ตอนที่แล้วบทที่ 36 เอาสกิลมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 ฝูงวัวบ้าคลั่ง

บทที่ 37 สัตว์กลายพันธุ์ระดับสาม


บทที่ 37

สัตว์กลายพันธุ์ระดับสาม

ขวานดับเพลิงฟาดฟันจนเกิดลมแรง ฝุ่นทรายและ      เศษหินในเล้าปลิวกระจัดกระจาย เลือดของหมูหลายพันธุ์ไหลนองเต็มพื้น เพียงชั่วพริบตา เล้าหมูพังทลายยับเยิน บนพื้นเต็มไปด้วยเศษหินและซากศพของหมูนับไม่ถ้วน

กลุ่มคนที่อยู่รออยู่นอกเล้าหมูต่างตกตะลึง

แม้จะรู้ว่าผู้นำมีความแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะแกร่งขนาดนี้

คงไม่ต้องพูดถึงพลังโจมตีของหมูกลายพันธุ์ หรือพลังทำลายล้างของขวานที่ฆ่าหมูไปหลายตัว ก่อนถึงวันสิ้นโลก ในวงการภาพยนตร์ยังไม่กล้าสื่อสารเรื่องแบบนี้ เพราะมันทำให้ความเข้าใจเรื่องขีดจำกัดของมนุษย์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ลัวเฟิงขยี้ตาหลายครั้ง ก่อนมองฉากตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ เธออ้าปากค้างจนไม่สามารถหุบกลับได้เลย

ถึงหยางเซวี่ยจะรู้สึกตกใจ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ

เพราะนี่คือพลังที่เธอไม่สามารถร้องขอได้!

ก่อนหน้านี้เธอได้รับพลังประเภทความเร็วมา พอเห็นแบบนั้นก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกตื่นเต้น เธอเริ่มมีความคิดอยากทดสอบขีดจำกัดของตัวเองว่าจะแกร่งได้มากแค่ไหน

เมื่อหมูตัวสุดท้ายถูกฟันจนตาย เฉินเทียนเซิงก็เหวี่ยงขวานขึ้นมาพาดบนบ่าอย่างหล่อเท่ ก่อนหันไปมองบรรดาผู้ติดตาม แล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหมูเหลืออยู่แล้ว

“ป่ะ ไปที่คอกวัวต่อ!”

เฉินเทียนเซิงเดินนำหน้าอย่างภาคภูมิ ทั้งสามอดไม่ได้ที่รู้สึกชื่นชมผู้นำจากหัวใจ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งความภักดีที่เพิ่มขึ้นมา

เมื่อเดินออกมา เห็นว่าทั้งสามคนยังคงยืนอยู่ที่เดิม       เฉินเทียนเซิงที่หันกลับมาก็รู้สึกงุนงง

“มาเร็ว จะนอนอยู่ที่นี่รึไง?”

“ครับ/ค่ะ!”

ทั้งสามหายจากอาการตกใจและกลับมาได้สติ ก่อนรีบเดินตามไปอยู่ข้างหลังเฉินเทียนเซิง ขณะที่กำลังเดินไปทางคอกวัว

“รอเดี๋ยว!”

เฉินเทียนเซิงหยุดเดิน ก่อนจ้องไปที่กำแพงด้วยความประหม่า ไม่นานเหงื่อเย็น ๆ หยดหนึ่งก็ไหลลงมาจากหน้าผาก

“มีอะไรเหรออาจารย์?” ลัวหลงถามด้วยความสงสัย

“อย่าเพิ่งถาม!”

เฉินเทียนเซิงรู้สึกว่าเส้นผมลุกซู่ ราวกับได้สัมผัสถึงออร่าของสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูง ที่แย่ไปกว่านั้น เหมือนมันจะเป็นระดับ 3!

“ตึงตึง ตึงตึง”

เสียงดังกึกก้องจนอากาศรอบ ๆ สั่นสะเทือน แม้แต่พื้นดินก็สั่นไหว ทุกครั้งที่เกิดเสียงเศษหินจะกระเด็นกระดอนไปทั่ว

“ไม่ใช่เสียงเครื่องจักรใช่ไหม?”

ลัวหลงสัมผัสได้ถึงอันตราย ก่อนยกมือชี้ไปทางกำแพง เพราะได้ยินเสียงดังมาจากทิศทางนี้

ผู้หญิงอีกสองคนต่างตื่นตัวเต็มที่ พร้อมเผชิญหน้ากับอันตรายแม้จะรู้สึกตึงเครียดมากก็ตาม

หลังจากนั้นเสียงก็ดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ

“ปัง โครม ตึง”

ทันใดนั้น กำแพงแตกเป็นเสี่ยง ๆ เหมือนถูกแรงปะทะมหาศาล กรวดและเศษหินเล็กหินน้อยปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ ควันและฝุ่นฟุ้งกระจาย

ทั้งสี่ล่าถอยไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว

เห็นดวงตาสีแดงคู่หนึ่งอยู่ท่ามกลางฝุ่นควัน และได้ยินเสียงพ่นลมหายใจอีกสองครั้ง

เมื่อพวกเขาเห็นรูปลักษณ์ของสัตว์กลายพันธุ์อย่างชัดเจน แม้แต่เฉินเทียนเซิงก็ยังรู้สึกหวาดกลัว

นี่คือสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 ที่วิวัฒนาการมาจากวัวตัวใหญ่

มันมีร่างกายใหญ่โต สูงเกือบสองเมตร เขาของมันกลายสภาพจนน่ากลัว มีความแหลมคมมากกว่าใบมีด ราวกับมีหนามแหลมคมขนาดใหญ่สองอันอยู่บนหัว

วัวตัวนี้มีท่าทางดุร้าย ดวงตาเป็นสีแดงเหมือนกับสีเลือด เมื่อส่ายหน้าไปมาช้า ๆ แสงสีแดงในดวงตาของมันก็สะกดให้ทุกคนหวั่นเกรง ถ้าเผลอมองตามันนานเข้าอาจทำให้หัวใจสั่นสะท้านเพราะความกลัว

กีบวัวย่ำลงบนพื้น กีบวัวที่กลายสภาพทำให้พื้นดินจมทันที ก่อนที่มันจะก้มหัวลง แล้วเล็งปลายเขาที่แหลมคมมาทางพวกเขา พร้อมพุ่งชนในคราวเดียว

“แยก!”

ทันทีที่เฉินเทียนเซิงพูดจบ วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ก็พุ่งเข้าจู่โจม ด้วยแรงกดดันอันท่วมท้น ความน่ากลัวของสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 ทำให้ใครหลายคนต่างหวาดกลัวจนยืนนิ่งเหมือนกับเป็นอัมพาต

ต่อให้มนุษย์กลายพันธุ์ระดับแรก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 หลายครั้งยังต้องพ่ายแพ้ให้กับแรงกดดันนี้

เวลานี้ลัวหลงและลัวเฟิงก็เป็นแบบนั้น ขาของพวกเขาสั่นเทา แม้ว่าเฉินเทียนเซิงจะสั่งให้ทุกคนแยกกันหนี แต่ด้วยความตกใจ สองพี่น้องกลับกลัวจนก้าวขาไม่ออกเลย

“ถอยเร็ว!”

เฉินเทียนเซิงเข้าไปผลักลัวหลงออกไป ร่างของเขากระเด็นไปไม่กี่เมตรอย่างรวดเร็วราวกับกระสอบทราย

ยังดีที่หยางเซวี่ยตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบคว้ามือลัวเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ แล้ววิ่งถอยห่างออกไปสิบเมตรในชั่วพริบตา ทำให้พวกเธอพ้นจากระยะโจมตีของสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 อย่างหวุดหวิด

หลังจากเฉินเทียนเซิงผลักลัวหลงออกไป ก็สายเกินกว่าที่ตัวเขาเองจะหาทางหนี

แม้ก่อนหน้านี้จะมีระยะห่างกว่า 100 เมตร แต่ด้วยพลังของสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูง ในระยะทางแค่ 100 เมตร พวกมันใช้เวลาเพียง 1-2 วินาทีเท่านั้นก็มาถึงแล้ว ตอนนี้วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 พุ่งมาประชิดตัวเฉินเทียนเซิงเรียบร้อย

ทันใดนั้น เขารีบยกขวานขึ้นเพื่อสกัดกั้น

วัววิ่งผ่านไปเหมือนสายน้ำ

“เคร้ง”

เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองสามารถต่อกรกับวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ได้ เพียงแค่ใช้สกิลระเบิดพลังสามครั้ง  แต่เฉินเทียนเซิงประเมินพลังที่น่าสะพรึงกลัวของวัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ต่ำเกินไป

เฉินเทียนเซิงถูกชนจนกระเด็นลอยไปกลางอากาศ

รู้สึกเหมือนถูกรถที่วิ่งด้วยความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชนเลย

เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนไหวกลางอากาศได้ จึงได้แต่ปล่อยไปตามแรง จนร่างลอยไปกระแทกเข้ากับผนังด้านนอกของอาคารสองชั้น จมหายไปในฝุ่นควันพร้อมกับเศษอิฐที่แตกร่วงลงมา

“อาจารย์!”

“เจ้านาย!”

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทั้งสามคนต่างตกใจกลัว

คนที่แข็งแกร่งอย่างเฉินเทียนเซิงถูกซัดกระเด็นด้วย     การโจมตีเพียงครั้งเดียว แสดงให้เห็นว่าการปะทะกันเมื่อกี้นี้ วัวแข็งแกร่งมากแค่ไหน

วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 โจมตีอีกฝ่ายเพียงครั้งเดียวได้สำเร็จ ก่อนหันไปตามเสียงตะโกน เมื่อเห็นลัวหลง มันก็รีบตั้งท่าเพื่อโจมตีอีกครั้ง

ลัวหลงมีประสบการณ์น้อย จึงรีบจุดไฟพร้อมกับลุกขึ้นยืน ในขณะที่เปลวไฟผุดขึ้นมาบนฝ่ามือ วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 ก็พุ่งมาอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว

ช่วงเวลาวิกฤตเสี่ยงตายแบบนี้ เกิดแสงวาบขึ้นตรงหน้า ทำให้วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 วิ่งผ่านลัวหลงไปเหมือนกับวิ่งผ่านเงา จนมันพุ่งชนเข้ากับกำแพงเล้าหมู สิ้นสุดการปะทะในครั้งนี้

ห่างออกไป 10 เมตร ลัวหลงได้รับการช่วยเหลือจาก หยางเซวี่ย แต่ลัวหลงกลับพูดอย่างโกรธเคืองว่า

“คุณทำอะไร ผมต้องการล้างแค้นให้อาจารย์!”

หยางเซวี่ยหันมาแล้วตะคอกกลับว่า “เราสู้วัวกลายพันธุ์ไม่ได้หรอก รีบหนีไป ฉันจะล่อมันเอง วิ่งให้สุดแรงเลย!”

หยางเซวี่ยยกโล่ขึ้นมา เตรียมเผชิญกับความตายตรงหน้า

“ผมไม่หนี มีแต่พวกขี้แพ้ที่วิ่งหนี!” ลัวหลงพูดจบก็รีบรวบรวมไฟให้ได้มากที่สุด

ในขณะเดียวกัน วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 พุ่งออกมาจากซากกำแพง ตรงมาที่ทั้งสองพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่บ้าคลั่ง

“หลบไป!”

หยางเซวี่ยผลักลัวหลงออกไป เมื่อหันกลับมา พบว่าระยะห่างระหว่างเธอกับวัวน้อยกว่าสิบเมตร

แต่โชคดีที่หยางเซวี่ยเคลื่อนไหวได้เร็ว ตั้งแต่วิวัฒนาการ เธอรู้สึกว่าโลกทั้งใบเคลื่อนไหวช้าลง รวมถึงคนรอบ ๆ ตัวเช่นกัน

แต่ความเร็วของวัวตัวนี้ไม่น้อยเลย มันเร็วเกือบจะพอ ๆ กับเธอ ถ้าไม่วิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี บางทีความเร็วของเธออาจช้ากว่าวัวตัวนี้ด้วยซ้ำ

นี่สินะสัตว์กลายพันธุ์ ฝันร้ายของวันสิ้นโลกแท้ ๆ!

วัวพุ่งไปด้านหน้าสุดกำลัง แต่หยางเซวี่ยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ได้แต่วิ่งถอยไปทีละนิด ถึงอย่างนั้นวัวก็วิ่งตามมาติด ๆ อย่างรวดเร็ว

เขาแหลมพุ่งกระทบกับโล่เสียงดัง ไม่แปลกใจเลย ด้วยแรงมหาศาลของมันทำให้โล่บุบจนแตกออกเป็นชิ้น ๆ

ไม่มีทางอื่นให้หลบหนีแล้ว หยางเซวี่ยจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นสูงถึง 3 เมตรด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทำให้วัวโจมตีพลาดอีกครั้ง

ถ้าเขาแหลมคมนั้นเฉือนผ่านอะไรแค่นิดเดียว แม้แต่เนื้อก้อนใหญ่ ๆ ก็ขาดวิ่นได้ไม่ยาก

ฉากเมื่อกี้แม้อธิบายแล้วดูเชื่องช้า แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นในวินาทีเดียว

หยางเซวี่ยกระโดดลงพื้นอย่างปลอดภัย วัวหยุดวิ่งพร้อมกับสะบัดหัว ลมร้อนถูกเป่าออกจากรูจมูกที่มีกระดิ่งทองแดงห้อยอยู่ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้วัวกลายพันธุ์ระดับ 3 โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงมากขึ้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลบการโจมตีได้

กีบวัวย่ำลงพื้นอีกครั้ง ราวกับต้องการจะสะสมพละกำลัง มันลดหัวลงเตรียมปล่อยแรงกระแทกที่แรงกว่าเดิม

หัวใจของหยางเซวี่ยจมดิ่ง ความเร็วของเธอยังไม่เร็วเท่าวัว แถมความแข็งแกร่งทางร่างกายก็อ่อนแอ พอเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วไม่รู้จะหลีกหนียังไงเลย

ขณะที่หยางเซวี่ยกำลังรู้สึกหมดหวังและท้อใจ

วัวกลายพันธุ์ก็พุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด