บทที่ 10 หญ้าฟื้นคืน
บทที่ 10
หญ้าฟื้นคืน
อวี้ซีหยวนพยักหน้า สำหรับคนเหล่านั้นแล้วควรเรียกว่าดำมืดทั้งตัวจึงจะถูก
“พี่สาว ชายชุดดำเหล่านี้ไม่เหมือนกับคนพวกนั้นหรือเจ้าคะ?”
ดวงตาของอวี้ซินหรานสั่นไหวด้วยความขลาดกลัว ‘คนเหล่านั้น’ ในความหมายของนางคือไป๋ตู้รั่วและบรรดาลูก ๆ ตัวดีของนาง หลายปีที่ผ่านมา ‘คนเหล่านั้น’ ทำให้สองพี่น้องต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส
อวี้ซีหยวนส่ายหน้า “ใครจะล่วงรู้ แต่เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าทำร้ายเจ้า ข้าจะทำให้คนเหล่านั้นต้องตายอย่างอนาถจนเหลือเพียงเถ้ากระดูก!” นัยน์ตาของอีกฝ่ายเปล่งแสงกะพริบอันเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ทำให้นางพลอยรู้สึกเศร้าหมอง
เพื่อไม่ให้น้อยหน้า อวี้ซินหรานมองสบนัยน์ตาของ อวี้ซีหยวนพร้อมกล่าวว่า “ข้าเองก็ต้องการปกป้องพี่สาวอย่างสุดความสามารถเช่นกัน หากมีใครกล้ารังแกท่าน ข้าจะไม่มีวันปล่อยมันไปอย่างแน่นอน!”
เด็กหญิงวัยไม่ถึงสิบขวบรู้เพียงว่าญาติเพียงคนเดียวของนางที่เหลืออยู่ในชีวิตคือพี่สาว เพื่อพี่สาวที่คอยปกป้องนางมาโดยตลอด อวี้ซินหรานให้คำสาบานในใจอย่างเงียบ ๆ ว่านางจะตั้งใจฝึกตนให้ดี ปกป้องพี่สาวให้จงได้
ไร้พรสวรรค์แล้วอย่างไร? ไร้ความสามารถแล้วอย่างไร? ตราบใดที่นางมีความกล้าที่จะลอง นางไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะทำไม่สำเร็จ!
อวี้ซีหยวนมองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาเคร่งขรึม
ระดับขั้นการฝึกตนของแคว้นซีเสวียนแบ่งออกเป็นขั้นกลั่นลมปราณ ขั้นสร้างรากฐาน เขตแดนล่วงสวรรค์ เขตแดนปฐมสวรรค์ ขั้นหลอมกำจัด ขั้นแกนทองคำ ขั้นปฐมวิญญาณ ขั้นย่างก้าวเทวะ และขั้นฝ่าทัณฑ์ สาขาวิชาสำหรับฝึกฝนยังแยกย่อยออกเป็นห้าธาตุ ได้แก่ ธาตุทองคำ ธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน
อวี้ซินหรานเป็นผู้ฝึกตนธาตุน้ำ และยังอยู่ในขั้น กลั่นลมปราณระดับต่ำ อีกทั้งทักษะความถนัดของนางไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากไม่ได้รับสารอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาตั้งแต่วัยเยาว์ การฝึกฝนในภายหลังจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร
ทว่าตราบใดที่อวี้ซินหรานยืนหยัดว่าจะอยู่เคียงข้าง ต่อให้ต้องใช้ยาครอบจักรวาลที่ไม่อาจประเมินค่าได้ อวี้ซีหยวนก็ยินดีเสาะหามาให้อวี้ซินหรานอย่างสุดความสามารถ
อวี้ซีหยวนส่งยิ้มให้อวี้ซินหราน พร้อมกล่าวว่า “ซินหราน เจ้าจงรอข้าอยู่ที่นี่ให้ดี พี่สาวต้องการออกไปค้นหาบางสิ่ง”
อวี้ซินหรานพยักหน้ารับ ทั้งที่ในใจเกิดความสงสัย ภายในพระตำหนักขององค์ชายรัชทายาทแห่งนี้ พี่สาวที่ ไร้ความคุ้นเคยกับโลกภายนอกต้องการออกไปค้นหาสิ่งใดกันแน่?
ถึงกระนั้นพี่สาวไม่ทำให้นางต้องกังวลเป็นเวลานาน อวี้ซีหยวนกลับเข้ามาในห้องภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วก้านธูป
นางเห็นอีกฝ่ายลากอ่างไม้สำหรับอาบน้ำเข้ามาในห้องด้วยตนเอง ก่อนที่อวี้ซินหรานจะวิ่งไปช่วยลากอ่างอีกอันเข้ามา
อวี้ซีหยวนจัดวางถังทั้งสองใบให้เข้าที่แล้วออกไปหยิบเอาถุงผ้าใบใหญ่เข้ามา หลังจากเปิดออก อวี้ซินหรานพบว่าภายในเต็มไปด้วยสมุนไพรบางชนิดจำนวนมาก
“สิ่งนี้คือหญ้าฟื้นคืน”
เมื่ออวี้ซีหยวนจับสังเกตถึงสายตาที่ว่างเปล่าของ อวี้ซินหราน จึงอธิบายว่ามันคือสิ่งใด
จากนั้นนางทำการสับหญ้าฟื้นคืนในปริมาณยี่สิบกิโลกรัมแล้วโยนลงในอ่างไม้ ก่อนจะบีบเอาเลือดของนางเองให้หยดลงในอ่างที่เติมน้ำเตรียมไว้แต่แรก หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทุกสิ่งแล้ว อวี้ซีหยวนจึงจัดแจงให้อวี้ซินหรานนอนแช่ลงในอ่างของใครของมัน
“พี่สาว ท่านเจ็บหรือไม่?”
อวี้ซินหรานหันหน้ามองไปทางอวี้ซีหยวนด้วยท่าทางกังวล
อวี้ซีหยวนชะงักงันไปครู่หนึ่ง ไม่ตอบสนองอย่างทันท่วงที แต่ในไม่ช้านางก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย จึงเหลือบมองบาดแผลที่เป็นรอยกรีดของตนเพียงเล็กน้อย โคลงศีรษะ และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจ็บเลยแม้แต่นิด”
ควรเปรียบเปรยอย่างไรดี ข้าเคยเจ็บกว่านี้เป็นพันเท่า หมื่นกว่าครั้งที่ข้าได้รับความเดือดร้อน บาดแผลเพียงเท่านี้นับเป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
แต่ภาพตรงหน้าทำให้ความมุ่งมั่นของอวี้ซินหรานเพิ่มพูนยิ่งขึ้น นางมั่นหมายว่าจะฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อที่ในอนาคตตนจะสามารถปกป้องพี่สาวไว้ได้
ดูเหมือนว่าร่างกายจะสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของนาง จุดตันเถียนซึ่งหมุนวนอย่างเชื่องช้าก่อนหน้านี้ เริ่มหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ภายในร่างกาย พร้อมกันกับน้ำในอ่างที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นกระแสน้ำวน โดยมีจุดศูนย์กลางคือร่างของอวี้ซินหราน
ครั้นอวี้ซีหยวนเห็นภาพตรงหน้า นางตระหนักทันทีว่าหญ้าฟื้นฟูและเลือดของนางเริ่มออกฤทธิ์แล้ว