บทที่ 11 ไม่เสียใจเลยที่เกิดเป็นคนจีน
บทที่ 11
ไม่เสียใจเลยที่เกิดเป็นคนจีน
วันต่อมา
เฉินเทียนเซิงรู้สึกตัวหลังจากได้ยินเสียงใบพัด
เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็ยกมือขึ้นมาลูบจมูก พอจำเรื่องที่เขาทดลองใช้สกิลซูเปอร์สปีดเมื่อคืน แล้ววิ่งชนกับกำแพงจนสลบไปได้ เขารู้สึกละอายใจไม่น้อย
หลังจากนั้น เขาเหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างผ่านทางหน้าต่าง ปรากฏว่ามีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่แถวนี้ เฉินเทียนเซิงจึงรีบวิ่งไปที่หน้าต่างเพื่อดูสถานการณ์
“ทำไมหน่วยกู้ภัยมาเร็วจัง?”
ในชาติก่อน เขาติดอยู่ในใจกลางเมืองถึงสิบสี่วัน ก่อนจะมีทหารติดอาวุธกองกำลังหนึ่งเข้ามาในเมือง แล้วให้ความช่วยเหลือเขาและผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ
โชคดีที่ค่ายทหารอยู่ห่างออกไปไม่กี่สิบกิโลเมตร ที่นี่จึงได้รับการช่วยเหลือเร็วกว่า
ฝูงเฮลิคอปเตอร์สีดำลอยอยู่เหนือชุมชน เป็นภาพที่น่าตกใจมาก
หลังจากวันสิ้นโลกเกิดขึ้นจนเกิดผลร้ายที่ตามมา จำนวนประชากรโลกลดลงไปถึง 80% จากจำนวนประชากรหกพันล้านคนทั่วโลก
ไม่นานก็เริ่มมีการแบ่งแยกดินแดน ปล้นสะดม และเกิดอารยธรรมใหม่
นอกจากภัยธรรมชาติแล้ว ทุกคนต่างต้องเผชิญหน้ากับพวกซากศพกินคน ด้วยปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ระยะเวลาสองปีต่อจากนี้ มีเพียงประเทศจีนเท่านั้นที่ยังไม่ล่มสลาย
เพราะประเทศที่เหลือแทบไม่เหลือผู้รอดชีวิตเลย!
เนื่องจากรัฐบาลจีนมีการรับมือกับปัญหาที่เด็ดขาด จึงสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากหายนะของวันสิ้นโลกปะทุขึ้น
เพียงคืนเดียว พวกเขาก็คิดแผนรับมือขึ้นมาได้ โดยเปลี่ยนให้ค่ายทหารและเรือนจำในท้องถิ่นกลายเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีการระดมพลทหารและตำรวจทั่วประเทศ กระจายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
วันที่สามหลังจากเกิดวันสิ้นโลก การช่วยเหลือก็พร้อมทุกอย่างแล้ว
ความรวดเร็วและการวางแผนทั้งหมด ทำให้ประชาคมโลกต่างตกตะลึง
นี่แหละความสามารถของประเทศจีน!
ท่ามกลางวันสิ้นโลก มีเพียงประเทศจีนเท่านั้นที่ยังยืนหยัด!
และประเทศจีนยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังรักษาอารยธรรมเดิมของมนุษย์เอาไว้ได้
สมกับเป็นที่กล่าวขานว่าประเทศจีนคือหนึ่งในมหาอำนาจของโลก แถมยังเป็นประเทศเดียวที่สามารถรับมือกับวันสิ้นโลกได้ดี แบบนี้คนในประเทศจะไม่ภูมิใจได้ยังไง!
ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์จำนวนมากยังคงลอยนิ่งอยู่บนท้องฟ้า
ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ หัวใจของเฉินเทียนเซิงยังคงรู้สึกสับสน
แต่เขาก็ยังดีใจไม่เปลี่ยนที่ตัวเองเกิดเป็นคนจีน และชาติหน้าก็อยากเป็นคนจีนเหมือนเดิม!
ไม่นานก็มีเสียงประกาศจากเฮลิคอปเตอร์
“พลเมืองทุกท่าน พวกเราคือขบวนเฮลิคอปเตอร์จากพื้นที่เจียงเฉิง กองกำลังฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเราได้รับคำสั่งให้มาทำการช่วยเหลือ โปรดให้ความร่วมมือด้วย ตอนนี้พวกเรากำลังเริ่มต้นการช่วยเหลือ ขอให้สัญญาว่าจะช่วยทุกท่านออกมาโดยเร็วอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้พวกเราจะทำการส่งเสบียงทางอากาศ แล้วล่อซอมบี้ออกไปให้ไกลที่สุด ระหว่างรอทีมกู้ภัยเข้าไปช่วย ขอให้ทุกท่านแบ่งปันอาหารและดูแลตัวเองกันไปก่อน”
“แต่ทุกท่านวางใจได้ ตอนนี้อย่าเพิ่งยอมแพ้ เมื่อทุกท่านยินดีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว พวกเราจะก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไปได้ โปรดดูแลตัวเองและรอคอยพวกเรา อย่าเพิ่งยอมแพ้ มีชีวิตอยู่ต่อไป!”
ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็เคลื่อนย้ายไปยังอาคารต่าง ๆ แล้วทำการส่งเสบียงให้เหล่าผู้รอดชีวิต
ผู้คนตามอาคารต่างยืนออกันอยู่ตรงระเบียง โบกมือให้พวกทหาร ก่อนแสดงความเคารพและขอบคุณสุดหัวใจ
เมื่อความหวังถูกเติมเต็ม ความกลัวก็หายไป!
ทุกคนพากันยิ้มแย้มแม้ว่าข้างล่างจะเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ตาม!
อย่างน้อยในช่วงเวลาที่มืดมนก็มีความหวังผ่านเข้ามา!
ในช่วงเวลานี้ ทุกคนต่างรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน!
หลายคนเริ่มมีความเชื่อมั่นว่า พวกซอมบี้ไม่สามารถทำอะไรชาวจีนได้มากไปกว่านี้แล้ว!
แม้ผ่านมาห้าพันปี ประเทศจีนก็ยังดำรงอยู่ และจะคงอยู่ต่อไป
ขณะเดียวกันนั้น เฉินเทียนเซิงยังคงสงบนิ่งหลังเสียงประกาศจบลง
แม้การที่ความช่วยเหลือมาถึงจะเป็นข่าวดี
แต่เฉินเทียนเซิงรู้ดีว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น
เพราะวันสิ้นโลกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
หลังจากเฮลิคอปเตอร์เคลื่อนไปส่งเสบียงตามอาคารต่าง ๆ ได้ไม่นาน
ด้วยเสียงที่ดังในระดับนี้ พวกทหารจะทำยังไงหากต้องรับมือกับฝูงนกกลายพันธุ์?
ขณะที่เหล่าเฮลิคอปเตอร์บินลอยอยู่เหนืออาคาร กล่องเสบียงขนาดใหญ่ถูกทิ้งลงไป ไม่นานร่มชูชีพสีขาวบนกล่องก็ดีดกางออกมา แล้วร่อนลงอย่างช้า ๆ
ทันใดนั้นสิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขึ้น!
ท่ามกลางเมฆดำ ฝูงนกกลายพันธุ์จำนวนหนึ่งบินตรงเข้ามา เพียงไม่กี่นาที ฝูงนกก็บินปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
“แย่แล้ว!”
เนื่องจากเหล่าเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ตระหนักถึงอันตราย ในขณะที่ปล่อยกล่องเสบียงลงมา พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นฝูงนกที่โผล่มาอย่างกะทันหันเลย
แต่เมื่อนกบางตัวบินฝ่าเข้ามา พวกมันก็ถูกยิงร่วงในทันที เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
ราวกับจะหยามหน้าพวกมัน
และแล้วหายนะก็เกิดขึ้น
ฝูงนกกลายพันธุ์เริ่มโจมตีแบบพลีชีพ โดยบินชนเข้ากับใบพัด ทำให้เฮลิคอปเตอร์ตก จนเกิดการเสียชีวิต
เฮลิคอปเตอร์ลำอื่นถูกโจมตีเช่นกัน จนสูญเสีย การควบคุม และร่วงตกลงในแนวเฉียง
“ปัง ตู้ม ตู้ม”
เสียงระเบิดดังสนั่น ควันลอยโขมง เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำอื่นเห็นก็พากันล่าถอย
ไม่ได้มีแค่ฝูงนกกลายพันธุ์เท่านั้น ซอมบี้บนพื้นที่ได้ยินเสียงต่างพากันวิ่งกรูเข้ามา
บรรดาซากศพนับไม่ถ้วน ต่างวิ่งเข้าหาซากเฮลิคอปเตอร์อย่างไม่กลัวตาย
เนื่องจากการระเบิดเมื่อกี้ ซอมบี้นับร้อยแห่เข้ามาเหมือนกับตั๊กแตนบุกข้ามพรมแดน
ภายใต้ท้องฟ้าที่มัวหมองและมืดมน พื้นด้านล่างเต็มไปด้วยกองทัพซอมบี้กระหายเลือด
ซอมบี้มากกว่าร้อยตัววิ่งเข้ามารุมล้อมเฮลิคอปเตอร์จนชิ้นส่วนค่อย ๆ แหลกเป็นชิ้น ๆ ราวกับกระแสน้ำเชี่ยวที่พัดทำลายทุกสิ่ง
หลังจากเฮลิคอปเตอร์ลำอื่นล่าถอยไปหมดแล้ว ก็ไม่มีลำไหนย้อนกลับมาอีกเลย
ในวินาทีที่เฮลิคอปเตอร์ลำแรกตก!
ผู้รอดชีวิตที่ยืนอยู่บนระเบียงตามอาคารต่าง ๆ ซึ่งโห่ร้องอย่างยินดีเมื่อครู่นี้!
พวกเขาเพิ่งกลับมามีความหวัง ได้รับกำลังใจที่เต็มเปี่ยม แต่สุดท้ายก็ต้องสูญเสียมันไปอีกครั้ง
ความสิ้นหวังกลับมาเกาะกินทุกคนมากกว่าเดิม
“พวกเราหมดหวังแล้ว!”
“ตายกันหมดแน่!”
ขณะยืนดูเฮลิคอปเตอร์ตกไปต่อหน้าต่อตา บางคนถึงกับน้ำตาไหล บางคนเริ่มคิดที่จะฆ่าตัวตาย ช่วงเวลานี้ ความเชื่อของทุกคนเปราะบางไม่ต่างจากแก้ว
ห้อง 601 เว่ยเฉียงพึมพำขึ้นมาว่า
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้กองหวังถึงฆ่าตัวตาย”
เมื่อเขาพูดจบ พวกอันธพาลต่างก็สิ้นหวัง ก่อนนั่งก้มหน้านิ่งเงียบ ไม่คุยอะไรกันเลย
ไม่นาน เว่ยเฉียงหันหน้ากลับมามองทุกคนในห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่สำคัญหรอกว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง เราจะอยู่รอดด้วยตัวเองให้ได้!”
เขาชี้นิ้วไปทางกล่องเสบียงที่ลอยมาตกในสวนใกล้ ๆ อาคารที่พวกเขาอยู่
“ดู นั่นแหละความหวังของเราที่จะอยู่รอด! ถ้าเอาเสบียงนั่นมาได้ ทุกคนก็ไม่ต้องทนหิวกันต่อไปแล้ว”
เพราะคำพูดของเขา ทำให้ทุกคนที่ได้ยินเริ่มมีความหวัง
...
ไม่ว่าใครจะสิ้นหวังอยู่ก็ตาม เฉินเทียนเซิงกลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
ความตั้งใจของเขายังคงแน่วแน่!
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หลังจากตื่นขึ้นมาก่อนถึงเวลาวันสิ้นโลก เขาคงคิดจะพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างลับ ๆ แล้วค่อยสร้างมหาอำนาจ
แต่ตอนนี้เขากลับคิดต่างออกไป
เขาตัดสินใจว่าจะเดินฝ่าเส้นทางนองเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
เพื่อเป็นเกียรติแก่คนที่เคยช่วยชีวิตเขาเมื่อชาติที่แล้ว!
เมื่อเตรียมใจพร้อมแล้ว เขาสวมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษและถืออาวุธไว้ ก่อนเดินไปที่ระเบียงอย่างมั่นใจ
เขากระโดดออกทางหน้าต่างที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของระเบียง คว้าบันไดลิงหนีไฟ แล้วปีนลงมาเกือบถึงชั้นล่างสุด เขาใช้เข็มขัดผูกกับบันไดเอาไว้ และหย่อนตัวลงมาอีกจนถึงระดับความสูงที่ต้องการ
ตอนนี้ยังมีซอมบี้เดินเพ่นพ่านอยู่ในละแวกชุมชน
“จุ๊จุ๊ มานี่สิพวกโง่!”
ซอมบี้หลายตัวหันหน้ามาหลังจากได้กลิ่น เมื่อจับตำแหน่งได้แล้ว พวกมันก็พุ่งเข้ามาทันที
เฉินเทียนเซิงตั้งท่าให้มั่นคง ก่อนยกโล่ในมือข้างหนึ่งขึ้น ตามด้วยพลั่วในมืออีกข้างหนึ่ง ไม่นานพวกซอมบี้ก็วิ่งเข้ามาใกล้เขา
เนื่องจากพวกซอมบี้มองไม่เห็น และยังเอื้อมโจมตีไม่ถึง พวกมันจึงทำได้แค่ยกมือขึ้นข่วนอย่างงุ่มง่าม โดยที่เขาไม่เป็นอะไรเลย
เฉินเทียนเซิงเห็นดังนั้นก็ใช้พลั่วฟันพวกมันอย่างดุเดือด เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะพละกำลังที่เพิ่มขึ้น หรือว่าใช้พละกำลังมากเกินไป แต่เขาสามารถฟันหัวซอมบี้แหกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ซอมบี้ตัวอื่น ๆ ที่ได้ยินเสียงต่อสู้ก็พากันวิ่งเข้ามาสมทบ พวกมันคำรามอย่างดุร้ายและหิวโหย
เฉินเทียนเซิงรู้จักสภาพแวดล้อมในชุมชนเป็นอย่างดี เขาจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งก่อสร้าง ในการฆ่าพวกซอมบี้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น ในขณะที่เฉินเทียนเซิงกำลังปลดเชือกเพื่อลงมายังพื้นถนน ผู้รอดชีวิตจากอาคารถัดไปก็ชะโงกหน้าออกมา แล้วตะโกนว่า
“เฮ้ เพื่อนบ้าน หันมาหน่อย!”
เฉินเทียนเซิงหงุดหงิดทันที เขาเงยหน้าขึ้น เห็นว่าผู้รอดชีวิตที่อาศัยอยู่ในอาคารนั้นยังคงโบกมือและแหกปากไม่หยุด
แม้เฉินเทียนเซิงจะโกรธมาก และอยากตะโกนบอกให้อีกฝ่ายหุบปาก
แต่ก็สายเกินไปซะแล้ว!