บทที่ 36 ของเล่นแก้เบื่อ
บทที่ 36
ของเล่นแก้เบื่อ
“อันที่จริง ท่านอ๋องมอบหมายงานให้ข้าและท่านหัวหน้าเพียงสองคน แต่คนเหล่านั้นเกียจคร้านและเบื่อหน่ายเกินกว่าจะเฝ้ายามอยู่เฉย ๆ... เอ่อ แต่ท่านอ๋องคงมอบหมายให้พวกเขาไปทำหน้าที่อื่นแทน”
อวี้ซีหยวนสังเกตว่าท่าทีของจ้านค่อนข้างประหม่า นางเม้มริมฝีปากสนิทเป็นเส้นตรงก่อนเดินเข้าไปในห้อง
ประตูปิดห้องปิดลงเสียงดัง “ปัง” ต่อหน้าต่อตาจ้านซึ่งยืนอยู่ด้านนอก
นางยังไม่คลายความโกรธเคืองเป็นแน่แท้
จ้านยักไหล่ ก่อนจะกำบังกายหายไปในอากาศอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าควรปล่อยให้อวี้ซีหยวนที่กำลังโกรธแค้นได้อยู่ตามลำพังเสียหน่อย
อวี้ซินหรานถูกจัดให้อยู่ในห้องใกล้เคียง ซึ่งเด็กหญิงตัวน้อยก็ยืนกรานว่าอยู่ลำพังได้ อวี้ซีหยวนจึงไม่อยากขัดความตั้งใจของนาง นับว่าเป็นเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะนางจะได้มีเวลาคิดทบทวนว่าจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป
หากยังหายาอายุวัฒนะไม่พบ เช่นนั้นนางต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดอย่างนั้นหรือ?!
หลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูติดต่อกันเพียงไม่กี่ครั้ง อวี้ซีหยวนก็เดินไปเปิดประตู พบว่าลั่วจ้านชิงไม่รอให้นางเชื้อเชิญ แต่บุกเข้ามาในห้องโดยตรง
“ลั่วจ้านชิง ท่านไม่รู้หรือว่าการบุกเข้ามาในห้องส่วนตัวของผู้อื่นนั้นเป็นการกระทำที่หยาบคาย!”
ลั่วจ้านชิงไม่แยแส ทรุดกายลงนั่งในตำแหน่งที่นางเคยนั่ง เผยอริมฝีปากเอ่ยตอบ “ที่นี่คือบ้านของข้า”
อวี้ซีหยวน “...”
จริงด้วย เหตุผลนี้ไม่ผิด!
“แล้วท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใด?”
ลั่วจ้านชิงวางวงแหวนเก็บสมบัติไว้บนโต๊ะ สะบัดแขนเสื้อของเขาครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นกองขวดโหลบรรจุยาอายุวัฒนะก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะทันที
ดวงตาของอวี้ซีหยวนเปล่งประกายอย่างฉับพลัน ไม่ต่างจากขอทานที่มองเห็นอาหาร นางรีบพุ่งตัวไปข้างหน้า แม้ว่ากิริยาการเคลื่อนไหวของนางจะฉาบฉวย ถึงกระนั้นก็ยังแฝงไปด้วยความระมัดระวัง ด้วยเกรงว่าจะเผลอทำลายขวดยาอายุวัฒนะ
“เซียนหมาเหว่ย ซาวเซียนฉ่าว* แก้วมังกร ดอกเบญจมาศขาว... และดอกบัวเหมันต์! เทพเซียนช่วย! ครบครันถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!”
*ซาวเซียนฉ่าว = เฉาก๊วย
เหตุที่อวี้ซีหยวนและลั่วจ้านชิงเดินทางเข้าวังครั้งนี้เพื่อตามหาดอกบัวเหมันต์ คาดไม่ถึงว่าฟางจื่อเซวียนจะต้องโทษจำคุก ส่วนอาการประชวรของฟางอวี้ก็กำเริบขึ้นเนื่องมาจากความโกรธ ธุระในการตามหาดอกบัวเหมันต์จึงจำเป็นต้องล่าช้าออกไประยะหนึ่ง ทำให้นางไม่คาดคิดเลยว่าลั่วจ้านชิงจะอุตส่าห์นำมันมาให้นางถึงที่
คู่ควรแล้วที่เป็นถึงองค์ชายรัชทายาท!
“สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของหายากทั้งสิ้น! ต้องขอบคุณท่านมาก”
จากนั้นอวี้ซีหยวนก็กล่าวต่อไป “บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ หากพิษนี้ได้รับการแก้ไขจนหายขาดได้แล้ว อวี้ซีหยวนจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้เงื่อนไขของข้อแลกเปลี่ยนระหว่างเราสำเร็จลุล่วง”
ลั่วจ้านชิงอดโค้งริมฝีปากเป็นรอยยิ้มไม่ได้ ถึงกระนั้นยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าเพิ่งรีบร้อนยินดีไป ยังเหลือยาอายุวัฒนะอีกเก้าชนิดที่ยังเสาะหาไม่พบ”
“เก้าชนิด?” อวี้ซีหยวนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ราวกับว่านางนึกอะไรบางอย่างออก จึงหยิบยาอายุวัฒนะอีกขวดหนึ่งออกมาจากกระเป๋า “ตอนนี้เหลืออีกเพียงแปดชนิดเท่านั้น!”
ลั่วจ้านชิงมองมองตาม พบว่าสมุนไพรที่อีกฝ่ายนำออกมาวางบนโต๊ะนั้นเป็นสีแดงฉานประดุจเปลวไฟ มีเพียงส่วนรากเท่านั้นที่เป็นสีเขียวสด
“นี่คือ…”
อวี้ซีหยวนเลิกคิ้ว “เห็ดเพลิงแดง เป็นหนึ่งในบรรดายาอายุวัฒนะหลัก”
ลั่วจ้านชิงเพียงพยักหน้าโดยไม่คิดถามไถ่ว่านางได้รับเห็ดเพลิงแดงมาจากไหน ก่อนจะเอ่ยต่อไป “เช่นนั้นก็ยังเหลือสมุนไพรอีกแปดชนิด”
“สมุนไพรอีกแปดชนิดที่ว่า ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่ามันเป็นสมบัติฟ้าดิน ด้วยสภาพการเจริญเติบโตของพวกมันทำให้เป็นการยากที่จะเสาะหาพบโดยง่าย ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสมุนไพรอีกสองชนิดที่ไม่เคยมีผู้ใดได้ยินมาก่อน แม้แต่ข้าเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับสิ่งเหล่านี้ภายในเวลาอันสั้น ดังนั้นส่วนที่เหลือจึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน”
ลั่วจ้านชิงพยักหน้า เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามนางว่า “เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุอย่างนั้นหรือ?”
อวี้ซีหยวน “เหตุใดองค์ชายรัชทายาทจึงตั้งคำถามเช่นนี้ ข้าจะเรียนรู้และสะสมสมุนไพรไว้เป็นของเล่นแก้เบื่อไม่ได้หรือ?”
เจ้าไม่จำเป็นต้องยอมรับใด ๆ ความสามารถของเจ้าในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ เป็นสิ่งที่ข้ารู้อยู่แล้ว
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่นางมีเม็ดยาเจินเหยียนอยู่ในครอบครอง ก่อนหน้านี้เมื่ออยู่ต่อหน้าฉางอี้ อวี้ซีหยวนไม่คิดปิดบังตัวตนว่ามีความสามารถในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุโดยเจตนา ข้อนี้ลั่วจ้านชิงจะไม่ล่วงรู้ได้อย่างไร?
“เจ้ากลั่นเม็ดยาเจินเหยียนด้วยตนเองใช่หรือไม่?”
อวี้ซีหยวนพยักหน้า ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ลั่วจ้านชิงต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่? เหตุใดจึงตั้งคำถามซึ่งไร้ตรรกะเช่นนี้?