บทที่ 36 เอาสกิลมา
บทที่ 36
เอาสกิลมา
เมื่อมองคะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเทียนเซิงก็รู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้น
ระบบค่าความภักดีและระบบค่าบูชาที่เพิ่มมานั้น ทำให้ค่าประสบการณ์อย่างละ 50% จากลูกศิษย์ทั้งสองรวมเป็นค่าประสบการณ์เดียวกัน
เป็นเรื่องดีที่มอบหมายให้ลัวหลงและลัวเฟิงช่วยกันฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ ยังไงพวกเขาก็ฆ่าได้มากกว่าเฉินเทียนเซิงทำคนเดียวอยู่แล้ว
พายุเพลิงกินเวลานานถึง 3 นาทีเต็ม จนไม่มีคะแนนเพิ่มขึ้นอีก เฉินเทียนเซิงจึงสั่งให้พวกเขาหยุด
ลัวเฟิงสามารถควบคุมลมได้อย่างอิสระ ต่างจากลัวหลงที่กลิ้งไปมาบนพื้น พยายามหาทางควบคุมไฟในร่างกายให้ได้
“พยายามเข้า ดับไฟให้ได้!”
เฉินเทียนเซิงยื่นขวดน้ำแร่ให้ลัวเฟิง เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้ร่างกาย
ส่วนลัวหลงยังพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากดับไฟได้แล้ว เฉินเทียนเซิงก็ยื่นขวดน้ำแร่ให้เขา
“ดื่มเร็วเข้า”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในเล้าไก่ที่ไหม้เป็นตอตะโก ท่ามกลางเศษไก่ที่ถูกย่างสด ส่งกลิ่นไหม้เกรียมไปทั่วบริเวณ
เดิมทีเขาแค่ต้องการจะลองดูว่า จะหาผลึกสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงได้สักสองถึงสามก้อนหรือเปล่า แต่ไม่ทันไร ระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาทันทีที่เข้าไปในเล้าไก่
“ตรวจพบยีนไก่กลายพันธุ์ระดับแรก ต้องการดูดซับหรือไม่”
ก็ยังโอเค!
“รีบดูดซับเลย!”
ทันใดนั้นเล้าไก่ทั้งหมดก็เกิดแสงสว่างวาบ ไก่เกือบพันตัวที่ถูกเผาเป็นถ่านดำหายวับไปกับตา
ผ่านไปไม่นาน ระบบแจ้งว่าเขาได้รับ 2,284 คะแนน แต่คะแนนที่ได้รับนั้นเขาไม่ได้เป็นคนลงมือทำเอง จึงแอบหวังว่าระบบจะไม่พบช่องโหว่นี้
จัดการเล้าไก่เสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นเล้าเป็ด
สภาพแทบไม่ต่างกันเลย เล้าเป็ดถูกเผาเป็นตอตะโก ด้วยประสบการณ์จากเล้าไก่ จึงสามารถจัดการกับเล้าเป็ดได้อย่างง่ายดาย
หลังจัดการเล้าเป็ดเสร็จ ลัวหลงก็หันมาพูดกับ เฉินเทียนเซิงว่า
“อาจารย์ ผมรู้สึกว่าการฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ง่ายกว่าที่คิด ไม่ยากเหมือนที่คุณพูดเลย”
เฉินเทียนเซิงหันไปมองอย่างเย็นชา
“ไก่กับเป็ดมีวงจรชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 40 วันตั้งแต่เกิดจนถึงตอนถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร สัตว์กลายพันธุ์ที่เกิดจากสัตว์พวกนี้เลยมีรูปร่างผิดปกติ ไม่แปลกที่จะฆ่าพวกมันได้ง่าย แต่ของยากที่สุดวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นวัวกับหมู!”
สิ่งที่เฉินเทียนเซิงพูดนั้นถูกต้อง เนื่องจากไก่และเป็ดมีอายุขัยที่สั้นและมี IQ ต่ำ
แต่วัวกับหมูนั้นต่างออกไป วัวมีพลังป้องกันสูง ส่วนหมูมีพละกำลังและสติปัญญาสูง ในวันสิ้นโลก วัวและหมูกลายพันธุ์ระดับสาม สามารถทำลายกองกำลังติดอาวุธนับร้อยได้โดยไม่มีปัญหา
“เดี๋ยวเราไปพักกันในอาคารก่อน ไปค้นดูว่าจะมีของดีอะไรให้ใช้บ้าง”
เฉินเทียนเซิงไม่ได้ตั้งใจไปนั่งพักจริง ๆ แต่เขาต้องการหาข้ออ้างในการแลกแพ็กของขวัญติดต่อกัน 10 ครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป
เมื่อเข้ามาในอาคารเล็ก ๆ สองชั้น ที่นี่คือบ้านของผู้อยู่อาศัยในฟาร์ม ปกติแล้วอาคารนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือของมีค่าใด ๆ แต่สิ่งเดียวที่มีประโยชน์มากที่สุดในตอนนี้คือมีดเขียงที่แขวนอยู่บนผนัง
หยางเซวี่ยหยิบมีดขึ้นมาเพื่อทดสอบน้ำหนักมือ ส่วนพี่น้องตระกูลลัวแยกกันไปค้นของภายในห้อง
“ฉันอยากพักสักหน่อย ห้ามใครมารบกวน”
เฉินเทียนเซิงเดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเงียบ ๆ
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะปิดประตู จากนั้นก็เปิดระบบขึ้นมาแล้วเริ่มแลกแพ็กของขวัญสิบครั้งติดกัน
จากการฆ่าไก่และเป็ด ทำให้คะแนนรวมปัจจุบันมีมากกว่า 5,000 แต้ม ซึ่งเพียงพอสำหรับการแลกแพ็กของขวัญติดกัน 10 ครั้งได้มากถึง 50 ครั้ง รู้แบบนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
สีขาว 10 สีขาว 10 สีขาว 10 สีขาว 10 ปรากฏว่าเขาเปิดได้หีบสมบัติสีขาวทั้งหมด 10 ครั้งติดกัน ทำให้เฉินเทียนเซิงโมโหมาก
“อะไรของแกเนี่ยระบบ นี่เป็นบัคที่แย่ที่สุดตั้งแต่เจอมาเลย ทำแบบนี้ไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยเหรอ?”
ไม่นานเขาก็ทำใจฝืนเปิดหีบสมบัติสีขาว
ไก่ย่างกลายพันธุ์ 1 ตัว
“ไก่ย่างกลายพันธุ์เหรอ กินได้ไหมเนี่ย?”
ถ้าไม่ใช่เพราะผลกระทบจากฝนประหลาดที่ตกลงมา คำว่า ‘กลายพันธุ์’ ท้ายชื่อไก่ย่าง ก็เย้ายวนชวนให้เฉินเทียนเซิงอยากลิ้มลองซะเดี๋ยวนี้
หีบสมบัติสีขาวทั้งหมดถูกเปิดออก และของในนั้นเป็นไก่ย่างรวมทั้งหมด 100 ตัว
เขาใช้ 100 แต้มสำหรับการแลกแพ็กของขวัญติดกัน 10 ครั้ง แต่การฆ่าไก่กลายพันธุ์ได้รับคะแนนแค่ 1 แต้มเท่านั้น จะคำนวณยังไงก็ขาดทุนอยู่ดี
เมื่อแลกแพ็กของขวัญติดกันอีกสิบครั้ง ไม่น่าแปลกใจเลย เขาได้รับไก่ย่างอีก 100 ตัว
“พอเถอะ ฉันไม่อยากได้แล้ว”
หลังจากได้รับไก่ย่างมาอีก 56 ตัว ในที่สุดก็มีบางอย่างแตกต่างออกไป
เป็ดย่างกลายพันธุ์!
“หมดคำจะพูดเลยว่ะ”
ท้ายที่สุด จากการแลกของขวัญติดกันสิบครั้ง เขาได้รับไก่ย่าง 216 ตัว และเป็ดย่างอีก 319 ตัว น้ำแร่อีก 4 แพ็ก และมีสิ่งที่ต่างจากพวกอีกหนึ่งอย่าง
ลูกดอกหนู
ลักษณะเป็นแท่งสีดำสนิทขนาดเท่าฝ่ามือ ดูจากขนาดแล้วเล็กเกินไปที่จะเรียกว่ากริช แต่ก็ใหญ่เกินกว่าลูกดอกทั่วไป
“ลูกดอกหนู ระบบนี่เล่นคำพ้องเสียงเก่งจริง ๆ”
สามสิบนาทีต่อมา เฉินเทียนเซิงเดินลงมาจากชั้นบน ในขณะที่ทั้งสามเกือบผล็อยหลับไป
หยางเซวี่ยเข้ามารายงาน “เมื่อกี้ฉันออกไปตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ มีหมู 54 ตัว วัว 21 ตัว นอกจากดวงตาของพวกมันที่ต่างไปจากเดิม ส่วนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างจากหมูและวัวทั่วไป”
“นั่นหมายความว่าไม่มีระดับสองในพวกมัน”
เฉินเทียนเซิงเดินนำทุกคนออกไป พร้อมกับอธิบายกลยุทธ์ระหว่างเดิน
“ครั้งนี้พวกเธอฆ่าพวกมันไม่ได้ง่าย ๆ สัตว์กลายพันธุ์สองตัวนี้คงฆ่าพวกเธอก่อนที่จะใช้ไฟเผาหรือใช้ลมพัดซะอีก”
“แล้วจะฆ่ายังไง?” หยางเซวี่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“เราจะซุ่มโจมตี คุณมีหน้าที่ล่อพวกมันออกมา แล้วผมจะไล่ฆ่าพวกมันทีละตัว!”
“อื้ม”
เมื่อเดินมาถึงเล้าหมู หมูตัวอ้วนพีกำลังนอนหลับอยู่ในเล้า ตอนนี้พวกมันได้กลายพันธุ์ไปแล้ว แต่เพราะถูกขังอยู่ในเล้าจึงนอนหลับตามสัญชาตญาณ
“รอตรงนี้ แล้วเดี๋ยวไปจัดการพวกวัวต่อ!”
เฉินเทียนเซิงจับขวานดับเพลิงให้แน่นมือแล้วพูดเบา ๆ ว่า
“พวกเธอคอยดูให้ดี!”
หลังจากพูดจบ เขาก็กระโดดขึ้นสูงแล้วพุ่งเข้าไปในเล้าหมู พร้อมกันนั้น เขาใช้ขวานฟันหัวหมูอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่พวกมันหลับอยู่ ยังไม่ทันตื่น ก็ถูกฟันหัวขาดเรียบร้อยแล้ว
เฉินเทียนเซิงเคลื่อนที่ได้เร็วมาก หมู 3-4 ตัวถูกจัดการในคราวเดียว แสงสะท้อนจากคมขวานส่องแสงวับไปมา ขณะที่วิ่งไปฟันหมูตัวต่อไป
“1 แต้ม”
การฆ่าหมูกลายพันธุ์ได้คะแนน 1 แต้ม ในขณะที่การฆ่าไก่ก็ได้ 1 แต้มเช่นเดียวกัน นี่มันไม่ยุติธรรมเลย
ขณะที่เขากำลังเข้าไปฟันหมูตัวต่อไปด้วยความหงุดหงิด จังหวะที่เข้าไปใกล้มากขึ้น จู่ ๆ หมูตัวหนึ่งก็ผงกหัวขึ้นมา แล้วอ้าปากส่งเสียงคำราม
“โครกโครก”
แม้ขวานจะฟันลงกลางหัว แต่มันก็สายเกินแก้แล้ว
หลังจากนั้น หมูทุกตัวในเล้าก็พากันตื่นขึ้น เมื่อเห็นมนุษย์หลงเข้ามา แววตาของพวกมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ พร้อมตั้งท่าวิ่งเข้าใส่
รูปแบบการโจมตีของหมูกลายพันธุ์ระดับแรก คือ การพุ่งชนเท่านั้น เพราะพวกมันทำเป็นแค่อย่างเดียว
ถ้าคนธรรมดาถูกพวกมันชน คงมีอาการบาดเจ็บปางตายแน่นอน
แต่เฉินเทียนเซิงไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว เมื่อหมูตัวหนึ่งวิ่งเข้ามา เขาก็เหวี่ยงขวานไปด้านข้าง ทำให้หมูที่วิ่งเข้ามาตัวขาดเป็นสองท่อน
ในไม่ช้า เมื่อหมูอีกตัวล้มลงไปนอน หมูตัวที่เหลือก็เกิดความปั่นป่วน จู่ ๆ หมูตัวหนึ่งก็วิ่งฝ่าฝูงของมัน แล้วพุ่งตรงมาทางเฉินเทียนเซิง
เห็นดังนั้น เฉินเทียนเซิงก็ตะโกนขึ้นว่า “หยางเซวี่ย เปิดคอกหมูเลย แล้วถอยออกไป”
ร่างของหยางเซวี่ยสั่นสะท้านไม่หยุด รีบวิ่งไปเปิดประตูทุกบานของเล้าหมู จากนั้นหมูเกือบ 30 ตัวก็พากันวิ่งออกมาจากเล้า
ฝูงหมูกลายพันธุ์นั้นมีความแข็งแกร่งและมีพลังทำลายล้างมหาศาล เมื่อพวกมันรวมตัวกัน จะเกิดการอาละวาดครั้งใหญ่ ด้วยความเร็วและน้ำหนักตัว สามารถทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
“ในที่สุดก็มีโอกาสที่ฉันจะได้ของดี ๆ กลับไปซะที!”
“เอาสกิลของแกมาให้ฉันซะ!”
ทันใดนั้นหมูหลายตัวก็ถูกฟันจนตัวขาดกระเด็นกระดอนไปทั่วเล้าอย่างบ้าระห่ำ