ตอนที่แล้วบทที่ 36 ของเล่นแก้เบื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 ปีนข้ามกำแพง เด็ดดอกไม้ ล่าถอย

บทที่ 37 ปลดล็อกค่ายกลได้หรือไม่


บทที่ 37

ปลดล็อกค่ายกลได้หรือไม่

“เจ้ากลั่นเม็ดยาเจินเหยียนด้วยตนเองใช่หรือไม่?”

อวี้ซีหยวนพยักหน้า ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ลั่วจ้านชิงต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่? เหตุใดจึงตั้งคำถามซึ่งไร้ตรรกะเช่นนี้?

ลั่วจ้านชิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของ               อวี้ซีหยวน ดูเหมือนเขาครุ่นคิดบางอย่างออกจึงกล่าวว่า “มีนักเล่นแร่แปรธาตุจำนวนไม่มากนักอยู่ในแคว้นซีเสวียน และผู้ที่สามารถผันตัวเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุได้ แม้ว่าจะมีความสามารถในระดับที่ไม่สูงนัก แต่พวกเขายังเป็นเป้าหมายที่ตระกูลใหญ่พากันแสวงหา”

ทันใดนั้น อวี้ซีหยวนจึงเข้าใจ

ผู้ที่สามารถกลั่นเม็ดยาสำเร็จภายในแคว้นที่ขาดแคลนวัตถุดิบ แม้ว่าจะมีทักษะความสามารถไม่สูงนัก แต่ยังนับว่าเป็นอัจฉริยะ เพราะสายอาชีพดังกล่าวมีจำนวนน้อยมาก

สิ่งหายากย่อมมีราคาแพง

“แล้วอย่างไร?”

ลั่วจ้านชิงลอบสังเกตสีหน้าและแววตาอันเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจของอวี้ซีหยวน ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปชั่วขณะหนึ่ง เขายังคงมั่นใจในไหวพริบอันชาญฉลาดของแม่นางผู้นี้

“เม็ดยาเจินเหยียนนั้น อย่างน้อยคงไม่ต่ำไปกว่าระดับกลางใช่หรือไม่?”

อวี้ซีหยวนพยักหน้าอีกครั้ง

นอกจากนี้นักเล่นแร่แปรธาตุยังแบ่งระดับของเม็ดยาที่กลั่นขึ้นด้วยตนเองออกเป็นหลายระดับ แน่นอนว่าทั้งอวี้ซีหยวนและผู้เฒ่าซุนย่อมรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ระดับของเม็ดยาถูกจำแนกออกเป็นระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง ระดับวิญญาณ ระดับสวรรค์ ระดับเซียน และระดับเทพเจ้า รวมถึงคุณภาพของสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่น เม็ดยาแต่ละประเภทจึงถูกแยกย่อยออกเป็นเขตแดนสามัญ เขตแดนกึ่งสมบูรณ์ และเขตแดนสมบูรณ์แบบ

เม็ดยาเจินเหยียน เป็นยาที่ถูกจัดให้อยู่ในระดับกลางขอบเขตกึ่งสมบูรณ์ ดังนั้นสำหรับแคว้นเฉียนคุนแล้ว อวี้ซีหยวนถือได้ว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีทักษะความสามารถอยู่ในระดับกลาง

“คุณหนูสามไร้ประโยชน์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับกลางไปเสียแล้ว หากจวนท่านแม่ทัพรู้ข่าวคราวนี้เข้า เห็นทีเจ้าอาจต้องเสียเวลาอธิบายยกใหญ่ ช่วงที่เจ้ายังไม่สามารถขับล้างพิษได้ ควรอาศัยอยู่ภายในพระตำหนักนี้ต่อไปเพื่อความปลอดภัย”

หลังจากเสร็จสิ้นธุระแล้ว ลั่วจ้านชิงสะบัดแขนเสื้อของเขาพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชายเสื้อคลุมสีฟ้าน้ำแข็งปลิวไสวอย่างนุ่มนวล ฝ่ายอวี้ซีหยวนยังคงมองไปที่ลั่วจ้านชิงด้วยความมึนงง ไม่ตอบคำใดเป็นเวลานาน

ลั่วจ้านชิงไม่ได้ยินการตอบกลับใด ๆ จึงหันหน้ากลับมามองนางเป็นการเฉพาะ เวลานี้ทั้งสองได้แต่มองสบตากันนิ่งอยู่เช่นนั้น

อวี้ซีหยวนกะพริบตาปริบ กระทั่งใบหน้าของอีกฝ่ายที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้าทำให้นางตระหนกเล็กน้อย

“เหตุใด... ท่านต้องขยับเข้าใกล้ข้าเช่นนี้ด้วยเล่า?!”

ลั่วจ้านชิงเงยศีรษะขึ้นพลางพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ข้าเพียงเห็นว่าแม่นางอวี้เหม่อลอยประหนึ่งตกอยู่ในห้วงภวังค์ จึงมีเจตนาจะเรียกสติเท่านั้น คิดว่าข้าจะฉวยโอกาสจากเจ้างั้นรึ?”

“ท่าน…” อวี้ซีหยวนสบเข้ากับสายที่เปล่งประกายราวดวงดาวอีกครั้ง ภายในดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความชัดเจนและทรงเสน่ห์

อวี้ซีหยวนไม่ได้หันศีรษะหนี เพียงส่ายหน้าพร้อมกล่าวออก “ข้ายังไม่ทันกล่าวหาท่านเช่นนั้นเลย ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ท่านอ๋องรีบกลับไปเถิดเพคะ!”

ลั่วจ้านชิงพยักหน้า ยังคงตั้งคำถามต่อไป “แล้วหยกโลหิตเล่า?”

“ยังไม่มีความคืบหน้า ถึงแม้ว่ามันจะจดจำข้าได้เพราะเลือดหยดหนึ่ง ทว่าจุดตันเถียนของข้ายังไม่ฟื้นคืนสภาพอย่างสมบูรณ์ จึงไม่สามารถเรียกใช้พลังวิญญาณ กล่าวโดยสรุปก็คือตอนนี้ข้ายังไม่สามารถเปิดหยกโลหิตนี้ได้”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ อวี้ซีหยวนก็หมดสิ้นหนทางเช่นกัน

นางสามารถสัมผัสได้ว่าแหล่งพลังงานกำเนิดของหยกโลหิตนั้นไม่ธรรมดา ที่สำคัญยิ่งคือหยกโลหิตมีทุกสิ่งอย่างที่นางต้องการเป็นแน่แท้ เพียงแต่นางไม่สามารถเปิดใช้งานมันได้ ทำได้แต่จ้องมองมันด้วยตาเปล่าเท่านั้น

ความรู้สึกดังกล่าวค่อนข้างบีบคั้นหัวใจไม่น้อย

ลั่วจ้านชิงพยักหน้า ขณะที่เขากำลังจะก้าวออกไปจากห้อง กลับพบว่าจ้านเดินตรงเข้ามา หลังจากประสานมือคำนับตามธรรมเนียม เขากล่าวรายงานกับลั่วจ้านชิงว่า “ท่านอ๋อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของกระหม่อมพบว่าดอกไม้ป่าสีม่วงที่คุณหนูอวี้ต้องการใช้ ถูกปลูกไว้ภายในสวนด้านหลังจวนท่านแม่ทัพพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วเหตุใดจึงนำกลับมาไม่ได้?”

“เรียนท่านอ๋อง มีค่ายกลรูปแบบแปลกประหลาดอยู่ภายในสวนหลังจวน กระหม่อมไม่เคยพบเห็นมันมาก่อน” ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการปลดล็อกกลไก

เขากล่าวยังไม่ทันจบประโยค อวี้ซีหยวนก็เข้าใจแล้วว่าจุดประสงค์ที่เขาต้องการสื่อคืออะไร

“ให้ข้าลองดูก็ไม่เสียหาย”

“ไม่ได้!”

ลั่วจ้านชิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ด้วยความรวดเร็วจนไม่มีผู้ใดสามารถตอบโต้ได้

ยกเว้นก็แต่อวี้ซีหยวนที่ยังคิดประท้วง!

“เหตุใดท่านไม่ให้ข้าลองดูเล่า? ข้าเกิดและเติบโตในสถานที่แห่งนั้นมานานร่วมสิบหกปี มากกว่าพวกท่านทุกคนด้วยซ้ำ หรือพวกท่านสามารถปลดล็อกกลไกของค่ายกลด้วยตนเองได้ล่ะ?”

ลั่วจ้านชิงเหลือบมองนางโดยไม่พูดอะไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด