บทที่ 25 มีเพียงบางคนเท่านั้นที่มองเจ้าเป็นไม้ผุพัง
บทที่ 25
มีเพียงบางคนเท่านั้นที่มองเจ้าเป็นไม้ผุพัง
คงมีเพียงดวงตาคู่นั้นซึ่งเจิดจรัสราวดวงดาวประกายแสง ที่เป็นเครื่องประดับดีที่สุดบนใบหน้านี้
แม้ใบหน้าของนางจะอัปลักษณ์ถึงเพียงนั้น ทว่าเรือนร่างของนางยังคงแผ่รัศมีความน่ายำเกรงบางอย่าง
ชายชราตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นวางกระดาษในมือลง กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ไม่คิดถอยหนี กลับเอนกายเข้าไปใกล้นางเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
ดวงตาของอวี้ซีหยวนเป็นประกายอีกครั้งขณะที่นางเอ่ยถามว่า “ท่านไม่กลัวข้ารึ?”
“กลัวงั้นหรือ? สิ่งที่ชายชราผู้นี้เห็นคือใบหน้าอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ชั้นผิวหนัง หากพิษที่เจ้าได้รับถูกรักษาให้หายขาดแล้วละก็…” แม่สาวน้อยนางนี้ต้องงดงามมากเป็นแน่!
เนื้อแท้ย่อมงดงามเสมอ
อวี้ซีหยวนเผยรอยยิ้ม “สมควรแล้วที่ท่านผู้เฒ่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุเช่นเดียวกับผู้อื่น ทว่าวิสัยทัศน์กลับแตกต่างออกไป”
“อย่าเรียกข้าว่าท่านผู้เฒ่าเลย แซ่ของข้าคือซุน เจ้าก็เรียกข้าเหมือนกับคนอื่น ๆ ว่าเหล่าซุนเถอะ” น้ำเสียงของผู้เฒ่าซุนผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ถือว่าอวี้ซีหยวนเป็นสหายคนหนึ่ง
“อืม เหล่าซุน”
อวี้ซีหยวนยิ้ม
“ข้าชื่ออวี้ซีหยวน”
ครั้นได้ยินชื่อดังกล่าว ผู้เฒ่าซุนที่กำลังสังเกตรอยตุ่มหนองที่เกิดจากพิษบนใบหน้าของนาง พลันตกตะลึงไปชั่วครู่ คล้ายว่าจะนึกถึงบางสิ่งออกจึงกล่าวว่า “เจ้าคือคุณหนูสามแห่งจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่?”
อวี้ซีหยวนพ่นลมหายใจ “ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของข้าในฐานะขยะไร้ประโยชน์ค่อนข้างโด่งดังมากทีเดียว”
“ฮ่าๆๆ ข้าเพียงแปลกใจเท่านั้น โลกหล้ามีไม้ผุพังเป็นเสามากมาย แต่มีเพียงบางคนที่มองเจ้าเป็นเพียงไม้ผุพัง* ดวงตาหามีแววไม่”
(*โลกหล้ามีไม้ผุพังเป็นเสามากมาย แต่มีเพียงบางคนที่มองเจ้าเป็นเพียงไม้ผุพัง = ในที่นี้มีความหมายทำนองว่า ถ้าเป็นคนอื่น ต่อให้ของไม่ดีเขาก็ยังมองว่าใช้งานได้ มีเพียง ‘บางคน’ ที่มองว่ามันใช้งานไม่ได้)
ขณะกล่าวเช่นนั้น ผู้เฒ่าซุนก็โคลงศีรษะไปพลาง
เกือบเข้าใจผิดมองหยกล้ำค่าว่าเป็นหินเสียแล้ว โชคดีที่ยังไม่สายเกินไป
เขาชราภาพมากแล้ว การมีสหายเป็นสาววัยแรกรุ่นเช่นนี้ จึงทำให้เขาชุ่มชื่นหัวใจเป็นที่ยิ่ง!
หลังจากได้ยินเช่นนั้น อวี้ซีหยวนส่ายหน้าพร้อมกล่าว “พวกเขากล่าวไม่ผิดหรอก ข้าไร้ความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากถูกวางยาพิษมาตั้งแต่แรกเกิด กระทั่งมันสะสมพอกพูนจนปิดกั้นจุดตันเถียนและกระแสลมปราณภายในร่างกาย ทำให้ข้าไม่สามารถฝึกตนได้...”
“อย่าท้อแท้ไปเลยแม่สาวน้อยอวี้! ถึงแม้ตาแก่เช่นข้าจะงกเงิ่นไปบ้าง ทว่าทักษะการเล่นแร่แปรธาตุยังคงดีอยู่ เจ้ารอข้าสักหน่อย จะรักษาเจ้าให้หายขาดได้อย่างแน่นอน!”
และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่แน่ว่าแม่นางผู้นี้อาจกลายเป็นสตรีงามล่มเมืองแห่งรัฐจื่ออวิ๋นก็เป็นได้
อวี้ซีหยวนเพียงส่ายหน้า นางเข้าใจเจตนารมณ์อันดีของผู้เฒ่าซุน แต่พิษนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่างง่ายดายเช่นพิษทั่วไป เพราะจนถึงตอนนี้อวี้ซีหยวนยังไม่พบยาอายุวัฒนะที่ต้องการเลยด้วยซ้ำ
“พิษในกายของเจ้า… หืม…”
ผู้เฒ่าซุนซึ่งเฝ้าสังเกตอยู่นาน กลับรู้สึกประหลาดใจระคนหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาไม่เคยเห็นใครถูกพิษชนิดนี้มาก่อน นับประสาอะไรกับวิธีขับล้างพิษ!
อวี้ซีหยวนหยิบหมวกไม้ไผ่ขึ้นสวมอีกครั้ง ก่อนกล่าวว่า “พิษนี้ปิดกั้นจุดตันเถียนของข้ามานานร่วมสิบหกปีแล้ว ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ภายในชั่วข้ามคืน ถึงกระนั้นข้าขอน้อมรับความปรารถนาดีจากเหล่าซุนไว้ ส่วนเรื่องพิษข้าค่อยหาทางรักษาด้วยตนเอง”
ผู้เฒ่าซุนไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดรั้งนางไว้พร้อมกล่าว “แม่สาวน้อย หากเจ้าต้องการยารักษาโรคหรือสิ่งอื่นใดที่มีสรรพคุณทำนองนั้น ให้เจ้าบอกกล่าวกับข้าโดยตรง!”
“ข้าระบุสิ่งที่ต้องการมอบให้กับท่านแล้ว”
ผู้เฒ่าซุนงงงวยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตระหนักขึ้นได้ว่ากระดาษที่อวี้ซีหยวนมอบให้เขาก่อนหน้านี้ มีรายชื่อยาอายุวัฒนะที่นางต้องการระบุไว้
“ได้ ข้าจะให้คนไปจัดเตรียมมันเดี๋ยวนี้”
ผู้เฒ่าซุนดีดนิ้วเรียก ในไม่ช้าบ่าวรับใช้ด้านนอกก็เดินเข้ามาในห้อง เขาส่งกระดาษแผ่นนั้นให้กับอีกฝ่าย หลังจากสั่งการไม่กี่คำ บ่าวรับใช้ก็เดินจากไป
อวี้ซีหยวนนั่งลงตามเดิม ก่อนจะเขียนรายชื่อยาอายุวัฒนะทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการล้างพิษลงในกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง
เขียนเสร็จแล้วนางจึงยื่นให้ผู้เฒ่าซุนพลางกล่าวออก “เหล่าซุน ข้ายังต้องการความช่วยเหลือจากท่านอีกสิ่งหนึ่ง มีเหตุผลอีกประการที่ว่าเหตุใดพิษในร่างกายของข้าจึงรักษาได้อย่างยากเย็น นั่นเป็นเพราะยาอายุวัฒนะที่จำเป็นสำหรับการล้างพิษล้วนเป็นสมบัติฟ้าดินซึ่งเสาะหาได้ยากยิ่งนัก หอฮ่วนเยวี่ยเปิดกิจการอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน ทั้งยังเชี่ยวชาญในธุรกิจซื้อขายยาอายุวัฒนะ หากเหล่าซุนทราบแหล่งของยาอายุวัฒนะเหล่านี้ โปรดแจ้งให้ข้าทราบโดยทันที ไม่ว่าราคาสูงเพียงใดล้วนไม่ใช่ปัญหา!”