บทที่ 2 เกิดใหม่
บทที่ 2
เกิดใหม่
“นางตายแล้วรึ?”
“กะ... เกรงว่าเป็นเช่นนั้น”
“ไม่นะ... พี่ชาย นังตัวดีตายแล้ว เราจะทำอย่างไรกันดี ทะ... ท่านแม่จะทุบตีพวกเราจนตายหรือไม่...”
“เจ้าจะกลัวไปไย? ก็แค่ขยะไร้ค่าตายตกไปคนหนึ่ง จับนางยัดใส่กระสอบแล้วโยนทิ้งไปเสียก็สิ้นเรื่อง ท่านพ่อยังไม่กลับมาจากชายแดน หากกลับมาแล้วพวกเราก็บอกเพียงว่า...นางตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นพอ”
ดาบเหล็กถูกทิ้งลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ฝีเท้าที่โกลาหลเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ เด็กสาวที่นอนอยู่บนพื้นขยับปลายนิ้วเล็กน้อย ทว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
ผ่านไปครู่หนึ่ง อีกฝ่ายพลันสาวเท้าเข้ามาใกล้สองสามก้าว หญิงสาวถูกนำร่างใส่ลงในกระสอบ นางรู้สึกได้ว่ามีคนแบกร่างของนางไว้บนบ่า ก่อนจะเดินออกไปจากจุดเดิม
ขณะที่นางถูกยัดร่างเข้าไปในกระสอบ อวี้ซีหยวนพลันลืมตาขึ้นทันที
นี่นาง...เกิดใหม่งั้นหรือ?
ความทรงจำซึ่งไม่ได้เป็นของตัวนางเองแวบเข้ามาในสมอง ทว่าจินตนาการดังกล่าวไร้ซึ่งความเจ็บปวด ทั้งยังอ่อนโยนราวกับน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ ค่อย ๆ ซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของนาง
อย่างไรก็ตาม ความทรงจำนี้ขาด ๆ หาย ๆ ไม่ต่อเนื่องกันเท่าไหร่นัก
แคว้นเฉียนคุน รัฐจื่ออวิ๋น จวนท่านแม่ทัพ
นางเป็นบุตรสาวคนที่สามของจวนท่านแม่ทัพ เจ้าของร่างเดิมก็มีนามว่าอวี้ซีหยวนเช่นกัน นางเป็นคนเดียวที่เกิดมาเป็นบุคคลไร้ค่าสำหรับโลกที่มุ่งเน้นการฝึกตนเป็นหลักใบนี้ ท่านแม่ของนางตายตกไปก่อนวัยอันควร ขณะนี้ผู้กุมอำนาจใหญ่ในบ้านคือสตรีนามว่าไป๋ตู้รั่ว สาวรับใช้ที่ได้ขึ้นเป็นใหญ่เพราะให้กำเนิดบุตรชาย
ไป๋ตู้รั่วไม่เพียงคอยกลั่นแกล้งเจ้าของร่างเดิมอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังสนับสนุนให้ลูกทั้งสองของนางคอยรังแกเจ้าของร่างเดิมอยู่เป็นนิจ
วันนี้เป็นลูกทั้งสองของนาง ที่ลงไม้ลงมือกลั่นแกล้งเจ้าของร่างเดิม และพลั้งมือทำให้นางถึงแก่ความตาย
อวี้ซีหยวนรู้สึกถึงกำลังภายในของร่างกายนี้ พบว่ามันไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากจะไร้พรสวรรค์โดยกำเนิด จุดตันเถียนของนางยังถูกสารพิษปิดกั้นโดยตรง ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะฝึกฝนได้
วางยาพิษตั้งแต่แรกเกิดงั้นรึ?!
ผู้หญิงคนนี้ช่างชั่วช้าเกินไปแล้ว!
ยังไม่ทันที่นางจะมีโอกาสทบทวนว่าเกิดสิ่งใดขึ้น นางได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านนอก เป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กน้อยคนหนึ่ง
ครั้นได้ยินเสียงนี้ หัวใจของอวี้ซีหยวนพลันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันใดอย่างไร้เหตุผล น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงจากมุมดวงตา
นี่มัน...
“พี่สาว พวกเจ้าปล่อยพี่สาวของข้าไปนะ! นางยังไม่ตาย นางยังไม่ตาย!”
พี่สาว?
อวี้ซีหยวนพยายามรื้อฟื้นความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมอีกครั้ง จากนั้นจึงจดจำได้ว่าเจ้าของร่างเดิมยังมีน้องสาวอายุแปดปีอีกคนหนึ่ง ซึ่งสถานะความเป็นอยู่ของนางก็ย่ำแย่ไม่ต่างกันเลย
เหตุที่เกิดอาการใจสั่นจากก้นบึ้งเช่นนี้ คงเป็นเพราะเจ้าของเดิมไม่เต็มจะแยกจากน้องสาวของตน
“นี่มันอะไรกัน?! อวี้ซินหรานรู้ได้อย่างไรว่านังคุณหนูสามตายแล้ว?”
“เอ่อ ข้าก็ไม่รู้ นางเป็นลมไปแล้ว นำตัวพวกนางออกไปพร้อมกันเสีย หากนังเด็กนั่นหลุดปากพูดอะไรจนเรื่องแดงขึ้นมาแล้วละก็ พวกเราถึงคราวเคราะห์กันหมดแน่”
พวกเขากลัวว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผย จึงพาตัวอวี้ซินหรานที่เป็นลมหมดสติจากการร้องไห้มาด้วยกัน หวังโยนร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว และน้องสาวของนางลงไปยังหลุมฝังศพทั้งเป็น
อวี้ซีหยวนสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา ในใจคิดแค้นเพราะสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ตอนนี้ราวกับไม่กลัวบาปกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น
อวี้ซีหยวนคิดต้องการจะหยุดพวกเขาไม่ให้เคลื่อนย้ายร่างหมดสติของอวี้ซินหราน ทว่าเมื่อเห็นสถานการณ์ดังกล่าว จึงครุ่นคิดกับตนเองว่าคงเป็นการดีกว่า หากพี่สาวน้องสาวทั้งสองจะออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลบหนีจากถ้ำหมาป่าแห่งนี้ไปเสีย
ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา ร่างของอวี้ซีหยวนร่วงกระแทกลงกับพื้นดินด้านล่าง พร้อมกันกับที่นางรู้สึกราวกับอวัยวะภายในของตนกระเทือนอย่างหนัก
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นในตอนแรกค่อย ๆ ห่างไกลออกไป รอจนแน่ใจอวี้ซีหยวนจึงลุกขึ้นมา
เมื่อกวาดสายตามองไปโดยรอบ ปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยซากศพที่นอนเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้นดิน แมลงวันหลายตัวบินวนไปมาโดยรอบ ส่งเสียงหึ่ง ๆ ชวนขนลุก
ที่แท้สถานที่แห่งนี้คือสุสานขนาดใหญ่
หึ ไป๋ตู้รั่ว ดีเหลือเกิน บาปที่เจ้าก่อไว้กับเจ้าของร่างเดิม บาปที่เจ้าก่อไว้กับอวี้ซินหราน ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าจะต้องชดใช้คืนให้กับพวกนางเป็นร้อยพันเท่า!