็นบิดาจะเป็นผู้เชิญนางกลับไปด้วยตนเอง นอกเสียจากกลับมาเพื่อชำระแค้นไป๋ตู้รั่วและบรรดาลูก ๆ ของนางเท่านั้น
“คุณหนูอวี้ ทางนี้...”
จ้านพิงแผ่นหลังแนบชิดกำแพงขณะกวักมือเรียกเป็นการส่งสัญญาณให้อวี้ซีหยวนเดินติดตามไป
ทิศทางที่จ้านกำลังมุ่งหน้าไป คือทิศทางที่นำไปสู่สวนหลังเรือนของจวนท่านแม่ทัพ
“ถึงแล้ว”
ทั้งสองยังคงหลบซ่อนอยู่ในจุดอับสายตา พยายามเอียงศีรษะมองไปยังบริเวณลานบ้านอย่างระมัดระวัง
สวนหลังจวนเป็นสถานที่ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของบรรดาคนรับใช้ และแน่นอนว่าอวี้ซีหยวนที่เป็นถึงคุณหนูสามก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อนเช่นเดียวกัน
ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว คนรับใช้ทั้งหมดต่างเข้าไปทำงานในเรือน สวนหลังบ้านจึงรกร้างว่างเปล่า พวกเขาเห็นสาวรับใช้อยู่ที่นั่นเพียงสองคน
“ป้ากู้ ท่านเข้าไปพักผ่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะซักต่อเอง!”
สาวรับใช้ที่ดูมีอายุน้อยกว่าเดินกะโผลกกะเผลกไปทางหญิงวัยกลางคนที่กำลังซักผ้า พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก แล้วแตะข้อศอกของสาวรับใช้อีกคนอย่างอ่อนโยน พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงคำตำหนิเล็กน้อย “ชิวเหอ เจ้าออกมาทำไมกัน อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสื้อผ้าเท่านี้ประเดี๋ยวเดียวข้าก็ซักเสร็จแล้ว เจ้ารีบกลับเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองเถอะ!”
“ป้ากู้” สาวรับใช้สูดจมูก หยดน้ำตาใสสองหยดร่วงผล็อยลงมาประหนึ่งลูกปัดใส นางทรุดกายลงนั่งยอง ๆ เอนศีรษะซบไหล่ป้ากู้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวเย้ยหยันโชคชะตาของตนเอง
“ตั้งแต่คุณหนูสามและคุณหนูสี่จากไป คนเหล่านั้นก็พากันกดขี่ข่มเหงและทุบตีเราสองคนเยี่ยงวัวและม้า! เราหลบหนีออกไปด้วยกันเถอะป้ากู้ ข้าไม่อยากทนทุกข์ทรมานอีกต่อไปแล้ว!”
ข้าไม่ต้องการให้ป้ากู้ทนทำงานอย่างหนักเพื่อข้าเช่นนี้!
“ไม่ ชิวเหอ เจ้า...”
“ทำไมล่ะ? ข้าคิดว่าข้อเสนอของชิวเหอค่อนข้างดีจะตายไป”
“นี่...”
จ้านหันขวับมองไปที่อวี้ซีหยวนซึ่งเดินออกไปราวกับพร้อมเปิดเผยตัวตน ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าผากตนเองฉาดใหญ่ด้วยความหงุดหงิด เหตุใดเขาถึงไม่ทันจับตัวอวี้ซีหยวนไว้กันนะ? หญิงสาวผู้นี้ดูมั่นคงเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด แต่วันนี้นางกลับประมาทเสียอย่างนั้น?
อวี้ซีหยวนยืนอยู่ที่เดิมต่อไปอีกครู่หนึ่ง ทว่าทั้งป้ากู้และ ชิวเหอกลับร่างกายแข็งทื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะหันมองกลับหลัง
ยิ่งไปกว่านั้น ป้ากู้ซึ่งกำลังจับกระดานซักผ้าไว้ในมือ กลับจับมันแน่นขึ้นว่าเก่าจนแขนเริ่มขึ้นเป็นมัดกล้าม สองแขนแข็งทื่อ ราวกับว่าหากอวี้ซีหยวนเดินออกไปอีกก้าว นางก็พร้อมที่จะเหวี่ยงมันออกไป
ส่วนชิวเหอก็หวาดกลัวมากไม่ต่างกัน
อวี้ซีหยวนหัวเราะคิกคัก “ชิวเหอ ป้ากู้ ไม่พบกันนานทีเดียว”
“เอ่อ… ใครกันที่ไม่ได้พบกับพวกเรามานานแล้ว…” ชิวเหอตื่นตระหนกยิ่ง เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าสุ้มเสียงดังกล่าวช่างคล้ายคลึงกับเสียงของคุณหนูสามเสียเหลือเกิน?
ป้ากู้กล่าวว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าวิญญาณของคุณหนูสามจะกลับมาหลอกหลอน...”
“ป้ากู้ อย่าทำให้ข้าตกใจกลัวสิ จุ๊ๆๆ นี่มันกลางวันแสก ๆ นะ!”
เที่ยงวันเช่นนี้ ไหนเลยผีสางจะออกอาละวาดได้?!
“กลางวันแสก ๆ แล้วอย่างไร...”
กระแสลมเย็นพัดผ่าน ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวที่ต่ำและมืดหม่น ทั้งสองสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ราดรดอยู่ด้านหลัง ทำให้ป้ากู้และชิวเหอสั่นสะท้านจนขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง
อวี้ซีหยวนถอนหายใจ แล้วเอ่ยต่อไป “ป้ากู้ ชิวเหอ กลางวันแสก ๆ เช่นนี้จะมีผีได้อย่างไร?”
“ละ... แล้วเจ้าเป็นใคร?”
อวี้ซีหยวนตอบกลับ “ข้าคืออวี้ซีหยวน”
เมื่อชิวเหอได้ยินดังนั้น จึงแน่ใจว่าต้องเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิดแน่ ผ่านไปเพียงครู่ ความหวาดกลัวของนางยิ่งทวีคูณขึ้น รีบคว้าแขนของป้ากู้ไว้แน่น กระทั่งเล็บจิกเข้าไปในเนื้อป้ากู้