บทที่ 38 ฝูงวัวบ้าคลั่ง
บทที่ 38
ฝูงวัวบ้าคลั่ง
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว”
ทันใดนั้นก็มีเสียงสะเทือนในอากาศ ราวกับเสียงคมดาบที่ฟันอากาศจนเกิดคลื่นลม
ยังเร็วไปที่จะฆ่าฉัน
ราวกับประกายไฟกระทบหินเหล็ก
ก่อนที่วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 จะพุ่งโจมตีไปที่หยางเซวี่ย
จู่ ๆ ขวานดับเพลิงกก็ลอยหมุนมาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด ตรงมาที่ต้นคอของวัวกลายพันธุ์ระดับ 3
“เคร้ง”
เมื่อขวานลอยมาฟันต้นคอของวัว กลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลยสักหยด แต่ขวานทำให้วัวเซถอยหลัง ก่อนที่ขวานอันนั้นจะลอยย้อนกลับไปในทิศทางเดิม
ขณะที่ขวานลอยย้อนกลับไป ท่ามกลางซากปรักหักพังบนชั้นสอง มือข้างหนึ่งชูขึ้นมาจับขวานดับเพลิงเอาไว้
เฉินเทียนเซิง!
คุณยังไม่ตาย!
เฉินเทียนเซิงยกมือขวาขึ้นสูงเพื่อรับขวานกลางอากาศ ดวงตาเย็นชาและเยือกเย็น พูดเสียงต่ำ
“แย่จริง ๆ เมื่อกี้ฉันประมาทไปหน่อยเลยถูกโจมตีซะได้ คราวนี้ ฉันจะสับแกให้เละเลยคอยดู!”
วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ถูกสกัดกั้นการโจมตีด้วยแรงกระแทกอย่างกะทันหัน ร่างกายใหญ่โตเดินเซจนล้มลงกับพื้น ขณะเดียวกันหยางเซวี่ยก็รีบลุกขึ้นยืน
เฉินเทียนเซิงเดินออกจากซากปรักหักพัง แล้วกระโดดลงมาโดยไม่ลังเล
“คุณรับมือกับสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 ไม่ได้หรอก ถอยให้ห่างจากบริเวณนี้!”
“หยางเซวี่ย พาเด็กไปหลบด้วย”
หยางเซวี่ยที่เพิ่งรอดชีวิตจากประสบการณ์เฉียดตายมาได้ ไม่มีเวลามาตื่นเต้นอะไรในตอนนี้ ร่างของเธอหายวับไปอย่างรวดเร็ว วิ่งเข้าไปพยุงลัวหลงแล้วผลักเขาเข้าไปในอาคารเป็นอันดับแรก แล้ววิ่งไปรับลัวเฟิงต่อ
เฉินเทียนเซิงยกขวานขึ้นแล้วก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 พยายามดันตัวลุกขึ้น
“ย๊าก!”
เขาวิ่งออกไปแล้วใช้ขวานฟันลงกลางหัวของวัว แต่มันกลับเงยหน้าขึ้นแล้วใช้เขาแหลมคมป้องกันการโจมตีเอาไว้ได้
ประกายไฟสว่างวาบขึ้นขณะปะทะกัน
ทันใดนั้นร่างของเฉินเทียนเซิงก็หายไป
ซูเปอร์สปีดระดับ 2 เปิดใช้งาน
ร่างของเขาปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของวัวอย่างรวดเร็ว ก่อนใช้ขวานฟันต้นคอวัวอย่างรุนแรง
“เสร็จฉัน”
“ฉึก”
ขวานดับเพลิงทะลวงผ่านแนวป้องกันของวัวได้สำเร็จ แต่มันเป็นแค่ผิวหนังชั้นแรกเท่านั้น จึงยังไม่สามารถปลิดชีพมันได้
“มอ...”
วัวกรีดร้องเสียงดัง สะบัดหัวแรง ๆ ทำให้ขวานดับเพลิงหลุดออกจากต้นคอ ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งกระฉูดออกมา กีบวัวกระทืบพื้นรุนแรงมากขึ้น พอรู้สึกเจ็บปวดก็ยิ่งบ้าคลั่ง
“ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”
เฉินเทียนเซิงรุดหน้าเข้าไปฟันอีกครั้ง แต่โชคไม่ดีที่การโจมตีในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งน้อยลงกว่าตอนแรก แทบจะใกล้เคียงกับการโจมตีด้วยกำลังของคนธรรมดา จึงไม่สามารถสร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายได้
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง”
สุดท้ายขวานหักเป็นสามท่อน การโจมตีไม่เป็นผลเลย วัวแหกปากกรีดร้องลั่น
ขณะที่เฉินเทียนเซิงฉวยโอกาสรีบหาอาวุธใหม่ วัวก็รีบลุกขึ้นแล้วพุ่งตรงมาที่เขา
สายเกินไปที่เฉินเทียนเซิงจะตอบสนอง เขารีบขว้างด้ามขวานในมือออกไป
“ตูม”
ด้ามขวานดับเพลิงกระเด็นไปไกลทันที แรงมหาศาลที่มันพุ่งเข้ามา ทำให้เฉินเทียนเซิงถูกกระแทกจนลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกชนกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร
เฉินเทียนเซิงรีบลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ก่อนหยิบขวดน้ำแร่ขึ้นมา แล้วรีบกระดกดื่ม
ความเจ็บปวดที่รุนแรงบรรเทาลง ความแข็งแกร่งที่สูญเสียไปค่อย ๆ ฟื้นตัว
“โธ่เว้ย”
หลังจากโยนขวดน้ำทิ้งไปจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นสภาพขวานที่หล่นอยู่บนพื้น ถึงรู้ว่าตอนนี้มันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว
เขาตัดสินใจหยิบอาวุธซึ่งไม่เคยใช้ที่เหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวในกระเป๋าเป้อวกาศ
ลูกดอกหนู
แล้ววิ่งเข้าหาวัวที่กำลังตั้งท่าโจมตี
บาดแผลที่ต้นคอของวัวยังมีเลือดไหลไม่หยุด มันตระหนักได้ว่าตัวเองประมาทเกินไปเหมือนกัน จึงไม่กล้าประเมินมนุษย์ตรงหน้าต่ำเกินไป พอลุกขึ้นได้ก็หนีไปทางคอกวัว
“ฉันไม่ปล่อยให้แกหนีไปได้หรอก!”
ด้วยความเร็วสูงสุด เขาวิ่งไล่ตามวัวได้ทันการณ์ จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปคร่อมอยู่บนหลังวัว แล้วเงื้อลูกดอกหนูขึ้นจนสุดแขน และแทงไปที่ลำตัวของวัวทันที
“ฉึก”
เฉินเทียนเซิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ภายนอกมันดูเหมือนเป็นอาวุธธรรมดา แต่กลับแทงทะลุผ่านแนวการป้องกันของวัวได้อย่างง่ายดาย
ไม่เลวเลยระบบ อาวุธนี่ใช้ดีจริง ๆ
วัวกลายพันธุ์รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง มันพยายามสะบัดตัวไปมา เพื่อเหวี่ยงให้มนุษย์ตกลงมาบนพื้น
แต่เฉินเทียนเซิงจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ยังไง เขารีบกระหน่ำแทงหนังวัวครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่นานเลือดก็พุ่งทะลักออกมา
วัวสะบัดหัวอย่างบ้าคลั่ง กระโดดไปมาจนเข้าไปใกล้คอกวัวมากขึ้น ก่อนถึงคอกวัว เฉินเทียนเซิงรีบเอื้อมมือไปจับเขาของมัน จับลูกดอกหนูซึ่งใช้แทงไปที่บาดแผลบนต้นคอในตอนแรก แล้วรูดมันลงมาด้วยแรงทั้งหมดที่มี
บาดแผลขยายใหญ่ขึ้น เลือดไหลออกมาไม่หยุด ในที่สุดวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ก็เริ่มอ่อนแอลง เดินโซซัดโซเซไปทรุดตัวลงนอนอยู่หน้าคอกวัว
หลังจากร่างกายใหญ่โตล้มลงอย่างช้า ๆ เฉินเทียนเซิงก็ทิ้งตัวลงนอนอยู่บนหลังของมัน แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะยากเย็น แต่ก็สนุกมากเช่นกัน
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขากระโดดข้ามขั้นไปฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูง แถมยังเป็นถึงวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 อีกด้วย
เนื่องจากในชาติที่แล้ว พลังทำลายล้างของวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 สามารถคว่ำรถถังได้แบบง่าย ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่วัวพวกนี้รวมตัวกัน แล้วพุ่งโจมตีพร้อมกัน สามารถทำให้สิ่งก่อสร้างพังทลายได้ในพริบตา
ก่อนที่เฉินเทียนเซิงจะทันได้พักหายใจ ความโกลาหลก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อฝูงวัวเห็นว่าจ่าฝูงของมันถูกฆ่าโดยมนุษย์จนตายไปต่อหน้าต่อตา ฝูงวัวก็เริ่มบ้าคลั่ง วิ่งชนกำแพงคอกวัวอย่างต่อเนื่อง
“ฉิบหาย!”
เฉินเทียนเซิงรีบลุกขึ้นและหันหลังวิ่งหนี ขณะวิ่งหนี เขาไม่ลืมหยิบขวดน้ำแร่ออกมาและยกดื่มอย่างทุลักทุเล
“ตึง โครม โครม”
กำแพงคอกวัวพังทลายลงแล้ว วัวกลายพันธุ์กว่า 20 ตัววิ่งออกมาจากซากปรักหักพัง
เวลานี้สกิลทั้งหมดของเฉินเทียนเซิงอยู่ในระหว่าง คูลดาวน์ ถ้าเขารู้แต่แรกว่าจะประสบกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ เขาคงไม่ใช้ทักษะทั้งหมดที่มีในการฆ่าหมูกลายพันธุ์หรอก
ขณะที่เฉินเทียนเซิงกำลังวิ่งหนี หยางเซวี่ยก็มาปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ ช่วยประคองแขนของเขาด้วยมือข้างหนึ่งแล้วจับเอวของเขาด้วยมืออีกข้าง จากนั้นเฉินเทียนเซิงก็รู้สึกตาพร่ามัว ก่อนจะกลับมาเห็นชัดเจนอีกครั้ง หลังจากมาปรากฏตัวอยู่ในบังกะโลเล็ก ๆ
เฉินเทียนเซิงหอบหนักพลางพูดว่า “เกิดปัญหาใหญ่แล้ว”
หยางเซวี่ยได้ฟังดังนั้นก็ครุ่นคิดหาทาง กำมีดทำครัวในมือไว้แน่นแล้วพูดว่า
“คุณหนีออกไปทางหน้าต่างหลังบ้านนะ ฉันจะช่วยล่อฝูงวัวให้เอง!”
เฉินเทียนเซิงตอบกลับว่า “ไม่จำเป็น พวกมันเป็นวัวกลายพันธุ์ระดับแรก ความแข็งแกร่งของพวกมันสู้เธอไม่ได้หรอก”
เฉินเทียนเซิงส่งลูกดอกหนูให้หยางเซวี่ย แล้วพูดต่อว่า
“จุดอ่อนของวัวกลายพันธุ์คือเส้นเลือดใหญ่ น้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้ ถ้าแทงถูกจุดให้เลือดไหลออกมา พวกมันจะตายภายใน 10 นาที”
“คุณเคลื่อนที่ได้เร็ว วัวกลายพันธุ์ระดับแรกตามคุณไม่ทันแน่ มั่นใจเข้าไว้ จัดการเลย”
“ได้”
หยางเซวี่ยรับลูกดอกหนูพร้อมแสดงแววตามุ่งมั่น
“ระวังตัวด้วย”
ทันทีที่เฉินเทียนเซิงพูดจบ ร่างของหยางเซวี่ยก็หายวับไป
ฝูงวัววิ่งออกจากคอกตัวแล้วตัวเล่า พวกมันโจมตีมนุษย์ทันทีที่เห็น แต่พอร่างมนุษย์แวบหายไป ฝูงวัวก็ไร้เป้าหมายโจมตี ไม่นานวัวกลายพันธุ์ระดับแรกหลายตัวก็ได้แต่ยืนดูพวกของตัวเองล้มตายไปอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น วัวตัวหนึ่งก็กรีดร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อไม่เห็นว่าถูกใครโจมตี มันก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง วิ่งไปมาแล้วเอาตัวไปกระแทกกับวัวตัวอื่น ๆ
หยางเซวี่ยรีบหาที่ซ่อนตัวเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีอันคลุ้มคลั่งของมัน จากนั้นก็ก้มมองลูกดอกหนูในมือ เธอไม่คิดเลยว่าแท่งเหล็กสีดำเล็ก ๆ หน้าตาธรรมดาจะแหลมคมขนาดนี้
“มีเจ้านี่อยู่ ฉันจัดการฝูงวัวได้แน่นอน!”
หลังจากนับจำนวนวัวที่ยังเหลืออยู่ เธอก็รีบออกไปเข่นฆ่าต่อไป
ตอนนี้ในฟาร์มเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน เลือดไหลนองท่วมดินโคลนทุกพื้นที่ แม้ฝูงวัวจะมีจำนวนมากกว่า แต่พวกมันไร้ซึ่งจ่าฝูง และทุกตัวต่างก็ได้รับบาดเจ็บ พวกมันได้แต่วิ่งชนข้าวของไปมาอย่างบ้าคลั่งและเจ็บปวด เหตุการณ์หลังจากนี้กินเวลานานกว่า 15 นาที