บทที่ 19 ไม่เคยมีความคับแค้นในอดีตต่อกัน
บทที่ 19
ไม่เคยมีความคับแค้นในอดีตต่อกัน
อวี้ซีหยวนเลิกคิ้วขึ้น
ถึงแม้นางไม่ทันล่วงรู้ว่าทหารยามผู้นี้มาปรากฏตัวที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่านางรังเกียจทั้งคำพูดและการกระทำของเขายิ่งนัก
“นี่ เจ้า!”
ดาบในมือของทหารยามผู้นั้นกดลงต่ำกว่าเก่าอีกประมาณสามระดับ คมดาบเข้าใกล้ลำคอของอวี้ซินหรานยิ่งขึ้น
อวี้ซีหยวนมองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ประกายแสงจากนัยน์ตาเย็นเยียบ
“เจ้าจงขอโทษคุณหนูอวี่ลั่วของเราเสียแต่โดยดี! หากไม่แล้ว ข้าจะบั่นคอนางเสียเดี๋ยวนี้!”
“เหตุผลเล่า?”
เหตุผล? ทหารยามตะลึงงัน สาเหตุที่ทำเช่นนี้คืออะไรน่ะหรือ? เป็นเพราะคุณหนูอวี่ลั่วแห่งตระกูลหลิวถูกกล่าววาจาทำร้ายจิตใจ หญิงสาวนางนี้จึงต้องขอโทษ หากไม่ยอมก็ต้องชดใช้!
ทหารยามเหม่อลอยไปชั่วขณะ สายตาจับจ้องไปยัง อวี้ซีหยวนนิ่งงันกระทั่งบังเกิดความรู้สึกอึดอัด เขานิ่งค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบสองสามคำ “เพราะเจ้าเพิ่งดูถูกเหยียดหยามคุณหนูอวี่ลั่ว!”
“ดูถูกบ้านบิดาเจ้าสิ!”
อวี้ซีหยวนไม่สามารถระงับโทสะของตนได้อีกต่อไป นางพลิกมือขวากลับด้าน คว้าเอาก้อนหินขว้างออกให้พุ่งลอยละลิ่วไปยังดาบยาวของทหารยามผู้นั้นทันที
ดาบยาวครึ่งท่อนร่วงตกลงพื้นดินโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ดาบอีกครึ่งท่อนที่ยังอยู่ในมือทหารยามกลับไม่หยุดนิ่ง คมดาบกระเด้งกลับมาที่ลำคอของอวี้ซินหรานจนเกิดรอยแผลเลือดซิบ
รอยเลือดแดงฉานนั้นทำให้อวี้ซีหยวนยิ่งทวีความหงุดหงิด
สีหน้าอวี้ซีหยวนแข็งกระด้างยิ่งกว่าเก่า ฝ่ามือเริ่มกำเข้าหากัน ตอนนี้นางไม่สามารถอดทนระงับโทสะได้อีก ฉวยโอกาสนี้เร่งรีบเคลื่อนไหว ปรี่เข้าไปต่อยท้องของทหารยามผู้นั้นจนร่างของเขาลอยกระเด็นไปกลางอากาศ ก่อนจะใช้ขาถีบร่างหลิวอวี่ลั่วออกไปให้พ้นทาง
ครั้นเห็นว่าเจ้านายของตนล้มลงกับพื้น บรรดาบ่าวรับใช้ที่อยู่ด้านหลังพลันตอบสนองทันที สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เตรียมพร้อมจะออกไปต่อสู้กับอวี้ซีหยวนเพื่อล้างแค้นแทนเจ้านายของพวกเขา
หากอวี้ซีหยวนอยู่ที่นี่เพียงลำพัง นางสามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่เมื่อมีอวี้ซินหรานอยู่ที่นี่ด้วย นางไม่สามารถปล่อยให้อวี้ซินหรานต้องมาเสี่ยงตายไปพร้อมตน
อวี้ซีหยวนพลันพุ่งตัวเคลื่อนที่ไปมาระหว่างพวกเขาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้มองเห็นเพียงแสงสว่างแวบไปมาราวภาพติดตา ยังไม่ทันที่คนเหล่านั้นจะทันตอบสนองอย่างไร รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนล้มลงนอนเกลื่อนอยู่กับพื้นเสียแล้ว ไม่มีส่วนใดของร่างกายเลยที่ไม่เจ็บปวด
หลิวอวี่ลั่วพยายามหยัดกายลุกขึ้นจากพื้น พลางจ้องมองไปยังอวี้ซีหยวนด้วยสายตาราวกับกำลังมองไปยังเทพเจ้าแห่งความตาย แข้งขาอ่อนแรงจนไม่สามารถยกเท้าก้าวถอยหลังได้
อวี้ซีหยวนสืบเท้าเข้าใกล้นางทีละก้าว บนใบมีดของใครสักคนที่นางฉกฉวยมาได้ยังคงมีหยดเลือดแดงฉานฉาบทาไว้ตรงส่วนคม
ถึงแม้ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่หลิวอวี่ลั่วกลับรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างเพราะความหวาดกลัว
“นะ... นี่ พี่สาวท่านนี้ ก่อนหน้านี้ระหว่างเราทั้งสองไม่เคยมีความคับแค้นในอดีตต่อกัน สะ... ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ข้า…”
“เข้าใจผิดงั้นรึ?”
ยังไม่ทันที่นางจะละล่ำละลักกล่าวจนจบ ก็ถูกอวี้ซีหยวนขัดจังหวะเสียก่อน
“หากเจ้ากล่าวอ้างว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความเข้าใจผิด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะความบกพร่องในฐานะที่เจ้าเป็นนายของคนเหล่านั้น คิดใช้สติปัญญาในทางแกมโกง เจ้าสมควรถูกลงโทษมากกว่าบรรดาบ่าวของเจ้าเสียอีก...”
อวี้ซีหยวนไม่มีเวลามากพอที่จะสาธยายเรื่องไร้สาระกับหลิวอวี่ลั่ว ขณะกล่าวเช่นนั้น มือของนางพลันโบกสะบัดมีดในมืออย่างรวดเร็วราวกระแสลมที่พัดผ่าน...
หลิวอวี่ลั่วไม่ทันหลบหลีก อาจเป็นเพราะนางหวาดกลัวมากจนสูญเสียสติสัมปชัญญะในการเบี่ยงกายหลบตามสัญชาตญาณไปนานแล้ว ขณะที่นางเอาแต่ยืนนิ่ง ใบมีดในมืออีกฝ่ายพลันเฉือนผ่านข้างแก้มของนางไปอย่างฉับพลัน
ทันใดนั้น ความรู้สึกเสียวซ่าก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างกายของหลิวอวี่ลั่ว
“อะไรกัน...”
หลิวอวี่ลั่วขยับถอยหลัง
สาวงามอันดับหนึ่งแห่งรัฐจื่ออวิ๋นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ทว่าเวลานี้ในบรรดาฝูงชนกลับไม่มีใครสักคนที่กล้าก้าวออกมาช่วยเหลือนาง
หลิวอวี่ลั่วล้มลงไปกองอยู่กับพื้นอีกครั้ง เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ถึงกระนั้นก็ไม่มากเท่ากับความเจ็บปวดบนใบหน้า...
นางค่อย ๆ เอื้อมมือไปสัมผัสมัน รับรู้ถึงความอบอุ่นผ่านฝ่ามือ แต่เมื่อลดมือลงเพื่อมองดู กลับพบว่าเป็นเลือดสด ๆ สีแดงฉาน!
“เลือด... หน้าของข้า...”
ลมหายใจของหลิวอวี่ลั่วถี่กระชั้นขึ้น กายสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ภายในหัวใจเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างราวกับนางไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าใบหน้าอันงดงามของตนได้รับบาดเจ็บ
อวี้ซีหยวนแสยะยิ้มมุมปาก
เท่านี้ก็รับไม่ได้อย่างนั้นหรือ? นี่ยังนับว่าน้อยไปด้วยซ้ำ!