ตอนที่แล้วบทที่ 32 ผมจะทำรายงานให้เอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 ออกไปทำธุระ

บทที่ 33 ชะตากรรมของผู้ทรยศ


บทที่ 33

ชะตากรรมของผู้ทรยศ

ในคืนที่มืดสลัว หม่าเชี่ยนเชี่ยนย่องออกจากเต็นท์อย่างเงียบ ๆ  ก่อนเดินไปหลบอยู่ข้างรถบรรทุก รวบรวมความกล้าแล้วเอื้อมมือไปเคาะประตู

“เทียนเซิง ฉันขอคุยกับนายตามลำพังหน่อยได้ไหม?”

“พอดีมีเรื่องรบกวนนิดหน่อย แต่ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ แค่อยากคุยด้วยเฉย ๆ พอจะให้ฉันเข้าไปในรถได้ไหม?”

ในขณะที่เธอพูดก็แสร้งแสดงท่าทางเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสา เมื่อก่อนลูกไม้นี้ทำให้เฉินเทียนเซิงใจอ่อนตลอด  เธอเชื่อเหลือเกินว่าเฉินเทียนเซิงในตอนนี้ก็ต้องใจอ่อนให้กับลูกไม้เดิม ๆ แน่

ขณะที่เฉินเทียนเซิงกำลังทำงาน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูรถ เมื่อหันไปดูแล้วพบว่าเป็นหม่าเชี่ยนเชี่ยน ก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที

“เทียนเซิง ความจริงแล้วฉันยังรักนายอยู่นะ ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าหลิวเหล่ยหลอกใช้ฉันมาตลอด เขาเป็นคนขี้โกงมาก ต่างจากนายที่ปฏิบัติต่อฉันอย่างดีเสมอ และเป็นคนเดียวที่ไว้ใจได้”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนพูดคำเหล่านี้อย่างหน้าไม่อาย ในขณะที่เฉินเทียนเซิงรู้สึกรังเกียจจนทนฟังไม่ไหว

หม่าเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างเศร้าโศกต่อไป

“ตอนนี้ ฉันรู้ตัวแล้วว่าทำผิดไป ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ให้อภัยฉันเถอะนะ ฉันกลัวมากเลย... ฮือๆๆ”

เธอบีบน้ำตาราวกับสั่งน้ำตาได้ ยังคงพูดพล่ามต่อไป  หวังให้อีกฝ่ายสงสารและมองข้ามจุดประสงค์ของตัวเอง

ถ้าก่อนหน้านี้ยังเป็นเฉินเทียนเซิงคนเดิม คงรู้สึกใจอ่อนแล้วอ้าแขนต้อนรับเธอไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับเขาในตอนนี้

เขาทนไม่ไหวจนต้องปรับหน้าต่างลงแล้วพูดว่า

“เชี่ยนเชี่ยน จำสิ่งที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่เขตพัฒนาได้ไหม?”

“หืม นายพูดว่าอะไรนะ?”

เมื่อเห็นว่าไม่เป็นไปตามแผน หม่าเชี่ยนเชี่ยนจึงรีบเช็ดน้ำตาแล้วรอคำตอบจากอีกฝ่าย

“ลองคิดดูให้ดี”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนพยายามนึก ในช่วงก่อนที่วันสิ้นโลกจะมาถึง เธอเอาแต่โกรธเขา จึงไม่ได้สนใจคำพูดของเขา

“เทียนเซิง ช่วยพูดให้ฉันฟังอีกครั้งได้ไหม?”

เธอยังคงแสดงท่าทีออดอ้อนอย่างน่าสงสาร แต่            เฉินเทียนเซิงกลับรู้สึกขนลุกไปถึงบั้นท้าย

“ตอนนั้นผมพูดว่า ต่อไปนี้จะดูแลคุณยังไงดี เพื่อให้คุณได้มีความสุข และรู้สึกมีความหวัง ถึงแม้วันต่อไปจะเป็นวันที่ทั้งโลกต่างสิ้นหวัง”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนแอบใจชื้นขึ้นมาหน่อย ถามกลับว่า

“งั้นนายยังรักฉันอยู่ไหมล่ะ?”

เฉินเทียนเซิงขัดจังหวะทันที

“ไม่ ผมบอกคุณว่าทีหลังอย่าได้มายุ่งเกี่ยวอะไรกับผมอีก ถ้าขืนยังดื้อดึงอยู่ ผมจะฆ่าคุณซะ!”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ ก่อนเดินถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว น้ำตาเริ่มไหลอย่างควบคุมไม่ได้

“ก่อนหน้านี้นายยังรักฉันอยู่เลย ฉันก็สำนึกผิดแล้วไง ครั้งนี้ก็ยกโทษให้ฉันเหมือนเมื่อก่อนสิ คราวนี้ฉันให้สัญญาเลยว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก ขอร้องเถอะ ได้โปรด ได้โปรดล่ะ!”

เธอนั่งคุกเข่าลงอย่างไม่ลังเล อ้อนวอนทั้งน้ำตา ทำตัวต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ ที่แม้เธอจะเป็นฝ่ายผิดแต่เฉินเทียนเซิงก็ยอมเป็นฝ่ายคุกเข่าง้อ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอคุกเข่าให้เฉินเทียนเซิง เธอคิดว่าถ้าคราวนี้ยังไม่ใจอ่อนอีก เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว

“คุกเข่าไปก็เปล่าประโยชน์ ผมไม่อยากเก็บพวกเลี้ยงไม่เชื่องไว้หรอก”

พูดจบ กระจกรถก็ปรับขึ้น ทิ้งให้เธอจมอยู่กับความสิ้นหวัง

“ไอ้ชั่ว แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”

สีหน้าเศร้าโศกของหม่าเชี่ยนเชี่ยนหายไป ก่อนจะตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธ

“ฉันคุกเข่ายอมรับผิดขนาดนี้แล้ว กล้าดียังไงถึงมาทำแบบนี้กับฉัน!”

เธอตัดสินใจปีนขึ้นไปบนรถบรรทุกหวังจะเข้าไปพูดให้รู้เรื่อง ในขณะที่พยายามเปิดประตู ก็รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่กระทบร่างของตัวเอง

ลมกระโชกแรงพัดเธอปลิวออกไปจนล้มลงกระแทกกับพื้น

ลัวเฟิงแอบฟังอยู่นานแล้ว เธอแค่อยากยืนฟังเรื่องซุบซิบระหว่างอาจารย์กับผู้หญิงคนนี้สักพักหนึ่ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมหม่าเชี่ยนเชี่ยนถึงพูดจาไร้สาระได้ตั้งนานโดยที่ไม่โดนไล่ตะเพิดออกไปก่อน

หม่าเชี่ยนเชี่ยนกลิ้งไปมาบนพื้นไม่ต่างจากหมาจรจัด เมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นลัวเฟิง เธอก็รู้สึกโกรธแค้นมาก ๆ

“เป็นเพราะหล่อนสินะ แกถึงไม่ต้องการฉันเหมือนเมื่อก่อน!”

“เฉินเทียนเซิง ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้!”

“ไอ้สารเลวชาติชั่วไร้หัวใจ!”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนโวยวายเสียงดังราวกับคนบ้าที่คลุ้มคลั่ง

“ทุกคนมาฟังอะไรดี ๆ สิ ผู้ชายคนนั้น ชื่อเฉินเทียนเซิง ตอนที่ฉันพบเขาครั้งแรก เขาไม่มีอะไรเลย ฉันอยู่กับเขามาตลอด 3 เดือน ฉันนี่แหละที่เป็นฝ่ายให้ทุกอย่างที่มีกับเขาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน!”

“แต่สุดท้ายเขาก็ผิดสัญญา พอได้ผู้หญิงคนใหม่ เขาก็เขี่ยฉันทิ้งอย่างกับหมูหมา!”

หม่าเชี่ยนเชี่ยนจงใจสร้างเรื่องให้คนอื่นเข้าใจอีกฝ่ายผิด ด้วยการโวยวายเสียงดังไม่หยุด ไม่สนใจว่าภาพลักษณ์ของตัวเองจะเป็นยังไง

“เขามันก็แค่คนชั่วคนหนึ่งที่เอาเปรียบผู้หญิงจนหมดตัวแล้วก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ!”

เฉินเทียนเซิงคนก่อนเคยเป็นอย่างนั้นจริง ๆ                    หม่าเชี่ยนเชี่ยนจึงใช้สิ่งนี้มาพูดโจมตี ที่เขาไม่มีภาระหนักหรือหนี้สิน ก็เป็นเพราะเธอคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ โดยที่ตัวเขาไม่เคยต้องแบกรับอะไรด้วยตัวเอง

แต่หม่าเชี่ยนเชี่ยนต่างออกไป เพราะยังคิดถึงบุญคุณเหล่านี้ จึงพยายามอย่างหนักและนุ่มนวลที่สุด เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถทำให้เฉินเทียนเซิงเปลี่ยนใจได้ จึงทำได้เพียงโวยวายถึงเรื่องในอดีต และสาปแช่งเขา

“เฉินเทียนเซิง นายเคยพูดว่าอะไรบ้างตอนที่เข้ามาจีบฉัน นายยอมคุกเข่าขอร้อง แล้วบอกว่าจะรักฉันคนเดียวตลอดชีวิต

“เมื่อเราอยู่ด้วยกัน นายจะคอยทำอาหารให้กินทุกเช้า จะเชื่อฟัง และจะล้างเท้าให้หลังจากฉันกลับมาจากที่ทำงาน แต่พอวันสิ้นโลกเกิดขึ้น ทำไมนายถึงเปลี่ยนไป อะไรทำให้นายเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”

เฉินเทียนเซิงยังคงไม่ตอบสนอง แต่ลัวเฟิงกลับมองเขาด้วยความประหลาดใจ

อาจารย์ของเรามีประวัติที่มืดมนขนาดนี้เลยเหรอ?

“ละครจบแล้ว พัดเธอออกไปซะ!”

เฉินเทียนเซิงออกคำสั่ง ลัวเฟิงก็ทำตามโดยไม่ขัดขืน

ด้วยความสามารถในการควบคุมลม หม่าเชี่ยนเชี่ยนถูกพัดปลิวออกไปไกลหลายเมตรทันที

แต่หม่าเชี่ยนเชี่ยนยังคงสาปแช่งอย่างบ้าคลั่ง

“ไอ้พวกสารเลว กล้าทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันจะจำวันนี้ให้ขึ้นใจเลยคอยดู เรื่องนี้จบไม่สวยแน่! ไม่นานพวกแกทั้งหมดจะต้องตาย!”

ลัวเฟิงหันกลับมา พร้อมแสดงสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่สนใจผู้หญิงบ้า ๆ คนนั้นเลย

หลังจากไปเจรจาอยู่นาน หม่าเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้อะไรกลับมาเลย เมื่อเดินกลับมาที่เต็นท์ด้วยความอับอาย ก็เห็น     หลิวเหล่ยนั่งรออยู่ข้างใน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า

“คิดว่าฉันนอนหลับจนไม่รู้เรื่องรึไง?”

“พี่เหล่ย ฟังฉันก่อน ฉัน...”

หลิวเหล่ยพุ่งไปข้างหน้าแล้วตบหม่าเชี่ยนเชี่ยนจนล้มลงกับพื้น ตามด้วยตบและเตะอีกหลายที

ด้วยความโกรธ เขาชี้ไปที่หม่าเชี่ยนเชี่ยนแล้วพูดว่า

“เธอมันก็แค่ผู้หญิงสำส่อนที่ไม่สนว่าจะกินของเก่าหรือใหม่ กินเสร็จก็ปักหลักอยู่กับคนที่ทำให้อิ่มท้อง พอแฟนเก่าไม่เล่นด้วยก็คิดจะแบกหน้ากลับมาหาฉันสินะ งั้นก็ดี ฉันจะทำให้เธอเสียใจที่ทำแบบนั้นลงไป”

หลังจากพูดจบเขาก็ใช้เชือกมัดตัวหม่าเชี่ยนเชี่ยนไว้ แล้วปิดปากเธอด้วยผ้าผืนยาวอีกผืน ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเธอว่า

“นังตัวแสบ ยังจำผู้หญิงในห้อง 601 ได้ไหม คนที่ถูก      พี่เว่ยเฉียงข่มขืนจนตาย ถ้าคราวหน้าคิดหักหลังฉันอีก ฉันจะทำให้เธอไม่ต่างจากนังนั่น”

สีหน้าของหม่าเชี่ยนเชี่ยนซีดลงด้วยความหวาดกลัว ก่อนร้องขอความเมตตาอย่างสิ้นหวัง

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้รุนแรงเกินกว่าจะพูดได้ เพื่อเป็นการลงโทษที่เธอคิดหักหลัง หลิวเหล่ยจึงไปเกณฑ์อดีตลูกน้องของ    เว่ยเฉียง และให้หม่าเชี่ยนเชี่ยนเป็นเครื่องระบายความใคร่ของพวกเขา โดยตั้งเงื่อนไขว่าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามที่ต้องการ เพียงเอาอาหารมาแลก

ฝันร้ายของหม่าเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

...

กลางดึก

ในขณะที่เฉินเทียนเซิงกำลังจดจ่ออยู่กับการเขียนโปรแกรม ใครคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่กระจกรถ

แม้เฉินเทียนเซิงรู้ว่าใครมา แต่เขาก็อดรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจไม่ได้

เมื่อเห็นว่าคนข้างนอกยังคงยืนรออยู่ เฉินเทียนเซิงก็เปิดกระจกแล้วพูดว่า

“ฉันยุ่งอยู่ แถมต้องทำงานที่ไม่รู้ว่าจะได้นอนเมื่อไหร่ อย่าวิ่งไปมาจนทำให้คนแตกตื่นสิ”

ก่อนที่เขาจะปิดหน้าต่างลง หยางเซวี่ยก็พูดอย่างอ่อนแรงว่า

“ฉันแค่จะมาบอกคุณว่า ตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง”

“ฉันรู้สึกว่าโลกหมุนช้าเหลือเกิน ช้ามาก ช้าเกินไป!”

ในขณะที่เธอบ่นว่าช้า เธอกลับเปลี่ยนตำแหน่งการยืนถึงสามครั้ง ด้วยอัตราความเร็วที่ไวซะจนเฉินเทียนเซิงมองตามไม่ทัน

“ไม่ใช่ว่าโลกหมุนช้าลงหรอก แต่เป็นเพราะคุณเร็วเกินไปต่างหาก”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด